ตอนที่ 335 กลั่นแกล้งหลี่ซื่อ
อันหลิงเกอก้มหน้าลงอย่างเขินอาย นางยังมิได้ถอดเสื้อผ้าแต่หันไปมองหลี่ซื่อด้วยแววตาสงสัยแทน “อี๋เหนียง เหตุใดท่านยังยืนอยู่ตรงนี้อีก ? ”
หลี่ซื่อจึงยิ้มออกมาอย่างจริงใจจนทำให้คาดเดาแผนการที่แฝงไว้ในดวงตามิออก
“ในเมื่อข้าเอ่ยปากว่าจักปรนนิบัติเจ้า ข้าจักออกไปได้เยี่ยงไร ? ”
ไร้สิ่งใดได้มาโดยมิเสียอันใดไปหรอก !
อันหลิงเกอแอบเย้ยหยันอยู่ภายในใจ แต่ใบหน้ายังมีรอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้อี๋เหนียงช่วยไปเด็ดดอกไม้มาให้ข้าหน่อยได้หรือไม่”
นางทำท่าทางราวกับเกรงใจหนักหนา น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาก็เบาลงอย่างมาก
“อี๋เหนียงคงมิรู้ว่าข้ามีความชอบอย่างหนึ่ง เวลาแช่น้ำร้อนจักต้องลอยกลีบดอกไม้ไว้ด้วย ทั้งยังต้องเป็นดอกไม้ที่สดและสวยงามที่สุด”
แม้จักแกล้งทำเป็นปรนนิบัติอันหลิงเกอ แต่หลี่ซื่อก็มิได้ตั้งใจมาปรนนิบัติอย่างแท้จริง
เมื่อเห็นอันหลิงเกอยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมมิขยับไปไหน รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่ซื่อจึงแข็งขึ้นมาทันทีพร้อมทั้งเบิกตากว้างอย่างมิอยากเชื่อ “เจ้าจักแช่น้ำร้อนได้ก็ต่อเมื่อลอยกลีบดอกไม้สดเอาไว้เท่านั้นหรือ ? ”
นางเห็นอันหลิงเกอเติบโตมาหลายปี เหตุใดมิเคยรู้มาก่อนว่าอันหลิงเกอมีความชอบเช่นนี้ด้วย !
เมื่อลองตริตรองให้ดีแล้ว หลี่ซื่อก็เข้าใจในทันที
คนที่อยู่ตรงหน้านางในตอนนี้มิใช่อันหลิงเกอตัวจริง ความชอบบางอย่างย่อมมิเหมือนกันอยู่แล้ว
ทำให้ดวงตาของนางเป็นประกายระยิบระยับและมีความชั่วร้ายพาดผ่าน
ถ้านางได้หลักฐานมาเมื่อไร นางจักสังหารมันด้วยมือคู่นี้เลยคอยดู !
เมื่อคิดได้ดังนั้น หลี่ซื่อจึงฝืนตอบรับคำขอของอันหลิงเกอ ขณะที่กำลังสั่งให้สาวใช้ไปเตรียมกลีบดอกไม้กลับได้ยินอันหลิงเกอกล่าวขึ้นมา “ข้าอยากใช้กลีบดอกไม้ที่อี๋เหนียงเป็นคนเตรียมให้ เช่นนั้นก็จักได้เป็นการแสดงความจริงใจของท่านด้วย หากสาวใช้เป็นคนเตรียมให้ ข้าก็มิใช้มันหรอก”
ขยันหาเรื่องเสียจริง !
