ตอนที่ 150 กลายเป็นสมบัติส่วนตัวของฉีเหยียนซีอย่างเต็มใจ (2) / ตอนที่ 151 เซิ่งอี่เจ๋อได้รับบาดเจ็บ

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 150 กลายเป็นสมบัติส่วนตัวของฉีเหยียนซีอย่างเต็มใจ (2)

 

 

ความขุ่นเคืองใจใดๆ ทั้งหลายที่เคยมีหายวับไปด้วยพลังอำนาจเด็ดขาดนั้น

 

 

ครูพละหน้าแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น “ฉีเหยียนซี ช่วยมาร่วมที่บาสของโรงเรียนด้วยนะ!”

 

 

รอยยิ้มฉีเหยียนซีดูไร้เดียงสา ปราศจากอันตรายแอบแฝง ทว่าคุณครูกลับสะท้านอย่างช่วยไม่ได้

 

 

“คุณครู ผมขออะไรอย่าง”

 

 

“ว่ามาสิ” สำหรับนักเล่นที่เก่งกาจเช่นนี้ จะขออะไรครูสักสิบอย่างร้อยอย่างก็ได้ อย่าว่าแต่อย่างเดียวเลย

 

 

ฉีเหยียนซีชี้นิ้วไปที่ใครคนหนึ่งซึ่งกำลังคืบคลานอยู่ในสนามวิ่งแข่ง “นั่น ผมอยากให้เธอเข้าทีมเชียร์แล้วก็เป็นผู้ดูแลส่วนตัวของผม”

 

 

“ตกลง!”

 

 

อาจารย์เลือกสิบสองคนเพื่อเข้าทีมเชียร์หลังจากจบการวิ่งแข่งแปดร้อยเมตรก่อนจะเดินมาหาอันซย่าซย่าพร้อมกับรอยยิ้ม “เธอก็ได้เข้าทีมด้วย! จากนี้ไปมาซ้อมหลังโรงเรียนเลิกทุกวันนะ!”

 

 

อันซย่าซย่ายืนงงอยู่ตรงนั้นชั่วครู่ ก่อนใบหน้าจะสดใสขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มราวกับเธอเพิ่งจะเจอกระเป๋าสตางค์ที่ตกอยู่บนพื้น

 

 

อุ๊ย เธอคงโชคดีโดนแจ็กพอตแน่ๆ ได้เข้าทีมง่ายๆ แค่นี้เลย

 

 

โอ๊ย…หนุ่มๆ ที่น่ารักทั้งหลาย หนุ่มๆ เยอะแยะเลย! อันซย่าซย่าหลงใหลอยู่ในภวังค์ความคิดครู่หนึ่ง ก่อนที่นักเรียนชายใส่แว่นคนหนึ่งจะเดินดุ่มๆ เข้ามาหาเธอพร้อมยื่นแบบฟอร์มให้เธอกรอก “ช่วยเซ็นชื่อด้วย เมื่อเข้าร่วมทีมแล้วจะไม่สามารถยกเลิกได้ในทุกกรณี”

 

 

อันซย่าซย่ากำลังฝันหวานอยู่ในตอนนั้นจึงเซ็นชื่อในทันที

 

 

มือของเด็กหนุ่มคนนั้นสั่นเทาเล็กน้อยขณะที่เขาถือแบบฟอร์มพลางพลิกอีกหน้า “นี่ด้วย”

 

 

เขาจงใจบังครึ่งบนของหน้าที่สองเอาไว้เธอจะได้ไม่เห็นข้อความที่อยู่ในนั้น

 

 

หญิงสาวไม่ทันได้คิดอะไร จึงลงชื่ออีกครั้งและเดินไปหาซูเสี่ยวมั่วอย่างดีอกดีใจ

 

 

“นี่ ยัยบื้อซย่าซย่า หมอนั่นต้องการอะไรจากเธอเหรอ” ซูเสี่ยวมั่วถามระหว่างที่จิบน้ำ แก้มแดงปลั่งจากการวิ่ง

 

 

อันซย่าซย่าตอบ “ให้ฉันเซ็นแบบฟอร์มเข้าทีมเชียร์น่ะ”

 

 

สีหน้าของซูเสี่ยวมั่วเปลี่ยนไป “ใครบอกเธออย่างนั้น ไม่เห็นต้องเซ็นอะไรเลย!”

