ฮุยหลางยิ้ม กล่าวว่า “ก็แค่ยาหลิงเชิงรึ ? เจ้าจะกล่าวโม้สิ่งใดก็กล่าวอย่างมีขอบเขตหน่อยเถอะ ตอนนี้เจ้าสามารถเสกเม็ดยาหลิงเชิงออกมาได้หรืออย่างไร ?”
มู่เฉียนซี “เจ้ากล่าวถูกต้องแล้ว ข้าสามารถเสกยาหลิงเชิงออกมาได้”
“เสกรึ ? เจ้าจะทำได้อย่างไร ? อย่าบอกข้านะว่าเจ้าเป็นนักปรุงยาระดับสูง อย่าไร้สาระไปหน่อยเลย เหอะ ๆ” ฮุยหลางหัวเราะเย้ยหยัน เขาไม่เคยได้ยินว่ามีนักปรุงยาระดับสูงที่อายุน้อยเช่นนี้มาก่อน
มู่เฉียนซีไม่สนใจฮุยหลางที่ไม่อยากจะเชื่อนาง นางมองไปที่เถ้าแก่และกล่าวขึ้นด้วยเสียงอันดัง “เถ้าแก่ ข้าขอเวลาคุยด้วยสักหน่อยได้หรือไม่ ?”
เถ้าแก่ “หากเจ้าสามารถนำยาหลิงเชิงออกมาได้จริง ถึงจะรบกวนเป็นเวลานานข้าก็ยินดี”
แววตาของเถ้าแก่ประกายกล้า ความสุขุมของเด็กหนุ่มผู้นี้ทําให้เขารู้สึกว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ธรรมดา
สําหรับยอดฝีมือระดับจักรพรรดิ ฮุยหลางนั้นไม่กล้าที่จะล่วงเกินอย่างแน่นอน
ฮุยหลางกล่าวว่า “ฮึ่ม! เช่นนั้นข้าจะรอดูแล้วกัน”
เถ้าแก่พามู่เฉียนซีไปสนทนากันตามลําพัง มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นมา “เถ้าแก่ ท่านต้องการยาหลิงเชิง เช่นนั้นก็คงต้องเก็บสมุนไพรวิญญาณสำหรับหลอมยาหลิงเชิงไว้ไม่น้อยเลยใช่หรือไม่ ท่านเอาสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นมาให้ข้า แล้วข้าจะเอายาหลิงเชิงให้ท่าน”
เถ้าแก่กล่าวเสียงต่ำว่า “นี่ไม่เหมือนกับที่เจ้ากล่าวไว้ในตอนแรก”
“เถ้าแก่ไม่เห็นหรือไรว่าข้ากําลังต่อรองราคา ? หากท่านต้องการยาหลิงเชิงก็ไม่ควรปฏิเสธข้า”
“หึ! เจ้าช่างเป็นเด็กเฉลียวฉลาดเสียจริง”
เถ้าแก่ส่ายหน้าพลางหยิบสมุนไพรวิญญาณบางส่วนออกมาก่อนจะกล่าวว่า “นี่เป็นสมุนไพรวิญญาณสำหรับหลอมยาหลิงเชิง เจ้าหนู เจ้าแน่ใจรึว่าเจ้าสามารถหลอมยาหลิงเชิงได้ ?”
มู่เฉียนซีหยิบเอาหญ้าลี่เหยียน หนึ่งในสมุนไพรเหล่านั้นออกมา นี่เป็นสมุนไพรวิญญาณชนิดหนึ่งที่ล้ำค่าที่สุดในนั้น นางกล่าวขึ้น “เวลานี้เถ้าแก่ออกไปก่อน ไปรอฟังข่าวดีจากข้าเถอะ”
เถ้าแก่ยังคงสงสัยมู่เฉียนซีอยู่เล็กน้อย แต่เขาเป็นยอดฝีมือระดับจักรพรรดิ ไม่ว่าอย่างไรเจ้าเด็กผู้นี้ก็คงไม่มีทางนำเอาสมุนไพรวิญญาณหนีรอดไปจากสายตาเขาได้อยู่แล้ว
หลังจากได้หญ้าลี่เหยียนแล้ว มู่เฉียนซีหยิบยาเม็ดอื่น ๆ ในมิติเก็บของของนางออกมา ทว่ายาที่ปรุงขึ้นมาได้กลับไม่ใช่ยาเม็ดหลิงเชิง แต่เป็นยาน้ำชนิดหนึ่ง
การปรุงยานั้นค่อนข้างมีขั้นตอนยุ่งยากเล็กน้อย มู่เฉียนซีจึงใช้เวลาไปประมาณเกือบหนึ่งก้านธูป
มู่เฉียนซีเปิดประตูออกมาแล้วกล่าวว่า “เถ้าแก่ นี่คือสิ่งที่ท่านต้องการ”
เมื่อเห็นสิ่งที่เด็กหนุ่มถือออกมา เถ้าแก่กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวทันที “สิ่งที่ข้าต้องการคือเม็ดยาหลิงเชิง ไม่ใช่ยาน้ำที่เจ้าปรุงออกมาอย่างสุ่ม ๆ คืนหญ้าลี่เหยียนมาให้ข้าประเดี๋ยวนี้เลย!”