หลี่ซื่อแอบก่นด่าอยู่ในใจ แววตาของนางแทบลุกเป็นไฟ แต่เมื่อนึกถึงแผนการแล้วต้องเก็บกดโทสะเอาไว้
นางฉีกยิ้มแห้งออกมา “เกอเอ๋อกล่าวถูกแล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อเป็นการขอโทษเจ้า เกอเอ๋อต้องการเยี่ยงไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น ทั้งหมดขอเพียงเจ้ากล่าวออกมา”
อันหลิงเกอส่งเสียงรับคำออกมาแล้วโบกมือให้หลี่ซื่อถอยออกไป ทำท่าทางราวกับนางเป็นสาวใช้คนหนึ่งก็มิปาน
เป็นเหตุให้หลี่ซื่อรู้สึกโกรธจนแน่นหน้าอกไปหมด ใบหน้าตอนนี้แดงก่ำด้วยความโมโห
หลังจากยืนอยู่ที่เดิมครู่ใหญ่ ในที่สุดหลี่ซื่อก็กัดฟันแล้วหมุนตัวออกไปเตรียมกลีบดอกไม้ให้อันหลิงเกอ
เมื่อเห็นหลี่ซื่อยอมแม้กระทั่งทำตามคำสั่งเช่นนี้ อันหลิงเกอก็ยิ่งมั่นใจว่าแผนการของหลี่ซื่อต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน
แต่นางก็ยังยิ้มออกมาอย่างมีความสุขลึก ๆ รู้สึกสบายและผ่อนคลายมิน้อย
เดิมทีนางคิดว่าจักไปหาบุตรชายของขงเสี้ยงที่เคยอยู่ในสำนักหมอหลวง ดูว่าพอจักหาประวัติการรักษาของมารดาในตอนนั้นได้หรือไม่ แต่ในเมื่อหลี่ซื่อต้องการก่อเรื่องให้ได้ นางต้องจัดการหลี่ซื่อให้เรียบร้อยเสียก่อน จากนั้นค่อยไปทำเรื่องนี้ก็ยังมิสาย
ตอนนี้แสงแดดในฤดูร้อนค่อนข้างรุนแรงแต่ที่นี่มีต้นไม้ขึ้นเรียงรายเต็มไปหมด ดังนั้นแสงแดดที่แผดเผาเมื่อสาดส่องลงมายังป่าเขียวชอุ่มก็เหลือเพียงแสงจาง ๆ ที่สบายตาเท่านั้น
อันหลิงเกอสูดหายใจเข้าลึก ผ่อนคลายกับบ่อน้ำร้อนตรงหน้าที่สร้างขึ้นมาอย่างประณีต
ขณะที่นางกำลังชื่นชมทิวทัศน์รอบกายอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอันเร่งรีบดังขึ้น
อันหลิงเกอจึงหันไปมองก็เห็นเงาของหลี่ซื่อ
ในมือของอีกฝ่ายถือตะกร้าขนาดกำลังพอดีใบหนึ่ง ภายในบรรจุกลีบดอกไม้ไว้จนเต็ม
นางเดินมาอย่างเร่งรีบจนมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมาตามหน้าผาก แต่เมื่อเห็นอันหลิงเกอก็เอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม “เกอเอ๋อ นี่เป็นกลีบดอกไม้ที่เจ้าต้องการ”
หลี่ซื่อกล่าวเสร็จก็รีบเดินเข้ามาแล้ววางตะกร้าลงที่ด้านหน้าของตน
อันหลิงเกอก้มหน้ามองตะกร้าใบนั้นครู่หนึ่งก็ส่งเสียงรับคำ
หลี่ซื่อเบิกตาด้วยความตื่นเต้น เป็นเหตุให้ดวงตาที่โตอยู่แล้วยิ่งโตขึ้นอีกหลายเท่า
“เกอเอ๋อรีบหน่อยก็ดี หากรอจนสายกว่านี้แล้วการแช่น้ำร้อนจักกลายเป็นทำให้เจ้ามิสบายเอาได้”
เมื่อกล่าวจบนางก็ยกยิ้มออกมาอย่างสนิทสนม แต่อันหลิงเกอกลับขมวดคิ้วมุ่น “ในนี้มีแต่กลีบดอกไม้ เหตุใดมิมีสบู่เลย ? ”
“หากมิมีสบู่แล้วข้าจักแช่น้ำร้อนได้เยี่ยงไร ? ” อันหลิงเกอมีสีหน้ามิพอใจขึ้นมาทันที “หากอี๋เหนียงมิได้มีความจริงใจแล้ว เหตุใดต้องแกล้งทำเป็นอยากขอโทษข้าด้วย ? ”
หลี่ซื่อหนังตากระตุกทันที ภายในใจรู้สึกโกรธจนแทบทนมิไหว
เป็นแค่ตัวปลอมยังมาเรื่องมากอันใดอีก !
