แสดงละครฉากใหญ่

 

ผู้จัดการซูมากความสามารถเจนจัดด้านประสบการณ์ร้อยพันรอบด้าน เขาผิดข่าวนี้อย่างมิดชิดและไม่มีปริปากบอกใบ้ปราศจากร่องรอย

หวังหลินโปทราบดีว่า พิษขนวิหคพันราตรีของเขารุนแรงเพียงใด

ถึงมีโอสถล้างพิษขั้นสวรรค์เข้าช่วยเหลือจุนเจือ แต่อย่างมาก เหลียงหวางหรูก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสี่สิบวันแน่นอน

เช้าตรู่ของวัน เขาส่งน้องสาวของเขา,หวังเพียนหลานออกไปดูตรวจสถานการณ์

หวังเพียนหลานนำคนกลุ่มใหญ่จำนวนหนึ่งอยู่รอบกาย จนธารน้ำยังไหลผ่านไม่ได้ เพื่อเดินทางไปยังหอมหาสมบัติ

 

แต่สิ่งที่ทำให้ขากรรไกรทุกคนค้างเติ่งคือ หวังเพียนหลานในวันนี้มาพร้อมกลับชุดอาภรณ์สีขาว ใบหน้าอ้วนของนางยังอาบน้ำตาเปียกชุ่ม

ผู้คนรอบข้างที่พลุกพล่านมากมาย โดยธรรมชาติ ย่อมมีพวกหูตาของสามตระกูลใหญ่ลอบเร้น

หอมหาสมบัติเปิดศึกจนก่อเป็นความขัดแย้งกับตระกูลหวัง เหล่าฝูงชนในเมืองต่างเมืองเป็นเรื่องตลก

แน่นอน ฝ่ายที่ดูตลกมิใช่ใครอื่นนอกเสียจาก พวกหอมหาสมบิต

สิ่งที่ตระกูลหวังเชี่ยวชาญที่สุดคือศาสตร์การใช้พิษ และปัจจุบันก็ได้ถูกเผิดเผยแล้วว่า พิษลับที่เป็นผลงานชิ้นเอกของตระกูลหวังก็คือ พิษขนวิหคพันราตรี ซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนร้ายแรงเกินจินตนาการ

 

ทุกคนต่างทราบดีว่า ในเมืองกุยฉางแห่งนี้ ไม่มีใครสามารถถอนพิษขนวิหคพันราตรีนี้ได้!

เพราะสิ่งนี้จึงทำให้ผู้คนมองหอมหาสมบัติในแง่ที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก

แม้แต่ตระกูลหลินและตระกูลหลู่ อีกสองตระกูลใหญ่ยังต้องระวังตระกูลหวังเช่นกัน

ท้ายที่สุดนี้ทวนคมยังง่ายต่อการหลบ แต่ลูกดอกซ่อนพิษที่เร้นแฝงกลับยากที่จะป้องกัน

 

“ซูหลิงปู้ รีบส่งมอบคนของข้ามาเดี๋ยวนี้! หวางหรูเป็นสมาชิกคนสำคัญคนหนึ่งของพวกเราตระกูลเหลียง ต่อให้ตายก็ต้องตายในตระกูลเหลียง!”

 

“โอ้ใช่แล้ว อาคันตุกะนักหลอมโอสถหน้าใหม่ของหอมหาสมบัติ มิใช่บอกว่าสามารถรักษาพิษขนวิหคพันราตรีได้หรอกรึ? ไฉนจนถึงตอนนี้ก็ยังปิดปากเงียบ? ทุกคนมาดูนี่เร็ว! ไอ้พวกหอหมาสมบัติมันเป็นพวกหลอกลวง!”

 

“ฮึก ฮึก…หวางหรูของข้า! เจ้าตายอย่างไม่ยุติธรรม!”

