ขณะที่ทานอาหารเย็น ซูกั๋วเลี่ยงก็ยังคงอารมณ์ไม่ดีนัก ด้านหลิวลี่ก็เอาใจใส่ตักอาหารให้ซูหว่านและซูชิงเหมยเป็นพิเศษ หากเป็นก่อนหน้านี้หลิวลี่จะเก็บซี่โครงตุ๋นที่ดีที่สุดไว้ให้ซูชิงเหมย แต่วันนี้เธอกลับยกให้ซูหว่าน ซูหว่านเองก็ไม่ได้พูดอะไร หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ซูหว่านกลับไปยังห้องเล็กๆ ของตัวเอง โต๊ะอ่านหนังสือที่ทรุดโทรมหันไปทางหน้าต่างบานเดียวในห้อง ภายใต้แสงไฟที่ค่อยไม่สว่างนัก ซูหว่านมองดูกองหนังสือเรียนที่วางระเกะระกะด้วยความเหนื่อยใจ
เอ่อ ดูเหมือนว่าตอนกลางวันเธอจะนอนมากเกินไป เลยไม่รู้ว่าวันนี้คุณครูสั่งการบ้านอะไรไว้บ้าง
ช่างเถอะ
ซูหว่านลงมือจัดการกองหนังสือของตัวเองตามตารางเรียน ในปัจจุบันโรงเรียนประถมแทบจะไม่มีวิชาอื่นนอกจากวิชาภาษาจีนและคณิตศาสตร์ การบ้านส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นการคำนวณทั่วไปและแบบฝึกหัดหลังเรียนเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้ยากเกินไปสำหรับซูหว่าน
เมื่อจัดเก็บกระเป๋าหนังสือของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ซูหว่านก็ลงกลอนประตูห้องตัวเองไว้จากด้านใน เธอจงใจเปิดหน้าต่างไว้เป็นช่องเล็กๆ จากนั้นก็นอนลงบนเตียงไม้เพื่อพักผ่อน
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เมื่อซูหว่านตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ซูรุ่ยก็นั่งอยู่ข้างเตียงของเธอแล้ว
“เตียงเธอเล็กมาก”
ทันทีที่ซูหว่านลืมตาขึ้นด้วยความงุนงง ซูรุ่ยก็ที่จะอดบ่นไม่ได้ มันไม่ง่ายเลยกว่าที่เขาจะเข้ามาทางหน้าต่างได้ เมื่อเห็นว่าเธอกำลังนอนหลับอย่างสบาย แม่ทัพซูที่เดิมทีอยากจะขึ้นไปนอนบนเตียงสักพัก ก็ต้องกลั้นใจไม่ขึ้น เพราะเตียงนอนมันเล็กเกินไป
“ฉันตัวแค่นี้เอง จะต้องนอนเตียงใหญ่แค่ไหนกัน?”
ซูหว่านกระพริบตามองซูรุ่ยและตอบด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา
แม่ทัพซูรุ่ยถึงกับพูดไม่ออก
“เฮ้อ”
เขาพ่นลมออกมาเบาๆ เพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเอาไว้ ซูรุ่ยจ้องมองซูหว่านที่อยู่บนเตียงอย่างตั้งใจ “เกิดอะไรขึ้นกับเซี่ยฉังอาน?”
“ใครจะรู้ น่าจะ…เกิดใหม่แล้ว?”
ซูหว่านยักไหล่ใส่ซูรุ่ย “เป็นไปได้สูงมาก จากที่ฉันสังเกต เขาไม่ได้ข้ามผ่านเวลาไป น่าจะเป็นการเกิดใหม่”
“อืม”
ซูรุ่ยพยักหน้าตามอย่างจริงจังเมื่อได้ยินการคาดเดาของซูหว่าน “ฉันก็คิดว่าเขาน่าจะเกิดใหม่อีกครั้ง แค่เห็นแววตาที่เขามองเธอฉันก็รู้แล้ว”
ใช่แล้ว ปฏิกิริยาของศัตรูหัวใจมันช่างแข็งแกร่งอะไรขนาดนี้
“เพียงแต่…”
จู่ๆ น้ำเสียงของซูรุ่ยก็มีความสับสนขึ้นมา “ถ้าเขาเกิดใหม่อีกครั้ง แล้วมีแผนที่จะถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชรกับเจ้าของเดิม แล้วทำไมภารกิจของฉันถึงยังไม่แจ้งว่าล้มเหลวล่ะ? อีกอย่าง เรื่องการเกิดใหม่ของเซี่ยฉังอานก็ไม่เคยถูกกล่าวถึงมาก่อนในภารกิจของพวกเรา”
“ใช่ นี่เป็นเรื่องที่ฉันกังวลใจมากที่สุด”
ความกังวลอันสง่างามปรากฏขึ้นบนใบหน้าเด็กน้อยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของซูหว่าน “ซูรุ่ย สวีเช่อเคยพูดถึงอวกาศเทพหลักและผู้คุมห้วงกาลอวกาศกับนายมาก่อนไหม?”
