บทที่ 28 การเลี้ยงไก่เป็นงานทางเทคนิค

ฉันเป็นหัวหน้าเผ่าดึกดำบรรพ์

บทที่ 28 การเลี้ยงไก่เป็นงานทางเทคนิค

 

“ทํากรงไก่?”ทุกคนมองไปที่ มู่เฟิง ด้วยความสับสน ไป๋หยาที่อยู่ในฝูงชนเงยหน้าขึ้นดวงตาที่เหมือนดวงดาวเต็มไปด้วยความสงสัย

 

“พี่ มู่เฟิง กรงไก่คืออะไร?”

 

“กรงไก่ใช้เพื่อขังไก่เอาไว้!” มู่เฟิง ชี้ไปที่คอกแกะ

 

“สถานที่เลี้ยงแกะเรียกว่าคอกแกะ สถานที่เลี้ยงไก่เรียกว่ากรงไก่!”

 

เขาหยุดครู่นึงและพูดต่อ “ไก่พวกนี้ยังไม่เคยถูกเลี้ยงดังนั้นจึงไม่สามารถใส่กรงเล็กๆได้ต้องใส่กรงขนาดใหญ่”

 

“กรงไก่ขนาดใหญ่?ทําไมล่ะ?” ไป๋หยา ขมวดคิ้วนางเอง แต่คิดไม่ออก

 

“เพราะพวกมันเคยอยู่ป่า จู่ๆก็สูญเสียอิสรภาพแล้วถูกขังเอาไว้ หากเป็นพื้นที่ที่แคบเกินไปจะทําให้พวกมันรู้สึกหงุดหงิดและตายได้!” มู่เฟิง อธิบายด้วยรอยยิ้ม

 

“โกรธจนตาย?” ไป๋หยา ตกตะลึง คิ้วขมวดเป็นปมใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจดูน่ารักยิ่งขึ้น

 

“เอ็ม ก็อย่างเช่นว่าถ้าสถานที่อยู่ของมันเล็กเกินไปพวกมันจะไม่กินอาหารและพวกมันก็จะอดตาย!”

 

“ไก่มีความรู้สึกโกรธด้วยหรอ?” ไป๋หยา มองไปที่ไก่ที่ถูกผูกอยู่ในตอนนี้ด้วยความสงสัยเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

 

มู่เฟิง ฟังแล้วหัวเราะส่ายหัวและคิดในใจ “การเลี้ยงไก่เป็นงานทางช่างเทคนิค!” ที่จริงแล้วสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง ในสมัยก่อนเขาเคยจับไก่ป่าได้ ไม่ว่าจะเอาไปใส่ในกรงไก่ให้อยู่ตัวเดียวหรือรวมกับไก่บ้าน เพียงไม่นานพวกมันจะไม่กินไม่ดื่มและอดตาย

 

แต่ถ้ามันสามารถอยู่ในพื้นที่ที่กว้างขวางไม่ว่าจะอยู่เดียวหรืออยู่แบบกลุ่มก็จะสามารถรอดชีวิตไปได้

 

นี่คือเหตุผลของเขา สําหรับการเลี้ยงไก่ เขามีประสบการณ์ที่ยากจะจินตนาการ

 

“เอาล่ะทุกคนตอนนี้ช่วยกันทํากรงไก่ขนาดใหญ่ให้กับข้าแล้วเอาพวกมันใส่เข้าไป!”

 

มู่เฟิง หยิบหวายขึ้นมาหลายต้นด้วยมือข้างเดียวจากนั้นหยิบมีดกระดูกขึ้นมา ตัดปลายหวายออกเป็นท่อนๆ จากนั้นก็ปักเฉียงลงกับพื้นดินปลายแหลมลงสู่พื้นมากกว่า 10 เซนติเมตร จากนั้น มู่เฟิง ก็ตัดหวายอีก 2-3 ต้นปักลงสู่พื้นตามหวายอันก่อนซึ่งมีระยะห่างกันประมาณ 5-6 เซนติเมตร

 

จากนั้นเขาก็ปักหวายไปเรื่อยๆเป็นรูปสี่เหลี่ยมเปียกปูน หลังจากนั้นเขาก็เริ่มไขว้หวายถักเป็นตาข่ายเพื่อให้มั่นคงยิ่งขึ้น

 

“ตอนนี้ทุกคนช่วยการถักตาข่ายหวายเป็นวงกลมขนาดใหญ่แบบที่ข้าทําให้ดูและมันจะกลายเป็นกรงไก่ขนาดใหญ่!”

 

มู่เฟิง มองไปที่ความยาวของหวายและคิดสักครู่ก่อนจะกล่าวว่า

 

“ระวังระยะห่างของหวายหรือตอนที่มันพยายามเบี่ยงออก ถ้ามีช่องว่างมากเกินไปไก่จะสามารถวิ่งออกมาได้!”

