ตอนที่ 336 เปิดโปงตัวปลอม
เมื่อปราศจากเสื้อคลุมผืนบางแล้ว ผิวขาวราวหิมะของอันหลิงเกอก็ปรากฏสู่สายตา หลี่ซื่อรีบกวาดตามองหาปานแดงทันที แต่ก็เห็นเพียงผิวขาวนวลเนียนไร้ตำหนิอันใด แม้แต่ปานแดงที่มีรูปร่างคล้ายผีเสื้อก็มิมี !
พลันมุมปากของหลี่ซื่อก็โค้งขึ้นจนปรากฏเป็นรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นแฝงไว้ด้วยความสุขและความสบายใจ
เดาไว้มิผิดว่าคนผู้นี้ต้องเป็นอันหลิงเกอตัวปลอม !
หลังจากได้เห็นในสิ่งที่ต้องการแล้วท่าทางของหลี่ซื่อก็เปลี่ยนไปทันที เมื่อสบกับดวงตาตื่นตระหนกของอันหลิงเกอก็กล่าวออกมาอย่างเย็นชา “ข้ามิทันระวังจนทำเสื้อของเจ้าขาด เกอเอ๋อคงมิกล่าวโทษข้ากระมัง ? ”
มาถึงตอนนี้อันหลิงเกอพอรู้แล้วว่าจุดประสงค์ของหลี่ซื่อคือสิ่งใด ขณะที่ภายในใจรู้สึกขำขันอยู่นั้น ภายนอกกลับทำท่าทางคล้ายกำลังโมโหอย่างหนัก “ท่านยังมาพูดว่าต้องการขอโทษข้าอีกหรือ ข้าคิดว่าท่านตั้งใจแกล้งเสียมากกว่า ! ”
เมื่อได้ฟังหลี่ซื่อก็ส่งเสียง หึ ออกมาอย่างมิพอใจ ถึงอย่างไรตอนนี้เป้าหมายของนางก็สำเร็จแล้วมิว่าอันหลิงเกอโมโหเยี่ยงไร นางต้องสนใจด้วยหรือ ?
ตอนนี้นางอยากให้อันหลิงเกอตัวปลอมที่อยู่ตรงหน้าแสดงความเกรี้ยวกราดเสียด้วยซ้ำ
หลี่ซื่อเบะปากใส่ แววตาเปล่งประกายมีเลศนัยบางอย่างออกมา “หากเกอเอ๋อคิดเช่นนั้น ข้าก็คงทำอันใดมิได้”
กล่าวจบหลี่ซื่อก็หมุนตัวออกไปทันที แต่ยังมิลืมหันมาหาอันหลิงเกออีกครั้ง “ถ้าเจ้ามิพอใจก็มิต้องแช่น้ำร้อนต่อก็ได้”
หลี่ซื่ออยากกลับจวนเสียตอนนี้เพื่อจักได้เปิดโปงอันหลิงเกอตัวปลอมให้อันอิงเฉิงได้รับรู้ ดังนั้นจักมีอารมณ์อยากปั้นหน้าแสดงละครต่อได้เยี่ยงไร ?
อันหลิงเกอเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของหลี่ซื่อ ใบหน้าพลันปรากฏความเย็นชาขึ้นมา จากนั้นนางหมุนตัวเดินไปสวมเสื้อผ้าที่หลังฉากกั้นอย่างรวดเร็ว
มิรอให้หลี่ซื่อเอ่ยปากไล่ นางก็รีบกลับจวนทันที
ส่วนหลี่ซื่อมาถึงจวนในเวลาไล่เลี่ยกับอันหลิงเกอ เมื่อปรายตาแล้วเห็นว่าอันหลิงเกอเดินไปทางเรือนฉีอู๋ก็ลอบยิ้มร้ายอยู่ในใจ
เป็นแค่ตัวปลอมยังกล้าคิดว่าตนเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวจริงหรือ ?