 

 

หญิงสาวตะลึงงันไป เมื่อหันขวับกลับไปก็เห็นผู้ชายคนนั้นรีบวิ่งไปอย่างไวจนไปหยุดอยู่ข้างร่างสูงๆ ร่างหนึ่งก่อนจะยื่นกระดาษสองแผ่นนั้นให้ด้วยความนบนอบ

 

 

ฉีเหยียนซีรับมันไปก่อนจะส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาที่เธอ

 

 

อันซย่าซย่ารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลจึงรีบเข้าไปหาเขา

 

 

“ฉีเหยียนซี นายให้ฉันเซ็นอะไรน่ะ!” อันซย่าซย่ากระทืบเท้าอย่างเป็นกังวล

 

 

ชายหนุ่มผิวปากหวือ “อันซย่าซย่า จะไม่มีการกลับคำเรื่องนี้ เธอเซ็นกระดาษนี่ด้วยตัวเองนะ!”

 

 

เขาสะบัดกระดาษนั้นไปมาและแสดงให้เธอเห็นว่าหน้าแรกนั้นเป็นใบสมัครจริงๆ แต่หน้าสองนั้นมีตัวหนังสือเพียงแค่บรรทัดเดียว

 

 

“อันซย่าซย่ายอมกลายเป็นสมบัติส่วนตัวของฉีเหยียนซีอย่างเต็มใจ การละเมิดสัญญานี้ถือว่าเธอกลายเป็นเจ้าหมาน้อยกลับคำเชื่อไม่ได้!”

 

 

ใต้ข้อความนั้นเป็นชื่อที่เธอเพิ่งเซ็นไปเมื่อกี้

 

 

อันซย่าซย่าคาดว่าเธอน่าจะเส้นเลือดสมองแตกตาย “นะ นายทำแบบนี้ได้ยังไง!”

 

 

“เพราะฉันต้องการทำและทำได้น่ะสิ” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่สนใจไยดีแบบส่งๆ ไป อารมณ์ของเขาดีขึ้นเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเมื่อได้เห็นอันซย่าซย่าหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ

 

 

“ทำตัวเป็นคนฉลาดแล้วก็ทำตามคำสั่งฉันซะ ไม่งั้นฉันจะปรินต์กระดาษนี้สักพันแผ่นแล้วติดให้ทั่วโรงเรียนเลย!” ฉีเหยียนซีเชิดคางคมสันของเขา

 

 

อันซย่าซย่าตวาด “เชิญเลย! ฉันไม่สนว่าจะต้องอับอายขายหน้าอยู่แล้ว! ทุกคนจะได้รู้ว่านี่เป็นแผนอันร้ายกาจของนาย!”

 

 

อันที่จริงแล้ว เธอห่วงมาก…แต่ไม่ต้องการจะแสดงความอ่อนแอของเธอต่อหน้าฉีเหยียนซี

 

 

“อ้อ…ถ้าอย่างนั้น ฉันจะส่งให้เซิ่งอี่เจ๋อสักแผ่นด้วยก็แล้วกัน สถานที่ถ่ายทำที่เขาไปถ่ายอยู่ตรงไหนนะ…” ฉีเหยียนซีแกล้งทำเป็นคิดทบทวนคำถามนั้นซ้ำไปซ้ำมาระหว่างที่หญิงสาวร้อนรนเป็นกังวล “นายจะบอกเขาไม่ได้นะ!”

 

 

เขาจะยิ่งดูถูกเธอมากขึ้นน่ะสิถ้ารู้ว่าเธอทำเรื่องขายหน้าขนาดนี้!

