“ทว่าดูเหมือนผู้คนที่อยู่รอบๆนั้นจะไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆออกมา”

เซี่ยปิงมองออกไปรอบๆ ผู้คนที่อยู่รอบๆนั้นต่างก็กำลังกินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย ไม่มีวี่แววของการถูกวางยาพิษ

“พิษนี้จะไม่ออกฤทธิ์ในทันที มันจะมีระยะเวลาการฟักตัวประมาณครึ่งวัน มันจะกระจายไปทั่วทั้งร่างกายอย่างช้าๆ ในระหว่างนี้จะไม่มีความผิดปกติใดๆ รอให้ได้ออกอาการในคราวเดียว”

แมวนักปราชญ์พูดออกมา

“ใช้ระยะเวลาฟักตัวประมาณครึ่งวัน?”

เซี่ยปิงมีสายตาที่เย็นชา “หากพูดอีกนัยหนึ่งก็คือนิกายหวนคนปรโลกได้ไต่ตรองไว้ล่วงหน้า พวกเขาไม่ต้องการที่จะแบ่งหินวิญาณในเหมืองแร่ให้กับพวกเรา หลังจากที่ใช้ประโยชน์จากพวกเราในการกำจัดกลุ่มของชาวพื้นเมืองของทวีปโลหิตวิญญาณนั้น ก็ต้องการที่จะใช้วิธีการนี้ในการจัดการกับพวกเราภายในคราวเดียว ทำลายทุกอย่างให้สิ้นซาก พวกเขาต้องการที่วางแผนตลบหลังพวกเราเช่นนี้หรือ?! ช่างมีความละโมบยิ่งนัก”

เขาเข้าใจแผนการของผู้คนในนิกายหวนคืนปรโลกในทันที ช่างเป็นแผนการที่ชั่วร้ายและโหดเหี้ยมจริงๆ

“ใช่ มีความละโมบอย่างยิ่ง”

แมวนักปราชญ์แสยะออกมา “หินวิญญาณภายในจักรวาลนั้นก็เป็นแร่ที่ล้ำค่าอย่างมาก สามารถที่จะเสริมสร้างพลังงานวิญญาณได้ ไม่รู้ว่ามีนักวิทยายุทธจำนวนมากแค่ไหนที่ต้องการครอบครองมัน ซึ่งสามารถที่จะปั่นราคาให้สูงเฉียดฟ้าภายในจักรวาลได้”

“เรียกได้ว่าหากครอบครองเหมืองหินวิญญาณนี้นั้น มันจะเทียบเท่ากับการร่ำรวยขึ้นมาภายในคืนเดียว”

“เจ้าลองคิดดูดีๆ หากเป็นเจ้า เจ้าจะมอบเหมืองแร่นี่ให้อย่างง่ายๆหรือ? นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไมได้ การที่แบ่งปันไปนั้น มีที่ไหนที่จะมีอำนาจในการผูกขาดได้”

“ข้าคิดว่าเจ้าควรที่จะเปิดเผยแผนการของนิกายหวนคืนปรโลกในตอนนี้ ไม่สามารปล่อยให้เป็นไปตามแผนการของพวกเขาได้”

มันได้เสนอความคิดเห็นของตนเองออกไป

“ไม่ต้องเป็นกังวลไป”

เซี่ยปิงยิ้มออกมาเล็กน้อย “หากพวกเขาต้องการที่จะตลบหลังพวกเรา ทำไมพวกเราถึงไม่ทำเหมือนกับฝ่ายตรงข้ามกัน สำหรับการที่จะได้ครอบครองเหมืองหินวิญญาณแต่เพียงผู้เดียวนั้น ข้าก็มีความสนใจอยู่เช่นกัน”

“อะไรนะ? เจ้าคิดที่จะทำอะไรกัน?” แมวนักปราชญ์สั่นไหวเล็กน้อย มันไม่รู้ว่าทำไมตนเองถึงคิดว่าเจ้านี่เป็นตัวตนที่เลวร้ายยิ่งกว่ากลุ่มของนิกายหวนคืนปรโลกเสียอีก อีกทั้งยังน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก

“ตั๊กแตนจับจั๊กจั่น แต่ไม่เห็นว่ามีนกขมิ้นอยู่ข้างหลัง ข้าจะรอดูว่าใครจะได้เป็นฝ่ายหัวเราะในภายหลัง” เซี่ยปิงกำหมัดขึ้นมา นิกายหวนคืนปรโลกต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากพวกเขา ทว่าเขานั้นก็ต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากนิกายหวนคืนปรโลกเพื่อกำจัดกลุ่มของชาวพื้นเมืองของทวีปโลหิตวิญญาณเช่นกัน

เพราะว่าถึงอย่างไร การที่ต้องการครอบครองหินวิญญาณที่อยู่ข้างในเหมืองหินวิญญาณนั้น อันดับแรกจะต้องจัดการกับกลุ่มของชาวพื้นเมืองเหล่านั้น รวมถึงผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน

