ณ ร้านยิ่งเทียน ในเมืองจิงฉี
ที่นี่เป็นร้านอาหารที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองจิงฉี มีการกล่าวขานต่อกันว่าเจ้าของร้านสืบสกุลมาจากราชวงศ์ ถึงแม้จะไม่มีใครสามารถยืนยันข่าวลือนี้ได้ แต่หลายคนก็ได้ทราบว่าเบื้องหลังของร้านนี้ไม่ธรรมดาเช่นกัน
หลังจากมาถึงจึงฉีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฟางฉีก็ได้ทำการปิดการถ่ายทอดสด
“นานแล้วที่เราไม่ได้พบกันนะ” มูตงไลชายหนุ่มหนวดยาวสถานะสูงเอ่ยทัก แม้แต่หลี่เฮารันเองยังต้องโค้งคับนับแก่เขา
ฟางฉียักไหล่ “ข้ามาแวะมาเที่ยวเล่น ไม่คิดว่าท่านอยู่ที่นี่”
“ข้าเป็นคนพื้นเมืองของจิงฉี” มูตงไลส่ายหัว “โชคไม่ดีเท่าไร ฉันดันมีธุระมากมายเลยไม่มีเวลาเดินทางไปเยี่ยมร้านเจ้าอีก แม้จะเป็นแค่เกมแต่ก็เป็นเกมที่สนุกสุดๆ ไปเลย” น้ำเสียงของมูตงไลเต็มไปด้วยความคิดถึง “ข้าได้ยินมาว่าร้านเจ้ามีเกมใหม่”
ในเวลาเดียวกัน ณ คาเฟ่อินเตอร์เน็ต
“พวกเขาบอกว่า Diablo ภาคอื่นอยู่ที่นี่” กลุ่มนักรบพูดคุยกันหน้าคาเฟ่
“พวกเขาบอกว่า .. เราสามารถเป็นตัวละครหลักในเกมได้อีกด้วย”
“เบาหน่อย.. เห็นเขาว่ากันว่าพันธมิตรภาคใต้กำลังคว่ำบาตรที่นี่” นักรบหลายคนมองหน้ากัน “เราต้องเข้าไปด้วยความระมัดระวัง หากเราถูกพบเราอาจทำให้ผู้คนหมู่มากขุ่นเคือง”
“ชู่! .. แพงไม่เบา” พวกเขาอ้าปากค้างหลังมองดูราคาบนกระดานดำ
“ขนาดหนังสือยังมีราคาหนึ่งคริสตัล ไม่แปลกที่เกมจะต้องแพงกว่าอย่างแน่นอน” นักรบอีกคนกล่าว “นี่คงสนุกมากแน่ๆ”
เมื่อก่อน Diablo ยังไม่ได้รับความนิยมบวกกับราคาที่แสนแพง จึงทำให้ไม่ได้รับความสนใจกับคนหมู่มากสักเท่าไร
“ลองดู มันอาจคุ้มค่ากับราคา” นักรบอีกคนกล่าว “นอกจากนี้เขาบอกกันว่า เกมนี้สนุกและตื่นเต้นยิ่งกว่าอ่านนิยาย!”
“ไปกันเถอะ!”
หลังจากเดินเปิดประตูเช้าไปในร้าน ก็สังเกตเห็นว่านักรบบางคนหรือผู้คนบางคนสวมหน้ากากเข้ามาในร้าน
“แบล็คกี้ เจ้าช่วยกระจายข่าวออกไปได้มั้ย”
“แน่นอน!” นักรบสวมผ้าสีดำกล่าว “ข้าไม่สามารถแตะต้องหรือต่อกรกับองค์ขนาดใหญ่แบบนั้นได้ แต่ด้วยคนมากมายที่ถามเกี่ยวกับ Diablo ข้าจะแนะนำพวกเขาให้มาที่นี่ ข้าเองก็ไม่เชื่อหรอกว่าพันธมิตรทางใต้จะทำอะไรพวกเราได้”
“แยกๆ รีบไปที่นั่นกันเถอะ” ชายร่างผอมผิวคล้ำพูด “มันนานมากแล้วที่ข้าไม่ได้ไปเหยียบที่นั่น”
“เสี่ยวหยู เปิดใช้งานให้พวกเราที” แบล็คกี้สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด “อ่า! กลิ่นที่ข้าคิดถึง”
“เร็วเข้ามาเล่นเร็ว ข้ารอมานานแล้ว!”
“อ๊ะ!?” แบล็คกี้หันไปเห็นคนกลุ่มใหญ่
“เจ้าของร้าน! เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเขาถึงปิดการถ่ายทอดสด?”
“ใช่ ข้ายังอยากดูต่อ!”
“ตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่นะ เขาถึงจิงฉีแล้วนี่ ทำไมเขาไม่ถ่ายทอดสดต่อ!?”
“นั่นน่ะสิ ฉันหวังว่าจะได้เห็นจิงฉีบ้าง ยังไม่เคยไปเที่ยวที่นั่นเลยสักครั้ง!”
