บทที่ 32 เข้าไปในภูเขาเพื่อหาผักป่า
ชั่วเฟิง เก็บมีดสั้นและมองไปที่ มู่เฟิง ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจและคลั่งไคล้
อุปกรณ์ระดับทองก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินพ่อของเขาเคยพูดไว้แต่ไม่เคยเห็นมาก่อน เขาไม่คาดคิดว่าในตอนนี้จะมีอาวุธระดับทองแถมยังเป็นอาวุธระดับทองที่เป็นของเขาอีกด้วย
“มู่เฟิง!” ซิ่วเฟิง กำมีดแน่น
“พูดมาสิเจ้าจะเข้าไปหาอะไรในป่าด้วย อาวุธระดับทองนี้ ข้าจะลองดูว่าข้าสามารถฆ่า สัตว์ร้ายบทภูเขาได้หรือไม่”
“อย่า!” มู่เฟิง โบกมือ “ข้าไม่ได้ให้เจ้าไปเสี่ยงชีวิต!”
“แล้วให้ทำอะไรล่ะ?”
“เมื่อครู่ข้าบอกไปแล้วว่าข้าอยากขึ้นไปบนภูเขาเพื่อหาอาหารที่กินได้หลากหลายชนิด เช่นนี้ต่อไปเผ่าของเราจะได้กินมากขึ้น ท่านพ่อของเจ้าและคนอื่นๆก็จะไม่ลำบากขนาดนั้นแล้ว!”
ชั่วเฟิง ตาเป็นประกาย “จริงหรอ?”
“แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง! ข้ารู้ว่าเจ้าเหมือนกับลุง หมิงกวง เจ้าคุ้นเคยกับป่าบนภูเขามากดังนั้นข้าเลยจะขอให้เจ้านำทางข้า!”
“ได้ แล้วจะออกเดินทางเมื่อไหร่?” ชั่วเฟิง ยิ้มกว้าง
“ตอนบ่าย เจ้ากลับไปเตรียมตัวก่อนเถอะ!”
“ตกลง!”
ในตอนบ่ายดวงอาทิตย์กำลังร้อน มู่เฟิง ยืนรอ ชั่วเฟิง เขาสะพายตะกร้าเล็กๆที่ทำมาจากหวาย และเชือกเอ็น และพลั่วอันใหม่ที่ต้องใช้คะแนนถึง 200 คะแนน
จะบอกว่ามันเป็นพลั่วพี่แตกต่างจากตอนเอาไปขุดบ่อก็เพราะว่ามันเป็นพลั่วทหาร ด้านหนึ่งมีฟันเลื่อยด้านหนึ่งคมกริบสามารถแทง ขุด และเลื่อย
ในขณะที่ชั่วเฟิง เตรียมอุปกรณ์ เชือกเย็น หอกไม้ไผ่ มีดสั้น กระบอง และอื่นๆอีกมากมาย
ทั้งสองเดินทางไปด้วยกันสิ่งที่นำติดตัวมาแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
มู่เฟิง ต้องการหาอะไรสักอย่าง เห็นได้ชัดว่า ซัวเฟิง เดินอย่างกับวิ่ง มันทำให้ มู่เฟิง พูดไม่ออก พยายามยิ้มและพูดว่า
“เรากำลังไปหาพืชเครื่องเทศ ไม่ใช่การล่าสัตว์!”
ชั่วเฟิง รีบอธิบาย “ในป่ามีสัตว์ร้ายมากมาย พวกเราควรที่จะเตรียมตัวป้องกันอันตรายอยู่ตลอดเวลา”
มู่เฟิง หัวเราะและกล่าวว่า “เอาล่ะพวกเราไม่ได้ไปไกลเสียหน่อย เพียงแค่ค้นหามันที่ภูเขาตะวันออก”
“เข้าใจแล้ว!” ชั่วเฟิงพยักหน้า “ข้าคุ้นเคยกับภูเขาตะวันออก!”
จากนั้นทั้งสองก็มุ่งไปยังภูเขาตะวันออก เนื่องจากเส้นทางของพวกเขาค่อนข้างกว้างดังนั้นการเดินทางจึงค่อนข้างปลอดภัย บางครั้งก็พบไก่ที่หลงฝูงมา 2-3 ตัว แต่เมื่อพวกมันเห็นชายหนุ่มทั้งสองคนมันไม่คิดจะหนีแม้แต่น้อย ดังนั้น ชั่วเฟิง จึงพยายามแทงมันด้วยหอกไม่ไผ่ พวกมันกระพือปีกวิ่งหนีไปแต่เพียงไม่นานก็วิ่งกลับมาจุดเดิม
“ความโง่เขลา”ของสัตว์ป่าในสมัยดึกดำบรรพ์สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ถึงกระนั้น ชั่วเฟิงก็ยังจับไก่ ไม่ได้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะระบายอารมณ์
“ทำไมเจ้าถึงสามารถจับมังกรขนดอกได้มากขนาดนั้นในขณะที่ข้าจับไม่ได้เลย!”
