ภายในเขาวงกต

อันที่จริงหากจะเรียกมันว่าเขาวงกตก็คงจะไม่ถูกนัก สมควรจะกล่าวว่ามันเป็นวังที่ดูยิ่งใหญ่และงดงามซะมากกว่า

เมื่อกู่ฉิงซานเดินลงมาจากผืนทราย ก็ราวกับได้เข้าสู่อีกโลกหนึ่ง

เขายืนอยู่ปากทางเข้าวัง ตะลึงงันกับฉากที่อยู่เบื้องหน้า

แสงมรกตสีเขียว

แสงดาราสีฟ้า

แสงหมอกสีเทา

แสงบริสุทธิ์สีขาว

แสงสีม่วงเข้ม

แสงสีทองสดใส

แสงทมิฬอันมืดมิด

เจ็ดแสงที่กล่าวมา ก่อร่างเป็นรูปลักษณ์ของมนุษย์ คล้ายกันกับมนุษย์แสงเจ็ดตนที่มิอาจมองเห็นเค้าโครงหน้าได้อย่างชัดเจน กำลังลอยอยู่เงียบๆ เหนือพระราชวัง

“พวกเขาเหล่านี้คือเทพวิญญาณใช่ไหม?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

“ไม่ใช่ แสงพวกนี้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของพลังแห่งทวยเทพภายในนี้เท่านั้น” ซีน้อยกล่าว

วังทั้งหลังช่างยิ่งใหญ่และงดงาม แม้เขาจะเพียงยืนอยู่นอกประตูวัง แต่ก็ยังสามารถมองเห็นสิ่งปลูกสร้างมากมายที่เชื่อมต่อกับด้านหลังของพระราชวัง ขยายออกไปถึงส่วนลึกของทะเลทราย มิอาจเห็นได้ถึงจุดสิ้นสุด

ในส่วนของกำแพงภายนอกวัง มันช่างทนทานและสวยงาม จัดวางเรียงรายไว้ด้วยรูปปั้นมนุษย์สีขาวบริสุทธิ์ โครงร่างเพรียวบาง งดงามราวกับมีชีวิต ก่อให้เกิดบรรยากาศที่ดูเคร่งขรึมและศักดิ์สิทธิ์

จากเบื้องบน ร่างแสงทั้งเจ็ดล้วนไม่มีตนใดแยแสต่อการปรากฏตัวของกู่ฉิงซาน

อย่างไรก็ตาม มีซองจดหมายที่ประทับตราขี้ผึ้งปิดผนึกเอาไว้ตกลงมาจากฟ้าเบื้องหน้าของกู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานรับซองจดหมาย

ซองจดหมายเกิดการระเบิดขึ้นอย่างกะทันหัน

เสียงที่น่าเกรงขามดังขึ้นจากในอากาศ

“สดับฟังให้จงดี เจ้าคือมนุษย์คนแรกที่สามารถมาถึงที่นี่ ดังนั้นเจ้าจะได้รับการอธิบายถึงเรื่องราวต่างๆ จากเรา และได้รับมอบรางวัลเพียงหนึ่งเดียว”

“หลายปีที่ผ่านพ้น เราได้คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าสถานการณ์ดั่งเช่นในวันนี้มันต้องเกิดขึ้น”

“เมื่อวันหนึ่งพวกเราได้จากไป และผนึกถูกปลดออก มันเป็นไปได้ว่าสิ่งชั่วร้ายจะเข้าควบคุมนักรบที่ทรงพลังจำนวนมาก กระทั่งรวมไปถึงบางส่วนที่คิดหมายจะขโมยหรือทำลายสิ่งประดิษฐ์เทวะ”

“แต่จงมั่นใจเถอะ ว่าเมื่อบุคคลที่มีรูปลักษณ์คล้ายกับแสงปรากฏขึ้น อำนาจชั่วร้ายจะถูกระงับลงชั่วคราว และมันจะไม่สามารถครอบครองร่างกายของเจ้า หรือจองจำจิตวิญญาณของเจ้าได้”

“นอกจากนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ดังกล่าว เราจึงได้สร้างเขาวงกตแห่งนี้ขึ้น เพื่อฝังสามสิ่งประดิษฐ์เทวะเอาไว้”

