หลังจัดการเรื่องราวเรียบร้อยแล้ว นางก็เดินทางไปต่อ ไม่กี่วันต่อมาเผยซูก็กลับมาแล้ว พอกลับมาเขาก็คว้าสมุนไพรถอนพิษกินอย่างตะกละตะกลาม เมื่อถามถึงเรื่องจินจ้าวหลง เขาเช็ดปาก เอ่ยว่า “เขาไม่ได้ได้เปรียบข้า ส่วนข้าทำให้เขาเสียเปรียบไม่น้อย!”
จิ่งเหิงปัวเชื่อเรื่องนี้เพราะได้ยินข่าวว่าผู้นำเผ่าหวงจินล้มหมอนนอนเสื่อหลังกลับเมืองหลวง
“เหตุใดไม่คิดหาวิธีสังหารเขาให้สิ้นซาก?” นางหยอกเผยซู
“เห็นวิธีการแก้แค้นของเจ้าแล้ว ข้ารู้สึกเห็นด้วยยิ่งนัก” เผยซูหัวเราะฮิๆ เอ่ยว่า “การใช้กำลังสังหารเช่นนั้นเป็นการแก้แค้นของคนกักขฬะ บุคคลฐานะสูงส่งเฉกเช่นพวกข้า หากแก้แค้นต้องทำให้เขาสิ้นไร้ทุกสิ่ง บ้านแตกสาแหรกขาด ร่อนเร่พเนจร วิญญาณไม่ได้กลับบ้านเกิด!”
“กดไลค์!” จิ่งเหิงปัวยกนิ้วให้ ถามเขาว่า “กินอิ่มหรือยัง”
“อิ่มแล้ว”
“เหนื่อยหรือไม่”
“ชาตินี้ข้าไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย!”
“ดีเลย ยามนี้เริ่มต้นสัญญาเดิมพัน ยกแรก อีชี! อีชี!”
“ไอ้หยา มาแล้วภรรยา!”
“ต่อสู้กับเผยเผย จุ๊บๆ”
“ได้เลย ชนะแล้วได้รางวัลหรือไม่”
“เอาเขาไปเล่นได้เลย!”
“ได้ๆ ข้าอยากรู้ว่าเหตุใดเขาถึงเทาขนาดนี้…”
“หุบปาก! ตายซะ!”
ตุบตับ ตุบตับ
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม
“เจ้าแพ้แล้วเสี่ยวซูซู มาเร็ว ถอดอาภรณ์…”
…
วันต่อมา
“เอ่อร์ลู่! ยกที่สอง!”
“ตั้งรางวัลหน่อย!”
“เสนอเอง!”
“ข้าอยากให้เขาลองวิธีแปลงโฉมมหัศจรรย์ใหม่ล่าสุดของข้า!”
“ไม่มีปัญหา จุ๊บๆ!”
“บ้าบอ! มาสู้กัน!”
ตุบตับ ตุบตับ
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม
“ต้าปัวๆ เจ้าดูสิ โฉมสะคราญนางนี้งดงามหรือไม่”
“ไม่ไหว หน้าเทาไปหน่อย”
“เจ้าจะไปเข้าใจอะไร นี่คือการประทินโฉมคมเข้ม!”
…
วันที่สาม
“ซานอู่ ยกที่สาม!”
“ชนะแล้วเขาต้องช่วยข้าฝึกฝนวิชาไล่ผีกับวิชาหุ่นเชิด!”
“ไม่มีปัญหา จุ๊บๆ”
ตุบตับ ตุบตับ
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม
“ซานอู่ๆ เผยซูเล่า?”
“วิ่งเปลือยกายอยู่บนถนนแน่ะ”
“หา?”
“วิชาหุ่นเชิดอย่างไร!”
…
วันที่สี่
“ซือซือ ยกที่สี่!”
“ครั้งนี้ห้ามเอารางวัล!”
“ไม่มีรางวัล ข้าชนะแล้วข้าช่วยเจ้ากำจัดสีเทาบนร่างกายดีหรือไม่?”
“ฮึ!”
ตุบตับ ตุบตับ
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม
“ซือซือ เผยซูเล่า?”
“ตรงหน้าเจ้านั่นอย่างไร”
“หา? นี่มันเสาเข็มไหม้ไฟต้นหนึ่งต่างหาก!”