 

 

…………

 

 

หวังเพียนหลานแกว่งแขนแกว่งขา ก้อนไขมันทั่วร่างขยับกระเพื่อมไม่หยุดหย่อน พร้อมตะโกนลั่นสุดเสียงพลางร้องห่มร้องไห้แสนระจมใจหน้าประตูหอมหาสมบัติ

นางยังเรียกเหลียงหวางหรูว่า‘สมาชิกตระกูล’ได้อย่างหน้าตาเฉย

 

การแสดงละครครั้งใหญ่นี้ต่างทำเอาทุกคนประหลาดใจจริงๆ

มิใช่หวังเพียนหลานรึที่เป็นแม่เลี้ยงใจร้าย จับเหลียงหวางหรูไปขังในคุกใต้ดิน?

ไฉนยังหน้าด้านเสแสร้งเช่นนี้อีก?

 

หวังเพียนหลานร้องห่มร้องไห้ราวกับว่าลูกสาวแท้ๆตัวเองตายก็ไม่ปาน

 

วัตถุประสงค์ของหวังหลินโปนั้นชัดเจนมาก ในเมื่อมีใครบางคนกล้าท้าทายพิษขนวิหคพันราตรีที่เป็นถึงไพ่ตายลับของตระกูลหวัง ดังนั้นนี่จะเป็นโอกาสเชือดศัตรูให้ตาย!

อย่างน้อยที่สุด เขาต้องการที่จะตบไอ้สารเลวน้อยนั้น ที่บังอาจทำลายชื่อเสียงของเขาจนเสียหน้าไปพักใหญ่!

 

ตราบใดที่เย่หยวนถูกแหกหน้า เด็กนั้นก็จะกลายเป็นเผือกร้อนที่หอมหาสมบัติไม่กล้าเก็บไว้กับตัวอีกเลย

หวังหลินโปประสบความล้มเหลวที่ทำให้เย่หยวนอับอายในวันนั้น และกลับเป็นฝ่ายเขาที่ต้องอับอายเสียแทน สิ่งนี้ทำให้หวังหลินโปมิอาจปล่อยไว้ได้ หากมิได้ลบล้างความเกลียดชังภายในใจ

หากเย่หยวนไม่ตาย เขาเองก็ไม่ยอมปล่อยเช่นกัน

เศษสวะพิการตัวหนึ่งกลับหาญกล้ายั่วยุเหนือหัวแห่งเมืองกุยฉางแห่งนี้ เกรงว่าความตายไอ้เด็กเหลือนี่จะสะกดไม่เป็น!

 

“ไอ้หมูอ้วน หน้าด้านไร้ยางอาย! พุงย้อยจนแทบลากพื้นแล้ว!”

 

“ยังกล้ามาเสแสร้งอีก? หน้าตายังน่าเกลียดไม่พอ จิตใจยังต่ำทรามเกินพรรณนา! ถึงกล้านำพิษขนวิหคพันราตรีให้ลูกเลี้ยงกินจริงๆ!”

 

“ถูกต้อง! แต่จะว่าไปวันนี้ผลจะเป็นอย่างไร? ข่าวลือก่อนหน้าหรือไม่เป็นความจริง?”

 

“อย่างไรก็ตามแต่ หอมหาสมบัติจะสามารถรักษาพิษนี้หรือไม่ ต้องรออีกฝ่ายเคลื่อนไหว แต่หากทำไม่สำเร็จจริงๆ งานนี้คงอับอายขายขี้หน้าไปอีกนาน!”

 

“นั้นเป็นถึงพิษขนวิหคพันราตรี ยามนี้กล่าวกันว่าเป็น ยอดพิษอันดับหนึ่งของเมืองกุยฉางแห่งนี้ เว้นเสียแต่เป็นโอสถล้างพิษขั้นเทวะ มิฉะนั้นไม่มีทางรักษาได้! บางทีฝ่ายหอมหาสมบัติอาจมีไพ่ตายซ่อนอยู่เช่นกัน?”

 

“ไม่หรอก! ข้าได้ยินมาว่า อาคันตุกะนักหลอมโอสถของหอมหาสมบัติเป็นแค่คนพิการ ทั้งๆที่เป็นแบบนั้น แต่เขาก็ยังกล้ากล่าวว่า ตนสามารถล้างพิษขนวิหคพันราตรีได้! ไพ่ตายที่ว่าหรือจะเป็นเพียงฝีปาก?”