แน่นอนว่าเพียงแค่ผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์เพียงไม่กี่คนนั้นไม่ถือว่าเป็นปัญหา สิ่งที่น่าเกรงกลัวคือพวกเขาจะเรียกคนอื่นๆมาอีก หากทำให้สำนักวิญญาณล่วงรู้ถึงเรื่องนี้ บางทีอาจจะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นได้ เมื่อถึงเวลานั้นจะต้องตกอยู่ในการห้อมล้อมอย่างแน่นอน

ทว่าหากมีผู้คนของนิกายหวนคืนปรโลกช่วยเหลืออยู่ จากนั้นก็จะสามารถกำจัดกลุ่มคนที่ขวางทางเหล่านี้ไปได้อย่างกะทันหัน จะไม่ให้กลุ่มของชาวพื้นเมืองเหล่านั้นได้มีโอกาสในการเรียกกองกำลังเสริมมา

ส่วนชีวิตของผู้คนของนิกายห้าธาตุ นิกายเมฆาทะยานและนิกายอื่นๆนั้น ก่อนหน้านี้ในช่วงเวลาที่เขาเผชิญกับปัญหานั้น กลุ่มคนเหล่านี้ก็ต้องการที่จะซ้ำเติมเขาในขณะที่ล้มอยู่ เขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องเป็นห่วงพวกเขา

แน่นอนว่าฉางเซวียและคนอื่นๆนั้นเป็นคนดี ด้วยพลังอำนาจของเขาในตอนนี้นั้น การที่จะต้องการช่วยชีวิตของคนเหล่านี้นั้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบาก ตอนนี้เสแสร้งทำเป็นไม่รู้ไปก่อน หลีกเลี่ยงการที่จะทำให้ศัตรูรู้ตัว

“สหายอู๋”

ทันใดนั้นเฉินเหว่ยก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าเซี่ยปิง มีสีหน้าที่สดใสอย่างมาก “มองดูเจ้าเหมือนกับว่ากำลังมีปัญหาหนักใจอะไรบางอย่างอยู่ ไม่พึงพอใจกับอาหารที่ข้าได้เตรียมไว้ให้หรือ? ทานไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”

“บัดซบ ไม่คาดคิดว่าเจ้านี่จะปรากฏตัวขึ้นมา เจ้าบุคคลชั่วร้ายที่น่ารังเกียจนี่ เขาจะต้องจับตาดูทุกๆคนอย่างแน่นอน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีปลาตัวไหนเล็ดรอดไปได้ นี่คือการรับประกันความปลอดภัยที่แน่นอน”

แมวนักปราชญ์ตะโกนออกมาทันที “เซี่ยปิง ไม่ว่าอย่างไรก็อย่ากินเข้าไปเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะต้องถูกยาพิษอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นมันจะเป็นเรื่องยากที่จะขจัดพิษออกไปจากร่างกาย เจ้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเผชิญหน้ากับชายคนนี้โดยตรง”

มันได้ย้ำเตือนออกมาทันที

ทว่าเซี่ยปิงกลับยิ้มออกมาเล็กน้อย “ไม่ อาหารเหล่านี้จะไม่พึงพอใจข้าได้อย่างไร เมื่อครู่นี้ข้าเพียงแค่คิดบางอย่างอยู่เท่านั้นเอง” จากนั้นเขาก็หยิบเนื้อขึ้นมากัดกิน

จบสิ้นกัน

แมวนักปราชญ์กระวนกระวายใจอย่างมาก วิตกกังวลอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าห้ามไม่ให้เจ้านี่กินเข้าไป ทำไมถึงยังโง่เขลาตกหลุมพรางของฝ่ายตรงข้ามได้ นี่มันไม่ใช่การกระทำที่โง่เขลาหรือ?!

“เป็นอย่างนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้น ข้าก็จะไม่รบกวนเจ้า สหายอู๋ไม่จำเป็นต้องรีบกิน ยังมีอาหารเหลืออีกมาก” เห็นเซี่ยปิงที่ได้กินเนื้ออสูรดุร้ายเข้าไป เฉินเหว่ยก็ยิ้มออกมาด้วยสีหน้าที่สดใสมากกว่าเดิม เห็นได้ชัดว่ารู้สึกพึงพอใจอย่างมาก

จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปกล่าวทักทายคนอื่นๆและเข้าไปถามถึงความพึงพอใจต่ออาหารมื้อนี้ หลังจากนั้นเหมือนกับว่าเมื่อเห็นว่าแต่ละคนได้กินเนื้ออสูรดุร้ายเข้าไปนั้น ในที่สุดเขาก็เดินจากไปอย่างเงียบสงบ

แน่นอนว่าท่าทางอบอุ่นของเขานั้น ดูเหมือนจะเป็นคนอัธยาศัยดีต่อหน้าคนอื่นๆ เหมือนกับว่าเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกัน ไม่ได้มีเจตนาที่ชั่วร้าย แต่ละคนต่างก็มีความสุขกันอย่างมาก

