ตอนที่ 885 วัยรุ่นคึกคะนอง

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

เสียงของเสี่ยวเชี่ยนลอยมาจากที่สูง

 

 

“เลิกพูดมาก รีบจัดการพวกนั้นซะ ฉันหิวแล้ว”

 

 

มองขึ้นไปตามเสียงถึงได้เห็นเสี่ยวเชี่ยนนั่งมองเหตุการณ์อยู่บนหลังคาบ้านหลังหนึ่งที่ยังไม่ถูกรื้อ

 

 

เธอหาที่นั่งดูเก่งจริงๆ นั่งอยู่ในที่ๆมองเห็นอวี๋หมิงหลางปั่นหัวสามคนนั้นได้อย่างชัดๆ แถมไม่มีทางโดนลูกหลงแน่นอน

 

 

“รับทราบ เมียฉันบอกว่าหิวแล้ว งั้นฉันก็จะเลิกเล่นกับพวกนายแล้ว” อวี๋หมิงหลางส่งจูบให้เสี่ยวเชี่ยน

 

 

ศักดิ์ศรีของนักเลงถูกเหยียบย่ำถึงเพียงนี้ มันชักจะมากเกินไปแล้ว

 

 

“ลุย อัดมัน” ลูกพี่ใหญ่หอบไปสั่งไป จากนั้นพวกเขาก็เข้าไปรุม

 

 

อย่าว่าแต่เรี่ยวแรงเหลือแค่นี้เลย ต่อให้เป็นตอนปกติคนพวกนี้อยากรุมอวี๋หมิงหลางก็ยังห่างชั้นกันนัก

 

 

อวี๋หมิงหลางใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีก็จบสงครามครั้งนี้ได้ เขาเหยียบเอวคนที่เป็นหัวโจกไว้ ส่วนอีกสองคนลุกขึ้นมาไม่ไหวแล้ว

 

 

นอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้น ตอนนี้ขยับตัวทำอะไรก็ยาก เป็นนักเลงก็ยังเสี่ยงขนาดนี้

 

 

เสี่ยวเชี่ยนปีนลงมาจากหลังคาแล้วเดินเข้าไปหาสามคนนั้นที่มีสภาพน่าเวทนา เธอทำเสียง หึ ออกมา

 

 

“พวกขยะ มีมือมีเท้าไม่รู้จักทำมาหากินดีๆ กลับคิดทำเรื่องต่ำช้าแบบนี้”

 

 

“เจ๊ พวกเราผิดไปแล้ว พวกเราทำเพื่อความอยู่รอด ปล่อยพวกเราไปเถอะนะครับ”

 

 

นักเลงหัวโจกที่ถูกอวี๋หมิงหลางเหยียบอยู่ร้องอ้อนวอน

 

 

เสี่ยวเชี่ยนไม่สงสารคนพวกนี้เลยสักนิด หันไปยื่นคำขาดกับอวี๋หมิงหลาง

 

 

“แจ้งตำรวจ ฉันต้องการสืบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด”

 

 

ไม่ว่าจ้าวต้าเผ้าจะมีเบื้องหลังยังไงก็ต้องจับคนพวกนี้มาให้ยอมสยบให้ได้

 

 

“แจ้งตำรวจ…เห้อ”

 

 

อวี๋หมิงหลางส่ายหน้า

 

 

พอตำรวจมาพาคนร้ายไปก็ต้องตามไปลงบันทึกประจำวันทำนู่นนี่นั่นอีก ยุ่งยากจะตาย

 

 

แล้วจะได้ไปกินข้าวไหม?

 

 

อวี๋หมิงหลางกลอกตาไปมา ความคิดชั่วร้ายผุดขึ้นในหัว

 

 

นักเลงสามคนนี้เห็นอวี๋หมิงหลางยิ้มเจ้าเล่ห์ ทันใดนั้นก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ

 

 

มัน คิดจะทำอะไรน่ะ?

 

 

“เมียจ๋า หันไปก่อนนะ ภาพต่อไปที่จะเกิดขึ้นไม่เหมาะกับผู้หญิง” อวี๋หมิงหลางพูดกับเสี่ยวเชี่ยน

 

 

ไม่กี่นาทีต่อมาอวี๋หมิงหลางก็พาสาวสวยของเขาเดินฮัมเพลงขึ้นรถขับออกไปกินข้าวกันอย่างสบายใจ

 

 

ภายในหมู่บ้านกลางเมืองที่ถูกรื้อจนเละเทะนั้น ผู้ชายสามคนที่ถูกถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่กางเกงในถูกจับมัดหันหลังชนกัน เชือกเส้นเดียวมัดพวกเขาไว้อย่างแน่นหนา ส่วนเชือกอีกเส้นมัดพวกเขาไว้กับต้นไม้

 

 

ส่วนปากก็ถูกอุดด้วยถุงเท้าของพวกเขา ส่วนบนร่างกายมีข้อความที่ถูกเขียนด้วยปากกาเจล

 

 

น้องสาว มาเล่นกับพี่ไหมจ๊ะ?

