บทที่ 206 กลับไปที่ฐานทัพทะเลมาร!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

บทที่ 206 กลับไปที่ฐานทัพทะเลมาร!

ด้านล่างของแม่นั่าฉางหลิง

เย่เทียนนั่งขัดสมาธิ นําในแม่น้ําไหลผ่านร่างกาย พลังปราณวารีอันเข้มข้นห่อหุ้มเขาไว้

เย่เทียนใช้พรสวรรค์เบญจธาตุผันแปรระดับพระเจ้าเพื่อดูดซับปราณวารีจํานวนมหาศาลเพื่อขัดเกลาร่างกาย ในขณะนี้ร่างกายของเขาถูกขัดเกลาอย่างรวดเร็วและเติบโตขึ้นตลอดเวลา “ด้วยความเร็วในการขัดเกลาเช่นนี้ 1 เดือนก็เพียงพอแล้ว!”

เย่เทียนกล่าวด้วยความยินดี

วันแล้ววันเล่า มีสัตว์อสูรจํานวนมากที่เข้ามาโจมตีเย่เทียน แต่เย่เทียนก็สังหารพวกมันได้อย่างง่ายดาย ในที่สุดบริเวณก้นแม่น้ําก็กลายเป็นสถานที่ต้องห้าม

ที่ไม่มีสัตว์อสูรตัวใดที่กล้าย่างกรายเข้าใกล้

หนึ่งเดือนผ่านไป

วันนี้เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ที่ก้นแม่น้ํา แม่น้ําฉางหลิงที่ยาวนับไมล์ เกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้น นี่เป็นการทะลวงขีดจํากัดของร่างกายครั้งที่ 4 ของเย่เทียนในระดับจักรพรรดิ มันจึงทําให้ผลกระทบค่อนข้างรุนแรง

ตูม!!!!!

ภายใต้การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า คอขวดขีดจํากัดของร่างกายถูกปราณวารีทะลวงผ่านอย่างรุนแรง จากนั้นพลังปราณวารีจํานวนมากก็ไหลทะลักเข้าสู่ร่างกายของเย่เทียน ช่วยเพิ่มพลังของเขาให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ไม่นาน เย่เทียนก็สงบลง

ในตอนนี้

พละกําลังของเขาก็มาถึง 400 มังกร แล้ว ซึ่งมันแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้มาก เย่เทียนที่กําลังอารมณ์ดีบินออกมาจากแม่น้ําฉางหลิงทันที และมุ่งหน้าไปยังนิกายเทพ

จันทราเพื่อบอกเรื่องนี้กับจักรพรรดิจันทรา

วิหารจันทรา

“เยว่เอ๋อ ผมทําลายขีดจํากัดของร่างกายครั้งที่สี่สําเร็จแล้ว!”

เย่เทียนที่กําลังตื่นเต้นตื่นแบ่งปันความสุขของเขากลับกับจักรพรรดิจันทรา

“เยี่ยมไปเลย!”

จักรพรรดิจันทรามองไปที่บุรุษตรงหน้าเธอด้วยแววตาชื่นชม

ในระยะเวลาสั้นๆ เย่เทียนกลับสามารถทําลายขีดจํากัดของร่างกายเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ใครเล่าจะเทียบกับเย่เทียนได?

ไม่ต้องพูดถึงพลังการต่อสู้ เพียงแค่การบ่มเพาะของเย่เทียน เขาก็เป็นอันดับหนึ่งของฐานทัพจงไห่แล้ว

ในฐานะผู้หญิงของเย่เทียน เธอมีความสุขมากราวกับว่าเป็นเธอที่ทําลายขีดจํากัดของร่างกายเป็นครั้งที่สี่

“เยว่เอ๋อ ผมจะไปที่ฐานทะเลมาร”

เย่เทียนเล่าถึงรอยแยกของมิติระดับ 3 ดาว และศิลาแห่งการรู้แจ้งที่เขาเคยพบให้แก่

จักรพรรดิจันทราฟัง

“มันจะเป็นอันตรายหรือไม่?”

จักรพรรดิจันทรารู้สึกกังวลเล็กน้อย

เธอไม่อยากให้เย่เทียนต้องไปเสี่ยงกับอันตราย แต่สมบัติล้ําค่าใครจะยอมปล่อยมือไปง่ายๆ? และนั่นยังเป็นศิลาแห่งการรู้แจ้งที่ล้ําค่ายิ่งกว่าศิลาเทพสงคราม หากเป็นเธอ หากเธอมีความสามารถมากพอแล้วล่ะก็ เธอก็จะไม่ยอมแพ้เช่นกัน!