 

 

……………………….

 

 

หลังจากแผนของตระกูลหวังได้ปลุกกระตุ้นผู้คนจนหันมาสนใจประเด็นร้อน หอมหาสมบัติก็ถูกเพ่งเล็งอีกคครั้ง

ไม่เพียงหามีผู้ใดมองดีเลยสำหรับฝ่ายหอมหาสมบัติ แต่ก็ยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่ดูถูกเหยียดหยามเย่หยวน พวกเขารู้สึกว่า กลับเป็นเย่หยวนเสียเองที่เป็นตัวก่อปัญหาทั้งหมด จนทำให้หอมหาสมบัติต้องตามเช็ดตามล้างแบบนี้

 

หากเรื่องลงเอยไม่ดีอย่างหวัง งานนี้เป็นฝ่ายหอมหาสมบัติที่เข้าเนื้อเต็มๆ

ในเวลานี้ ผู้จัดการซูถูกเหล่าพยักงานคนอื่นๆตามตัวกันให้ควั่กซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

เมื่อเห็นหวังเพียนหลานลงทุนเสแสร้งเล่นละครฉากใหญ่ เขาก็อดสะใจมิได้

“เหอะ แม้แต่พวกเราก็ยังไม่คาดคิดว่า เย่หยวนจะสามารถหลอมกลั่นโอสถล้างพิษขั้นเทวะได้ แล้วมีหรือหวังหลินโปจะนึกถึงขั้นนั้น? เป็นเพราะข้าที่พยายามปกปิดเรื่องนี้สุดตัว พวกมันถึงได้เต็มใจกระโดดลงหลุมเองเช่นนี้! ให้หญิงอ้วนนั้นวิ่งเล่นไปอีกสักครู่ รอตบหน้าทีเดียว ผลที่ออกมาคงวิเศษเป็นอย่างยิ่ง!”

ผู้จัดการซูกล่าวขึ้นพร้อมเปล่งเสียงหัวร่อดังสุดเยือกเย็น

 

แน่นอน ความลับยังคงเป็นความลับ ผู้จัดการซูผู้นี้เป็นคนฉลาดหลักแหลม ร่องรอยแห่งความปีติดีใจจะปรากฏขึ้นบนผิวหน้าของเขาได้อย่างไร?

หยางหรูกำชัดเขาเด็ดขาด ห้ามแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ของหอมหาสมบัติ และเตรียมตบหน้าตระกูลหวังอย่างไร้ปราณี และนี่ถือเป็นโอกาสได้ผลักนำนักหลอมโอสถของหอมหาสมบัติอย่างเย่หยวนไปในตัว!

ด้วยแผนการนี้ของเขา จะส่งผลให้สถานะของหอมหาสมบัติดีขึ้นเป็นอย่างมาก

สำหรับหวังเพียนหลาน พระแม่สุกรตัวอ้วนนี้ คงยิ้มเยาะได้อีกไม่นานแล้ว

 

 

“นี่คือเขตของหอมหาสมบัติ ไม่อนุญาตให้คนนอกประพฤติกิริยาต่ำทราม! หากเจ้ามีเหตุผลที่รุดมาหาก็จงรีบกล่าว! ไม่เช่นนั้น อย่าถือตำหนิว่าหอมหาสมบัติของเราเสียมารยาท!”

ผู้จัดการซูกล่าวขึ้นพร้อมท่าทางสุดเคร่งขรึม

 

ยามเห็นการปรากฏตัวของผู้จัดการซู หวังเพียนหลานนึกกระอักกระอ่วนใจอยู่หลายส่วน แต่ก็ยังกล่าวตอบพร้อมถ่อยคำเย้ยเยาะว่า

“ซูหลิงปู้ เจ้าเห็นหรือไม่ มีนับร้อยสายตาที่คอยจับจ้องเจ้าอยู่! ข้าไม่เชื่อหรอกว่า แกจะกล้าลงมือลงไม้กับผู้หญิงคนหนึ่ง!”

