ตอนที่ 1628 ออกจากนครสัตว์อสูร (1)
เมื่อได้ยินแบบนั้นเสี่ยวฉงก็มองราชันย์มังกรที่กำลังกระตือรือร้นด้วยสายตาแปลกๆ เขาทนไม่ได้จนต้องบอกว่า “เจ้ากำลังฝันอยู่ใช่หรือไม่ เผ่าวิหคเพลิงสาบานเป็นผู้ติดตามของนายท่านแล้ว เหตุใดนายท่านของข้าต้องไปช่วยเจ้าโจมตีเผ่าวิหคเพลิงด้วย”
รอยยิ้มของราชันย์มังกรหายไปทันที เขาแสดงสีหน้าตื่นตะลึงแล้วชะงักไปเมื่อสบเข้ากับสายตาเยาะเย้ยของเสี่ยวฉง
“ท่านบอกว่าเผ่าวิหคเพลิงสาบานเป็นผู้ติดตามของนายท่านของท่านงั้นหรือ”
เสี่ยวฉงหัวเราะเยาะ “ถ้าเจ้าอยากโจมตีเผ่าวิหคเพลิง เจ้าก็ไปเองเถอะ พวกเราจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้”
จากนั้นเสี่ยวฉงก็สะบัดตัวแล้วคลานอย่างไม่รีบร้อนไปหาอวิ๋นเซียว
อวิ๋นเซียวหยิบเสี่ยวฉงขึ้นมาตามปกติแล้วหันไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยสีหน้าอ่อนโยน “พวกเราไปกันเถอะ”
พวกเขามาที่นี่เพื่อหาหงหลวน ตอนนี้ก็เจอหงหลวนแล้วดังนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ต่อ
“ท่านบรรพบุรุษ!” ราชันย์มังกรหน้าซีดด้วยความกลัวแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเสี่ยวฉงอย่างแรงจนเกิดดัง
เมื่อเห็นอย่างนั้นสมาชิกเผ่ามังกรก็คุกเข่าลงเป็นแถวอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ท่านบรรพบุรุษ ท่านจะไปไม่ได้นะขอรับ ถ้าท่านไปแล้วพวกเราจะทำอย่างไร” เขาสะอึกสะอื้น
หลังจากตามหามาหลายปีในที่สุดเผ่ามังกรก็หาบรรพบุรุษที่เคารพเจอ ถ้าพวกเขายอมให้บรรพบุรุษจากไปแล้วเมื่อไหร่พวกเขาถึงได้เจอบรรพบุรุษอีก
อวิ๋นเซียวมองใบหน้าอ้อนวอนของราชันย์มังกรอย่างเหยียดยามก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า “เขาเป็นสัตว์เลี้ยงของข้าดังนั้นเขาก็ต้องติดตามข้าออกไป”
ดวงตาของราชันย์มังกรเป็นประกาย “ท่านอวิ๋นเซียว พวกเรายินดีทำตามคำสั่ง พวกเราแค่หวังว่าท่านจะอยู่ที่นี่”
ถ้าอวิ๋นเซียวอยู่ที่นี่ ท่านบรรพบุรุษที่เคารพของพวกเขาก็จะไม่จากไปแต่ว่า…เป็นไปได้หรือที่อวิ๋นเซียวจะอยู่ที่นี่
“ข้าจะกลับมาถ้าข้าต้องการพวกเจ้า”
พูดอย่างก็คือเขาจะกลับมาก็ต่อเมื่อเขาต้องการประโยชน์จากเผ่ามังกร
พูดจบเขาก็ใช้มือโอบเอวอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วก็กระโดดออกไปไกลทันที
เผ่ามังกรต้องการที่จะขัดขวางอวิ๋นเซียวแต่ก่อนที่พวกเขาจะสัมผัสโดนชายเสื้อของเขา ร่างสีดำสนิทก็หายไปจากสายตาแล้ว
หนานกงอวิ๋นอี้มองหงหลวนอย่างลังเลแล้วเงียบไปชั่วครู่ก่อนพูดขึ้นว่า “ข้าขอโทษที่แอบดูเจ้าก่อนหน้านี้ ข้าจะรับผิดชอบเจ้าเองแต่ตอนนี้ข้ามีบางอย่างต้องจัดการดังนั้น…”
ไม่ว่าจะเป็นผู้ติดตามของหลงอิ๋นหรือองค์หญิงใหญ่เผ่าเสือดาว เขาก็ไม่มีทางปล่อยไปแน่
หงหลวนเหลือบมองหนานกงอวิ๋นอี้ “ข้าต้องการให้เจ้ามารับผิดชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าทำลายน้ำพุพลังฌานของข้า เจ้าคิดว่าแค่การยอมรับผิดจะชดใช้สิ่งที่ข้าสูญเสียไปได้งั้นหรือ หนานกงอวิ๋นอี้ ข้าบอกไว้เลย เจ้าฝันไปเถอะ!”
