แดร์ริลเกือบจะหลุดหัวเราะ เขาไม่ได้คิดมากกับการบริจาคไขสันหลังของเขา แต่คำพูดของปู่เขามันชวนให้ใจสลายเกินไป เขาให้แดร์ริลเป็นคนบริจาคเพียงเพราะมันเป็นอันตรายต่อร่างกาย? เขาไม่ได้ต้องการให้ฟลอเรียนได้รับอันตราย แต่หากเป็นแดร์ริล ก็ไม่เป็นไร?

“เป็นตัวเลือกที่ดีครับ คุณปู่ ให้แดร์ริลทำมันเลย” ใครบางคนร้องออกมาจากกลุ่มคน

ทันใดนั้น ทุกคนก็พยักหน้าพร้อมกัน

“ใช่เลย สารเลวแบบมันติดหนี้ตระกูลเราอยู่ มันต้องเป็นเขา!”

“นี่เป็นโอกาสให้แกชดใช้ให้ตระกูลแล้ว”

เมื่อได้ยินแบบนั้น แดร์ริลอดไม่ได้ที่จะต้องหัวเราะ

‘ฮ่าฮ่า! งั้นนี่ก็คือพวกที่ฉันเรียกว่าครอบครัว! ฉันเห็นตัวตนจริง ๆ ของพวกแกมานานแล้ว!’ เขาคิด

ในขณะเดียวกัน ยูมิก็เดินออกมาจากกลุ่มคนแล้วตวาดใส่แดร์ริล “แดร์ริล ไม่ต้องเศร้าไปหรอก มันเป็นเกียรติแล้วที่แกเป็นผู้บริจาค มันเป็นโอกาสในการไถ่บาปของแก ดังนั้นแกควรจะรู้สึกขอบคุณไม่ใช่เหรอ?”

‘ไถ่บาป? ถ้ามันเป็นเรื่องจริงน่ะนะ!’ แดร์ริลคิด

แดร์ริลสูดหายใจเข้าไปเต็มปิดแล้วหัวเราะ “ยูมิ หล่อนไม่ต้องมาบังคับให้ฉันยอม ฉันจะบริจาคอยู่แล้ว มันไม่มีปัญหาอะไร”

เขาหยุดกะทันหันก่อนจะมองไปรอบ ๆ เขาด้วยสายตามืดมน “แต่ ให้ฉันบอกหล่อนหน่อยแล้วกัน ที่ฉันยอมเป็นผู้บริจาคก็เพราะฉันทำเพื่อปู่ ไม่ใช่เพราะฉันติดหนี้ตระกูล วันก่อนฉันเกือบเสียพ่อไป และตั้งแต่วันนั้น ฉันก็ตัดสัมพันธ์กับตระกูลดาร์บี้แล้ว เพราะฉะนั้นอย่าได้กล้าพูดเรื่องการไถ่บาปหรืออะไรพวกนั้นออกมา ฉันไม่ได้ติดหนี้ตระกูลดาร์บี้!”

คำพูดของแดร์ริลสะท้อนกังวาลอย่างชัดเจนไปทั่ววอร์ด ทั้งพื้นที่เงียบกริบไปชั่วขณะก่อนที่ยูมิจะเย้ยออกมา “แดร์ริล อย่าคิดจะเล่นแง่อีกรอบนะ แกหมายความว่ายังไงไม่ได้ติดหนี้ตระกูล? แล้วแกจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง!?”

ยูมิชี้ไปที่ท้องของรีเบคก้า รีเบคก้าอับอายมาก เธอก้มหน้าลงด้วยความอับอายและตัวสั่น

แดร์ริลเหลือบมองไปที่เธอแล้วประกาศออกมาอย่างมั่นคง “ฉันต้องย้ำให้พวกแกฟังอีกกี่ครั้ง!? ฉันเป็นผู้บริจาคได้ แต่ในท้องของเธอนั่นไม่ได้เกี่ยวกับฉัน ฉันไม่ได้ทำ!”