 

 

พวกเขาพยายามส่งเสียงขอความช่วยเหลือ อากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้ถุงเท้าในปากที่เดิมทีก็เหม็นอยู่แล้วมีกลิ่นเหมือนขึ้นรา น่าสะอิดสะเอียนที่สุด

 

 

จนกระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็มีเมียคนงานก่อสร้างที่เพิ่งกินข้าวเสร็จเดินถือกล่องข้าวเตร็ดเตร่มาทางนี้ คาดคะเนจากสายตาน่าจะหนักเจ็ดสิบกิโลได้

 

 

“ว้าย ช่วยด้วยจ้า ตรงนี้มีคนบ้าแก้ผ้า”

 

 

ฮือๆๆ พวกเราเป็นแค่นักเลง ไม่ใช่คนบ้าสักหน่อย

 

 

คำอธิบายทั้งหมดถูกอุดด้วยถุงเท้าเหม็นๆ คนงานที่ร่างกายกำยำสองสามคนพอได้ยินเสียงก็เดินเข้ามา พอเห็นสามคนนั้นคนที่บึกบึนที่สุดก็ถลึงตาใส่

 

 

“เห็นเมียข่อยสวยเลยคิดจะรังแกงั้นรึ?”

 

 

เห้ย เมียเอ็งอย่างน้อยๆก็เจ็ดสิบโลแล้ว รังแกกับผีดิ ฉันเป็นนักเลงที่มีรสนิยมนะโว้ย น่าเสียดายที่นักเลงที่มีรสนิยมถูกอุดปากเสียสนิท พูดอะไรก็ไม่มีใครได้ยิน

 

 

สิ่งที่ต้อนรับพวกเขาในเวลาต่อมาก็คือหมัดพิฆาตของคนงานที่มีหัวใจเพื่อปกป้องเมีย ท่ามกลางการรัวทั้งหมัดทั้งถีบ สามารถสรุปเหตุการณ์นี้ออกมาได้สองข้อ

 

 

ข้อหนึ่ง การปกป้องเมียไม่มีแบ่งอาชีพ

 

 

ข้อสอง แรงงานรากหญ้านั้นมีความเป็นพวกพ้องสูง พอคนหนึ่งลำบาก คนอื่นๆก็มาช่วยกัน…รุม

 

 

ขณะที่อยู่บนรถเสี่ยวเฉียงก็ถามเสียวเหม่ย

 

 

“จบแค่นี้เหรอ?”

 

 

“ตำรวจจะลงโทษจ้าวต้าเผ้าเรื่องที่จ้างคนมาทำร้าย คนที่บงการเขาก็คงไม่ปล่อยที่เขาทำพลาดแน่ จ้าวต้าเผ้าไม่น่าเปิดเผยคนที่อยู่เบื้องหลัง ดังนั้นพวกเราไปโรงพักก็ไม่มีประโยชน์ ไว้ฉันค่อยไปคิดบัญชีกับคนที่อยู่เบื้องหลัง”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนมีแค้นต้องชำระ ไม่เคยมีคำว่าให้อภัย

 

 

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาเบอร์แปลกที่เคยโทรหาเธอ ทิ้งเบอร์ศาสตราจารย์หลิวไว้พร้อมข้อความ

 

 

บอกชื่อฉันไปแล้วให้เขาช่วยรักษาโรคลักเล็กขโมยน้อยของลูกสาวคุณให้

 

 

เสี่ยวเฉียงยิ้ม นี่แหละเมียเขา มีนิสัยอยู่อย่าง ถ้าใครให้อะไรเธอ เธอก็จะจดจำไว้ในใจ แยกแยะชัดเจนเรื่องความแค้นหรือบุญคุณ

 

 

“พี่ใหญ่ ผมเอง…อะไรนะ จ้าวต้าเผ้าออกนอกประเทศไปแล้ว?” เสี่ยวเฉียงรับสายจากพี่ใหญ่

 

 

เสี่ยวเชี่ยนหันไปมอง ยิ้มมุมปาก เหมือนที่เธอคิดไว้ไม่มีผิดจริงๆ

 

 

