[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]
บทที่ 396 : แย่งหลิงหยุน!
เฉิงเม่ยเฟิงถูกนำตัวไปที่บ้านอีกหลังหนึ่ง หลังจากผ่านไปสี่วัน เธอก็ได้พบกับครอบครัวอีกครั้ง
ทั้งพ่อ แม่ และน้องสาวต่างก็ปลอดภัย เพียงแค่ไม่มีอิสระภาพ!
“เม่ยเฟิง.. ลูกหายไปใหนมาตั้งหลายวัน รู้ไม๊ว่าคืนวันเชงเม้งเกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นที่บ้าน?”
เมื่อลูกสาวคนโตเดินเข้าบ้านมา เฉิงเทียนก็ไม่พูดกับเธอแม้แต่คำเดียว พร้อมกับคิดในใจว่า หากเฉิงเม่ยเฟิงไม่ปฏิเสธการแต่งงาน และไม่หนีกลับมาจากปักกิ่ง เรื่องราวต่างๆก็คงไม่เกิดขึ้น!
เฉิงเม่ยเฟิงไม่สนใจเฉิงเทียน เธอเดินตรงเข้าไปกอดนางจ้าวฝัวหมี่แม่ของเธอ พร้อมกับปล่อยให้น้ำตาไหลพรากออกมา
หลังจากนั้นราวหนึ่งนาที เฉิงเม่ยเฟิงก็ค่อยๆผละออกจากอ้อมกอดของเม่ พร้อมกับหันไปสั่งคนที่ตามเธอมาว่า
“ฉันต้องการคุยกับคนในครอบครัว กรุณาออกไปได้แล้ว!”
แต่ผู้ติดตามทั้งสองคนกลับยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน พวกเขาต้องทำหน้าที่คอยสังเกตการณ์เฉิงเม่ยเฟิงทุกฝีก้าว จึงไม่ยอมออกไปจากห้องตามคำสั่ง
เฉิงเม่ยเฟิงได้แต่ถอนหายใจ และปล่อยให้พวกเขายืนอยู่อย่างนั้น จากนั้นก็ดึงมือของนางจ้าวฝัวหมี่ไปนั่งที่โซฟา
เธอมองเฉิงเทียนด้วยสายตาเย็นชาพร้อมกับวางหนังสือยกเลิกการแต่งงานไว้ตรงหน้าของเขา และพูดด้วยน้ำเสียงที่ห่างเหิน
“นี่เป็นหนังสือยกเลิกการแต่งงานของหนูกับซันจิ้ง!”
เฉิงเทียนหยิบหนังสือฉบับนั้นขึ้นมาอ่านดูอย่างละเอียดแล้วก็ได้แต่ตกตะลึง!
“เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วทำไมพวกเราไม่มีใครรู้?”
เฉิงเม่ยเฟิงยังคงโกรธพ่อของเธออยู่ แต่ก็พูดออกไปว่า “อยากรู้ว่าเมื่อไหร่.. ก็ดูวันที่ที่ระบุในหนังสือฉบับนั้นเองสิคะ!”
เฉิงเทียนก้มดูวันที่ในหนังสือข้อตกลงฉบับนั้นอีกครั้ง จากนั้นก็ถึงกับร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ
“คืนวันที่ 4 เมษายนงั้นเหรอ? นี่มัน.. คืนวันเชงเม้งพอดี!”
ในคืนนั้นเฉิงเทียน จ้าวฝัวหมี่ และเฉิงเมี่ยน ต่างก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันที่บ้าน เพียงแต่ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ในคืนนั้นของทั้งสามคน ได้ถูกหลิงหยุนลบทิ้งไปแล้ว พวกเขาจึงจำอะไรไม่ได้!
“หนังสือนี่เขียนขึ้นที่ใหน?” เฉิงเทียนเงยหน้าขึ้นมองเฉิงเม่ยเฟิงพร้อมกับร้องถามอย่างงุนงง..
เฉิงเม่ยเฟิงจงใจพูดให้ชายร่างใหญ่สองคนที่ยืนอยู่ได้ยิน “ที่บ้านเกิดเรื่องใหญ่โตไม่ใช่เหรอ?! ก็ต้องเขียนขึ้นที่บ้านสิ!”
