แดนนิรมิตเทพ บทที่ 346
“ฉันจะทำลายล้างแกให้หายสาบสูญไปจากโลกนี้ซะ!”

น้ำเสียงเย็นชาแฝงด้วยความโมโหอย่างมากมาย เหมือนว่าใช้ทั้งโลกมาขอขมาก็ไม่มากพอ

หากเฉินโม่มาช้าอีกเพียงแค่สิบนาที แม้จะทำลายล้างโลกใบนี้ ก็ไม่สามารถลบล้างชดเชยความเสียใจของเขาได้

เจ้าสำนักน้อยรู้สึกถึงความกลัวแล้ว ภายในใจมีความหวาดกลัวเกิดขึ้น เขารู้สึกว่าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่คน แต่เป็นปีศาจกระหายเลือดตนหนึ่ง!

“อย่าลงมือนะ นายอยากจะช่วยสาวน้อยใช่มั้ย? ฉันมอบพวกเธอให้กับนาย นายปล่อยฉันไป?” เจ้าสำนักน้อยโบกสะบัดมือ พูดด้วยรอยยิ้ม

เสียงตอบรับคือเสียงสั่นสะท้าน กระบี่สับสวรรค์ที่มีไอสังหารลอยอยู่บนหัวของเฉินโม่

เหมือนรับรู้ได้ถึงความโกรธแค้นของเจ้าของ กระบี่สับสวรรค์สั่นสะเทือนอยู่ในอากาศไม่หยุด เสียงสั่นสะท้านดั่งเสียงคำรามของมังกรเดี๋ยวดังเดี๋ยวเบา ดูคล้ายกับสัตว์ประหลาดที่กระหายเลือด

เจ้าสำนักน้อยสัมผัสได้ว่าเฉินโม่ไม่มีทางปล่อยเขาไป เตรียมใจที่จะทุ่มสุดตัวเสี่ยงดวง เคลื่อนไหวร่างกายไปที่ข้างเตียง ใช้มือหนึ่งจับคอที่งดงามของเวินฉิงไว้

“เจ้าหนุ่ม ปล่อยฉันไปซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่า….”

ยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆเจ้าสำนักน้อยก็กรีดร้องดังขึ้น “อ๊าก!”

แสงสีทองฟาดฟันผ่านแขนของเจ้าสำนักน้อยที่จับคอเวินฉิงไปอย่างรวดเร็ว เพียงดาบเดียวแขนข้างหนึ่งก็ได้ถูกตัดขาด

“นี่ นี่มันคือวิชาอะไรกัน!ทำไมถึงได้แข็งแกร่งมากเช่นนี้?”

เจ้าสำนักน้อยมองเฉินโม่อย่างหวาดกลัว คิดอยากจะไปจับตัวเวินฉิงไว้ แต่แขนอีกข้างก็ไม่กล้าที่จะยื่นออกไปสักที

ดาบเมื่อกี้ของเฉินโม่ รวดเร็วมาก รวดเร็วจนเขาไม่ทันจะได้ตั้งตัว

“แกไม่คู่ควรที่จะได้รับรู้!”

ฟุ่บ!

ฟันไปอีกหนึ่งดาบ แขนอีกข้างของเจ้าสำนักน้อยได้ถูกตัดขาดอย่างเท่ากัน

นักบู๊แดนปรมาจารย์ เมื่ออยู่ต่อหน้าชั้นสี่แดนรวมพลังอย่างเฉินโม่แล้ว ไม่มีพลังที่จะตอบโต้ได้เลย

“อ๊าก!”

เจ้าสำนักน้อยกรีดร้อง คุกเข่าลงกับพื้น “ไต้ซือได้โปรดไว้ชีวิตด้วยครับ!ยินดีที่จะเชื่อฟังไต้ซือ ถวายทรัพย์สินทั้งหมดของผมด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตผม!”

ในแววตาของเฉินโม่แดงก่ำ น้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไว้ชีวิตแก? หึ ฉันจะให้แกตายไม่เหลือซาก!”

ไฟแท้สมาธิถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง ร่างกายของเจ้าสำนักน้อยถูกไฟล้อมรอบตัว ส่งเสียงกรีดร้องคำรามอย่างหวาดกลัวออกมา

“สิ่งนี้มันคือไฟอะไร? ทำไมถึงสามารถแผดเผาจิตวิญญาณของฉันได้!ไต้ซือได้โปรดไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตด้วยครับ!”

เจ้าสำนักน้อยละลายเป็นเถ้าผง เฉินโม่แก้จุดชีพจรให้กับเวินฉิงและเอียนชิงเฉิง

“พี่เวิน ขอโทษที่ทำให้พี่ทุกข์ทรมานครับ!”

สีหน้าเฉินโม่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด น้ำเสียงทุ้มต่ำและอ่อนโยน

เวินฉิงกอดเฉินโม่ไว้ ร้องไห้ฟูมฟายออกมา ถูกเจ้าสำนักน้อยกักขังมานานหลายวันขนาดนี้ เธอไม่เคยร้องไห้เลยสักครั้ง แต่หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือและเห็นหน้าเฉินโม่ น้ำตาก็รินไหลออกมา

ใบหน้าที่สวยงามของเอียนชิงเฉิงเองก็ฉีกยิ้มออกมา แววตาแดงขึ้นเล็กน้อย ภายในใจรู้สึกโล่งใจที่ได้รับการช่วยเหลือ

“พี่เวิน พี่อย่าเพิ่งร้องไห้ ดูผมช่วยพวกพี่แก้แค้นนะครับ!”

เฉินโม่พยุงเวินฉิง ไอสังหารในแววตาไม่ลดน้อยลง มือหนึ่งจับเวินฉิงไว้ อีกมือหนึ่งจับเอียนชิงเฉิงไว้ แล้วก้าวเดินออกไป

“ใคร!”

ชายหนุ่มสองคนผู้เฝ้าประตูตะคอกเสียงดัง แล้วรีบบุกเข้ามา

อ๊าก!

แสงสีทองในดวงตาของเฉินโม่ส่องออกมา พลังทิพย์แพร่กระจาย ทั้งสองคนส่งเสียงกรีดร้อง แล้วหัวก็ถูกตัดทิ้ง

“ศัตรูบุก!”

มีคนตะโกนเสียงดัง ทันใดนั้น สี่ตระกูลใหญ่ภายใต้บัญชาของเจ้าสำนักน้อยก็ออกมากันหมด แล้วพุ่งเข้าใส่เฉินโม่

สองมือเฉินโม่จับเวินฉิงและเอียนชิงเฉิงไว้ ในสายตามีกองศพพะเนินขึ้น ทุกหนแห่งที่เดินผ่าน ทุกคนล้วนถูกตัดหัวจนหมด

นักบู๊แดนในเมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินโม่แล้ว ดูไม่แตกต่างอะไรกับคนธรรมดาเลยสักนิด

ไล่ฆ่าตั้งแต่ห้องพักแขกจนออกมาถึงห้องโถง ภายในบ้านมีเลือดไหลนองไปทั่ว ผู้นำทั้งสี่ตระกูลที่กำลังปรึกษาหารือกันต่างก็รู้สึกตกตะลึง

เอียนชิงเฉิงและเวินฉิงรู้สึกตกใจหวาดกลัว เฉินโม่เหมือนดั่งเทพสังหาร สิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้พลิกผันต่อความรู้ที่ทั้งสองคนมี