“สิ่งชั่วร้ายที่ว่านั่นไม่สามารถค้นพบสิ่งประดิษฐ์เทวะได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่ขณะเดียวกันเจ้าเองก็อยู่ในบรรทัดฐานเดียวกัน”

“เพื่อช่วยให้เจ้าสามารถหลีกเลี่ยงการขัดขวางจากสิ่งชั่วร้าย ดังนั้นเราจึงได้สร้างวิธีการชั่วคราวสำหรับการทดสอบขึ้น”

“วิธีที่ว่าคือ เดินทางข้ามผ่านห้วงมิติและเวลา”

เหรียญหนึ่งพลันปรากฏขึ้นจากในความว่างเปล่า ตกลงในมือของกู่ฉิงซาน

เสียงอันน่าเกรงขามยังคงกล่าวต่อ “ด้วยเหรียญนี้ เจ้าจะสามารถข้ามผ่านกระแสธารแห่งกาลเวลา แล้วย้อนกลับไปยังช่วงเวลาห้านาทีที่พึ่งผ่านพ้นมาได้”

“ทว่าโปรดจดจำเอาไว้ให้ดี ว่าเหรียญนี้สามารถเปิดใช้งานได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ยามใช้งานมันเจ้าจำต้องเปล่งคาถา พระบัญญัติแห่งทวยเทพ”

“ด้วยสิ่งนี้ มันก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้ได้”

“เวลานี้ก็จงไปเถิด ไปค้นหาสิ่งประดิษฐ์เทวะ”

“มนุษย์เอ๊ย สิ่งที่เจ้ากำลังจะต้องพบเผชิญ มันคือการดำรงอยู่ที่เลวร้ายที่สุดของทวยเทพ ดังนั้นเจ้าจักต้องผนึกมันลงอีกครั้งให้จงได้”

“เมื่อบรรลุภารกิจ เจ้าก็จะได้กลายเป็นกึ่งเทพ”

“นี่คือสัญญาของทวยเทพที่มีต่อเจ้า”

ว่าจบ เสียงนั้นก็ค่อยๆ หายไป

กู่ฉิงซานวางเหรียญบนฝ่ามือ และลองสังเกตมันอย่างใกล้ชิด

เขาพบว่าเหรียญนี้ช่างราบเรียบ ไม่ว่าจะด้านหน้าหรือด้านหลัง มันก็ไม่มีรูปหรือข้อความใดๆ เขียนเอาไว้เลย

เป็นเหรียญที่บางและเรียบง่าย มิได้งดงามเท่าใดนัก

แต่แล้วเบื้องหน้าของกู่ฉิงซาน ในสายตาของเขา เส้นแสงหิ่งห้อยบนหน้าต่างเทพสงครามเริ่มปรากฏขึ้น

“โปรดทราบ ว่าระบบเองก็พึ่งจะเคยสัมผัสกับเจ้าสิ่งนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน”

“ระบบเทพสงครามจึงไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ เกี่ยวกับเหรียญนี้แก่คุณได้”

“สิ่งเดียวที่สามารถมั่นใจได้อย่างแน่นอน นั่นก็คือ เหรียญนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นของเลียนแบบ เป็นสิ่งที่ถูกจำลองขึ้นมาแบบหยาบๆ”

ของเลียนแบบงั้นเหรอ?

กู่ฉิงซานเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

เพียงแค่ของเลียนแบบ แต่กลับสามารถทำให้ผู้คนเดินทางข้ามกาลเวลา และกลับไปยังเมื่อห้านาทีที่แล้วได้เชียวหรือ?

กู่ฉิงซานอดไม่ได้ต้องเอ่ยถาม “ระบบ พวกเราเองก็ดูเหมือนว่าจะสามารถข้ามกาลเวลาได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ งั้นพวกเราสามารถย้อนอดีตเหมือนกับเหรียญนี่ได้ไหม?”

ติ๊ง!