“ไม่เคย”
ซูรุ่ยก็ส่ายศีรษะทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน “พวกเขาก็เป็นผู้รับภารกิจด้วยเหรอ?”
“น่าจะประมาณนั้น ห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญของพวกเรานั้นนับเป็นเครื่องบินที่สูงมาก ในทำนองเดียวกัน อวกาศเทพหลักก็เป็นหนึ่งในเครื่องบินที่สูงมากเช่นกัน พวกนั้นกับพวกเรานั้นอยู่ในจุดตรงข้ามกัน ในอวกาศเทพหลักก็มีระบบเทพหลักจำนวนนับไม่ถ้วน พวกเขาจะค้นหาโฮสต์ที่ตรงตามเกณฑ์การกรองโดยอัตโนมัติตั้งแต่ระดับต่ำ กลาง สูง จากนั้นก็ผูกมัดพวกเขาเพื่อดำเนินการตอบโต้การโจมตีที่กำหนดโดยอวกาศเทพหลัก โฮสต์เหล่านี้ ก็คล้ายกับการมีอยู่ของผู้รับภารกิจอย่างเรา เพียงแต่พวกเขาถูกควบคุมโดยระบบที่ไม่มีอิสระอย่างเรา ส่วนผู้คุมห้วงกาลอวกาศ...”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซูหว่านสีหน้าของซูหว่านก็เริ่มซับซ้อนเล็กน้อย ราวกับปรากฏร่องรอยของความสยดสยอง “พวกเขาแบกรับภารกิจสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของเครื่องบินอวกาศต่างๆ ทั้งยังเป็นสิ่งเดียวที่สามารถฆ่าผู้รับภารกิจได้!”
ฆ่า?
เมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน แววตาของซูรุ่ยก็มืดมนลงทันที “มันก็หมายความว่า ถ้าพวกเราโชคร้ายต้องเผชิญหน้ากับผู้คุมห้วงกาลอวกาศในโลกภารกิจแล้วล่ะก็ พวกเขาก็อาจจะฆ่าเราได้? และการตายแบบนั้นก็เป็นการสูญสลายที่ย้อนกลับมาไม่ได้ ใช่มั้ย?”
“ใช่”
ซูหว่านพยักหน้า
ผู้คุมห้วงกาลอวกาศ คนพวกนี้เป็นกลุ่มคนที่มีความลึกลับมาก พวกเขากระจัดกระจายไปในทุกๆ ห้วงกาลอวกาศ ไม่เป็นของอวกาศใดๆ แต่เขาเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการเดินทางเหมือนกระสวยอวกาศ สามารถไปยังห้วงอวกาศต่างๆ ได้ตามต้องการ ทั้งยังสามารถแสดงเป็นใครก็ได้ในอวกาศนั้น และที่สำคัญคือพวกเขาสามารถฆ่าใครก็ได้ในห้วงอวกาศ รวมทั้งโฮสต์เครือข่ายและผู้รับภารกิจของห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ!