ด้วยเหตุผลเหล่านี้เธอจึงไม่คิดจะหยุดเย่เทียน แต่ในใจของเธอยังคงกังวลอยู่ดี

“ไม่ต้องกังวล มันจะไม่เป็นไร ด้วยความแข็งแกร่งของผมในตอนนี้บวกกับพรสวรรค์ด้านมิติระดับลึกลับ แม้ว่าจะได้รับผลสะท้อนกลับ แต่ราคาที่ต้องแลกก็ถือว่าน้อยมาก นอกจากนี้โลกของสัตว์อสูรที่อยู่อีกฝั่งของรอยแยกระดับ 3 ดาว ไม่มีสัตว์อสูรตนใดที่สามารถต่อกรกับผมได๋! แม้ว่ารอยแยกมิติจะน่ากลัว แต่เมื่อมนุษย์เราสามารถบรรลุได้ถึงระดับหนึ่ง ก็ไม่จําเป็นต้องใช้รอยแยกมิติอีก เราจะสามารถฉีกกระชากมิติได้ด้วยตัวเอง แม้ความแข็งแกร่งของผมในตอนนี้จะยังไม่สามารถทําลายมิติได้ แต่การเอาตัวรอดไม่ใช่เรื่องยาก ” เย่เทียนกล่าว

“อืม”

จักรพรรดิจันทรายอมรับในคําพูดของเย่เทียนและเธอก็เห็นด้วยเป็นอย่างมาก เธอได้รับมรดกมาจากโบราณสถานนิกายจันทรา เธอย่อมเข้าใจความแข็งแกร่งของคนระดับสูงเป็นอย่างดี การฉีกกระชากมิติไม่ใช่เรื่องโกหก และอีกอย่างความแข็งแกร่งของเย่เทียนในตอนนี้นั้นไม่ได้อ่อนแอ

และเขายังเข้าใจถึงความลึกลับของพรสวรรค์ด้านมิติแล้ว สิ่งที่จะทําให้เขาตกอยู่ในอันตรายนั้นมีไม่มากนัก

“งั้นฉันจะไปยังฐานทะเลมารพร้อมกับคุณ!”

จักรพรรดิจันทราได้ยื่นค่าขอนี้ออกมา

“ตกลง แม้คุณจะไม่กล่าวเช่นนี้ ผมก็จะพาคุณไปอยู่แล้ว!”

เย่เทียนจับมือของจักรพรรดิจันทราและกล่าว

ฐานทัพทะเลมาร

ตั้งแต่เกิดรอยแยกในมิติ แม้ว่าฐานทะเลมารจะสูญเสียระดับราชาไปไม่น้อย แต่มันก็ได้นําไปสู่การพัฒนาอย่างรวดเร็ว ภัยคุกคามจากสัตว์อสูรในครั้งนั้นทําให้เกิดราชาหน้าใหม่ขึ้นเป็นจํานวนมากในวันนี้

หยุนเมิ่งหลี่ผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งของฐานทะเลมาร กําลังประชุมกับผู้นํากองกําลังต่างๆเพื่อหารือเกี่ยวกับการพัฒนากองกําลังหลักของฐานทัพ และคําสั่งต่างๆที่บังคับใช้ภายในฐาน

ตั้งแต่เมื่อหนึ่งปีก่อน หยุนเมิ่งหลี่ได้ล้มเหลวในการทะลวงผ่านไปยังระดับศักดิ์สิทธิ์ มันจึงทําให้เขากลับมาเริ่มพัฒนาฐานทะเลมารอย่างจริงจัง โดยที่ไม่ได้เดินทางไปยังฐานจงไห่อีกเลย

เขาไม่มีครอบครัวในฐานจงไห่ และหลังจากล้มเหลวในการทะลวงผ่านไปยังระดับศักดิ์สิทธิ์ความหวังของเขาก็หมดลง การจะอยู่ในฐานจงไห่นั้นไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาอีกแล้วดังนั้น

ความหวังทั้งหมดของเขาจึงถูกฝังไว้กับการพัฒนาฐานทะเลมารและฝึกฝนคนรุ่นหลัง

ในระหว่างการประชุม จู่ๆ ก็มีข้อความหนึ่งปรากฏขึ้นบนเครื่องมือติดต่อของหยุนเมิ่งหลี่ “ท่านเปเทียนกลับมาแล้ว!”

หยุนเมิ่งหลี่อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ

ที่พักของเย่เทียนยังคงอยู่และหยุนเมิ่งหลี่ยังส่งคนไปทําความสะอาดอย่างลับ ๆ อยู่เสมอ เขาหวังว่าสักวันหนึ่งเย่เทียนจะกลับมาพักอยู่ที่นั่นอีกครั้ง

และเมื่อครู่ ลูกน้องของเขาพบว่าเย่เทียนกลับมาแล้ว จึงแจ้งให้เขาทราบในทันที “ราชาเมิ่งหลี่ คุณหมายถึงท่านเย่เทียนอย่างนั้นหรือ? ไม่ใช่ว่าเขาตายไปแล้วหรอกหรือ?”

ราชาคนหนึ่งกล่าวด้วยความประหลาดใจ

เมื่อหลายปีก่อน เขาได้เห็นสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิสังหารเย่เทียนกับตาของตัวเอง

และศพของเย่เทียนเขาก็เห็นมันด้วยเช่นกัน ในความรู้สึกเขาเย่เทียนตายแล้วอย่างแน่นอน แต่ทําไมเมื่อครู่หยุนเมิ่งหลี่ถึงบอกว่าเย่เทียนกลับมาแล้ว?