เมื่อคิดได้เช่นนั้น แววตาของหลี่ซื่อก็ทอประกายชั่วร้ายขึ้นมาทันที นางมิได้เดินไปที่เรือนของตนแต่มุ่งตรงไปยังห้องหนังสือแทน
“ท่านโหวอยู่ด้านในหรือไม่ ? ”
หลี่ซื่อเอ่ยถามบ่าวรับใช้ผู้หนึ่ง แววตาแฝงไว้ด้วยความร้อนรน
บ่าวรับใช้ผู้นั้นรีบคำนับก่อนจักตอบกลับมา “เรียนนายหญิงหลี่ นายท่านเข้าวังไปแล้วคาดว่าอีกพักใหญ่จึงกลับมาขอรับ”
เมื่อได้ฟังหลี่ซื่อก็หลุบตาลงอย่างผิดหวัง หากตอนนี้ท่านโหวอยู่ที่จวนก็คงดี เพราะนางอยากไล่ตัวปลอมนั่นออกจากจวนเต็มทน
มิเพียงเท่านั้น นางจักเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของมัน จากนั้นก็แก้แค้นมันอย่างสาสมจนมันต้องมาอ้อนวอนร้องขอชีวิต !
ตอนนี้อันอิงเฉิงเข้าวังไปแล้วกว่าจักกลับก็คงเย็น ต่อให้หลี่ซื่อร้อนอกร้อนใจเยี่ยงไรก็ทำได้เพียงระงับจิตใจเอาไว้พร้อมสั่งบ่าวรับใช้ว่า “หากท่านโหวกลับมาแล้ว เจ้าไปแจ้งข้าที่เรือนด้วย”
“ขอรับ”
บ่าวรับใช้ส่งเสียงรับคำอย่างแข็งขัน หลี่ซื่อจึงหมุนตัวกลับไปยังเรือนของตน
รอจนใกล้พลบค่ำ อันอิงเฉิงก็กลับมาจากในวัง บ่าวรับใช้ผู้นั้นจึงรีบมาแจ้งหลี่ซื่อ
หลี่ซื่อเมื่อทราบข่าวก็รีบแต่งตัวแล้วเดินไปที่เรือนของอันอิงเฉิงทันที
“ท่านพี่กลับมาเสียทีเจ้าค่ะ”
หลี่ซื่อเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนจากนั้นก็เดินเข้าไปซบที่แผงอกของอันอิงเฉิง
อันอิงเฉิงโอบกอดนางไว้ครู่หนึ่งก็ยันตัวนางออกพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ที่จวนมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือ ? ”
ท่าทางของเขาเย็นชาเช่นนี้ หลี่ซื่อรับรู้ได้ทันทีว่าเขายังโกรธเรื่องของอันหลงอีอยู่ จึงทำเป็นก้มหน้าและกล่าวด้วยน้ำเสียงโศกเศร้าเสียใจ
“ท่านพี่ ข้ารู้ดีว่าที่อีเอ๋อทำผิดเพราะข้าสั่งสอนมิดีเอง วันนี้ข้าจึงเชิญเกอเอ๋อไปแช่บ่อน้ำร้อนด้วยกันตั้งแต่เช้าโดยหวังใช้โอกาสนี้ขอโทษเกอเอ๋อเจ้าค่ะ”
หลี่ซื่อกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดคล้ายต้องการฟ้องให้อันอิงเฉิงรับทราบ “ทว่าเกอเอ๋อก็กลั่นแกล้งข้ามิหยุด ชี้นิ้วสั่งราวกับข้าเป็นสาวใช้ แต่ข้าก็มิโทษนางเพราะถือเป็นความผิดของข้าเอง สมควรโดนแล้วเจ้าค่ะ”
แม้จักบอกว่าตนสมควรโดนแล้วก็ยังเล่าออกมาหมดว่าวันนี้โดนอันหลิงเกอชี้นิ้วสั่งให้ทำอันใดบ้าง
อันอิงเฉิงนิ่งฟังอยู่เงียบ ๆ โดยมิได้แสดงอารมณ์อันใดออกมา
หลี่ซื่อค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นพร้อมประเมินท่าทีของอีกฝ่ายครู่หนึ่ง เมื่อคาดเดาท่าทีของเขามิออกจึงก้มหน้าและพูดต่ออย่างน่าสงสาร “แต่ข้าคาดมิถึงว่าเกอเอ๋อแท้จริงแล้วคือคนอื่นปลอมตัวมาเจ้าค่ะ ! ”
ในที่สุดสีหน้าของอันอิงเฉิงก็เปลี่ยนไป แววตาของเขาดูตื่นตกใจ สีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม “เจ้าพูดอันใด ? เกอเอ๋อคือตัวปลอมเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
เรื่องไร้สาระเช่นนี้ หลี่ซื่อกล้าพูดออกมาได้อย่างไร !