เฉิงเทียน จ้าวฝัวหมี่ และเฉิงเมี่ยน ต่างก็หันไปมองหน้ากัน แววตาของทั้งสามคนเต็มไปด้วยความหวาดผวาและสยดสยองอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ และทุกคนก็นิ่งอึ้งไป
“แล้วทำไมพวกเราถึงไม่รู้อะไรเลย?”
เฉิงเม่ยเฟิงอยากจะบอกไปว่าพวกเขาถูกลบความทรงจำจะจำได้ยังไง? แต่เธอก็เพียงแค่ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ตอนนั้นทุกคนตกใจจนสลบไป ก็เลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง..”
จากนั้นเฉิงเม่ยเฟิงก็เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้กับพ่อแม่และน้องสาวของเธอฟัง เธอเล่าเหมือนกับที่เล่าให้ซันเทียนเปียวฟัง คือมีทั้งเรื่องจริง และเรื่องโกหก
เมื่อเฉิงเทียนกับจ้าวฝัวหมี่ได้ฟังก็ถึงกับอึ้งไป เฉิงเทียนร้องออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“อะไรนะ? นี่แกบอกว่าคืนวันเชงเม้งมีคนตายในบ้านของเรางั้นเหรอ? แล้วคนที่ตายก็เป็นคนของตระกูลซันอีก?! แล้วนี่ฉันจะทำยังไงดี?!”
เฉิงเทียนหวาดกลัวจนขาสั่นไปหมด เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง แล้วหนังสือยกเลิกการแต่งงานฉบับนี้ล่ะ?! อย่าบอกนะว่าที่ซันเทียนเปียวโมโหขนาดนี้ก็เพราะเรื่องหนังสือฉบับนี้ นี่ไม่เท่ากับเป็นการทำลายเฉิงเทียนจนไม่เหลืออะไรเลยงั้นหรือ?!
จ้าวฝัวหมี่ถึงกับตกใจจนหน้าซีด และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีในเวลานี้?!
“แม่คะ.. ไม่ต้องกังวลใจไป คนพวกนั้นเป็นพวกที่มีวรยุทธ แม่ไม่มีทางหยุดพวกเขาได้หรอกค่ะ อีกอย่างตอนนั้นทุกคนในครอบครัวของเราก็ล้วนหมดสติกันอยู่ เรื่องนี้เป็นเพราะหนู หนูจะจัดการเอง”
เฉิงเม่ยเฟิงเผชิญหน้ากับความเป็นความตายมาหลายต่อหลายครั้ง และตอนนี้เธอก็ได้กลายเป็นเสาหลักของครอบครัวไปแล้ว เธอจึงได้แต่ปลอบปะโลมแม่ของเธอที่กำลังถอนหายใจ
เมื่อเฉิงเมี่ยนหายตกใจ เธอจึงถามเฉิงเม่ยเฟิงอย่างสงสัย “พี่ใหญ่.. เมื่อครู่พี่บอกว่าแฟนพี่ที่ชื่อหลิงหยุนเป็นคนมาช่วยพี่?”
เฉิงเม่ยเฟิงยังจำท่าทางของน้องสาวตัวเองในคืนนั้นได้ดี จึงได้แต่ถอนหายใจ และพยักหน้า
เฉิงเมี่ยนถึงกับตระหนกตกใจและถามด้วยความกังวล “หลิงหยุนคนนี้.. เป็นหลิงหยุนใหนกัน? เพราะที่โรงเรียนของฉันก็มีคนชื่อหลิงหยุนเหมือนกัน..”
เฉิงเม่ยเฟิงเข้าใจอาการตกใจและกังวลของน้องสาวเธอดี เธอจึงได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับตอบไปว่า
“เป็นเขา.. หลิงหยุนนักเรียนชายที่อยู่โรงเรียนมัธยมจิงฉูคนนั้น!”
“อะไรนะ?! เป็นเขาได้ยังไง? เป็นไปได้ยังไง?!”