ระบบเทพสงครามตอบ “ก่อนที่คุณจะเข้าสู่โลกเก้าร้อยล้านชั้น ฉันครอบครองพลังที่สามารถใช้เดินทางข้ามผ่านกาลเวลาได้ก็จริง”

“แต่เมื่อคุณได้เข้าสู่โลกเก้าร้อยล้านชั้น คุณกลับเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างมากเกินไป ดังนั้นชะตากรรมจำนวนมากที่สมควรจะเกิดขึ้นและดับลง จึงถูกบังคับให้แปรผันโดยคุณ”

“ในการต่อสู้ระหว่างวิหคหนาม ชะตากรรมของโลกเก้าร้อยล้านชั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ตัวแปรมากมายถูกสร้างขึ้นภายใต้ห้วงมิติและเวลา ชะตากรรมของผู้คนหลายพันล้านถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง”

“แล้วยังไง?” กู่ฉิงซานถาม

“เพราะการเปลี่ยนแปลงที่คุณนำมา มันมีขนาดใหญ่มากเกินไป มันได้ก่อให้เกิดระลอกคลื่นยักษ์ในสายธารแห่งกาลเวลา และผลกระทบจากระลอกคลื่นเหล่านั้น ล้วนก่อให้เกิดการเปลี่ยนผันและพัฒนาขึ้นอย่างเงียบๆ ระบบจึงไม่สามารถเดินทางข้ามผ่านกาลเวลาได้อีก”

กู่ฉิงซานถอนหายใจและกล่าว “ดังนั้น สรุปสั้นๆ ว่าเหรียญเลียนแบบนี่มีค่ามากๆ เลยใช่ไหม?”

ระบบเทพสงคราม “ใช่ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงของเลียนแบบ แต่อำนาจของมันสามารถนำพาตัวตนเช่นคุณย้อนกลับไปยังห้านาทีก่อนหน้านี้ได้ พลังของมันย่อมต้องเหลือล้นและไม่อาจวัดคำนวณได้”

กู่ฉิงซานไตร่ตรองและกล่าว “แต่มันเป็นแค่ของเลียนแบบ… เรื่องที่ว่ามันไม่ใช่ของจริงนี่ยืนยันแน่นอนแล้วใช่ไหม?”

“ใช่ มันเป็นแค่ของเลียนแบบ เป็นการจำลองแบบหยาบๆ จริงๆ” ระบบยืนยัน

“คุณไม่มีข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับมันจริงๆ เหรอ?” กู่ฉิงซานถามอย่างไม่เต็มใจ

“ไม่ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้สัมผัสกับเหรียญนี้” ระบบกล่าว

กู่ฉิงซานจมลงสู่ความเงียบ

ด้วยเหรียญนี้ เขาสามารถย้อนเวลากลับไปยังสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อห้านาทีที่แล้วได้

ด้วยเจ้าสิ่งนี้ เขาสามารถย้อนกลับไปด้วยเหตุผลอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นมอบความตายให้แก่ผู้อื่น กลับไปยึดครองสมบัติ หรือเรื่องใดๆ ที่พลาดพลั้งไป ก็ย้อนกลับไปแก้ไข

ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ พลังของมัน เป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของผู้คนได้เลย

ก็แล้วถ้าหากของเลียนแบบยังมีพลังมากถึงขนาดนี้ ถ้าอย่างงั้นแล้วของจริงเล่า?

ของจริงใช่ว่ามันเป็นหนึ่งในเหรียญจากเลขทั้งหมดหนึ่งพันหนึ่งตัวเลขหรือไม่?

กู่ฉิงซานตอบสนองในฉับพลัน

เขาส่งเหรียญให้กับซีน้อยและเอ่ยถาม “เธอเคยเห็นเหรียญนี่มาก่อนรึเปล่า หรือไม่ก็ท่ามกลางบรรดาเลขทั้งหมดหนึ่งพันหนึ่งมีเหรียญไหนสามารถใช้เดินทางข้ามผ่านกาลเวลาได้บ้าง?”

สีหน้าของซีน้อยดูแปลกใจ เธอเล่นกับเหรียญสักพักก็เอ่ยตอบ “เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นเหรียญนี่”

มองไปยังสีหน้าที่ดูผิดหวังเล็กน้อยของกู่ฉิงซาน ซีน้อยเร่งอธิบายอย่างจริงจังว่า “ไม่มีเทพวิญญาณตนใดสามารถเดินทางข้ามผ่านกาลเวลาได้หรอก เพราะถ้าทำได้ พวกเขาคงไม่ต้องตายแล้ว”

กู่ฉิงซาน “ถ้างั้นไม่มีเหรียญไหนที่มีความสามารถแบบเดียวกันนี้เลยเหรอ”

“ถูกต้อง” ซีน้อยกล่าว

กู่ฉิงซานถอนหายใจอย่างไม่ยินยอม “งั้นทำไมเทพวิญญาณถึงไม่ลอบหลอมเหรียญที่สามารถย้อนกลับไปได้นานกว่านี้ซะล่ะ เช่นเหรียญที่ย้อนเวลากลับไปได้หลายปี…?”

