ตอนที่ 24 หอศิลปะการต่อสู้ที่ดีที่สุด

ระบบอัพเกรดเทพชาย

“แค่นั้นหรือ” หลิงเซียวกล่าวเบาๆ

จากนั้นลมหายใจอันทรงพลังก็เริ่มแผ่ออกมาจากร่างกายเขา!

ลมหายใจนี้ทรงพลังมากกว่าจิตวิญญาณของหวังหนิงมาก

จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งกำเนิดคล้ายกับปลาวาฬสีน้ำเงินปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของหลิงเซียว

ลมหายใจนี้ราวกับจะเปลี่ยนเป็นสสารเช่นภูเขาที่กดทับลงมาบนตัวของหวังหนิง

ฮึ่ม!

หวังหนิงรู้สึกหวาดกลัวกับลมหายใจของหลิงเซียวจนเขาถึงกับก้าวถอยหลังออกไปสามก้าวอย่างรวดเร็ว

“เป็นไปได้ยังไง!” หวังหนิงตกใจมาก

หวังหนิงไม่อยากจะเชื่อเลย พวกเขาไม่ได้บอกว่าโรงเรียนมัธยมของหนานเฉิง มีเป็นนักรบจิตวิญญาณแค่คนหนึ่งไม่ใช่หรือ? แล้วคนที่สองนี่มันโผล่ออกมาได้ยังไง?

ไม่เพียงแค่นั้นระดับของจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งกำเนิดนี้ก็ยังแข็งแกร่งกว่าเขามาก!

“แกเป็นใคร” หวังหนิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม

หลิงเซียวเหลือบมองไปที่เขาแล้วกล่าวว่า “โรงเรียนมัธยมหนานเฉิงที่สาม ชั้นปีที่สองห้องหก หลิงเซียว!!”

“มีคำถามอะไรเพิ่มเติมไหม ถ้าคุณมีปัญหา คุณสามารถต่อสู้ได้ทันที”

ใบหน้าของหวังหนิงมืดมน ถ้าเป็นที่อื่นเขาคงเข้าไปต่อสู้แล้ว

แต่ต่อหน้า ซูเหยา ต่อหน้าผู้ชายที่เรียกตัวเองว่าแฟนของ ซูเหยา เขาไม่ต้องการที่จะต่อสู้

“ที่โดโจศิลปะการต่อสู้เทียนฉวน คืนนี้ฉันจะรอแกอยู่ที่นั้น!” หวังหนิงกล่าวอย่างโหดเหี้ยม (Dojo คำนี้ในภาษาญี่ปุ่นเป็นคำสองคำที่รวมกัน “Do-โด” หมายถึง วิถีหรือหนทาง “Jo-โจ” หมายถึงสถานที่ เมื่อรวมกันแล้วหมายถึง สถานที่ซึ่งเป็นที่ฝึกวีถีต่างๆ ที่เข้าใจง่ายๆเช่น โรงฝึกวิชาศิลปะการป้องกันตัว)

จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและจากไปโดยไม่ลังเล

หลิงเซียวกระพริบตาและพูดว่า “ชายคนนี้ป่วยหรือเปล่า? บอกว่าจะรอฉันอยู่ที่นั่น คิดว่าฉันจะไปหรือไง?”

หลังจากผ่านไปสักพัก หลิงเซียวก็เห็นว่าทุกคนเงียบ เขาจึงหันหน้าไปถามว่า “ทำไมไม่พูดอะไรกันเลย? “

ซูเหยากลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “หลิงเซียวจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งกำเนิดของคุณคือระดับอะไร “

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ยังไงมันก็น่าจะแข็งแกร่งอยู่แล้ว ” หลิงเซียว กล่าวอย่างไม่แยแส

ทุกคนพูดไม่ออก เห็นได้ชัดว่าเป็นคำถามที่สำคัญมากสำหรับนักรบจิตวิญญาณคนอื่นๆ แต่ตัดมาที่หลิงเซียว ทำไมเขาจึงไม่จริงจังกับมันเลย?

จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินหลิงเซียวพูดช้าๆว่า “ฟังจากที่คนของกองกำลังดาบที่แหลมคมพูดแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะเป็นจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งกำเนิดระดับกลาง”

พั๊ฟ!

ความไม่เข้าใจของหลิงเซียวคือกริชอันแหลมคมที่แทงทะลุหัวใจของทุกคน

ให้ตายเถอะ! ฉันผิดเอง! ฉันไม่ควรถาม!

จากนั้นทุกคนจากเมืองหนานเฉิงก็รีบไปที่โรงแรมที่จองไว้ในทันที

ทันทีที่หลิงเซียววางของเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตู

ก๊อกๆ!

หลิงเซียวเปิดประตูและเห็นว่าเป็นซูเหยาและจางรุ่ยที่ยืนอยู่ข้างนอก

“หลิงเซียวฉันอยากจะเชิญคุณไปทานอาหารค่ำ เพื่อขอบคุณที่ช่วยฉัน” ซูเหยากล่าวพร้อมกับหน้าที่แดงก่ำ

ดูเหมือนว่าเป็นเพราะจูบก่อนหน้านี้ของหลิงเซียวเธอจึงหน้าแดงอย่างง่ายดายโดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าหลิงเซียว

“กินข้าว เธอแน่ใจน่ะ?” หลิงเซียวถาม

ซูเหยาพยักหน้า“ แน่นอนถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันคงจะรำคาญหวังหนิงไปอีกนาน แล้วเราก็จะใช้โอกาสนี้บอกคุณเกี่ยวกับสถานการณ์ของที่นี่ด้วย”

หลิงเซียวพยักหน้า จากนั้นทั้งสามคนก็ออกไปกินข้าวด้วยกัน

ในไม่ช้าซูเหยาก็รู้ว่าทำไมหลิงเซียวถึงได้ถามก่อนหน้านี้ว่าเธอแน่ใจไหม

หลิงเซียวกินมากเป็นสองเท่าของซูเหยาและจางรุ่ยรวมกันสะอีก

ความอยากอาหารอย่างมากนี้ทำให้ ซูเหยา ตะลึง

ระหว่างรับประทานอาหารหลิงเซียวยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับหวังหนิง

หวังหนิงเป็นชาวเมืองเทียนฉวน เขามาจากตระกูลที่ร่ำรวย และเขาก็เป็นนักรบจิตวิญญานระดับต้นๆ และในไม่ช้าเขาควรจะก้าวเข้าสู่นักรบจิตวิญญาณระดับสอง

แม้แต่ในเมืองหลวงของมณฑลอย่างเทียนฉวน ตระกูลของหวัง ก็ถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆ

โดโจศิลปะการต่อสู้เทียนฉวน เป็นหนึ่งในโดโจศิลปะการต่อสู้ที่ดีที่สุดในเมืองเทียนฉวน และมันยังเป็นสมบัติของตระกูลหวัง อีกด้วย

หลิงเซียวเข้าใจว่าซูเหยาจะสื่อถึงอะไรหลังจากที่ได้ฟัง

“ดูเหมือนว่าคุณไม่ต้องการให้ฉันมีความขัดแย้งกับหวังหนิง” หลิงเซียวกล่าว

ซูเหยาพยักหน้าหลิงเซียววางซ้อนลงบนโต๊ะอาหารแล้วพูดว่า “งั้นไปกันเถอะ”

“จะไปไหน” ซูเหยาถาม

หลิงเซียวกล่าวว่า “โดโจศิลปะการต่อสู้เทียนฉวน!”