ตอนที่ 291 สามีภรรยาที่ใช้ชีวิตร่วมกันจนแก่เฒ่า

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ฮุยหลางยิ้ม กล่าวว่า “ก็แค่ยาหลิงเชิงรึ ? เจ้าจะกล่าวโม้สิ่งใดก็กล่าวอย่างมีขอบเขตหน่อยเถอะ  ตอนนี้เจ้าสามารถเสกเม็ดยาหลิงเชิงออกมาได้หรืออย่างไร ?”

มู่เฉียนซี “เจ้ากล่าวถูกต้องแล้ว ข้าสามารถเสกยาหลิงเชิงออกมาได้”

“เสกรึ ? เจ้าจะทำได้อย่างไร ? อย่าบอกข้านะว่าเจ้าเป็นนักปรุงยาระดับสูง อย่าไร้สาระไปหน่อยเลย เหอะ ๆ” ฮุยหลางหัวเราะเย้ยหยัน  เขาไม่เคยได้ยินว่ามีนักปรุงยาระดับสูงที่อายุน้อยเช่นนี้มาก่อน

มู่เฉียนซีไม่สนใจฮุยหลางที่ไม่อยากจะเชื่อนาง  นางมองไปที่เถ้าแก่และกล่าวขึ้นด้วยเสียงอันดัง “เถ้าแก่ ข้าขอเวลาคุยด้วยสักหน่อยได้หรือไม่ ?”

เถ้าแก่ “หากเจ้าสามารถนำยาหลิงเชิงออกมาได้จริง ถึงจะรบกวนเป็นเวลานานข้าก็ยินดี”

แววตาของเถ้าแก่ประกายกล้า ความสุขุมของเด็กหนุ่มผู้นี้ทําให้เขารู้สึกว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ธรรมดา

สําหรับยอดฝีมือระดับจักรพรรดิ ฮุยหลางนั้นไม่กล้าที่จะล่วงเกินอย่างแน่นอน

ฮุยหลางกล่าวว่า “ฮึ่ม! เช่นนั้นข้าจะรอดูแล้วกัน”

เถ้าแก่พามู่เฉียนซีไปสนทนากันตามลําพัง มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นมา “เถ้าแก่ ท่านต้องการยาหลิงเชิง เช่นนั้นก็คงต้องเก็บสมุนไพรวิญญาณสำหรับหลอมยาหลิงเชิงไว้ไม่น้อยเลยใช่หรือไม่ ท่านเอาสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นมาให้ข้า แล้วข้าจะเอายาหลิงเชิงให้ท่าน”

เถ้าแก่กล่าวเสียงต่ำว่า “นี่ไม่เหมือนกับที่เจ้ากล่าวไว้ในตอนแรก”

“เถ้าแก่ไม่เห็นหรือไรว่าข้ากําลังต่อรองราคา ? หากท่านต้องการยาหลิงเชิงก็ไม่ควรปฏิเสธข้า”

“หึ! เจ้าช่างเป็นเด็กเฉลียวฉลาดเสียจริง”

เถ้าแก่ส่ายหน้าพลางหยิบสมุนไพรวิญญาณบางส่วนออกมาก่อนจะกล่าวว่า “นี่เป็นสมุนไพรวิญญาณสำหรับหลอมยาหลิงเชิง  เจ้าหนู เจ้าแน่ใจรึว่าเจ้าสามารถหลอมยาหลิงเชิงได้ ?”

มู่เฉียนซีหยิบเอาหญ้าลี่เหยียน หนึ่งในสมุนไพรเหล่านั้นออกมา นี่เป็นสมุนไพรวิญญาณชนิดหนึ่งที่ล้ำค่าที่สุดในนั้น  นางกล่าวขึ้น “เวลานี้เถ้าแก่ออกไปก่อน ไปรอฟังข่าวดีจากข้าเถอะ”

เถ้าแก่ยังคงสงสัยมู่เฉียนซีอยู่เล็กน้อย แต่เขาเป็นยอดฝีมือระดับจักรพรรดิ ไม่ว่าอย่างไรเจ้าเด็กผู้นี้ก็คงไม่มีทางนำเอาสมุนไพรวิญญาณหนีรอดไปจากสายตาเขาได้อยู่แล้ว

หลังจากได้หญ้าลี่เหยียนแล้ว มู่เฉียนซีหยิบยาเม็ดอื่น ๆ ในมิติเก็บของของนางออกมา  ทว่ายาที่ปรุงขึ้นมาได้กลับไม่ใช่ยาเม็ดหลิงเชิง แต่เป็นยาน้ำชนิดหนึ่ง

การปรุงยานั้นค่อนข้างมีขั้นตอนยุ่งยากเล็กน้อย มู่เฉียนซีจึงใช้เวลาไปประมาณเกือบหนึ่งก้านธูป

มู่เฉียนซีเปิดประตูออกมาแล้วกล่าวว่า “เถ้าแก่ นี่คือสิ่งที่ท่านต้องการ”

เมื่อเห็นสิ่งที่เด็กหนุ่มถือออกมา เถ้าแก่กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวทันที “สิ่งที่ข้าต้องการคือเม็ดยาหลิงเชิง ไม่ใช่ยาน้ำที่เจ้าปรุงออกมาอย่างสุ่ม ๆ  คืนหญ้าลี่เหยียนมาให้ข้าประเดี๋ยวนี้เลย!”

