แดนนิรมิตเทพ บทที่ 342
โครม!

ตาข่ายห้าแสงสีระเบิดพลังทำลายที่มหาศาลออกมา แล้วระเบิดในทันที ภูเขาทั้งลูกถล่มลง ทับถมพวกเฉินโม่และสำนักหยินทิพย์ทั้งหมด!

ณ. เขาเฝ้ายาม เงาหนึ่งเดินออกมาจากที่ลับตา ใบหน้าและผิวพรรณที่อยู่ภายนอกเสื้อผ้า ล้วนขาวซีดอย่างกระดาษ เหมือนดั่งภูตผีวิญญาณ

คนนั้นก็คือเจ้าสำนักน้อยสำนักทิพย์

“เจ้าสำนักระเบิดค่ายกลคงรากด้วยตัวเอง ดูแล้วพลังของเจ้าหนุ่มคนนั้นจะแข็งแกร่งอย่างมากเลยเชียว!”

“ฉันสะกดรอยตามมาจนถึงที่แห่งนี้ ยังดีที่ไม่ลงมือไปอย่างรีบร้อน ไม่อย่างนั้นฉันคงจะมีผลลัพธ์อย่างเจ้าเหลียนเฉิงอวี้แน่นอน!”

“ค่ายกลสูญพันธุ์ห้าธาตุระเบิด ภูเขาถล่มต่ำลงไปกว่าครึ่ง ถึงแม้มันจะเป็นนักบู๊แดนเทพก็ต้องตายแน่นอน!”

ชายหนุ่มที่ขาวดั่งกระดาษยิ้มชั่วร้าย “หึๆ ตายไปให้หมดก็ดี ตั้งแต่นี้ไปสำนักหยินทิพย์ก็เป็นของฉันแล้ว ฉันไปบูรณาการอำนาจของสำนักหยินที่ภายนอกให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นก็ไปตามหาครอบครัวของเจ้าหนุ่มคนนี้ แล้วฆ่าทิ้งให้หมด ถือว่าเป็นการได้แก้แค้นให้พวกเจ้าสำนักแล้ว!”

ชายกระดาษขาวจากไปอย่างได้ใจ ส่วนภูเขาขนาดใหญ่ลูกนั้นที่ตั้งสำนักหยินทิพย์ไว้ ถล่มลงไปหลายร้อยเมตร ส่วนสูงของภูเขาได้ถล่มจนกลายเป็นแนวราบ ฝุ่นคละคลุ้งไปทั่วทั้งหุบเขา เหมือนดั่งค่ำคืนที่ท้องฟ้ามืดครึ้มอย่างหนัก

ยอดเขาที่ถล่มเช่นนี้ มีพลังมหาศาล อย่าว่าแต่ปรมาจารย์เลย แม้แต่ผู้แข็งแกร่งแดนเทพก็ไม่มีความหวังที่จะรอดชีวิต

มุมหนึ่งของซากปรักหักพัง ฝ่ามือหนึ่งผลักก้อนหินก้อนใหญ่ด้านบนออก ปรากฏให้เห็นเฉินโม่และเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนที่ถูกปกป้องไว้ในอ้อมกอด ชั่วครู่ ภายในซากปรักหักพังก็ได้ถูกเขาเก็บกวาดให้มีที่พื้นที่ส่วนหนึ่ง

เมื่อดูอย่างละเอียด จะสังเกตเห็นกำบังโปร่งใสชั้นหนึ่งปกป้องเฉินโม่และเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนไว้ แต่ว่ากำบังตัวนั้นอ่อนแรงมากแล้ว เมื่อเฉินซงจื่อพาเฉินโม่และเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนไปยังพื้นที่ว่างที่ปลอดภัยแล้ว กำบังตัวนั้นถึงได้หายไป

เฉินโม่ค่อยๆลืมตาขึ้น สีหน้าซีดเซียว มุมปากมีรอยเลือด น้ำเสียงอ่อนแรงอย่างมาก “เสี่ยวเชี่ยนแค่สลบไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ฉันบาดเจ็บสาหัส ต้องปลีกวิเวกเดี๋ยวนี้ นายช่วยฉันหาถ้ำที่ปลอดภัย แล้วทำการพิทักษ์ฉัน”

“ครับ!ศิษย์จะรอคอยให้ท่านอาจารย์ฟื้นสติครับ!”