 

ความคิดของพวกเขาง่ายมากเพียงแค่สร้างกรงไก่ให้เหมือนกับกรง “ปากขวด” ที่กว้างแล้วค่อยๆแคบลง ถึงแม้ว่าไกลจะสามารถโผบินได้ระยะหนึ่งแต่ก็ไม่มีทางที่จะพุ่งออกจากกรงไก่ได้

 

เนื่องจากไก่ไม่สามารถบินในแนวตั้งผ่านอุปสรรคที่สูงถึง 2 เมตรดังนั้นการบินของมันจึงถูกจํากัดด้วยกรง

 

นี่เป็นประสบการณ์การเลี้ยงไก่ในชาติที่แล้วของ มู่เฟิง แน่นอนว่า คนเยอะและมีพลังมากแทบจะเป็นเผ่าที่เริ่มทํากรงไก่เป็นที่แรกของยุคดึกดําบรรพ์ พวกเขาใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ

 

มู่เฟิง ให้คนเหลือปากกรงเอาไว้โดยเฉพาะเพราะเขาจะเป็นคนสานให้เหลือประตูเล็กๆเองจากนั้นรัดให้แน่นกรงไก่ที่เขาทําขึ้นมานั้นมีความสูงเกือบ 3 เมตร เพียงไม่นานกรงไก่ขนาดใหญ่ 200- 300 ตารางเมตรก็ถูกทําขึ้น

 

เมื่อ มู่เฟิง ได้เห็นกรงไก่ขนาดใหญ่นี้เขาก็เกิดความรู้สึกขึ้นมาว่า ถ้าเขาสมัครกินเนสบุ๊คในชาติที่แล้ว นี่จะต้องเป็นสถิติโลกอีกรายการหนึ่งอย่างแน่นอน

 

เขาให้หลุหูเอาไก่ใส่ลงไปในกรงทีละตัวและพบว่ามีไก่ประมาณ 8 ตัวที่กําลังจะตาย มู่เฟิง ลองนับดูไก่ที่เหลืออีกประมาณ 104 ตัว มีไก่ตัวผู้ 36 ตัวและไก่ตัวเมียอีก 68 ตัว ตามหลักการของการ “เลี้ยงและการผสมพันธุ์” มู่เฟิง เลือกไก่ ไก่ตัวผู้และไก่ตัวเมียอย่างละ 36 ตัว โดยวิธีการคัดเลือกในชุดแรกทําให้เหลือไก่ที่สามารถกินได้ในตอนนี้ 32 ตัว

 

ไก่ทั้ง 32 ตัวเป็นผลงานที่เผ่าต้าเจียงไม่เคยได้กินมาหลายปีเนื่องจากไก่เป็นสิ่งที่วิ่งเร็วและจับยาก

 

จากการกระทําในวันนี้ทําให้พวกเขาได้เห็นไก่จํานวนมากอยู่ในกรงอยากไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อไก่ถูกคัดเลือกให้อยู่ในกรงแล้วก็มีคําถามขึ้นมาอีกว่าจะเลี้ยงไก่พวกนี้ได้อย่างไร

 

หมิงกวง หันไปถาม “มู่เฟิง ไก่พวกนี้ควรเลี้ยงอย่างไร?พวกมันไม่ได้กินหญ้าอย่างเดียว!”

 

“มันง่ายมาก!” มู่เฟิง ยิ้มและพูดออกมา

 

“รอบๆเผ่าของเรามีรวงหญ้าที่แห้งเหี่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวปีที่แล้วให้คนไปดึงรวงหญ้ามาแล้วโยนทิ้งให้มัน นอกจากรวงหญ้าแล้ว ทุกคนยังสามารถขุดดินเพื่อจับไส้เดือนแมลงเล็กๆ หนอนตัวใหญ่ๆ ที่สามารถให้ไก่กินได้!”

 

“อ๋อจริงสิ อย่าลืมขุดบ่อน้ําอีกบ่อที่นี่จากนั้นทําเป็นแอ่งน้ําให้มันกินวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น”

 

“อีกอย่าง เอาหญ้าแห้งใส่เข้าไปอีกหน่อย!”

 

“หญ้าแห้ง?” หมิงกวง รู้สึกแปลกใจ

 

“มันใช้ทําประโยชน์อันใด?”

 

“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด พรุ่งนี้พวกเจ้าจะรู้เอง!” มู่เฟิง ยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะสะบัดมือ

 

“เอาล่ะทุกคนแยกย้ายกันไปทําธุระได้” จากนั้นเขามองไปทางทิศตะวันตกของเผ่าเห็นหลีหูกลับมาพร้อมกับคนอื่นๆดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้กลับมาด้วยมือเปล่า

 

ก่อนที่หลีหูจะถึงกําแพงก็เริ่มตะโกนเสียงดัง

 

“หัวหน้า ดูสิพวกเราจับแกะป่ากลับมาได้อีก!”