 

ผู้จัดการซูขมวดคิ้วเข้ม พลางกล่าวว่า

“หวังเพียนหลาน เจ้าต้องการอันใด? ไม่กลัวสามีของเจ้าเสียหน้าเลยกระมัง?”

 

หวังเพียนหลานยิ้มร่า นางกล่าวเสียงเย็นตอกสวน

“เหอะ ไอ้อาคันตุกันักหลอมโอสถของเจ้า พาหลัวเจียบุกมาตระกูลเหลียงและลักพาตัวเหลียงหวางหรูไป แถมยังทำร้ายสามีและท่านลุงสองของข้าจนบาดเจ็บสาหัส พวกหอมหาสมบัติข่มเหงผู้คนมากเกินไป หวางหรู เจ้าช่างน่าสงสารนัก ที่ต้องมาตายอย่างไม่ยุติธรรมเช่นนี้!”

 

ผู้จัดการซูกล่าวขึ้นอย่างไม่มีความสุขว่า

“เล่นลิ้นเผยความไม่หมด! แม่นางหวางหรูถูกพวกเจ้าวางยาพิษสาหัส เย่หยวนจึงต้องบุกเข้าไปตระกูลเหลียงเพื่อช่วยออกมา เลือดเย็นอำมหิตเช่นนี้แต่กลับราวกับตัวเองไร้ความผิด! ถึงจะเป็นลูกติด แต่ก็ยังกล้าวางยาพิษ ใจคอต่ำทรามสิ้นดี!”

 

หวังเพียนหลานกรอกตาไปมาพลันนึกดีใจ ในที่สุดตาแก่ตัวนี้ก็ตกหลุมพราง!

 

“ซูหลิงปู้ เจ้าหยุดโยนความผิดได้แล้ว! ปกติหวางหรูเกลียดชังข้าสุดหัวใจ เพราะข้าไปแทนที่ตำแหน่งแม่ของนาง ดังนั้น นางจึงต่อต้านข้าทุกอย่างในบ้าน หาเรื่องทะเลาะกับข้าไม่เว้นวัน! ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องจริง! พอยามนี้นางสมโอกาสแอบขโมยขวดใส่พิษขนวิหคพันราตรีไป และแอบกินเอง หากข้าอยู่ตรงนั้นมีหรือจะทนดูอยู่เฉยๆ? ไม่ว่าอย่างไร นางก็เป็นเหมือนลูกสาวข้าอีกคน ทว่าอย่างไรก็ดี มีไอ้พิการแถวนี้หลงเสน่ห์นาง จนถึงขั้นบุกเข้ามาลักพาตัวหนีออกไป ส่วนเหตุผลที่นางกลั้นใจกินพิษเข้าไปเอง หวังเพื่อใส่ความให้ทุกคนมองข้าในแง่ร้าย! แต่ถึงอย่างนั้น ข้าก็ยังรักนางดั่งลูกแท้ๆ! ฮึก.. ฮึกก.. โถ่ลูกหวางหรูช่างน่าสงสาร เจ้าต้องมาตายอย่างไม่ยุติธรรม!”

 

ต้องยอมรับกันตามตรง ทักษะการแสดงของหญิงอ้วนนางนี้ยอดเยี่ยม เล่นตรงบทเป็นที่สุด ยามนี้ธารน้ำตาไหลรินไม่หยุดหย่อน

เสียงโอดครวณอันสุดแสนน่าสงสารนี้ สามารถหลอกผู้คนไปได้มาก

สับสนระหว่างขาวดำ ใครจริงใครปลอม เรื่องนี้กลับไม่มีใครทราบ เหล่าฝูงชนเริ่มเบี่ยงสายตาเข้าจับจ้องไปที่ผู้จัดการซู

เย่หยวนเป็นผู้กระทำผิดจริง และมีสิทธิ์หอมหาสมบัติเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด

ที่หวังเพียนหลานกล่าวไปล้วนมีเหตุมีผลทุกอย่าง จนทำให้ฝูงชนโดยรอบเกลียดนางไม่ลงแล้ว