“เจียงหยวน เจ้าต้องการอะไร”

เมื่อเห็นมวลหมู่ผู้คนที่ด้านนอก หลี่ฮี ก็ไม่ได้แสดงท่าทางหวาดหวั่นอะไรออกมา

เจียงหยวนได้จับจ้องไปที่หลี่ฮีด้วยดวงตาที่คมกริบ ก่อนจะชี้ไปที่หลี่ชูชูที่อยู่ข้างๆหลี่ฮีแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบ

“ที่ข้ามาที่นี่ก็เพราะสองเรื่อง หนึ่งการหมั้น สองคำเตือน”

“และที่ข้ามาที่นี่ก็เพื่อที่จะมาถอนหมั้นกับคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหลี่ หลี่ชูชู”

เมื่อสิ้นคำ มือของเจียงหยวนก็ได้เริ่มขยับไปมา ก่อนที่จะนำพู่กันจุ่มไปในน้ำหมึก ก่อนจะตวัดไปมาราวกับมังกรที่กำลังเต้นระบำกับนกเพลิง

หลังจากนั้น เขาก็ได้ดึงกระบี่ที่ถูกเหน็บไว้ที่เอวของผู้เป็นพ่อ ก่อนจะกรีดเฉือนนิ้วตัวเองแล้วกดลงไปบนกระดาษ

“…ห้ะ”

ถึงสิ่งเกิดขึ้นรวดเร็วก่อนที่หลี่ฮีจะได้ตั้งตัวทำอะไรออกมา

“นี่คือขอเรียกร้องจากพวกข้า”

เจียงหยวนพูดพร้อมกับคิ้วที่ยกสูง ก่อนจะสะบัดกระดาษให้ร่อนไปอยู่ตรงหน้าประตูตระกูลหลี่

เจียงหยวนได้จับจ้องไปที่หลี่ชูชูด้วยสายตาที่เยียบเย็น พร้อมกับพูดคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบจนคนฟังรู้สึกหายใจขัด

“นี่คือข้อสอง ข้าจะมาแจ้งเตือนให้พวกเจ้ารู้ว่าใครก็ตามที่ยังยุ่งเกี่ยวกับตระกูลหลี่ ในอีกหนึ่งปี ข้าจะฆ่าล้างตระกูล ใครก็ตามที่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลหลี่ของเจ้า”

“ไอ้การที่เจ้ามาพูดเรื่องฆ่าล้างตระกูลต่อหน้าผู้นำตระกูลเช่นข้าคนนี้ มันจะไม่เป็นตบหน้ากันเกินไปหน่อยเหรอ เจ้ากล้าที่จะโอหังได้ถึงขนาดนี้ได้ยังไง”

“อะไร กลัวขยะแบบข้ารึไง”

เจียงหยวนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบอย่างดูแคลน

เมื่อเห็นท่าทางของเจียงหยวนในตอนนี้ หลี่ชูชูที่เห็นก็รีบเขย่าไหล่พ่อของตนแล้วพูดกระซิบที่ข้างหู “ท่านพ่อ มันก็แค่ขยะนะ ท่านพ่อควรจะคิดดีๆก่อนที่จะพูดออกไปสิ อย่าใช้อารมณ์”

หลี่ฮีเมื่อได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา “แต่ไอ้เด็กนี่มันคิดร้ายกับเจ้า มันต้องการทำลายชื่อเสียง…”

หลี่ชูชูเผยรอยยิ้มที่อ่อนหวานออกมา ก่อนที่จะนิ่งคิดแล้วพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ท่านพ่อ พวกเราเองก็จะย้ายออกจากเมืองนี้กันอยู่แล้ว พอออกไปแล้วก็ไม่มีใครรู้เรื่องพวกนี้อีก”

“ขอเพียงพวกเราสามารถยกเลิกสัญญาหมั้นหมายให้เร็วที่สุดเท่าที่เร็วไปได้ ปัญหาทุกอย่างมันก็จบ ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ พวกหมาพวกแมวแถวนี้คงจะก่อปัญหาให้พวกเราไม่เลิกอย่างแน่นอน”

หลี่ฮีพยักหน้ารับ “ได้ พ่อจะฟังเจ้า”

“เจียงหยวน ข้าจะรับจดหมายนี้เอาไว้ นับจากนี้ พวกเราไม่มีอะไรติดค้างต่อกันอีก นี่ ยาเม็ดรวมพลัง เป็นของเจ้าแล้ว ไอ้ขยะ”