เมื่อได้ยินแบบนั้น กลุ่มคนก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้ พวกเขามองแดร์ริลด้วยความดูหมิ่น

‘งั้น มันก็กล้าพอจะทำ แต่ขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับสินะ?’ ทุกคนคิด

“เอาล่ะ เอาล่ะ หยุดทะเลาะกัน!” นายท่านชราแห่งดาร์บี้ขัด “แดร์ริล ฉันป่วยมาก หากไม่มีไขสันหลัง ฉันอาจไม่รอด ฉันรู้ว่ามันจะสร้างความเสียหายร้ายแรงให้ร่างกาย แต่ฟลอเรียนทำมันไม่ได้ เพราะเขาต้องดูแลธุรกิจตระกูล ดังนั้น ฉันจึงต้องการให้แกบริจาค” เขาหยุดไปชั่วขณะก่อนจะกล่าวต่อ “ถ้าแกเป็นผู้บริจาค เราจะเริ่มใหม่ ลบและลืมสิ่งที่แกทำไปในอดีต แกคิดว่ายังไง?”

“ไปไกล ๆ ส้น-ีน!” ใครบางคนตะโกนที่ประตู แล้วมันก็ถูกถีบออกอย่างฉับพลัน

ปัง!

เสียงดังปังออกมาลั่น ทุกคนถึงกับสะดุ้ง ทันใดนั้น แด๊กซ์ก็เดินจ้ำเข้ามาด้วยดวงตาแดงฉาน

ก่อนวันนี้ คนของเขาหลายคนถูกทุบตี ดังนั้นเขาจึงรีบมาที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมพวกเขา ด้วยความบังเอิญ เขาดันไปได้ยินการพูดคุยเรื่องการบริจาคกระดูกสันหลังระหว่างแดร์ริลและตระกูลดาร์บี้เข้า

แด๊กซ์เป็นชายอารมณ์ร้อน และเขาก็พยายามอดกลั้นตัวเองไว้ตลอดการพูดคุย แต่เขาไม่สามารถเก็บความโกรธได้อีกแล้ว

‘แด๊กซ์?’ แดร์ริลคิด

เมื่อเห็นแด๊กซ์เดินเข้ามา แดร์ริลก็ตกใจ
“แด๊กซ์ นายมาทำอะไรที่นี่?” เขาถาม

ใบหน้าของแด๊กซ์มืดมน เขาไม่พูดอะไรในขณะที่คว้ามือของแดร์ริลไว้ “ไปกับฉัน”

แดร์ริลสับสน “นายเป็นอะไร?”

แด๊กซ์กำหมัดแล้วตะโกน “เป็นอะไร!? นายคิดว่าไงล่ะ? คนพวกนี้มันเป็นพวกบัดซบเนรคุณ! นายลืมแล้วรึไงว่าพวกมันทำอะไรกับพ่อนาย? นายกล้าดียังไงจะบริจาคไขสันหลังให้พวกมัน!? ไปกับฉันเดี๋ยวนี้!”

แดร์ริลซึ้งกับความเป็นห่วงของเขา “แด๊กซ์ ฉันเข้าใจที่นายพูดนะ แต่… ปู่เลี้ยงฉันมา ฉันปล่อยให้เขาตายไม่ได้”

“ช่างแ-่งสิ! แน่นอนอยู่แล้ว นายปล่อยให้เขาตายได้!” แด๊กซ์คำราม “ตราบใดที่นายมีชีวิต นายจะไม่มีวันบริจาคไขสันหลังให้พวกมัน ไม่มีวัน!”

เสียงอันดังสนั่นของเขาเรียกความสนใจ หมอและพยาบาลมากมายมองที่พวกเขาอย่างสงสัย

ในเวลาเดียวกัน ฟลอเรียนก็ยืนขึ้นแล้วตะโกนใส่เขา “แด๊กซ์ แซนเดอร์ส นี่เป็นเรื่องของตระกูลเรา นายมายุ่งทำไม? การที่แดร์ริลจะบริจาคไขสันหลังมันไปเกี่ยวอะไรกับนาย!?”

สมาชิกตระกูลต่างพยักหน้าด้วยความเห็นด้วย

“ใช่ แม้แต่แดร์ริลยังยอมรับมัน นายจะโกรธไปทำไม?” ใครบางคนกล่าว