เฉินซงจื่อซาบซึ้ง ในช่วงเวลาที่อันตรายเฉินโม่เป็นคนปกป้องเขาและเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนไว้ ไม่อย่างนั้นแม้จะเป็นผู้มีพลังอย่างเขา ก็ไม่สามารถต้านทานแรงมหาศาลของภูเขาขนาดใหญ่เป็นหมื่นตันเช่นนี้ได้

ส่วนทั้งสามคนของตระกูลยิง เฉินโม่ทำได้แค่ปล่อยไปตามยถากรรม

หากมีเพียงแค่เฉินโม่คนเดียว เขามีเวลามากพอที่จะหนีออกจากอันตรายได้ แม้จะไม่สามารถหนีรอดได้ แต่อย่างมากก็แค่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น

แต่เพราะปกป้องเฉินซงจื่อและเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน เฉินโม่จึงทำได้แค่พยายามแบกรับพลังอันยิ่งใหญ่ของภูเขาที่ถล่มทลาย จึงบาดเจ็บสาหัส

เฉินซงจื่อขุดถ้ำหนึ่งที่ตัวภูเขาแข็งแกร่งด้านข้าง แล้วเคลื่อนย้ายตัวเฉินโม่ที่นั่งขัดสมาธิเข้าไป จากนั้นก็ปลุกเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนตื่น และทั้งสองทำการพิทักษ์ให้กับเฉินโม่

สามวันผ่านไป เจ้าสำนักน้อยสำนักทิพย์ที่รอดชีวิต ปราบปรามตระกูลยิงและตระกูลเซินมาได้ และเรียกตัวตระกูลเหลียนและตระกูลสุ่ยที่พึ่งพาอาศัยเขา ประกาศข่าวเรื่องที่สำนักหยินทิพย์ถูกทำลาย แล้วเปลี่ยนสำนักหยินทิพย์เป็นสำนักทิพย์ และแต่งตั้งตัวเองเป็นเจ้าสำนักของสำนักทิพย์คนแรก

และสั่งให้คนสืบหาฐานะตัวตนของเฉินโม่ สุดท้ายก็ตั้งเป้าไปที่ครอบครัวเฉินจิงเย่

เมื่อเจ้าสำนักน้อยสำนักทิพย์คนนี้ได้รู้ว่าฐานะของเฉินจิงเย่คือบุคลากรทางรัฐ จึงนึกถึงเรื่องที่เจ้าสำนักน้อยสำนักหยินที่ตายไปแล้วถูกกองทัพทหารไล่ฆ่า ฉะนั้นจึงยกเลิกที่จะแก้แค้นเฉินจิงเย่และหลี่ซู่เฟิน

แต่ว่า เมื่อเห็นเอียนชิงเฉิง เวินฉิงและซังซังทั้งสามสาวแล้ว เจ้าสำนักน้อยทิพย์คนนี้ก็เกิดคิดร้ายขึ้นมา

วันที่ห้าที่เฉินโม่ปลีกวิเวก เจ้าสำนักน้อยบุกเข้าบ้านตระกูลเฉิน ทำร้ายซังซัง แล้วจับตัวเอียนชิงเฉิงและเวินฉิงไป

หลี่ซู่เฟินโทรหาเฉินโม่ทันที แต่โทรศัพท์ของเฉินโม่ เฉินซงจื่อและเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนได้ถูกภูเขาทั้งถูกทับจนแตกละเอียดไปแล้ว จึงติดต่อไม่ได้

ทั้งสองคนร้อนรนอย่างมาก เฉินจิงเย่ติดต่อนายอำเภอเหมยไปโดยทันที ขอร้องให้นายอำเภอเหมยส่งกองทัพมาช่วยเหลือ