“ช่วยไม่ได้ ข้าอยากกำจัดสีเทาบนร่างกายเขา น่าจะลงเข็มพลาดไปหน่อย เขากลายเป็นสีเทาท่อนหนึ่งสีขาวท่อนหนึ่งแล้ว ข้าเห็นบนใบหน้านั้นคล้ายธงหลากสีสัน ใช้ไม่ได้ จึงเปลี่ยนวิธีอีกครั้ง คราวนี้บนใบหน้าไม่มีสีเทาแล้ว ร่างกายส่วนบนเทายิ่งกว่าเดิม แท้จริงแล้วเช่นนี้ไม่ได้เลวร้ายกระไรนะ ร่างเทาได้มีรสนิยมมากยิ่งขึ้น จริงสิ ปกติแล้วพิษเทาจะถูกสะสมไว้ที่อวัยวะซ่อนเร้นของร่างกาย เช่น น้องชายน้อยอะไรนั่น ยามนี้อาจดำจนคล้ายก้อนถ่าน มีเอกลักษณ์ยิ่งนัก เจ้าจะดูหน่อยหรือไม่…”
“ซือซือ ข้าจะฆ่าล้างตระกูลเจ้าให้ได้!”
…
วันที่ห้า
หลังจากชนะแล้ว อู่ซานขอร้องให้เผยซูฟังเขาสวดมนต์อย่างสนิทสนม เอ่ยว่าเผยซูโหดเ**้ยมมากเกินไป จิตสังหารแรงเกินไป หวังตั้งใจสวดมนต์ขอพร ชำระล้างจิตใจให้เขา
เดิมทีเผยซูยอมสิ้นใจไม่ยอมประลองฝีมือกับเจ็ดสังหารแล้ว น้อมรับความพ่ายแพ้ ทว่าอู่ซานที่บริสุทธิ์ซื่อสัตย์ใช้ดวงตาไร้เดียงสาจ้องมองเขา ความซื่อสัตย์กับความไม่เข้าใจทั่วใบหน้า จ้องจนจอมปีศาจที่สังหารผู้คนนับไม่ถ้วนเช่นเผยซูนี้ยังต้านไม่ไหว ตัดสินใจเชื่อมั่นอีกครั้งเพื่อศักดิ์ศรีของตนเอง
ครึ่งชั่วยามต่อมาเผยซูแพ้อีกรอบ ครึ่งชั่วยามต่อจากนั้นเขาล้มหัวทิ่มท่ามกลางเสียงสวดมนต์ฟังไม่ได้ศัพท์ของอู่ซาน เหล่าศิษย์พี่ศิษย์น้องหกคนที่รออยู่นอกประตูนานแล้วพังประตูเข้ามา หัวเราะเอิ๊กอ๊ากพลางถอดอาภรณ์เขาจนสิ้น โยนลงไปในบ่อน้ำที่เตรียมไว้ก่อนแล้ว
พวกเฮฮาแปะมือเฉลิมฉลอง บอกจิ่งเหิงปัวอย่างยินดีปรีดาว่าพวกเขาเพียรพยายามจนค้นพบวิธีแก้ไขเผยซูหนูเทาแล้ว เช้าวันพรุ่งนี้ นางจะได้มองเห็นหยกขาวแกนทองคำที่ขาวราวหิมะนุ่มนวลงดงามทรงเสน่ห์ตามต้นฉบับแล้ว ต้องหล่อจนทำให้ลูกตานางยังต้องร่วงพื้น
จิ่งเหิงปัวรู้สึกว่ามีแต่หนูเทามุมกำแพงเท่านั้นที่เชื่อเรื่องนี้
เพียงแต่เช้าวันรุ่งขึ้น ยามเผยซูผู้น่าสงสารถูกลากออกมาจากสระน้ำด้วยลมหายใจแผ่วโผย ลูกตาของนางก็ร่วงพื้นจริงแล้ว
เผยซูเปลี่ยนสีแล้วจริงด้วย!
กลายเป็นสีม่วงแล้ว!
…
สองยกสุดท้ายเผยซูเป็นตายไม่ยอมแข่งขัน เจ้าคนยโสโอหังยอมแพ้โดยไม่ต่อสู้เป็นครั้งแรก
เขากลัวว่าประลองเสร็จสิ้น ตนเองคงไม่เรียกว่าหยกขาวแกนทองคำแล้ว เรียกว่าแกนสายรุ้ง
ยกที่แปดไม่ได้ประลองเช่นกัน ด้วยเพราะจิ่งเหิงปัวออกมาต่อสู้ด้วยตนเอง
เผยซูถูกพิษนานหลายปี แท้จริงแล้ววรยุทธ์เหลือเพียงครึ่งหนึ่งของยามนั้น เพียงแต่อาศัยท่าร่างแปลกประหลาดที่ฝึกฝนสำเร็จกลางหุบเขากำราบศัตรูคว้าชัยชนะ เพียงจุดหนึ่งนี้ จิ่งเหิงปัวพิชิตเขาได้แล้ว
ต้องแข่งอะไรอีกเล่า? ยอมแพ้!