เฉิงเมี่ยนสปริงตัวลุกขึ้นจากโซฟาทันที และอุทานออกมาด้วยสีหน้าที่ตกใจ
ตั้งแต่ที่หลิงหยุนเริ่มแสดงความสามารถที่โดดเด่นเหนือคนธรรมดา เฉิงเมี่ยนก็เริ่มตกหลุมรักเขา เธอเตรียมตัวที่จะตัดสัมพันธ์กับซันจิ้ง และเริ่มที่จะตามจีบหลิงหยุน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าพี่สาวของเธอได้กลายมาเป็นแฟนของหลิงหยุนเสียเอง!
อีกทั้งจากเรื่องที่พี่สาวของเธอเล่าให้ฟังนั้น หลิงหยุนยอมเสี่ยงชีวิตบุกเข้าไปที่บ้านตระกูลเฉิงเพื่อช่วยเฉิงเม่ยเฟิง และถึงกับต่อสู้กับยอดฝีมือของตระกูลซัน เพื่อบังคับให้พวกเขาปล่อยตัวพี่สาวของเธอ!
ความสัมพันธ์ระหว่างหลิงหยุนกับพี่สาวของเธอถึงขั้นใหนกันแน่? หากทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากันไปแล้ว หลิงหยุนก็ต้องกลายมาเป็นพี่เขยของเธอน่ะสิ?
เฉิงเมี่ยนถึงกับใจสั่นอย่างรุนแรง เธอไม่สามารถยอมรับความจริงที่แสนเจ็บปวดนี้ได้ จนแทบร้องไห้ออกมา!
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้? ในวันทีซันจิ้งขับรถชนรถของพี่ หลิงหยุนเป็นคนช่วยพี่ไว้ และวันที่พี่จะถูกส่งตัวกลับไปให้ตระกูลซัน พี่ก็ไม่รู้ว่าจะหนีไปใหน จึงไปหาเขา แล้วก็อยู่กับเขาตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา..”
ด้วยอำนาจอิทธิพลของซันเทียนเปียว เรื่องพวกนี้คงต้องรู้ถึงหูของเขาอย่างแน่นอน เฉิงเม่ยเฟิงจึงไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร และเลือกที่จะเล่าความจริงให้กับเฉิงเมี่ยนฟัง
เฉิงเม่ยเฟิงเล่าให้น้องสาวฟังว่า เธอไปอาศัยอยู่กับหลิงหยุน ไม่ได้บอกว่าไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่นั่น เพราะได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้วที่จะต้องบอกความจริง!
สำหรับเฉิงเม่ยเฟิงนั้น หลิงหยุนคือชายเพียงคนเดียวในใจของเธอ และไม่สามารถมีใครมาแทนที่ได้อีก!
เฉิงเมี่ยนนิ่งไป ก่อนจะถามต่อด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา “พี่.. นี่พี่อยู่กินกับหลิงหยุนแล้วงั้นเหรอ? แล้วมันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
เฉิงเม่ยเฟิงตอบเสียงเบา “ในคืนที่ฝนตกหนัก.. พี่หนีออกมาจากบ้านของเพื่อนสนิท และไปหาหลิงหยุนที่โรงเรียน แล้วทุกอย่างก็เริ่มต้นตั้งแต่วันนั้น”
เฉิงเม่ยเฟิงรู้ว่าเฉิงเมี่ยนเองก็แอบชื่นชอบหลิงหยุน แต่เธอรู้จักนิสัยของน้องสาวตัวเองดี เธอจึงต้องทำให้น้องสาวของเธอตัดใจเด็ดขาด อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องเป็นทุกข์ไปตลอดชีวิต
เธอไม่ตำหนิน้องสาว แล้วก็ไม่ตำหนิหลิงหยุน เพราะหลิงหยุนเป็นคนที่ทั้งเก่งและสมบูรณ์แบบในทุกๆด้าน อีกทั้งยังมีเสน่ห์มากมาย ยากนักที่หญิงสาวจะต้านทานแรงดึงดูดของเขาได้ ซึ่งเฉิงเม่ยเฟิงเองก็เรื่องนี้ดี!
