บทที่ 312
การกระทำของลู่ฝาน อยู่ในสายตาของคนที่ดูออก

โดยเฉพาะอาจารย์เสวียนเจิน เห็นอาการบาดเจ็บที่แขนของลู่ฝานฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ก็อดยิ้มอย่างประหลาดออกมาไม่ได้

แต่เสวียนเจินไม่ได้พูดอะไรมาก พวกอาจารย์ที่ดูออก ก็พากันมีสีหน้าประหลาด ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่

การต่อสู้สามรอบสิ้นสุดลงแล้ว คณะหนึ่งเดียวแทนที่คณะกำแหงอย่างเป็นทางการ เป็นคณะลำดับที่ 5 ในสถาบันสอนวิชาบู๊

ลำดับนี้จะเรียกว่าสูงก็ไม่สูง จะเรียกว่าต่ำก็ไม่ต่ำ

แต่สำหรับคนอื่น คณะหนึ่งเดียวได้สร้างประวัติศาสตร์แล้ว

ไม่เพียงแต่เป็นประวัติศาสตร์ที่หลุดพ้นจากการเป็นลำดับสุดท้าย สู้อย่างต่อเนื่องจนมาเป็น 5 อันดับแรก สิ่งสำคัญกว่านั้น สามารถเอาชนะคณะนานา คณะศิงขร คณะสงบใจ คณะกำแหงได้ ด้วยการต่อสู้จัดอันดับเพียงครั้งเดียว ผลการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ คณะอื่นไม่เคยมีมาก่อน

แม้จะย้อนไปตอนที่คณะหยินหยางรุ่งเรือง ก็ต้องใช้เวลาถึง 5 ปีเต็ม ถึงจะขึ้นสู่อันดับหนึ่งได้

ทุกครั้งเอาชนะ 1-2 คณะได้ ถือว่าถึงขีดจำกัดแล้ว

จะไปเหมือนคณะหนึ่งเดียว ที่สามารถเอาชนะสี่คณะได้ อีกทั้งยังดูมีพลังเหลือล้นได้ยังไงล่ะ

ไม่ว่าใครก็ดูออกว่าคณะหนึ่งเดียวไม่ได้ทุ่มสุดตัว อย่างน้อยลู่ฝานก็ต้องออมมือแน่นอน

ว่ากันว่าตอนเขาไปสู้ที่คณะศิงขร ได้ใช้วิชากระบี่อันน่ากลัว แต่วันนี้เขายังไม่ได้ใช้วิชากระบี่เลย

ในคืนวันเดียวกัน คณะกำแหงเชิญอาจารย์และศิษย์ที่โดดเด่นของเก้าคณะ แสดงถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับแขกผู้มาเยือน

เดิมทีพวกลู่ฝานควรกลับไปแล้ว ได้ยินว่ามีงานเลี้ยง จึงอยู่ต่อทันที

โดยเฉพาะศิษย์พี่หานเฟิง รีบกลับไปบอกให้อาจารย์อี้ชิงแจ้งพวกอาจารย์เต้ากวง บอกให้ศิษย์พี่ใหญ่กับเจ้าดำมาด้วยกัน

นี่สิถึงเรียกว่ามางานเลี้ยงอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่งั้นจะขาดทุนเปล่าๆ ทุกคนต้องมีความสุขด้วยกันสิ

ความจริงเป็นสิ่งยืนยันว่าคนคณะหนึ่งเดียว เป็นพวกที่เห็นแก่กินตามคาด

ขนาดศิษย์พี่ใหญ่ที่ไม่ยอมแม้แต่จะขยับ ยังรีบพาเจ้าดำมาด้วย

เมื่อมาถึงก็ถามว่า “งานเลี้ยงเริ่มตอนไหน ฉันเอาชามใหญ่ของฉันมาด้วย”

ยามค่ำคืนมีไฟสว่างไสว

โถงใหญ่บู๊คณะกำแหง จัดงานเลี้ยงยิ่งใหญ่

คนคณะต่างๆ ล้วนอยู่ที่นี่ มีเพียงคณะหยินหยางที่กลับไปก่อน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร

สไตล์ของคณะกำแหงก็คือกินดื่มอย่างเต็มที่

ในงานเลี้ยง ไม่ค่อยมีผักสักเท่าไร ล้วนเป็นอาหารจากเนื้อหลากหลายชนิด ชามที่มีเหล้าเต็มเปี่ยม ใหญ่จนแทบจะเหมือนหม้อแล้ว

นี่ทำให้พวกหานเฟิงและศิษย์พี่ใหญ่ ตะโกนออกมาว่าสะใจ เจ้าดำก็กินอย่างมีความสุข

อีกทั้งไม่เพียงแค่กิน ยังแอบหยิบเก็บไว้ด้วย

ตั้งแต่เป็นคนทำอาหารของคณะหนึ่งเดียว เจ้าดำใช้ชีวิตเก่งขึ้นเรื่อยๆ

บนโต๊ะเหล้า คณะอื่นพากันมาแสดงความยินดีกับอาจารย์อี้ชิง

วันนี้อาจารย์อี้ชิงสบายใจมาก หัวเราะจนไขมันสะเทือนทั้งตัว

คนที่มาดื่มแสดงความยินดีกับลู่ฝานก็ไม่น้อย อีกทั้งยังเป็นนักเรียนคณะกำแหงด้วย

“ศิษย์พี่ลู่ฝาน มาดื่มสักแก้ว แม้ผมเป็นนักเรียนคณะกำแหง แต่ก็ยอมรับว่าพี่เป็นชายที่แท้จริง ต่อไปศิษย์พี่ลู่ฝานช่วยชี้แนะด้วย”

“ศิษย์พี่ลู่ฝานเก่งจริงๆ จะย้ายมาคณะกำแหงของเราตอนไหน พี่ควรเป็นคนคณะกำแหงของพวกเรา!”

“ศิษย์พี่ลู่ฝานมีคู่ครองหรือยัง น้องสาวผมยังไม่มีคู่ครองเลย ลองคิดดูหน่อยไหม นี่เป็นรูปของเธอ……”

“ศิษย์พี่ลู่ฝานยังไม่มีภรรยาใช่ไหม ดูฉันสิ ถึงจะดูห้าวไปหน่อย แต่ก็มีนมมีก้นนะ ว่ากันว่าก้นใหญ่มีลูกง่ายนะ เรามาลองคบกันสักระยะไหม นี่……พวกนายดึงฉันทำไม รนหาที่ตายเหรอ!”

……