ยกที่เก้าถึงคราวเทียนชี่ คนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญท่าร่างเช่นเดียวกัน สองคนได้แข่งขันกันอย่างเอาจริงเอาจังครั้งหนึ่ง ไม่ได้เล่นลูกไม้กระไรอีกต่อไป สุดท้ายเทียนชี่คว้าชนะเช่นเคย หลังจากชนะแล้วเขาเอ่ยกับเผยซูอย่างเศร้าใจเหลือเกินว่า “หากเจ้าฟื้นคืนหน้าตา ตัวข้าอาจยอมให้เจ้าชนะ…”
เผยซูถ่มน้ำลายบนร่างเขาโดยพลัน จากนั้นแหงนหน้าถอนหายใจยาว…กักบริเวณห้าปี บนโลกนี้มียอดฝีมือมากขนาดนั้นแล้วหรือ?
ค่อนข้างท้อแท้หมดกำลังใจ ความรู้สึกเย่อหยิ่งพลันลดลงไปครึ่งหนึ่ง
แท้จริงแล้วนับว่าเขาถูกกลั่นแกล้ง บนโลกนี้ไม่ได้มียอดฝีมือมากขนาดนั้น เพียงแต่ช่วงนี้จอมแข็งแกร่งต่างอยู่กับจิ่งเหิงปัวเท่านั้น เขาสามารถต่อสู้กับคนเหล่านี้ได้ด้วยร่างกายที่ถูกกักบริเวณห้าปี ยาพิษยังไม่หายไป นับว่าน่าภาคภูมิใจในตนเองแล้ว พวกเฮฮาเจ็ดคนเล่นกับเขาอย่างสนุกสนาน ส่วนตัวยังเอ่ยกับจิ่งเหิงปัวว่านางเก็บของล้ำค่าได้
ยกที่สิบจิ่งเหิงปัวรู้สึกลำบากใจ เดิมทีนางวางแผนไว้ว่ายกที่สิบจะให้เหยียลี่ว์ฉีต่อสู้ นึกไม่ถึงว่าเจ้าคนนี้กลับชิ่งหนีกลางทาง ตอนนี้จะไปหายอดฝีมือระดับนี้ที่ไหนได้?
โชคดีที่เผยซูถูกโจมตีติดต่อกัน อกสั่นขวัญหาย ไม่อยากหาเรื่องไปชั่วขณะ เขาไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องยกที่สิบนี้ด้วย จิ่งเหิงปัวจึงแกล้งลืมอย่างดีใจ ตอนนี้พวกนางเดินทางถึงในอาณาเขตเผ่าจั๋นอวี่แล้ว ผ่านพ้นจั๋นอวี่จะเข้าใกล้เขาชีเฟิง ไม่ไกลจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของเชิงเขาชีเฟิง นั่นคือบึงโคลนเฮยสุ่ยที่นางต้องไป
วันแรกที่เข้าสู่เผ่าจั๋นอวี่ นางได้ยินข่าวสองเรื่อง
เรื่องแรกคืออิงไป๋สมุหราชองครักษ์อวี้จ้าวหลงฉีได้รับโทษจากราชสำนัก ถูกถอดถอนทุกตำแหน่งทางทหาร ขับไล่ออกจากตี้เกอ
อีกเรื่องคือราชครูกงอิ้นได้ข่าวว่าเผ่าหวงจินแอบรวบรวมกำลังพลสำรวจหุบเขาเทียนฮุย เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คิดว่าเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าเผ่าหวงจินทำลายข้อตกลงคราวนั้น ตั้งใจแอบสร้างกองทัพติดอาวุธต่อต้านตี้เกอ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเฉิงกูมั่วผู้บัญชาการคั่งหลงไม่พอใจเผ่าหวงจินอย่างมาก กระทั่งอาสานำทัพออกรบด้วยตนเองใต้บัญชาราชครู มุ่งมั่นเรียกร้องให้ดำเนินการลงโทษทางทหารกับเผ่าหวงจินที่กระด้างกระเดื่อง สุดท้ายได้รับอนุญาตให้กรีธาทัพเข้าเผ่าหวงจินเมื่อสามวันก่อน
บนแผ่นดินลุ่มน้ำต้าฮวงที่เงียบสงบมาห้าปี เกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง