ตอนที่ 711

Elixir Supplier

711 ง่ายเกินไป

 

“สวัสดีค่ะ มีคนมาหาคุณตรงนั้นน่ะค่ะ” นางพยาบาลเดินเข้ามาพูดกับชายหนุ่มคนหนึ่งในแก็งค์ที่รออยู่ด้านนอก

 

“มาหาผมเหรอ?” ชายหนุ่มแปลกใจ เพราะเขาไม่ได้มีเพื่อนหรือคนในครอบครัวอาศัยอยู่ที่เหลียนชานเลยสักคน

 

“แล้วคนที่มาหาผมอยู่ที่ไหนล่ะ?” ชายหนุ่มถาม

 

“อยู่ใกล้กับบันไดตรงนั้นค่ะ” นางพยาบาลชี้ไปที่ปลายสุดทางเดิน

 

“อ่อ ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มพูด เขาเดินตรงไปที่บันไดด้วยความสงสัย “ใครกัน?”

 

ครู่ต่อมา เขาก็หมดสติไป แล้วตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่า ตัวเองถูกมัดอยู่ภายในห้องห้องหนึ่ง ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมกับถือดาบเอาไว้ในมือ

 

“แกเป็นใคร? แล้วแกต้องการอะไรจากฉัน?” ชายหนุ่มในแก็งค์ของชายหัวล้านถาม

 

“ฉันต้องการให้แกตอบคำถามของฉัน” หวังเย้าพูด “เข้าใจไหม?”

 

“เข้าใจ” ชายหนุ่มพูด

 

เขาเข้าใจว่าสถานการณ์ของตัวเองในเวลานี้เป็นยังไง ดังนั้น เขาจึงไม่ร้องโวยวายออกมา เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพบเจอกับเรื่องแบบนี้

 

“ดี” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับเริ่มตั้งคำถาม

 

“พี่หนานอะไรกัน? ฉันไม่รู้ว่าแกพูดเรื่องอะไร” ชายหนุ่มตอบ เขากำลังแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอยู่

 

“เมื่อกี้ ฉันไม่น่าชมแกเลย” หวังเย้าพูด “ทำไมถึงไม่ตอบตามตรงล่ะ? ตอนนี้แกรู้สึกปวดที่ท้องของแกบ้างรึเปล่า?”

 

“หา?” ชายหนุ่มถามด้วยความไม่เข้าใจ แล้วเขาก็เริ่มมีอาการปวดท้องขึ้นมา

 

“แกรู้สึกว่าท้องอืดด้วยไหม?” หวังเย้าถาม

 

“ความจริง…ก็ใช่” ชายหนุ่มพูด

 

“งั้นก็มองดูท้องของแกดีดีนะ ว่ามันพองออกรึเปล่า” หวังเย้าพูด

 

ชายหนุ่มหันไปมองหน้าท้องของตัวเองตามคำพูดของหวังเย้า ซึ่งมันกำลังขยายตัวออกราวกับลูกโป่ง “แก…แกทำอะไรฉัน?”

 

“ท้องของแกจะขยายออกเรื่อยๆจนมันไม่สามารถขยายต่อไปได้อีก” หวังเย้าพูด “พอถึงตอนนั้น ฉันก็จะเอาดาบเล่มนี้จิ้มไปที่ท้องของแก แกก็น่าจะรู้ว่าในท้องของนายจะมีแรงดันสูงแค่ไหน ถ้ามันแตกขึ้นมา ไส้ของแกก็คงจะไหลทะลักออกมาจนหมด”

 

“แก…แกกำลังหลอกให้ฉันกลัวอยู่ใช่ไหม?” ชายหนุ่มถาม

 

“เดี๋ยวก็รู้” หวังเย้าพูด

 

“แกรู้สึกอุ่นๆในท้องไหม?” หวังเย้าถามเสียงเบา

 

ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่า ท้องของเขากำลังขยายออกเรื่อยๆ เขาเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว ที่หน้าผากและตามร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ จนเสื้อผ้าของเขาเปียกชุ่มไปหมด “แก…แกต้องการอะไรกันแน่?”

 

“ตอนนี้ ก็ตอบคำถามของฉันมา” หวังเย้าพูด

 

“ได้ๆๆ” ชายหนุ่มพูด

 

“กลิ่นอะไรน่ะ?” หวังเย้าขมวดคิ้ว “ดูแกสิ! เป็นถึงคนในแก็งค์อันธพาล ทำไมถึงได้ขี้ขลาดแบบนี้?”

 

ชายหนุ่มฉี่ราดกางเกงของตัวเอง ทำให้เกิดกลิ่นฉุนไปทั่วห้อง

 

หวังเย้าเริ่มถามอีกครั้ง แล้วชายหนุ่มก็บอกเขาทุกอย่าง

 

“เขาเอาปืนมาด้วยเหรอ?” หวังเย้าถาม

 

“ใช่ เขาเอาปืนมาด้วยสามกระบอก” ชายหนุ่มพูด

 

หลังจากได้ข้อมูลมาจนพอใจแล้ว หวังเย้าก็พยักหน้า “ขอบคุณ”

 

“ฉันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ชายหนุ่มถาม

 

ดวงตาของเขามืดลงพร้อมกับสติที่หลุดลอยไป

 

“เรียบร้อยแล้วเหรอ?” พันจวินที่รออยู่ข้างนอกถาม เขาเป็นคนจัดหาห้องนี้ให้กับหวังเย้า ถึงยังไงเขาก็เป็นถึงหัวหน้าแผนก มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาห้องว่างสักห้อง

 

“อืม ผมได้ข้อมูลมาหมดแล้ว ที่เหลือก็ทำตามแผนของพี่” หวังเย้าพูด

 

“โอเค ปล่อยให้ฉันจัดการที่เหลือเอง ระวังตัวด้วยล่ะ อาจารย์” พันจวินพูด

 

“อืม พี่ก็เหมือนกัน อย่าไปทำอะไรดึงดูดความสนใจพวกนั้นเข้าล่ะ” หวังเย้าพูด

 

“ไม่มีปัญหา” พันจวินพูดด้วยรอยยิ้ม

 

หลังออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว หวังเย้าก็ไปที่โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดของเหลียนชาน จากข้อมูลที่เขาได้มาจากชายหนุ่มคนนั้น พี่หนานและคนของเขาพักอยู่ที่โรงแรมนี้ และอีกไม่นาน พวกเขาก็จะไปแก้แค้นหวังเย้ากับครอบครัวของเขา

 

หวังเย้าไม่สนใจว่ามือของเขาแปดเปื้อนเพราะคนพวกนี้ เขาจะหวดพวกมันและทำให้พวกมันต้องเสียใจไปตลอดชีวิต แต่พวกเขาก็อาจจะไม่ทันได้มีโอกาสเสียใจด้วยซ้ำ

 

พี่หนานและคนของเขาพักอยู่ในห้องห้องหนึ่งของโรงแรม

 

“พี่หนาน เราพร้อมแล้วครับ” หนึ่งในคนของเขาพูด

 

“ดี ไปกันได้แล้ว” พี่หนานพูด

 

เขาเปิดประตูออกไป

 

“หืม?” เขาพบว่า คนของเขาสองคนที่รออยู่ด้านนอกได้หายไป “พวกนั้นหายไปไหน?”

 

“บางทีอาจจะออกไปสูบบุหรี่ก็ได้” หนึ่งในคนของเขาพูด

 

“เป็นไปไม่ได้ พวกมันไม่ทางออกไปพร้อมกันหรอก” พี่หนานพูด “ระวัง!”

 

“สวัสดี พี่หนาน” อยู่เขาก็ได้ยินเสียงพูดของใครบางคน แต่เขากลับมองไม่เห็นใครเลย

 

“แกเป็นใคร?” พี่หนานเริ่มมีท่าทีกังวล

 

“ปกป้องพี่หนาน” หนึ่งในคนของเขาพูด

 

หวืด! ปัง! หนึ่งคน, สองคน, สามคน,… พวกเขาค่อยๆหมดสติไปทีละคน มันไม่ใช่เรื่องยากเลย ที่หวังเย้าจะจัดการพวกเขาทั้งหมด

 

เหลือเพียงชายคนหนึ่งที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงจุดนั้น

 

“นายคือ พี่หนาน สินะ” หวังเย้าพูดในขณะที่จังจ้องไปยังชายผิวแทนที่ยืนอยู่ พี่หนานหน้าตาไม่เลวเลย แต่ใบหน้าของเขากลับแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา

 

“ใช่ ฉันเอง แกก็คงจะเป็น หวังเย้า สินะ” พี่หนานพูด

 

“ใช่ ฉันเอง ฉันได้ยินมาว่า นายกำลังคิดจะแก้แค้นฉันแทนพี่ชายของนาย ฉันก็เลยมาหานายที่นี่เพื่อเป็นการช่วยนายประหยัดเวลายังไงล่ะ” หวังเย้าพูด

 

“ดี ดีมาก!” พี่หนานหยิบปืนออกมา

 

แต่อยู่ๆ หวังเย้าก็หายตัวไป

 

มันอยู่ไหน?