มู่เฉียนซี “ต้องขอโทษด้วย ข้าไม่สามารถคืนหญ้าลี่เหยียนให้ท่านได้ เพราะข้าได้นำหญ้าลี่เหยียนไปปรุงยาเนี้ยเชิงนี้จนหมดแล้ว”

เถ้าแก่โกรธจนกระอักเลือด เขากล่าวอย่างกราดเกรี้ยว “บัดซบ! เจ้าทำให้หญ้าลี่เหยียนที่ข้าเพิ่งหาเจอมาอย่างยากลำบากต้องสิ้นเปลือง  เจ้า… เจ้ารู้หรือไม่ว่าหญ้าลี่เหยียนหาได้ยากเพียงใด ?!”

— เพี๊ยะ! —

เถ้าแก่กรุ่นโกรธอย่างหนัก ฝ่ามือของเขาตบไปที่มู่เฉียนซี

ฮุยหลางได้ยินเสียงสั่นสะเทือนจากชั้นบน เขารู้สึกมีความสุขขึ้นมาในความทุกข์ร้อนของผู้อื่น เจ้าเด็กนั่นถึงกับกล้าล่วงเกินเถ้าแก่  ล่วงเกินยอดฝีมือระดับจักรพรรดิ

รนหาที่ตายแท้ ๆ!

ทว่ามู่เฉียนซีหลบการโจมตีของเถ้าแก่ได้  เถ้าแก่ตะลึงงันทันที

“ปรมาจารย์ภูตระดับสอง เจ้ายังถือว่าหนุ่ม ๆ อยู่เลย เจ้าแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยเชียวรึ ?”

ในอายุวัยนี้ การมีพลังฝีมือเช่นนี้ย่อมต้องเป็นอัจฉริยะของสํานักอย่างแน่นอน

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างผ่อนคลาย “เถ้าแก่ ท่านต้องการเม็ดยาหลิงเชิงเพื่อใช้สําหรับสตรี หากท่านไม่ไปลองดู จะรู้ได้อย่างไรว่ายาของข้าไม่ได้ผล ?”

เถ้าแก่กล่าว “มันเป็นเพียงยาน้ำชนิดหนึ่ง เจ้าคิดว่ามันจะทําอะไรได้ล่ะ ?”

มู่เฉียนซี “ท่านเป็นยอดฝีมือระดับจักรพรรดิ ดังนั้นการจะสังหารปรมาจารย์ภูตตัวเล็ก ๆ อย่างข้าคงเป็นเรื่องง่ายมาก ข้าคงไม่โง่พอที่จะเอาเรื่องนี้มาเดิมพันกับชีวิตของข้า ชีวิตของข้าราคาแพงอย่างมาก ดังนั้นเหตุใดท่านไม่ลองเปิดใจกว้าง ๆ และไปลองดูเสียก่อนเล่า ?”

เถ้าแก่มองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยสีหน้าท่าทางซับซ้อนอ่านยาก เด็กหนุ่มที่มีความสามารถเช่นนี้ ไม่มีทางโง่พอที่จะเอาชีวิตตัวเองมาเดิมพันอย่างโง่งมเพื่อทําสิ่งที่กล้าหาญเช่นนี้ได้

ชายชราคว้าแขนมู่เฉียนซีไว้และกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้ามั่นใจในยาน้ำของเจ้ามากนัก เช่นนั้นก็ตามข้ามาซะ!”

— ฟึ่บ! —

ฮุยหลางรู้สึกว่ามีเพียงเงาร่างหนึ่งเดินผ่านหน้าเขา จากนั้นก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย  ยอดฝีมือระดับจักรพรรดิช่างน่ากลัวเสียจริง  ผู้นำกลุ่มนักผจญภัยของพวกเขายังเป็นเพียงระดับราชาเท่านั้น

เถ้าแก่พามู่เฉียนซีเข้าไปในตำหนักเงียบสงบแห่งหนึ่ง เขาผลักประตูเปิดออก ภายในนั้นมีเตียงซึ่งบนเตียงมีหญิงชราผู้หนึ่งนอนอยู่

เถ้าแก่กล่าว “อวี้เอ๋อร์ วันนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง ?”