หลี่ซื่อพยักหน้า เสียงเล็กเสียงน้อยของนางกระทบโสตประสาทของอันอิงเฉิงอย่างแรง
“ท่านพี่ยังจำได้หรือไม่ว่าที่ด้านหลังของเกอเอ๋อมีปานแดงรูปร่างคล้ายผีเสื้ออยู่ ? ”
อันอิงเฉิงหวนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ใช่ ตอนที่เกอเอ๋อเกิดข้าเคยอุ้มนางแล้วเห็นว่าที่หลังของมีปานแดงอยู่จริง”
ส่วนที่ว่าปานแดงนั้นเหมือนผีเสื้อหรือไม่ ตอนนี้อันอิงเฉิงก็จำมิได้แล้ว
เมื่ออันอิงเฉิงกล่าวออกมาเยี่ยงนี้ หลี่ซื่อก็ก้มหน้าลงพร้อมซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นกล่าวต่อ
“วันนี้ตอนที่ข้าดูแลเกอเอ๋อขณะแช่น้ำร้อน ข้าเห็นว่าที่หลังของนางมิมีปานอันใดเลยเจ้าค่ะ ! ”
ตอนนั้นตนทั้งโกรธและรู้สึกกลัวในเวลาเดียวกับที่มองหาปานแดงของอันหลิงเกอ
“ท่านพี่ลองคิดสิเจ้าคะ ท่านยังรู้เลยว่าที่แผ่นหลังของเกอเอ๋อมีปานแดงติดอยู่ แต่ตอนที่ข้าเห็นแผ่นหลังของเกอเอ๋อมิมีอันใดเลย แสดงว่าคนที่อยู่ในจวนของเราตอนนี้คือเกอเอ๋อตัวปลอมเจ้าค่ะ ! ”
“ช่างน่าสงสารเกอเอ๋อตัวจริงยิ่งนัก นางต้องโดนตัวปลอมลอบสังหารเป็นแน่ มิเช่นนั้นจักกล้าปลอมเป็นเกอเอ๋อและเข้าออกจวนของเราได้ตามใจชอบเช่นนี้หรือเจ้าคะ”
หลี่ซื่อกล่าวพร้อมยกมือขึ้นทำเป็นเช็ดน้ำตาที่มิมีอยู่จริง แสดงท่าทางราวกับเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส “ท่านพี่ลองคิดสิเจ้าคะ เมื่อก่อนนี้เกอเอ๋อกับข้ามีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ทว่ามิกี่เดือนก่อนอยู่ ๆ เกอเอ๋อก็มีนิสัยเปลี่ยนไป ทั้งยังคอยตั้งตนเป็นศัตรูกับข้าตลอด ตอนนั้นข้าเพียงคิดว่าเกอเอ๋อโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจึงมีความคิดเป็นของตนเอง แต่วันนี้พอมาคิดให้ดีแล้วเป็นเพราะนางคือคนอื่นปลอมตัวมาต่างหากจึงทำให้นิสัยเปลี่ยนไปเช่นนี้เจ้าค่ะ”
หลี่ซื่อผลักเรื่องที่นางเคยมิลงรอยกับอันหลิงเกอว่าเป็นความผิดของอันหลิงเกอตัวปลอมทั้งหมดเพื่อให้เห็นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานางมิได้ทำอันใดผิด
แต่อันอิงเฉิงรู้สึกว่าเรื่องเช่นนี้น่าเหลือเชื่อเกินไป อันหลิงเกอเติบโตขึ้นมาในจวนนี้ นานครั้งถึงออกนอกจวนแล้วจักโดนคนสวมรอยได้เยี่ยงไร ?
อีกอย่างต่อให้เรื่องที่หลี่ซื่อกล่าวมาเป็นความจริงแล้ว เป็นไปได้หรือที่อันหลิงเกอถูกคนสวมรอย แต่พวกเขามิเห็นความผิดปกติแม้แต่น้อย ?
สีหน้าของอันอิงเฉิงเข้มขึ้น ทำราวกับคิดว่าหลี่ซื่อสร้างเรื่องขึ้นมาเอง “เรื่องเยี่ยงนี้ต่อไปเจ้าอย่ากล่าวออกมาอีก ! ”
“เกอเอ๋อเป็นบุตรสาวของข้า เป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวอันและนี่คือความจริงที่มิอาจเปลี่ยนแปลง ! แทนที่เจ้าจักมาใส่ร้ายเกอเอ๋อก็ควรเอาเวลาไปคิดดีกว่าว่าเมื่ออีเอ๋อกลับมาแล้วจักแก้ไขนิสัยของนางเยี่ยงไร”