 

 

เธอยอมให้คนทั้งโรงเรียนหัวเราะเยาะดีกว่าจะต้องอับอายต่อหน้าเซิ่งอี่เจ๋อ…

 

 

ฉีเหยียนซียิ้มอย่างสมใจ “ถ้างั้น…ฉันก็หวังว่าพวกเราจะเข้ากันได้ดีนะ อันซย่าซย่า”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 151 เซิ่งอี่เจ๋อได้รับบาดเจ็บ

 

 

ต่อให้อันซย่าซย่าจะไม่เต็มใจอย่างไรก็ตาม…แต่เธอก็ต้องยอมก้มหัวต่ออำนาจเผด็จการของฉีเหยียนซี

 

 

มันเป็นช่วงเวลาสำหรับการซ้อมเดี่ยวของทีมบาสเกตบอล บ้างก็วิ่งอยู่ที่สนามวิ่ง บ้างก็หัดชู้ตลูก และอีกส่วนหนึ่งก็กำลังปรึกษาหารือด้านยุทธวิธีกันอย่างดุเดือด

 

 

แต่ฉีเหยียนซีนั้นไม่เลย เขากำลังชู้ตลูกลงห่วงอย่างสบายๆ

 

 

แต่ทักษะพิเศษอันเหลือเชื่อของเขาก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะหายวับไปเสียแล้ว ไม่เพียงแค่ลูกที่โยนๆ ไปกลับพลาดเป้าหมายเท่านั้น แต่มันกลับลอยเลยไปไกลขึ้นเรื่อยๆ อย่างกับว่าลูกบาสมีลูกตาเป็นของตัวเอง

 

 

อันซย่าซย่าวิ่งวนเวียนเก็บลูกบาสใส่ตะกร้าข้างๆ ฉีเหยียนซี เด็กสาวพูดอย่างขมขื่น “ฉีเหยียนซี เล็งดีๆ ไม่ได้หรือไง” ด้วยความสามารถเท่านี้ ถึงเขาเข้าทีมบาสเกตบอลไปก็ต้องทำตัวเองขายหน้าแน่นอน!

 

 

ฉีเหยียนซีทำสีหน้าไม่รู้อีโหน่อีเหน่ “แหม ฉันยังใหม่นี่” พูดแค่นั้นแล้วเขาก็ชู้ตอีกครั้งแล้วลูกบาสก็ลอยไปตกห่างออกไปเกือบสองร้อยเมตร เขาพูดอย่างไม่อินังขังขอบ “ไปๆๆ ยัยบื้อซย่าซย่า ไปเก็บลูกมาให้ฉัน”

 

 

อันซย่าซย่ากัดฟันกรอดแล้ววิ่งไปเก็บลูกอย่างไม่เต็มใจ

 

 

เมื่อเห็นเด็กสาวโกรธ ฉีเหยียนซีก็ยิ่งพอใจ

 

 

แหม นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เขารู้สึกดีมากๆ กับการได้แกล้งคน

 

 

อันซย่าซย่าเก็บลูกบาสขึ้นมาก่อนจะมองไปที่ทีมเชียร์ลีดเดอร์ที่อยู่ห่างไปไม่ไกล โค้ชกำลังจัดตำแหน่งยืนให้พวกเขา และสมาชิกทีมแต่ละคนก็ได้รับแจกพู่เชียร์คนละสองอัน อันซย่าซย่ามองทีมเชียร์อย่างอิจฉา

 

 

เธออยากฝึกซ้อมเชียร์ ไม่ใช่มาวิ่งเก็บลูกบาสให้ไอ้เจ้าปีศาจนี่!

 

 

ซูเสี่ยวมั่วเห็นว่าเพื่อนมองดูอยู่จึงปลีกตัวออกมาคุยด้วยพร้อมกับสีหน้าเป็นห่วง “ซย่าซย่า เธอไม่เป็นไรนะ”

 

 

“ฉันอยากฝึกเชียร์…” อันซย่าซย่าพูดอย่างขุ่นเคือง

 

 

ซูเสี่ยวมั่วถอนหายใจ “ฉันได้ยินจากอาจารย์ว่าเป็นฝีมือของฉีเหยียนซี หมอนั่นพูดว่าทีมเชียร์จะต้องรับเธอถ้าหากอยากให้เขาเข้าร่วมทีมบาสเกตบอล”

 

 

“ว่าไงนะ” อันซย่าซย่าตกตะลึง ว่าแล้วเชียว! ทั้งหมดนี่เป็นเพราะเจ้าบ้าฉีเหยียนซีคนเดียว!