หญิงชรา “สามีข้า… อย่าต้องลำบากเพื่อข้าเลย ชีวิตที่อ่อนแอของข้าคงอยู่กับท่านได้อีกไม่กี่ปี”

ความแข็งแกร่งของเถ้าแก่ถึงระดับจักรพรรดิแห่งภูต อายุขัยย่อมยาวนานกว่าระดับอื่น ๆ อย่างมาก ความแก่ชราก็จะช้าลง  แต่สตรีผู้นี้กลับไม่ได้อยู่ระดับใด ๆ เลย  ความแตกต่างเช่นนี้ทำให้พวกเขาไม่สามารถเป็นคู่สามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าได้อย่างที่ควรจะเป็น

แต่ยาเม็ดหลิงเชิง… สามารถคืนอายุขัยของคนธรรมดาได้ถึงยี่สิบปี

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “เถ้าแก่เนี้ย ใครบอกว่าไม่ได้เล่า ? ตราบใดที่ท่านกินยาเนี้ยเชิงของข้า อย่าว่าแต่ไม่กี่ปีเลย ต่อให้เป็นสามสิบปีก็ยังได้”

หญิงชราบนเตียงมองเห็นเด็กหนุ่มอายุน้อยที่มีรูปกายงดงามมาก  นางยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะกล่าวว่า “เจ้าเด็กคนนี้เป็นลูกหลานตระกูลใด ช่างงดงามเหลือเกิน”

มู่เฉียนซีมอบยาให้นาง “เถ้าแก่เนี้ย เถ้าแก่ช่างโหดร้ายนัก เขาไม่ยอมเชื่อข้า แต่ท่านเชื่อข้าใช่หรือไม่ ?”

หญิงชรา “ข้ารู้ว่าข้าเองก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน หากข้าสามารถมีชีวิตอยู่ต่ออีกยี่สิบปีได้จริงตามที่เจ้ากล่าวอ้าง  แม้จะมีความเป็นไปได้หนึ่งในหนึ่งหมื่นส่วน ข้าก็คิดว่าจะลองดู”

“อวี้เอ๋อร์!” เถ้าแก่ขมวดคิ้วเป็นกังวล

ทว่าหญิงชรากลืนยาทั้งหมดในขวดลงคอไปแล้ว จากนั้นนางกล่าวขึ้น “สามีข้า… ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับข้าจริง ๆ ท่านก็อย่าได้โทษเด็กหนุ่มผู้นี้เลย”

แต่หลังจากที่หญิงชรากลืนกินยาเข้าไปแล้ว นางกลับรู้สึกว่าร่างกายของนางเหมือนได้เกิดใหม่ ผมที่กลายเป็นสีขาวทั้งหมดนั้นเปลี่ยนกลายเป็นสีดําไปครึ่งหนึ่ง ริ้วรอยเหี่ยวย่นลึกบนใบหน้าของนางก็เริ่มตื้นขึ้นมา นางดูอ่อนเยาว์ขึ้นไม่น้อยเลย

หญิงชรายื่นมือออกไป รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงของตัวเองดั่งราวกับฝันไป นางพึมพําเสียงเบา “สวรรค์!  ข้า… ข้าคงกําลังฝันอยู่เป็นแน่”

เถ้าแก่เห็นการเปลี่ยนแปลงของภรรยาตน ก็รู้สึกเหลือเชื่อมากเช่นกัน เขาหยิกมือของตัวเองก่อนจะกล่าวขึ้นมา “ข้าไม่ได้กำลังฝันไป! ไม่ได้…”

“อวี้เอ๋อร์!” เถ้าแก่กระโจนเข้ากอดภรรยาตนเองไว้แน่น คิดจะพิสูจน์ว่านี่คือความจริง

มู่เฉียนซีเดินออกมาด้านนอกประตู ปล่อยให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน นางพึมพําเสียงเบา “ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเถ้าแก่จะเป็นคนที่มีความรักลึกซึ้งเช่นนี้ เป็นถึงยอดฝีมือระดับจักรพรรดิแต่สิ่งที่ต้องการนั้นเรียบง่ายนัก เพียงแค่อยากอยู่กับคนที่รักไปจนแก่เฒ่าเท่านั้น”

ขณะที่มู่เฉียนซีกําลังพึมพํากับตัวเอง ร่างชุดดำสูงเพรียวก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของนาง  ร่างนั้นกล่าวด้วยเสียงต่ำอย่างเคย

“ใช้ชีวิตร่วมกันจนแก่เฒ่า…”

มู่เฉียนซีหันกลับมาเห็นชายผู้งดงามลึกลับเจ้าเก่า

“จิ่วเยี่ย!”

“ข้าไม่ชอบคำนี้ที่เจ้ากล่าวออกมา” จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชา

“จิ่วเยี่ย เจ้าย่อมแตกต่างแน่นอน เจ้าอยู่ระดับสูงกว่าเถ้าแก่เสียอีก ความแข็งแกร่งเกรงว่าคงไม่มีสิ่งใดที่เข้าตาเจ้า”

จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีไว้แน่นราวกับกําลังโกรธ เขากล่าว “มี”

.