“ง่ายมาก!” มู่เฟิง ยิ้ม แล้วหยิบเศษปลาชิ้นนึ่งออกมาจากถุงหนังสัตว์ เขาหยิบใบไม้ออกมาทำชามเล็กๆ และโยนเนื้อปลาลงไป ผลที่เห็นได้ชัดก็คือกลิ่นคาวของปลาดึงดูดไก่เข้ามาและจิกกินลงบนชามใบไม้ สุดท้ายมันก็ออกอาการหมุนไปรอบๆและพยายามดึงหัวออกมาจากชามใบไม้
ชั่วเฟิง ตกตะลึงทำหน้าเหมือนเห็นผี เขากลืนน้ำลายอีกหนึ่ง
“เจ้าร่ายคาถาอะไร?”
มู่เฟิง สายหัวและอธิบายให้เขาฟังอย่างอดทน ชั่วเฟิง ฟังแล้วเข้าใจเพียงครึ่งครึ่งกลางๆแต่สายตาที่มองมายัง มู่เฟิง นั้นดูหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า พ่อพูดกับเขาว่า “ตอนนี้ มู่เฟิง เป็นหัวหน้าเผ่า การพูดและทำอะไรจะต้องให้ความเคารพเขา เขาจะช่วยเผ่าพันธุ์และช่วยเจ้าแข็งแกร่งขึ้น!”
“หัวหน้าเผ่า!” ชั่วเฟิง รู้สึกหวาดกลัวและตื่นเต้นเล็กน้อย
“ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วว่าจับมันได้อย่างไร!”พูดจบเขาก็อดใจรอไม่ไหวที่จะก้าวเดินไปหาไก่แล้วแทงด้วยหอกไม้ไผ่จากนั้นใช้เชือกเอ็นผูกไว้กับหอกไม้ไผ่
มู่เฟิง รู้สึกจนปัญญาเขาออกมาหาผักป่าและเครื่องเทศคิดไม่ถึงว่าหาของพวกนั้นไม่เจอแต่ทาง ชั่วเฟิง กับได้ “เปิด” กับไก่ 1 ตัวแล้ว
“พวกเรามาหาสิ่งที่กินได้กันเถอะ!” มู่เฟิง เดือน
“แต่ไก่นี่ก็กินได้นะ!” ชั่วเฟิง ยิ้ม
“มันเดินวนไปวนมารอบตัวของเราเอง ถ้าไม่เอามันไปก็เสียของเปล่า!”
“ก็ได้!” มู่เพิ่งพยักหน้า
“ต่อไปหยุดล่าสัตว์ได้แล้วพวกเรากำลังมองหาพืช!”
“ตกลง!” ซิ่วเฟิง พยักหน้า ก้มหน้ามองซ้ายมองขวาอย่างจริงจังในที่สุดพวกเขาก็มาถึงตีนเขาตะวันออกในฤดูใบไม้ผลิมพืชสีเขียวจำนวนมากเต็มภูเขา พืชและต้นไม้จำนวนมากที่ มู่เฟิง ไม่รู้จัก มีเพียงแต่สอบถามจากระบบอย่างต่อเนื่อง
ไม่นาน มู่เฟิง ก็พบผักป่าชิ้นเล็กๆ
การค้นพบผักป่านี้ให้ มู่เฟิง กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
“ผักชีฝรั่ง!”
มู่เฟิง ตะโกนด้วยความประหลาดใจ ผักชีฝรั่งที่อยู่ตรงหน้าเขามีลักษณะคล้ายกับผักชีฝรั่งสมัยใหม่
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ผักชีฝรั่งป่ามีขนาดเล็กกว่านิดหน่อย แต่รสชาติของมันไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับผักชีฝรั่งที่ปลูกในโรงเรือนที่ทันสมัย
ผักชีฝรั่งถ้านำไปล้างให้สะอาดต้มน้ำหนึ่งน้ำโรยเกลือแล้วใส่กระเทียมบดรสชาติหาทานได้น้อย ถ้าเติมน้ำส้มสายชูและน้ำมันงาลงไปกลิ่นของมันจะไร้ที่สิ้นสุด!
นอกจากนี้ยังมีเกี๊ยวหมูและผักกาดหอมรสชาติไม่ต้องพูดถึง แน่นอนว่าผักชีฝรั่งสามารถตัดได้และยังต้มซุปได้รสชาติไม่เลว
ม่เฟิง มองไปที่ผักชีฝรั่งตรงหน้า เมื่อคิดถึงความอร่อยของการกินผักชีฝรั่งในชีวิตก่อนเขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอ
“หัวหน้าเผ่า?” ชั่วเฟิงไม่เข้าใจ
“เจ้าเห็นหญ้าแล้วน้ำลายไหลทำไม?”
“เจ้าไม่เข้าใจ พวกเราพบผักป่าที่สามารถกินได้แล้ว!”
“ผักป่า?” ชั่วเฟิง รูปท้ายทอยแล้วพูดอย่างไม่เข้าใจ
“กินหญ้าต้นนี้นะหรอ? ข้าลองกินมันได้ไหม?”
“ได้! ในอนาคตเจ้าจะชอบมันอย่างแน่นอน!”