…
ขณะเดียวกันในร้านยิ่งเทียน เมืองจิงฉี
“การสอบระดับชาติ?” ฟางฉีขมวดคิ้วพลางนึก จำได้ว่าซงฉิงเฟิง, นาหลันหมิงสื่อ และคนอื่นๆ เดินทางมาจิงฉีเพื่อทำการทดสอบ
“นี่เจ้ารู้หรือไม่?” มูตงไลพูดเบาๆ พร้อมหัวเราะ “นี่เป็นงานกาล่า ข่าวใหม่ล่าสุดในเมืองจิงฉี ทุกคนทั้งหมดล้วนรู้ข่าวนี้”
“ข้าได้ยินมาก่อนหน้านี้แล้ว” ฟางฉียักไหล่ “แต่ไม่ได้รู้รายละเอียดมากนัก ท่านช่วยเล่าเรื่องนี้ให้ข้าฟังทีได้มั้ย”
“ผู้คนจากต่างสำนักทั้งสาม กำลังจะทำการทดสอบในระดับชาติ นี่เป็นสิ่งที่จักรพรรดิคิดขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่มีชื่อว่าการสอบระดับชาติ” มูตงไลกล่าวต่อ “ทั้งสามสำนักได้แก่ เฉิงจิ้ง, หลิงหยวนและซียี่ ทั้งสามสำนักเป็นสำนักที่เก่าแก่และทรงพลังที่สุดในประเทศ”
…
ตัดภาพมาที่นาหลันหมิงสื่อ, ซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสำนักเฉิงจิ้ง ที่นี่มีอุปกรณ์มากมายไว้สำหรับการฝึกซ้อมและทดสอบ
วันนี้พวกเขาได้รับการทดสอบคุณสมบัติพื้นฐาน สอบความแข็งแกร่งและความรวดเร็ว
…
“ข้าได้ยินคนพูดถึงเรื่องนี้ตอนที่ข้าเดินเข้ามาในร้านยิ่งเทียน” ฟางฉีกล่าวพร้อมยกแก้วเหล้าในมือ “ข้าได้ยินมาอีกว่าเจ้าชายองค์ที่ห้ามีพรสวรรค์มากที่สุด แม้เขาจะอยู่ในบ้านโลกของเฉิงจิ้ง เพราะอายุน้อยก็เถอะ แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็อยู่ในระดับสูง หลังจากการสอบครั้งนี้เขาเองมีแน้วโนมที่จะได้อยู่บ้านสวรรค์นี่”
หลังจากคิดพิจารณาชั่วครู่ “ที่สำนักหลิงหยวน ความแข็งแกร่งถูกเฉลี่ยและแบ่งกันตามลำดับบ้านใช่มั้ย งั้นระดับบ้านโลกของสำนักหลิงหยวนสามารถจัดว่าอยู่ในระดับนักรบระดับกลางได้มั้ย”
มูตงไลตอบด้วยรอยยิ้ม “ใช่ซินเจียงจากบ้านโลก จัดเป็นนักรบระดับกลางได้ แต่ถึงยังนั้นก็ยังคงห่างไกลจากนักรบแห่งบรรพบุรุษอยู่ดี”
…
“เป็นไปไม่ได้! หน้าด้าน มันกำลังโกง!” ฉินบิงกระแทกมือลงบนโต๊ะ “เจ้าชายองค์ที่ห้าทำสำเร็จในทันที? เขาอยู่ในระดับกลางและตอนนี้กำลังขึ้นไปในระดับบรรพบุรุษงั้นหรอ? งี้ก็ใกล้สวรรค์แล้วน่ะสิ!?”
“ท่านผู้อำนวยการฉินใจเย็นๆ ก่อน” ผู้คนบางคนพยายามปลอบใจเขา “แม้เชาจะได้รับการยอมรับในดำแหน่งนักรบแห่งดินแดนบรรพบุรุษแล้ว ไม่แน่กงฉีซินอาจสามารถเอาชนะเขาด้วยเทคนิคการต่อสู้ก็เป็นได้ ใจเย็นก่อนท่าน”
“แล้วเด็กบ้านสวรรค์ของพวกเราาละ? พวกเจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาบ้างฮะ?” ฉินบิงถาม
สีหน้าเขาในตอนนี้เริ่มไม่สู้ดีนัก เด็กๆ บนเวทีต่างมีเทคนิคการต่อสฝู้ที่ไม่เหมือนใคร
นักรบแห่งสวรรค์!
“เราตรวจสอบเด็กๆ ในบ้านแล้วไม่พบอะไรผิดปกติ แต่เราเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาซ่อนจุดแข็งของพวกเขาที่ไม่แสดงให้เราเห็นไว้หรือเปล่า”
“ใช่ ไม่บ่อยนักที่สาวกของเราจะแสดงอะไรให้เราเห็นโดยแท้จริง” อาจารย์หลายท่านเอ่ย
การบ่มเพาะในตอนนี้เริ่มยากเย็นขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน เมื่อก่อนการฝึกฝนของสาวกแต่ละบ้านมีทั้งความสนุก พวกเขาส่วนมากฝึกฝนจนสามารถพาตัวเองไปอยู่ในสถานะที่สูงขึ้น
“ดูเหมือนว่าฉันต้องทำอะไรสักอย่าง” ฉินบิงถอนหายใจอย่างหนักหน่วง
“ยังมีพรุ่งนี้ ..” ฉินบิงเอามือกุมขมับ “บอกสาวกของเราฝึกให้หนักขึ้น”