มือที่ตกอยู่ข้างลำตัวของนางกำหมัดแน่น แต่สุดท้ายก็ค่อย ๆ คลายออก “เกอเอ๋อกล่าวถูกต้อง เป็นข้าที่ประมาทจนเตรียมตัวมิดี ข้าจักให้คนไปนำมาเดี๋ยวนี้”
“หลี่อี๋เหนียงต้องเป็นคนไปหยิบมาด้วยตนเอง” อันหลิงเกอมิลืมสั่งอีกครั้ง
หลี่ซื่อโกรธจนแทบกระอักโลหิตออกมา หลังจากสูดหายใจเข้าแรง ๆ อยู่สองสามทีก็ฝืนความรู้สึกเอาไว้ได้
“ย่อมได้” นางตอบพร้อมกัดฟันแน่นจากนั้นก็พูดลอดไรฟันออกมา “ข้าจักไปหยิบมาเดี๋ยวนี้”
นางมีอำนาจควบคุมจวนโหวตั้งหลายปี ตอนนี้กลับโดนคนหลอกลวงที่ปลอมตัวมาชี้นิ้วสั่งราวกับสาวใช้ ช่างน่าอัปยศเสียจริง !
หลี่ซื่อแม้คับแค้นใจแต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมาพร้อมเดินไปหยิบของที่อันหลิงเกอต้องการ
อย่างมิสบอารมณ์
รอจนหลี่ซื่อหยิบสบู่กลับมา อันหลิงเกอก็ยังมิหยุดสั่งให้ทำนู่นทำนี่เพื่อกลั่นแกล้ง
อาจเพราะโดนแกล้งจนชินหรือก็มิทราบได้ หลี่ซื่อที่ตอนแรกยังมีอารมณ์โกรธให้เห็นอยู่บ้าง ตอนนี้คิดแค่ว่าต้องรีบทำตามที่อันหลิงเกอสั่งให้เสร็จ อันหลิงเกอจักได้ถอดเสื้อเพื่อแช่น้ำเสียที
หลังจากตั้งใจกลั่นแกล้งหลี่ซื่ออยู่หลายครั้ง ในที่สุดอันหลิงเกอก็หมุนตัวทำราวกับกำลังจักถอดเสื้อเพื่อลงแช่น้ำ
หลี่ซื่อที่เห็นดังนั้นก็อดตื่นเต้นขึ้นมามิได้ นางจ้องไปที่อันหลิงเกอโดยมิกะพริบตา
“ท่านมองข้าเช่นนี้ ข้ารู้สึกแปลกเหลือเกิน”
อันหลิงเกอกล่าวจบก็หมุนตัวเดินไปหลังฉากกั้น
หลี่ซื่อมองนางถอดเสื้ออยู่หลังฉากกั้น เมื่อมีฉากกั้นอยู่ก็ทำให้เห็นเพียงเงาลาง ๆ เท่านั้น มองมิออกว่าด้านหลังของนางมีปานแดงอยู่หรือไม่
แต่มิเป็นไรหรอก อย่างไรนางตัวดีก็ต้องออกมา รอให้มันออกมาข้างนอกก็จักได้รู้ว่าเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม !
หลี่ซื่ออดทนรอมินาน ในที่สุดอันหลิงเกอก็เดินออกมา
แต่อันหลิงเกอที่ถอดเสื้อผ้าแล้วยังมีเสื้อคลุมสีขาวเนื้อบางคลุมกายอยู่ เห็นได้ชัดว่าคิดที่จักใส่เสื้อตัวนี้ลงแช่น้ำร้อนด้วย
เป็นเหตุให้หางตาของหลี่ซื่อกระตุกทันทีพร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหมดความอดทน “เกอเอ๋อจักแช่น้ำร้อนอยู่แล้ว เหตุใดยังสวมเสื้อคลุมอีกเล่า ? ”
“ข้าชินเสียแล้ว” อันหลิงเกอเงยหน้าขึ้นพลางส่งยิ้มให้หลี่ซื่อ เอ่ยเสร็จก็เดินลงน้ำ
หลี่ซื่อที่ยอมลำบากมาตั้งแต่เช้า ทั้งยังโดนอันหลิงเกอจงใจกลั่นแกล้งสั่งทำนู่นทำนี่ตั้งมากมาย ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าหลักฐานอยู่ตรงหน้าแล้วนางจักยอมคว้าน้ำเหลวได้เยี่ยงไร ?
ดวงตาของนางกลอกไปมา ก่อนจักเดินไปด้านหน้า “เกอเอ๋อ เจ้าลืมหยิบของไปด้วย”
มิรอให้อันหลิงเกอยื่นมือออกมารับ ทันใดนั้นหลี่ซื่อก็กางมือออกไปกระชากเสื้อคลุมเนื้อบางของอันหลิงเกอทันที