แม้หลิงหยุนจะมีเสี่ยวเม่ยเม่ย เกาเฉินเฉิน และเสี่ยวเม่ยหนิง เธอยังยอมรับได้ แต่ต้องไม่ใช่เฉิงเมี่ยนที่เป็นน้องสาวของเธอ!
“นี่เธอคิดจะแย่งคนรักของพี่งั้นเหรอ?”
เฉิงเมี่ยนถึงกับล้มพับลงไปทันที ไม่มีเสียงร้องไห้คร่ำครวญ มีเพียงเสียงกรีดร้องออกมา!
เฉิงเมี่ยนไม่อาจยอมรับไม่ได้ เพราะอะไรน่ะหรือ? ก็เพราะพี่สาวของเธอได้ครอบครองทุกอย่าง..
เฉิงเม่ยเฟิงมองเฉิงเมี่ยนที่กำลังเจ็บปวด แต่ตัวเธอเองก็ทุกข์ระทมไม่ต่างกัน แต่ก็เพียงแค่พูดต่อด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
“เธอชอบเสียเจิ้นเหยินมาตลอดไม่ใช่เหรอ? แล้วก็เริ่มคบกันฉันชายหญิงแล้วด้วย.. แต่ทำไมจู่ๆถึงมาชอบหลิงหยุนได้ล่ะ?”
“เท่าที่พี่รู้มา เธอกับน้องสาวของหลิงหยุนก็ไม่ถูกันไม่ใช่เหรอ?”
เฉิงเมี่ยนสวนขึ้นมาทันที “เสียเจิ้นเหยินเหรอ? อย่าพูดชื่อนี้ให้ฉันได้ยินอีก ไอ้คนชั่วนั่น! ฉันไม่ไปโรงเรียน แต่เขากลับไม่เคยสนใจห่วงใยฉันเลย เขาชอบแต่หนิงหลิงยู่น้องสาวของหลิงหยุน.. ไม่ใช่ฉัน!”
“งั้นเหรอ!”
เมื่อเฉิงเม่ยเฟิงได้ยินว่าเสียเจิ้นเหยินชอบหนิงหลิงยู่ เธอก็ได้แต่ยิ้มหยันออกมา
เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ หลิงหยุนได้ขอให้เธอกับเสี่ยวเม่ยเม่ยไปอยู่ที่บ้านแม่ของเขา เพราะต้องการให้พวกเธอทั้งคู่ได้พบกับแม่สามีในอนาคต พร้อมกับสั่งให้พวกเธอแต่งตัวให้สวยที่สุดเพื่อให้แม่ของเขาพอใจ
แต่เมื่อทั้งคู่ไปถึงที่บ้านเลขที่-9 และเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้พบหนิงหลิงยู่ในร่างกายอัปสร หญิงสาวทั้งสองคนได้แต่ตกตะลึง นอกเหนือจากการยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว พวกเธอก็ไม่ได้นึกอิจฉาริษยาแม้แต่น้อย!
แต่เมื่อหนิงหลิงยู่ได้รู้ฐานะของพวกเธอทั้งสองคน ดวงตากลมโตชวนฝันของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างที่ไม่อาจเข้าใจได้ จากนั้นเหตุการณ์ก็ดำเนินไปอย่างปกติ แต่ในใจของเฉิงเม่ยเฟิงกับเสี่ยวเม่ยเม่ยนั้น กลับหม่นหมองลงทันที!
เสียเจิ้นเหยินคิดจะจีบหนิงหลิงยู่ซึ่งเป็นหญิงสาวที่สวยงามถึงเพียงนั้น ในความคิดของเฉิงเม่ยเฟิง เสียเจิ้นเหยินก็คงไม่ต่างจากสุนัขที่ได้แต่มองเครื่องบิน ทำได้เพียงแค่เห่าหอน และวิ่งไล่ตาม แต่ไม่มีทางเอื้อมถึง!
“เมี่ยน.. เธออายุสิบแปดแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆแล้ว เธอเคยชอบเสียเจิ้นเหยินเพราะเขามาจากตระกูลที่ดี แต่เพราะความร่ำรวยของซันจิ้ง เธอก็เปลี่ยนไปชอบเขา และตอนนี้หลิงหยุนเป็นคนเก่ง เธอก็มาชอบหลิงหยุนอีก นี่เธอต้องการจะแย่งแฟนพี่สาวตัวเองงั้นเหรอ?”
“เมื่อไหร่เธอจะโตเป็นผู้ใหญ่ซะที? เธอต้องเข้าใจว่าโลกใบนี้ไม่ใช่ว่าเราจะทำอะไรก็ได้ ตระกูลของเราร่ำรวยมหาศาลแค่ใหน แต่หากเทียบกับตระกูลซันที่ทั้งแข็งแกร่งและมีอำนาจ เงินของเราแทบไม่มีความหมายอะไรเลย!?”
แม้เฉิงเม่ยเฟิงจะพูดกับเฉิงเมี่ยน แต่พ่อกับแม่ของเธอที่ได้ฟัง กลับรู้สึกราวกับว่า ลูกสาวคนโตกับพูดอยู่กับพวกเขาทั้งคู่..
ตั้งแต่ได้พบกับหลิงหยุน เฉิงเม่ยเฟิงได้เห็นความแข็งแกร่งของเขา และเสี่ยวเม่ยเม่ย ทั้งสองคนได้เปิดประตูโลกใหม่ให้กับเธอ หลังจากที่ทำใจยอมรับเรื่องที่เหลือเชื่อได้พักหนึ่ง จิตใจของเธอก็เปลี่ยนไปทันที!
เธอได้รู้ว่า.. ความทุกข์ระทมต่างๆที่เธอเคยได้รับนั้น ล้วนเกิดจากเพียงเหตุผลเดียวคือเธออ่อนแอ! เฉิงเม่ยเฟิงต้องการเปลี่ยนแปลงความจริงข้อนี้ และตั้งใจจะเอาชนะโชคชะตาของตัวเอง และฝึกฝนให้ตนเองมีคุณสมบัติที่เหมาะสมจะเป็นภรรยาของหลิงหยุน!
ต่อหน้าคนที่แข็งแกร่ง เงินจะมีความหมายอะไร?
“พี่ไม่ต้องมาสั่งสอนฉันมาก! พี่พูดง่ายเพราะสิ่งดีๆพี่ก็เอาไปหมด! ไม่รู้ล่ะ ฉันไม่สน! ยังไงฉันก็จะแย่งหลิงหยุนมาจากพี่!”
เฉิงเมี่ยนเต็มไปด้วยความเสียใจ และไม่สามารถทนฟังคำพูดของพี่สาวที่พูดราวกับไม่คิดถึงใจเธอได้อีก..
เฉิงเม่ยเฟิงรู้ดีว่าน้องสาวคงจะไม่ฟังคำแนะนำของเธอ เธอจึงได้แต่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า
“พี่จะไม่แย่งหลิงหยุนกับเธอหรอก! ในเมื่อเธอชอบหลิงหยุน เธอก็ต้องทำให้หลิงหยุนชอบเธอให้ได้!”
ลูกสาวสองคนกำลังทะเลาะกันเรื่องผู้ชาย เฉิงเทียนไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป จึงพูดขึ้นว่า..
“ดูเหมือนหลิงหยุนจะเป็นปัญหาใหญ่ของครอบครัวเราสินะ! พวกแกสองคนทะเลาะกันแย่งผู้ชายต่อหน้าคนอื่นนี่นะ.. ฉันพูดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ?!”
“เม่ยเฟิง.. แกบอกว่าหลิงหยุนฆ่าคนของตระกูลซันไม่ใช่เหรอ? ถ้างั้นแกก็โทรไปหามัน ให้มันมาอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ตระกูลซันฟังด้วยตัวเอง! อย่าปล่อยให้มันทิ้งภาระให้กับตระกูลเฉิง!”
เฉิงเม่ยเฟิงเคยรู้สึกผิดหวังกับเฉิงเทียน เธอมองพ่อของเธอด้วยความสมเพช พร้อมกับตอบยิ้มๆ
“หลิงหยุนหายตัวไปแล้ว..”
“อะไรนะ?!”