มู่เฉียนซี “ต้องขอโทษด้วย ข้าไม่สามารถคืนหญ้าลี่เหยียนให้ท่านได้ เพราะข้าได้นำหญ้าลี่เหยียนไปปรุงยาเนี้ยเชิงนี้จนหมดแล้ว”
เถ้าแก่โกรธจนกระอักเลือด เขากล่าวอย่างกราดเกรี้ยว “บัดซบ! เจ้าทำให้หญ้าลี่เหยียนที่ข้าเพิ่งหาเจอมาอย่างยากลำบากต้องสิ้นเปลือง เจ้า… เจ้ารู้หรือไม่ว่าหญ้าลี่เหยียนหาได้ยากเพียงใด ?!”
— เพี๊ยะ! —
เถ้าแก่กรุ่นโกรธอย่างหนัก ฝ่ามือของเขาตบไปที่มู่เฉียนซี
ฮุยหลางได้ยินเสียงสั่นสะเทือนจากชั้นบน เขารู้สึกมีความสุขขึ้นมาในความทุกข์ร้อนของผู้อื่น เจ้าเด็กนั่นถึงกับกล้าล่วงเกินเถ้าแก่ ล่วงเกินยอดฝีมือระดับจักรพรรดิ
รนหาที่ตายแท้ ๆ!
ทว่ามู่เฉียนซีหลบการโจมตีของเถ้าแก่ได้ เถ้าแก่ตะลึงงันทันที
“ปรมาจารย์ภูตระดับสอง เจ้ายังถือว่าหนุ่ม ๆ อยู่เลย เจ้าแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยเชียวรึ ?”
ในอายุวัยนี้ การมีพลังฝีมือเช่นนี้ย่อมต้องเป็นอัจฉริยะของสํานักอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างผ่อนคลาย “เถ้าแก่ ท่านต้องการเม็ดยาหลิงเชิงเพื่อใช้สําหรับสตรี หากท่านไม่ไปลองดู จะรู้ได้อย่างไรว่ายาของข้าไม่ได้ผล ?”
เถ้าแก่กล่าว “มันเป็นเพียงยาน้ำชนิดหนึ่ง เจ้าคิดว่ามันจะทําอะไรได้ล่ะ ?”
มู่เฉียนซี “ท่านเป็นยอดฝีมือระดับจักรพรรดิ ดังนั้นการจะสังหารปรมาจารย์ภูตตัวเล็ก ๆ อย่างข้าคงเป็นเรื่องง่ายมาก ข้าคงไม่โง่พอที่จะเอาเรื่องนี้มาเดิมพันกับชีวิตของข้า ชีวิตของข้าราคาแพงอย่างมาก ดังนั้นเหตุใดท่านไม่ลองเปิดใจกว้าง ๆ และไปลองดูเสียก่อนเล่า ?”
เถ้าแก่มองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยสีหน้าท่าทางซับซ้อนอ่านยาก เด็กหนุ่มที่มีความสามารถเช่นนี้ ไม่มีทางโง่พอที่จะเอาชีวิตตัวเองมาเดิมพันอย่างโง่งมเพื่อทําสิ่งที่กล้าหาญเช่นนี้ได้
ชายชราคว้าแขนมู่เฉียนซีไว้และกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้ามั่นใจในยาน้ำของเจ้ามากนัก เช่นนั้นก็ตามข้ามาซะ!”
— ฟึ่บ! —
ฮุยหลางรู้สึกว่ามีเพียงเงาร่างหนึ่งเดินผ่านหน้าเขา จากนั้นก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย ยอดฝีมือระดับจักรพรรดิช่างน่ากลัวเสียจริง ผู้นำกลุ่มนักผจญภัยของพวกเขายังเป็นเพียงระดับราชาเท่านั้น
เถ้าแก่พามู่เฉียนซีเข้าไปในตำหนักเงียบสงบแห่งหนึ่ง เขาผลักประตูเปิดออก ภายในนั้นมีเตียงซึ่งบนเตียงมีหญิงชราผู้หนึ่งนอนอยู่
เถ้าแก่กล่าว “อวี้เอ๋อร์ วันนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง ?”