 

“โอ๊ย!” พี่หนานร้องออกมา

 

อยู่ๆเขาก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่หลังและได้ทั่วลำตัวของเขา เรี่ยวแรงของเขาหดหายและทรุดตัวลงไปกองกับพื้น

 

“ฉันทำร้ายพี่ชายของนาย เพราะเขาสมควรจะได้รับมัน” หวังเย้าพูด “ส่วนนาย ฉันได้หาข้อมูลของนายมาแล้ว มันทำให้ฉันได้รู้ว่า นายทำชั่วอะไรเอาไว้บ้าง และมันมากพอสำหรับการได้รับโทษถึงตายเลยทีเดียว แต่ฉันว่า โทษตายสำหรับนาย มันออกจะสบายไปสักหน่อย ฉันอยากจะให้นายต้องเสียใจและหวาดกลัวไปชั่วชีวิต”

 

หวังเย้าใช้พลังฉีโจมตีไปตามจุดต่างๆบนร่างกายของพี่หนาน พลังฉีของเขาได้เข้าไปทำลายเส้นเลือดทั้งหมดภายในร่างกายของพี่หนาน สุดท้าย หวังเย้าได้สะกัดจุดที่บริเวณศีรษะของพี่หนานด้วย

 

ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พี่หนานจะไม่สามารถแบกของไว้บนบ่าของเขาได้ เขาจะไม่สามารถเดินหรือกินได้เหมือนคนปกติ เขาจะหัวศีรษะในเวลากลางคืนจนไม่สามารถนอนหลับได้ เขาจะรู้สึกอยากตายมากกว่ามีชีวิตอยู่ต่อไป

 

ส่วนลูกน้องของพี่หนานที่นอนกองกันอยู่ที่พื้นนั้น หวังเย้าก็ตัดสินใจลงโทษพวกเขาด้วยเช่นกัน หลังจากหวังเย้าจัดการกับคนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เขาก็โทรไปหาหวังหมิงเปา

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงในเวลาไม่นาน พวกเขาพบปืนสามกระบอกและดาบอีกสิบเล่มอยู่ภายในห้อง อาวุธเหล่านี้สามารถจับพวกเขาไปอยู่ในคุกได้เป็นเวลานานทีเดียว

 

ส่วนพี่เหวินที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น อาการของเขาเลวร้ายมากกว่าที่ตาเห็นมาก

 

ดูเหมือนว่าเรื่องทั้งหมด จะถูกหวังเย้าและเพื่อนๆของจัดการจนเรียบร้อย

 

ที่สถานีตำรวจ พี่หนานฟื้นขึ้นมาและเริ่มสบถด่าออกมาอย่างหยาบคาย “เชี่ย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”

 

เขาปวดหัว ปวดหลัง เขาอยากจะลุกขึ้นยืน แต่แขนของเขากลับไม่มีแรงเลย

 

“นี่มันอะไรกัน?” ตอนนี้ เขาเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว

 

ไม่นาน เขาก็พบว่า ร่างกายของเขาเกิดปัญหาหลายอย่าง ทั้งแขนขาที่ไร้เรี่ยวแรง, อาการปวดศีรษะ, และอาการคลื่นไส้อาเจียน มันจะต้องเป็นเพราะไอ้หวังเย้าแน่!

 

พี่หนานไม่ใช่แค่มีปัญหาทางด้านร่างกายเท่านั้น แต่เขายังปกอาวุธปืน ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงในประเทศจีนอีกด้วย

 

เขาพยายามติดต่อกับคนรู้จักที่อยู่ด้านนอก เขาจำเป็นต้องวางเรื่องแก้แค้นไว้ก่อน และหันมาสนใจเรื่องการเลี่ยงการถูกตั้งข้อหาร้ายแรงแทน

 

ในขณะเดียวกัน หวังหมิงเปาก็เชิญเพื่อนคนหนึ่งของเขามาทานอาหารที่ร้านกลางเมืองเหลียนชาน

 

“ขอบคุณมากนะ” หวังหมิงเปาพูด

 

“ด้วยความยินดีอย่างมากเลยล่ะ” เพื่อนของเขาพูด “ตอนที่เราไปถึงที่นั่น พวกคนในแก็งค์ก็นอนกองกันอยู่ที่พื้นหมดแล้ว พวกเขาหมดสติและไม่สามารถต่อต้านอะไรได้เลย มันเลยง่ายสำหรับเราในการพาตัวพวกเขาทั้งหมดไปที่สถานีตำรวจ”

 

“ดีแล้ว ที่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้พวกนายต้องตกอยู่ในอันตราย ฉันได้ยินมาว่า พวกนั้นมีปืนกันด้วยนี่นา” หวังหมิงเปาพูด

 

“ใช่ ปืนสามกระบอกพร้อมกับใส่กระสุนเอาไว้เรียบร้อย เรายังเจอดาบอีก 10 เล่มด้วย พอกลับมาคิดย้อนดูอีกที ฉันก็กลัวขึ้นมาอยู่เหมือนกัน” เพื่อนของเขาพูด