นางส่งเสียงขึ้นจมูกแล้วพูดเสริมอีกว่า “แต่ว่าข้าเห็นว่าเจ้ายังต้องมีแค้นต้องสะสางอยู่ ตอนนี้ข้าก็จะละเว้นเจ้าไว้ก่อน ข้าจะจัดการกับเจ้าหลังจากที่เจ้าจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
ความจริงแล้วหนานกงอวิ๋นอี้ก็รู้ว่าสตรีผู้นี้เป็นพวกปากร้ายแต่ใจดีดังนั้นเขาจึงไม่ได้กลัวนางเท่าก่อนหน้านี้
“ข้าเข้าใจแล้ว!” หนานกงอวิ๋นอี้ยิ้ม “เจ้าสามารถลงโทษข้าได้ตามที่ต้องการหลังจากที่ข้าแก้แค้นเสร็จแล้ว ครั้งนี้ข้าจะไม่หนี”
เพราะอะไรบางอย่างตอนที่หงหลวนได้ยินประโยคสุดท้ายของหนานกงอวิ๋นอี้ หัวใจของนางก็กระตุก นางเงยหน้าขึ้นก็เห็นดวงตามุ่งมั่นของชายหนุ่มแล้วนางก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
ถึงแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ก็ตาม
เมื่อหลงอิ๋นเห็นบรรยากาศแปลกๆ ระหว่างทั้งคู่ เขาก็ยิ่งแสดงสีหน้าไม่พอใจแล้วจ้องหน้าหนานกงอวิ๋นอี้โดยไม่ละสายตา
…………………………………..
ตอนที่ 1629 ออกจากนครสัตว์อสูร (2)
สายตาของเขาเหมือนต้องการจะฉีกมนุษย์คนนี้ออกเป็นพันๆ ชิ้น
เมื่อหงหลวนสัมผัสได้ถึงสายตาของหลงอิน นางก็เห็นไปมองเขาอย่างทรงอำนาจแล้วยกยิ้ม “หลงอิน ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่าถ้าเจ้าแตะต้องข้าแม้แต่นิดเดียว เมื่อใดที่เจ้าอยู่ในกำมือข้า ข้าจะทำให้ชีวิตเจ้าอยู่อยากทรมานยิ่งกว่าความตาย!”
คำพูดของนางในวันนั้นยังคงหลอกหลอนอยู่ในความคิดเขา ที่น่าขันก็คือก่อนหน้านี้เขาไม่เชื่อคำพูดของนาง จะมีสตรีสักกี่คนที่ต่อต้านยอดฝีมือเผ่ามังกรเช่นเขาได้ เขาไม่คิดว่าเขาจะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่…
“หงหลวน ข้าไม่สนว่าเจ้าจะแก้แค้นข้าหรือไม่ การได้ตายด้วยน้ำมือเจ้าก็เป็นเกียรติของข้าแล้ว” แม้แต่ตอนนี้หลงอินก็ยังแกล้งทำเป็นรักใคร่อย่างลึกซึ้งแล้วหวังว่าหงหลวนจะละเว้นเขาเพราะความรักที่เขามีให้
หงหลวนยิ้มแล้วลูบคางเบาๆ ก่อนจะพยักหน้า “เจ้าไม่ได้อยากมีบุตรหรอกหรือ ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้เจ้าแต่งงานกับองค์หญิงเผ่าสุกรวิญญาณ ข้าได้ยินมาว่านางกำลังหาสามีอยู่พอดี”
ทุกคนในเผ่าสัตว์อสูรมีหน้าตาที่งดงามยกเว้นเผ่าเดียวคือเผ่าสุกรวิญญาณ สมาชิกของเผ่านี้มีชื่อเสียงเรื่องความอัปลักษณ์ ไม่ใช่แค่นั้นพวกเขายังป่าเถื่อนอีกด้วย คนงามทุกคนที่ตกอยู่ในมือพวกเขามักมีจุดจบที่ไม่ดี
ดังนั้นเมื่อหลงอิ๋นได้ยินคำพูดของหงหลวน เขาก็หน้าซีดเผือดแล้วเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
หวงอิงอิงขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันไปหาหูหลี “นายหญิงไปแล้วนะ”
“ข้ายังหาอู๋และอีลี่ไม่เจอเลยดังนั้นข้าจะอยู่ที่นครสัตว์อสูรชั่วคราว” หูหลีพูดพร้อมส่ายหน้า
“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นก็มาหานายหญิงและท่านเขยหลังจากที่เจ้าหาพวกเขาเจอแล้ว” หวงอิงอิงไม่ได้พูดอะไรอีกแล้วไล่ตามอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวไปแต่ว่านางจะไล่ตามอวิ๋นเซียวทันได้อย่างไร
โชคดีที่เมื่อนางมาถึงตีนเขานางก็เห็นว่าอวิ๋นลั่วเฟิงกำลังรอนางอยู่
“นายหญิง” หวงอิงอิงเดินอย่างรวดเร็วไปหาอวิ่นลั่วเฟิง “หูหลี เขา…”
“ข้ารู้แล้ว” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มร้ายกาจ “ถ้าหูหลียังหาอีลี่ไม่เจอ ข้าก็คิดไว้แล้วว่าเขาคงไม่ออกจากนครสัตว์อสูรแน่”
ถ้านางยังไม่รู้ชะตากรรมของอวิ๋นเซียวในนครสัตว์อสูร นางก็คงไม่ออกไปจากที่นี่เหมือนกันดังนั้นนางจึงเข้าใจการตัดสินใจของหูหลี นางรู้ตั้งแต่แรกว่าครั้งนี้หูหลีจะไม่ออกจากเมืองไปกับนางแน่
“หวงอิงอิง พวกเราจะออกจากนครสัตว์อสูรแล้ว ครั้งนี้พวกเราจะออกเดินทางกันมานานดังนั้นข้าจะพาอวิ๋นเซียวและไปเยี่ยมตระกูลจวิน”
ตระกูลจวินงั้นหรือ อวิ๋นเซียวมองหน้าอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยความสับสน
เมื่อเห็นสายตาสงสัยของชายหนุ่ม อวิ๋นลั่วเฟิงก็นึกได้ว่านางลืมไปว่าอวิ๋นเซียวยังไม่รู้เรื่องการมีอยู่ของตระกูลจวินเพราะเขาไปที่ภูผาสุสานเทพเพื่อตามหานาง
อวิ๋นลั่วเฟิงเงียบไปครู่นึงก่อนจะเงยหน้ามองชายหนุ่มใบหน้าเย็นชา “อวิ๋นเซียว ตอนที่ท่านไปที่ภูผาสุสานเทพมีบางอย่างเกิดขึ้นที่แคว้นนี้แล้วหนึ่งในนั้นก็เกี่ยวข้องกับตระกูลจวิน”
อวิ๋นเซียวยืนเงียบรอฟังคำพูดต่อมาของอวิ๋นลั่วเฟิง
อวิ๋นลั่วเฟิงสูดหายใจเข้า “ท่านปู่ของตระกูลจวินเป็นบิดาโดยสายเลือดของท่านแม่ พูดอย่างก็คือเขาเป็นท่านตาโดยสายเลือดของเจ้า”
“อ้อ” สีหน้าของอวิ๋นเซียวนิ่งสงบมากแล้วเขาก็ตอบด้วยคำพูดสั้นๆ
เหมือนตอนที่เขาเจอจวินเฟิ่งหลิงครั้งแรก เขาก็ไม่ได้ตื่นเต้นมากแม้ว่าเขาจะตามหามารดาของตัวเองมาหลายปีก็ตาม
แต่ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงรู้จักนิสัยของอวิ๋นเซียวดี ชายคนนี้มักจะแสดงออกทางอารมณ์ได้ไม่ดี เขาอยากมีครอบครัวแต่เขาไม่เคยแสดงออกและเก็บความรู้สึกรักใคร่ในส่วนที่ลึกที่สุดในจิตใจ แต่บุรุษแบบนี้มักจะแสดงความรักและความภักดีที่มีให้นางต่อหน้านาง