อันที่จริงแล้ว ที่เขาสนใจมันมากถึงขนาดนี้น่ะมันไม่น่าแปลกใจเลย เพราะแม้จะเป็นแค่การย้อนเวลาเพียงครั้งเดียว แต่มันสามารถส่งผลลัพธ์ได้ถึงขนาดไหน เจ้าตัวย่อมตระหนักแก่ใจเป็นอย่างดี

มันสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตนเอง ชะตากรรมของโลก และชะตากรรมของผู้คนนับล้านล้านได้!

ถ้าหากว่าเขาสามารถย้อนกลับไปได้อีกครั้ง…

อันที่จริงไม่จำเป็นต้องย้อนกลับไปไกลมากนักก็ได้ ขอเพียงแค่สามารถล่วงรู้ความลับของเหรียญเลขเก้าสี่สี่ และค้นหาจุดอ่อนของนักล่าตนสุดท้ายแห่งยุคบรรพกาล เขาก็จะย้อนเวลาไป แล้วก็เชือดมันทิ้งซะ!

ในกรณีนี้ ไม่เพียงแต่สามารถช่วยให้ผู้คนมากมายรอดชีวิตมาได้ แต่กระทั่งท่านหญิงแบล็กซีก็จะไม่ตกตาย

ซึ่งท่านหญิงแบล็กซีน่ะเป็นคนที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา!

ตราบใดที่เขาสามารถช่วยชีวิตเธอได้ เขาก็จะสามารถล่วงรู้ถึงเรื่องราวทุกอย่าง!

ซีน้อยส่ายหัวและกล่าว “เจ็ดเทพปีศาจคิดว่าการเดินทางข้ามเวลามันจะก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นทั้งในอดีตและปัจจุบันต่อโลกมากมาย ดังนั้นพวกเขาจึงรังเกียจ และปฏิเสธการย้อนเวลา”

เธอมองมายังกู่ฉิงซาน กล่าวด้วยความลังเลว่า “พูดแบบนี้อาจเป็นการดูหมิ่นทวยเทพ แต่ว่าเจ็ดเทพปีศาจน่ะไม่มีพลังในการเดินทางข้ามมิติเวลาหรอกนะ พลังของพวกเขานั้นอ่อนแอที่สุดในหมู่เทพทั้งมวล ในจำนวนเหรียญทั้งหนึ่งพันหนึ่งเหรียญ พวกเขาสร้างขึ้นได้เพียงเจ็ดร้อยเหรียญแรกเท่านั้น ส่วนอีกสามร้อยหนึ่งเหรียญที่เหลือ ถูกสร้างขึ้นมาโดย สี่เทพทรงธรรม”

“หมายความว่าสี่เทพทรงธรรมสามารถเดินทางข้ามผ่านกาลเวลาได้ใช่ไหม?”

“ไม่ซะทีเดียว ฉะนั้น อนุมานได้ว่าเหรียญนี่อาจเป็นสิ่งที่เทพปีศาจทั้งเจ็ดได้รับมาโดยบังเอิญ”

“งั้นทำไมพวกเขาถึงไม่เก็บมันไว้ใช้เองล่ะ?”

“มีหลายสิ่งที่เกี่ยวโยงกับพลังของเทพวิญญาณมากเกินไป เหรียญนี่เพียงอนุญาตให้มนุษย์ธรรมดาเดินทางข้ามเวลาได้ห้านาทีเท่านั้น ฉันคิดว่าเทพวิญญาณคงไม่อาจใช้มันด้วยตนเองได้”

ซีน้อยยื่นเหรียญคืนให้แก่เขา

กู่ฉิงซานรับเหรียญมา ปากอ้าถอนหายใจ

งั้นก็ช่างมันเถอะ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการค้นหาสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

ค้นหาสิ่งประดิษฐ์เทวะ

………………….