“เซี่ยปิง เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ? เมื่อครู่นี้ข้าห้ามเจ้าไม่ให้กิน เจ้าไม่ได้ยินอย่างนั้นหรือ? เมื่อใดที่กินเข้าไป การที่จะต้องการขจัดพิษออกไปนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้” แมวนักปราชญ์พูดออกมา “เจ้าควรที่จะใช้โอกาสในตอนนี้ ในระหว่างที่พิษยังไม่ได้ฟักตัวหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว”

“สบายใจได้ พิษนี้ไม่มีผลอะไรต่อข้า ร่างกายของข้าเป็นร่างที่ร้อยพิษไม่กล้ำกราย” เซี่ยปิงพูดออกมาอย่างนิ่งเฉย หลังจากที่ได้กลืนกินเนื้ออสูรดุร้ายเหล่านี้เข้าไปในกระเพาะของตนเองนั้น

กระเพาะของเขาก็มีเปลวไฟกลุ่มหนึ่งที่ลุกโชนออกมา เปลวไฟกำลังแผดเผาอย่างบ้าคลั่ง เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นพลังงาน ผสมผสานเข้ากับกล้ามเนื้อและกระดูกของร่างกาย

สิ่งสกปรกเจือปนต่างๆที่ไม่จำเป็นสำหรับร่างกายของเขานั้นได้เปลี่ยนกลายเป็นแก๊สและลอยออกมาจากรูขุมขนทั่วทั้งร่างกาย ถูกปล่อยออกมาเช่นนี้ หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ไม่ว่าพิษใดๆที่เข้ามาในร่างกายของเซี่ยปิงนั้น จะถูกแผดเผาจนหมดจด ไม่สามารถที่จะทำอันตรายต่อเขาได้

โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ปลุกพลังอำนาจของกระเพาะอีกานรกทองคำขึ้นมานั้น เขาจึงมีความต้านทานพิษที่ทรงอำนาจอย่างมาก

ทว่านี่ก็สามารถที่จะต้านทานพิษส่วนใหญ่ได้เท่านั้น ไม่สามารถที่จะต้านทานพิษที่พิเศษซึ่งน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านี้ เมื่อใดที่เขากระตุ้นพลังอำนาจของไตอีกานรกทองคำขึ้นมาได้ จากนั้นเขาก็จะสามารถต้านทานพิษทุกอย่างในโลกได้อย่างแท้จริง

“ร้อยพิษไม่กล้ำกราย?!”

แมวนักปราชญ์กัดมุมปาก ร่างกายสั่นสะเทือน ไม่คาดคิดว่าเซี่ยปิงจะมีร่างกายเช่นนี้อยู่เหมือนกัน ไม่ประหลาดใจว่าทำไมถึงกล้ากินเข้าไปโดยที่ไม่ลังเล เดิมทีเป็นเพราะไม่ได้เกรงกลัวพิษเหล่านี้นี่เอง

ทว่าการที่มีร่างกายเช่นนี้ภายในจักรวาลนั้น ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วในส่วนลึกของจักรวาลนั้นก็มีพิษจำนวนนับไม่ถ้วน หากเคลื่อนไหวอย่างไม่ระวังตัว อาจจะตายไปโดยที่ไม่รู้ตัวก็เป็นได้

ในทุกๆปีจะมีนักวิทยายุทธที่แข็งแกร่งเป็นจำนวนมากที่ล้มตายไปโดยพิษที่ร้ายแรง ตายไปอย่างน่าสลด

“ข้าอยากจะรู้จริงๆว่าวันพรุ่งนี้พวกเขาจะใช้กลอุบายอย่างไร”

เซี่ยปิงหรี่ตามอง มองไปที่เฉินเหว่ยและคนอื่นๆที่เดินออกไปจากเต็นท์

………..

ในช่วงเวลานี้ เฉินเหว่ยและคนอื่นๆที่เดินออกมาจากเต็นท์นั้นก็ได้มารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว พวกเขามาถึงที่ถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร ที่นี่เป็นสถานที่ชั่วคราวที่เหล่าลูกศิษย์ของนิกายหวนคืนปรโลกจำนวนมากมารวมตัวกัน

ฟ่านหมิงผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้ก็ได้ปรากฏตัวอยู่ที่นี่เช่นกัน

“เฉินเหว่ย อันที่จริงก่อนหน้านี้เจ้าคิดที่จะทำอะไรกัน?”

เห็นเฉินเหว่ยที่มาถึง ฟ่านหมิงก็ได้ระเบิดอารมณ์ออกมาทันที “ไอ้ลูกหมาอู๋ไท่โต่วนั่นยโสโอหังอย่างมาก สังหารศิษย์น้องเฟิงเจ๋อของพวกเราต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะปล่อยเขาไปเช่นนั้น”

“อันที่จริงเจ้ายังเป็นลูกศิษย์ของนิกายหวนคืนปรโลกเช่นเดียวกับพวกเราหรือไม่?! เจ้าเห็นเจ้าอู่ไท่โต่วนั่นสำคัญกว่าลูกศิษย์ในนิกายของพวกเราหรือ?”

เขานั้นโมโหอย่างมาก จ้องมองเฉินเหว่ยอย่างไม่ละสายตา คิดว่าเฉินเหว่ยนั้นเป็นคนขี้ขลาดตาขาว