หญิงชรา “สามีข้า… อย่าต้องลำบากเพื่อข้าเลย ชีวิตที่อ่อนแอของข้าคงอยู่กับท่านได้อีกไม่กี่ปี”
ความแข็งแกร่งของเถ้าแก่ถึงระดับจักรพรรดิแห่งภูต อายุขัยย่อมยาวนานกว่าระดับอื่น ๆ อย่างมาก ความแก่ชราก็จะช้าลง แต่สตรีผู้นี้กลับไม่ได้อยู่ระดับใด ๆ เลย ความแตกต่างเช่นนี้ทำให้พวกเขาไม่สามารถเป็นคู่สามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าได้อย่างที่ควรจะเป็น
แต่ยาเม็ดหลิงเชิง… สามารถคืนอายุขัยของคนธรรมดาได้ถึงยี่สิบปี
มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “เถ้าแก่เนี้ย ใครบอกว่าไม่ได้เล่า ? ตราบใดที่ท่านกินยาเนี้ยเชิงของข้า อย่าว่าแต่ไม่กี่ปีเลย ต่อให้เป็นสามสิบปีก็ยังได้”
หญิงชราบนเตียงมองเห็นเด็กหนุ่มอายุน้อยที่มีรูปกายงดงามมาก นางยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะกล่าวว่า “เจ้าเด็กคนนี้เป็นลูกหลานตระกูลใด ช่างงดงามเหลือเกิน”
มู่เฉียนซีมอบยาให้นาง “เถ้าแก่เนี้ย เถ้าแก่ช่างโหดร้ายนัก เขาไม่ยอมเชื่อข้า แต่ท่านเชื่อข้าใช่หรือไม่ ?”
หญิงชรา “ข้ารู้ว่าข้าเองก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน หากข้าสามารถมีชีวิตอยู่ต่ออีกยี่สิบปีได้จริงตามที่เจ้ากล่าวอ้าง แม้จะมีความเป็นไปได้หนึ่งในหนึ่งหมื่นส่วน ข้าก็คิดว่าจะลองดู”
“อวี้เอ๋อร์!” เถ้าแก่ขมวดคิ้วเป็นกังวล
ทว่าหญิงชรากลืนยาทั้งหมดในขวดลงคอไปแล้ว จากนั้นนางกล่าวขึ้น “สามีข้า… ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับข้าจริง ๆ ท่านก็อย่าได้โทษเด็กหนุ่มผู้นี้เลย”
แต่หลังจากที่หญิงชรากลืนกินยาเข้าไปแล้ว นางกลับรู้สึกว่าร่างกายของนางเหมือนได้เกิดใหม่ ผมที่กลายเป็นสีขาวทั้งหมดนั้นเปลี่ยนกลายเป็นสีดําไปครึ่งหนึ่ง ริ้วรอยเหี่ยวย่นลึกบนใบหน้าของนางก็เริ่มตื้นขึ้นมา นางดูอ่อนเยาว์ขึ้นไม่น้อยเลย
หญิงชรายื่นมือออกไป รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงของตัวเองดั่งราวกับฝันไป นางพึมพําเสียงเบา “สวรรค์! ข้า… ข้าคงกําลังฝันอยู่เป็นแน่”
เถ้าแก่เห็นการเปลี่ยนแปลงของภรรยาตน ก็รู้สึกเหลือเชื่อมากเช่นกัน เขาหยิกมือของตัวเองก่อนจะกล่าวขึ้นมา “ข้าไม่ได้กำลังฝันไป! ไม่ได้…”
“อวี้เอ๋อร์!” เถ้าแก่กระโจนเข้ากอดภรรยาตนเองไว้แน่น คิดจะพิสูจน์ว่านี่คือความจริง
มู่เฉียนซีเดินออกมาด้านนอกประตู ปล่อยให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน นางพึมพําเสียงเบา “ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเถ้าแก่จะเป็นคนที่มีความรักลึกซึ้งเช่นนี้ เป็นถึงยอดฝีมือระดับจักรพรรดิแต่สิ่งที่ต้องการนั้นเรียบง่ายนัก เพียงแค่อยากอยู่กับคนที่รักไปจนแก่เฒ่าเท่านั้น”
ขณะที่มู่เฉียนซีกําลังพึมพํากับตัวเอง ร่างชุดดำสูงเพรียวก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของนาง ร่างนั้นกล่าวด้วยเสียงต่ำอย่างเคย
“ใช้ชีวิตร่วมกันจนแก่เฒ่า…”
มู่เฉียนซีหันกลับมาเห็นชายผู้งดงามลึกลับเจ้าเก่า
“จิ่วเยี่ย!”
“ข้าไม่ชอบคำนี้ที่เจ้ากล่าวออกมา” จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชา
“จิ่วเยี่ย เจ้าย่อมแตกต่างแน่นอน เจ้าอยู่ระดับสูงกว่าเถ้าแก่เสียอีก ความแข็งแกร่งเกรงว่าคงไม่มีสิ่งใดที่เข้าตาเจ้า”
จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีไว้แน่นราวกับกําลังโกรธ เขากล่าว “มี”
.