พวกเขาเป็นที่รักของห้วงกาลอวกาศ
“เดิมทีในโลกนี้ซูชิงเหมยได้เกิดใหม่อีกครั้ง พวกเราเข้ามาที่นี่เพื่อเปลี่ยนชะตากรรมของซูชิงเหมยและซูหว่าน แต่ในตอนนี้เซี่ยฉังอานก็ได้เกิดใหม่แล้ว ตามกฎของสำนักงานใหญ่ถ้าพบเหตุการณ์แบบนี้แสดงว่ามีข้อผิดพลาดเกินขึ้น โดยจะต้องมีการแจ้งให้สิ้นสุดภารกิจหรือภารกิจเสร็จสิ้น แต่จนตอนนี้พวกเราก็ยังไม่ได้รับคำแนะนำใดๆ ฉันรู้สึกว่าตอนนี้มีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซูหว่านก็สบตาซูรุ่ยที่อยู่ข้างเตียงอย่างจริงจัง “ความเป็นไปได้อย่างแรกก็คือ ความโกลาหลในห้วงกาลอวกาศได้ดึงดูดความสนใจของผู้คุมห้วงกาลอวกาศ ตอนนี้ผู้คุมห้วงกาลอวกาศได้เข้ามายังห้วงกาลอวกาศนี้และปิดกั้นทางออกทั้งหมดแล้ว ผู้คุมห้วงกาลอวกาศต้องการฟื้นฟูทุกอย่างในโลกนี้ให้เป็นวิถีเดิม พวกเขาต้องการบังคับซูชิงเหมย รวมทั้งฉันกับนาย และเส้นทางชีวิตของเซี่ยฉังอานให้กลับมาสู่ตำแหน่งเดิม แน่นอนว่าในกระบวนการนี้เขาก็อาจจะจัดการพวกเรา ส่วนความเป็นไปอีกอย่างหนึ่ง”
เมื่อพูดถึงความเป็นไปได้อย่างที่สอง สีหน้าของซูหว่านก็เริ่มผ่อนคลายลง “ถึงแม้ว่าเซี่ยฉังอานและซูชิงเหมยจะเกิดใหม่ทั้งคู่ แต่ทั้งสองอาจจะไม่ได้เกิดใหม่ในมิติอวกาศเดียวกันก็ได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เดิมทีทั้งสองคนอาจจะอยู่ในสองมิติที่เป็นคู่ขนานกับโลกนี้ ซูชิงเหมยได้เกิดใหม่ก่อน แล้วก็มีภารกิจนี้ของพวกเราขึ้นมา และอาจจะด้วยเหตุผลต่างๆ เซี่ยฉังอานที่อยู่ในอีกมิติคู่ขนานก็เกิดใหม่ในโลกนี้เช่นกัน ถ้าอย่างนั้นโลกนี้ก็เป็นโครงเรื่องที่ทับซ้อนกันของทั้งสองโลกนั้น ดังนั้น นอกจากฉันกับนายแล้ว อาจมีผู้รับภารกิจคนอื่นในโลกนี้ก็ได้!”
ถึงแม้ว่าซูหว่านจะอธิบายยาวเหยียด แต่ซูรุ่ยก็เข้าใจได้ในไม่กี่วินาที ช่วยไม่ได้ที่เขาฉลาดขนาดนี้
ที่จริงแล้วมิติคู่ขนานนั้นเข้าใจได้ไม่ยาก ในช่วงเวลาที่ต่างกันทุกคนย่อมตัดสินใจเลือกทางที่ต่างกัน และเมื่อคุณเลือกต่างกัน อนาคตของคุณก็จะเปลี่ยนไปตามนั้น ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เกิดมิติคู่ขนานมากมาย ในนั้นจะมีตัวคุณอยู่มากมายนับไม่ถ้วน และแน่นอนว่ามีชีวิตที่แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง
บางที “ชาติก่อน” ของซูชิงเหมย และ “ชาติก่อน” ของเซี่ยฉังอาน อาจจะอยู่ในสองห้วงกาลอวกาศ แต่ในตอนนี้ดวงวิญญาณของทั้งสองคนได้บังเกิดใหม่ในห้วงกาลอวกาศนี้ นี่ก็คือ…การทับซ้อนของมิติคู่ขนาน?
หากเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดจากการที่ซูชิงเหมยมาเกิดใหม่อีกครั้งเป็นภารกิจหลักของซูหว่านและซูรุ่ยคือ
ถ้าอย่างนั้นการเกิดใหม่ของเซี่ยฉังอาจจะทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อเนื่อง บางทีในโลกของเขาก่อนหน้านี้ เขาอาจจะไม่ได้ลงเอยกับซูหว่านในตอนท้าย และหลังจากที่เขาเกิดใหม่ เขาคงจะต้องการเปลี่ยนชีวิตของตัวเองและซูหว่านด้วยจุดประสงค์บางอย่าง หากเป็นอย่างนั้นการเกิดใหม่ของเขาก็จะทำลายวิถีเดิมของโลกนี้ด้วย ถ้ามีอีกคนที่รับภารกิจของเซี่ยฉังอานจริงๆ คนผู้นั้นจะเป็นใคร? แล้วเป้าหมายของภารกิจของเขาคืออะไรกัน?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ซูรุ่ยและซูหว่านก็สบตากัน ทั้งสองต่างพูดขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย “แผนกการเกิดใหม่!”
ไม่ผิดแน่ โดยปกติแล้วภารกิจแบบนี้ล้วนเป็นภารกิจของแผนกการเกิดใหม่!
ดังนั้น เหตุผลที่ทั้งสองคนยังไม่ได้รับแจ้งว่าภารกิจล้มเหลวหรือสำเร็จ ก็เป็นเพราะมีภารกิจอื่นแอบแฝงอยู่ในโลกนี้ และภารกิจของเขาหรือเธอผู้นั้น ก็คงหนีไม่พ้น…จับคู่ซูชิงเหมยและเซี่ยฉังอาน!