หลี่ชูชูพูดพลางม้วนเก็บกระดาษถอนหมั้น ก่อนจะโยนกล่องไม้ออกไป

เจียงหยวนรับกล่องไม้มาจากหลี่ชูชูพร้อมกับเผยรอยยิ้มเย็นแล้วพูดออกไป “ทำดีมาก อดีตฮูหยินของข้า”

หลี่ชูชูหน้าเปลี่ยนสีไปในทันทีเมื่อได้ยิน แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นตัวนางเองที่ทำผิดในครั้งนี้ นี่จึงทำให้นางนึกละอายใจอยู่บ้าง

“แล้วเราจะได้เจอกันอีกในอีกหนึ่งปี”

เจียงหยวนจับจ้องไปที่หลี่ชูชูด้วยดวงตาที่เดือดแค้นและมือที่กำหมัดจนแน่น พร้อมกับความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมที่จะทำตามคำพูดให้ได้ในหนึ่งปีได้ปรากฎบนหน้าเขา

นี่ทำให้ทุกคนที่เห็นต่างก็นิ่งอึ้งตะลึงงันไปตามๆกัน แม้แต่หลี่ชูชูเองก็ยังนึกกังวลด้วยเหมือนกัน เพราะนางกลัวว่าอัจฉริยะคนนี้จะกลายเป็นตำนานที่เดินได้อีกครั้งหนึ่ง

“อย่าบอกนะว่าบุตรสวรรค์แห่งเมืองเทียนหยางกลับมาแล้วน่ะ”

“เขาถึงได้กล้าที่จะมาถอนหมั้นกับคุณหนูหลี่แบบนี้”

“ข้าว่าไอ้ขยะนี่มันก็แค่ทำตัวให้สมชายไปอย่างนั้นแหล่ะ ข้าได้ยินมาว่าตระกูลหลี่จะย้ายไปอยู่ที่เมืองยอดยุทธแล้ว”

ผู้คนมากมายต่างก็ตกตะลึงในการกระทำของเจียงหยวน ทุกคนต่างก็ฉงนสนเท่ห์ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ แต่ไม่มีใครเลยที่รู้ว่าเหตุผลของเรื่องนี้เป็นเช่นไร

และหากไม่ใช่เพราะผู้คนกว่าร้อยที่มามุงดูนี่ล่ะก็ ปานนี้เรื่องราวย่อมบานปลายเสียยิ่งกว่านี้

เมื่อได้พูดในสิ่งที่ต้องการแล้ว เจียงหยวนก็ได้หันหลังกลับ เดินจากประตูคฤหาสน์ตระกูลหลี่ไปอย่างไม่แยแส

ยังไงซะ สิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้นั่นก็คือแข็งแกร่งให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ระหว่างทาง เจียงหยวนได้นำยารวมพลังออกมาจากกล่องไม้ ก่อนที่จะกลืนมันลงไปอย่างไม่คิดมาก

“ดิ้งงงง ท่านได้กินยาระดับเหลือง ความสามารถในการเล่นแร่แปรธาตุของท่านเพิ่มขึ้น ระดับเล่นแร่แปรธาตุของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ท่านเรียนรู้วิธีการหลอมยารวมพลังขั้นสมบูรณ์”

“ดิ้งงงง ระดับบ่มเพาะของท่านเพิ่มขึ้น ร่างกายของท่านอยู่ในระดับนักรบ ตอนนี้ท่านคือนักรบหนึ่งดาว”

“ดิ้งงงง ตรวจพบเส้นชีพจรของท่านที่มีปัญหา ระบบซ่อมแซมอัตโนมัติทำงาน ตรวจพบชีพจร….”

“ติ้ง…. การซ่อมแซมเสร็จสมบูรณ์ ชีพจรยุทธของท่านกลับมาอยู่ในระดับสวรรค์”

-ชีพจรของข้ากลับมาแล้ว-

เมื่อหนึ่งปีก่อน เขาที่มีชีพจรยุทธระดับสวรรค์นี้ได้ทำให้เขากลายเป็นที่ภาคภูมิอย่างที่สุด

ในช่วงหนึ่งปีมานี้ เขา ก็ได้รับความอัปยศอดสูเพราะชีพจรยุทธระดับสวรรค์นี้ด้วยเช่นเดียวกัน

เจียงหยวนที่ในตอนนี้รับรู้ถึงคลื่นพลังที่แข็งแกร่งภายในจุดตันเถียนของเขาอีกครั้ง พร้อมๆกับพลังฟ้าดินที่หมุนวนอยู่ภายในและแผ่ซ่านไปยังจุดลมปราณทั่วร่างของเขา มันทำให้เขาอดที่จะมีท่าทางลิงโลดขึ้นมาไม่ได้จริงๆ