หยุนเมิ่งหลี่สงบสติอารมณ์ลงและมองไปรอบๆพร้อมกล่าวว่า “ช่างมันเถอะ ในเมื่อท่านเย่เทียนกลับมาที่ฐารทะเลมารแล้ว เช่นนั้นฉันก็คงไม่ต้องปิดบังอีกต่อไป ที่จริงแล้วท่านเย่เทียนยังไม่ตาย ที่พวกคุณเห็นในวันนั้นเป็นเพียงแค่ศพปลอมเท่านั้น ท่านเย่เทียนหลบหอกนั้นได้ แต่เขาต้องการที่จะหลอกสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิ ดังนั้นจึงจําเป็นต้องให้มันคิดว่าเขาตายไปแล้วจริงๆ “อะไรนะ? มันเป็นแบบนี้เองเหรอ? ฉันนึกว่าท่ายเย่เทียนตายไปแล้ว!”

ผู้ฝึกยุทธระดับราชาหลายคนตกใจ แต่ในหมู่รับราชาเหล่านั้น มีหญิงสาวคนหนึ่งที่แสดง ใบหน้าที่มีความสุขออกมา

เธอก็คือเย่วหลิงแห่งตระกูลเย่ว!

เมื่อหลายปีก่อน เธอทราบข่าวว่าเย่เทียนเสียชีวิต และเสียใจอยู่พักหนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็ทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนัก และได้รับโอกาสพิเศษหลายครั้ง จนท้ายที่สุดเธอก็ก้าวมาสู่จุดสูงสุดของระดับปรมาจารย์ และได้กลายเป็นผู้นําของตระกูลเย่วคนใหม่

เธอยืมแผ่นศิลาแห่งเต๋าจากตระกูลเย่วแม้ว่ามันจะเป็นชิ้นส่วนที่ไม่สมบูรณ์ แต่ด้วยความช่วยเหลือของสมบัติชิ้นนี้ทําให้เธอสามารถเปิดจุดชีพจรได้ และท้ายที่สุดเธอก็ก้าวเข้าสู่ระดับราชาซึ่งมีสถานะเพียงพอที่จะนั่งอยู่ในที่ประชุม

“ทุกคน พวกเราไปต้อนรับท่านเย่เทียนกันเถอะ หากไม่มีท่านเย่เทียน ฐานทะเลมารของพวกเราคงจะจบสิ้นไปนานแล้ว!”

หยุนเมิ่งหลี่กล่าวออกมา

“จริงอย่างที่ท่านว่า พวกเราไปกันเถอะ”

ทุกคนประสานมือและตอบรับ

กลุ่มราชาเดินออกจากห้องประชุมและบินไปยังบ้านของเย่เทียน

ในขณะเดียวกัน วิลล่าของเย่เทียน

เขากําลังแนะน่าจักรพรรดิจันทรา “เยว่เอ๋อ ที่นี่คือที่พักของผม

“ภายในบ้านสะอาดมาก ไม่มีฝุ่นบนพื้นเลย ดูเหมือนว่าจะมีคนมาทําความสะอาดอยู่บ่อยครั้ง!”

จักรพรรดิจันทรากล่าว

“น่าจะมีคนมาทําความสะอาดจริงๆ!” เย่เทียนพยักหน้า คนที่จะทําเช่นนี้คงจะมีแต่หยุนเมิ่งหลี่ที่รู้ว่าเขายังไม่ตาย

ไม่เช่นนั้นจะมีใครส่งคนมาทําความสะอาดวิลล่าของคนที่ตายไปแล้ว?

ทันใดนั้นจักรพรรดิจันทรามองออกไปในที่ไกลๆ “มีระดับราชากลุ่มหนึ่งกําลังมุ่งหน้ามายังที่นี่ พวกเขาคงรู้แล้วว่าคุณกลับมาจึงรีบมาพบคุณ”

“อื้ม ผู้นําาของฐานทะเลมารคือหยุนเมิ่งหลี่ เขาใช้เวลาหลายปีในฐานจงไห่ ตอนนี้เขาน่าจะมาต้อนรับพวกเรา!” เย่เทียนกล่าว

พรึบ!!!

ระดับราชาบินลงมาหยุดอยู่ด้านนอกของวิลล่าอย่างรวดเร็ว

จากนั้นหยุนเมิ่งหลี่ก็ก้าวออกมาก้มศีรษะลงและประสานมือก้มลงและประสานมือ

“หยุนเมิ่งหลี่นําทุกคนมาต้อนรับการกลับมาของท่านเย่เทียน!”

เมื่อค่ายกลของวิลล่าเปิดออก เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “พวกเจ้าเข้ามาเถอะ!”

เมื่อเหล่าราชาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ หยุนเมิ่งหลี่ก็อุทานออกมาเมื่อเห็นจักรพรรดิจันทรา

‘คารวะจักรพรรดิจันทรา!”