 

 

ขณะที่ถือลูกบาสเกตบอลอยู่ในมือนั้นเอง สีหน้าหญิงสาวก็ดูราวกับว่าเธอต้องการสู้ตายกับฉีเหยียนซีเลยจริงๆ แต่อย่างไรก็ตามซูเสี่ยวมั่วพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอชะงัก

 

 

“ซย่าซย่า เธอคิดหรือเปล่าว่าที่ฉีเหยียนซีก่อเรื่องทั้งหมดนี่ก็เพราะเขาชอบเธอ”

 

 

“…เป็นไปไม่ได้หรอก”

 

 

“ไอ้การที่เขาชอบมาวนเวียนอยู่กับเธอทำให้ฉันคิดจริงๆ เลยนะว่าเขาเลือกเธอก็เพราะชอบเธอ เหมือนพวกเด็กประถมไง เด็กผู้ชายมักแกล้งเด็กผู้หญิงที่เขาชอบ…” การวิเคราะห์ของซูเสี่ยวมั่วฟังดูน่าเชื่อถือมาก

 

 

แต่อันซย่าซย่ากลับเห็นว่าน่าหัวเราะ “เขาทำตัวเป็นเด็กประถม อันนั้นน่ะใช่แน่ แต่ไอ้การมาชอบฉัน… นั่นน่าจะเป็นความคิดของเธอคนเดียวแล้ว!”

 

 

“เธอตรงโน้นน่ะ กลับมาที่นี่เลย!” ด้วยเสียงนกหวีดเรียกของโค้ช ซูเสี่ยวมั่วจึงรีบวิ่งกลับไปเข้าทีมทันที

 

 

อันซย่าซย่าสูดหายใจเข้าแล้วเอาลูกบาสกลับไปให้ฉีเหยียนซี แต่สายตาของเด็กสาวกลับคอยหันไปมองทางทีมเชียร์

 

 

ฉีเหยียนซีจับความรู้สึกได้ว่าเธอใจลอยจึงเลิกคิ้วขึ้น “นี่ ตั้งสมาธิอยู่กับการเก็บลูกหน่อยสิ ไม่ใช่สักแต่ยืนอยู่เฉยๆ!”

 

 

อันซย่าซย่าเบะปาก “ฉันอยากไปฝึกซ้อมเชียร์นี่นา”

 

 

ฉีเหยียนซีหัวเราะหึ แต่ภาพของอันซย่าซย่าที่สวมกระโปรงเชียร์ตัวน้อยและคอยส่งเสียงเชียร์เขาที่ข้างสนามบาสเกตบอลแล่นผ่านเข้ามาในหัวเขา ใบหน้าชายหนุ่มสดใสขึ้นในทันทีแล้วเขาก็โบกมือไล่เธอ “ก็ได้ ไปสิ พยายามเข้านะ”

 

 

ทีแรกเด็กสาวแทบไม่เชื่อ แต่อึดใจต่อมา เธอก็ร้องออกมาด้วยความร่าเริงราวกับว่าเธอได้กับการอภัยโทษจากนั้นก็รีบวิ่งหนีไปทันที

 

 

ฉีเหยียนซีถูจมูกตัวเอง และแล้วใบหน้าเขาก็สดใสขึ้นด้วยรอยยิ้ม

 

 

 

 

อันซย่าซย่ากลับบ้านหลังจากจบการฝึกซ้อมเป็นเวลายาวนานหลายชั่วโมง เธออาบน้ำ รู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัว

 

 

เธอกำลังจะลงไปทานมื้อค่ำก็พลันเหอจยาอวี๋รีบร้อนลงมาจากชั้นสาม เขาขมวดคิ้วและมีท่าทางวิตกกังวล

 

 

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ” อันซย่าซย่าถามด้วยความงุนงง

 

 

เหอจยาอวี๋คว้ามือเธอไว้แล้วลากตัวเธอไปที่ประตู น้ำเสียงเศร้าหมอง “เกิดอุบัติเหตุที่สถานที่ถ่ายทำ อี่เจ๋อได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาล…”