พอสามคนนั้นถูกจับไปจะต้องบอกว่าจ้าวต้าเผ้าเป็นคนบงการแน่นอน เขาหนีไปไวตามคาด

 

 

“หนีไปเลย อยากรู้ว่าจะหนีไปได้สักกี่น้ำ ธุรกิจของมันยังอยู่ไม่ใช่เหรอ? ต้องทำไงคงไม่ต้องให้ผมบอกนะ พี่จัดการไปเลย ใช้ธุรกิจจัดการมันก็ได้…อืม ถ้าจ้าวต้าเผ้าเข้าประเทศมาเมื่อไรรีบจับมันไว้เลยนะ ผมไม่เชื่อหรอกว่ามันจะไม่ยอมบอกว่าใครอยู่เบื้องหลัง”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนนั่งฟังเขาสั่งอย่างเงียบๆ ถึงจะจัดการจ้าวต้าเผ้าลูกน้องกระจอกได้ แต่ตัวการที่อยู่เบื้องหลังก็ยังลอยนวล

 

 

หากเสี่ยวเฉียงเอาจริงเอาจังขึ้นมาจะเท่ห์มาก พอวางสายก็กลับไปทำตัวต๊องเหมือนเดิม

 

 

“แรงงานของเรามีพลัง แรงงานของเรามีพลัง”

 

 

“ร้องเพลงอะไรน่ะ ไม่เข้าสถานการณ์เลย” เสี่ยวเชี่ยนพูดตรงๆ

 

 

“งั้นร้องให้พี่ฟังหน่อย”

 

 

อาจเพราะเมื่อครู่เสี่ยวเชี่ยนประทับใจในความเท่ห์ของเขา ร้องก็ร้องสิ กลัวที่ไหน

 

 

“ขอฉันหาก่อนนะมีเพลงอะไรสนุกๆบ้าง” เสี่ยวเชี่ยนหาแผ่นซีดีในรถ เธอหยิบแผ่นซีดีเพลงต่างประเทศ สนุกไปกับจังหวะเสียงกลองแล้วแสร้งทำเป็นขอเสียงประหนึ่งเป็นดีเจ

 

 

“ล้าลาลา ตุ่มๆโป๊ะ ตุ่มๆโป๊ะ แต๊แนแหน่ว แต๊แนแหน่ว แท่มทะแด๊น ดู๊ดูดู เอ้า วันทูทรีโฟร์~” ปกติประธานเชี่ยนจะไม่ตะโกนขอเสียง แต่ถ้าเล่นทีก็มีอึ้ง อวี๋หมิงหลางที่เมื่อครู่ประหนึ่งมีวิญญาณบอสหนุ่มจอมเผด็จการเข้าสิง ตอนนี้เจอเสี่ยวเชี่ยนเข้าไปก็ถึงกับอึ้ง นี่มันวัยรุ่นคึกคะนองชัดๆ

 

 

เขาตกใจกับท่าทางของเธอจนมือที่จับพวงมาลัยถึงกับสั่น เกือบขับไปชนเกาะกลางถนน

 

 

เสี่ยวเชี่ยนหยุดร้องแล้วหันไปมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์

 

 

“ขับดีๆหน่อยไม่ได้หรือไง?”

 

 

เสี่ยวเฉียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “เมียจ๋า คุณ…คุณคงไม่ได้แอบผมไปดิสโก้เทคใช่ไหม?”

 

 

ท่าทางแบบนี้มันน่าตกใจจริงๆนะ

 

 

เสี่ยวเชี่ยน หึ ออกมา ดิสโก้บ้าบออะไร ในสายตาเธอของแบบนั้นมันล้าหลังไปแล้ว

 

 

“เมียจ๋า ต่อสิ อย่าหยุด”

 

 

ยังฟังไม่พอเลย

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเหล่มองเขา อวี๋หมิงหลางนายก็มีวันนี้เหรอ?

 

 

ไอ้คนหน้าด้าน นายมีตอนที่ตะโกนว่าอย่าหยุดด้วย?

 

 

เขาเป็นคนที่ชอบเบรกกะทันหันสุดๆ แล้วก็ให้เธอพูดเพราะๆกับเขา ถ้าไม่พูดก็จะทำหน้าประท้วงอย่างหน้าด้านๆ ตอนนี้ประธานเชี่ยนเห็นสีหน้าอารมณ์สะดุดของเขาแล้วรู้สึกสะใจไม่เบา

 

 

เพื่อความสะใจนี้ ประธานเชี่ยนจะไม่พูดอะไรไปตลอดทาง ร้องแค่ขึ้นต้นไม่ร้องต่อให้จบ จะทำไมล่ะ