ตอนที่ 1339 สมบัติของสุสานจักรพรรดิ (1)
ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เหมือนจริงถูกแกะสลักลงบนผนังหินโดยรอบ เทคนิคที่ประณีตและล้ำเลิศทำให้ตัวละครที่ปรากฏบนนั้นดูเหมือนมีชีวิตขึ้นมา จวินอู๋เสียมองสิ่งที่สลักไว้ผนังหินภายใต้แสงสลัว กำแพงตั้งแต่ต้นจนจบเต็มไปด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง แทนที่จะบอกว่ามันเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง อาจกล่าวได้ว่าพวกมันเป็นเหมือนบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตจะตรงกว่า
บนผนังที่อยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย มีชายคนหนึ่งสวมหน้ากากถูกแกะสลักเอาไว้ หน้ากากของชายคนนี้งดงามเป็นพิเศษ เขายืนอยู่ที่จุดสูงสุดของทุกคน ร่างสูงตรง มือไขว้ไว้ด้านหลัง เผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายตัวขนาดมหึมา สัตว์ยักษ์นั้นจมอยู่ใต้น้ำครึ่งหนึ่ง หนวดของมันโบกอย่างร้ายกาจ ดูเหมือนมันจะกระโดดออกมาจากภาพได้ทุกเมื่อ
“นี่คือจักรพรรดิแห่งความมืด” จวินอู๋เสียพูดขณะมองดูชายสวมหน้ากาก จากตำแหน่งที่เขายืนในภาพ เขาถูกทุกคนล้อมรอบเอาไว้ จึงเดาตัวตนของเขาได้ง่ายมาก
ยิ่งรวมกับความจริงที่ว่าตอนนี้นางอยู่ในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด นางจะนึกถึงคนอื่นไปได้ยังไง
สำหรับสัตว์อสูรตัวยักษ์นั้น ก็ไม่ใช่ว่าจวินอู๋เสียจะไม่เคยเห็น นั่นคือ “ปลาหมึกยักษ์” ที่พวกเขาเจอในทะเลสาบระหว่างทางมาที่นี่นั่นเอง
บนภาพจิตรกรรมฝาผนังนี้ มันน่าจะเป็นภาพตอนที่จักรพรรดิแห่งความมืดปราบ “ปลาหมึกยักษ์” ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่แกะสลักเรียงรายไปตามกำแพงนี้ ทุกภาพดูเหมือนจะบอกเล่าเรื่องราว ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดคาด ภาพแกะสลักบนผนังทั้งหมดก็น่าจะเป็นการสรรเสริญชีวิตที่รุ่งโรจน์ของจักรพรรดิแห่งความมืด
แต่สิ่งที่จวินอู๋เสียกำลังมองไม่ใช่จุดเริ่มต้นหรือจุดจบ
บนภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้น ชายลึกลับสวมหน้ากากคือจักรพรรดิแห่งความมืดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ในทุกๆภาพแกะสลัก เขามักจะยืนอยู่คนเดียวเหนือผู้อื่นเสมอ ไม่รู้ว่าผู้คนจากราชอาณาจักรแห่งความมืดจงใจยกย่องหรือเปล่า แต่ในภาพพวกนั้น ดูเหมือนจักรพรรดิแห่งความมืดจะมีอำนาจไร้ที่สิ้นสุดราวกับพระเจ้า
ปราบสัตว์ประหลาด, เอาชนะกองทัพทั้งหมด, ครองอำนาจเหนืออาณาจักรกลาง
แค่ดูภาพไม่กี่ภาพก็บอกถึงความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิแห่งความมืดได้แล้ว เขาดูไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริง
“นี่คือจักรพรรดิแห่งความมืดเหรอ? ทำไมเขาต้องสวมหน้ากากด้วยล่ะ?” เจ้าแมวดำถามอย่างงุนงงพลางแกว่งหางไปมาอย่างเกียจคร้าน ตอนที่พวกเฉียวฉู่พูดถึงจักรพรรดิแห่งความมืด ก็ไม่ได้พูดเรื่องที่จักรพรรดิแห่งความมืดสวมหน้ากากเลย
“เป็นเพราะเขาน่าเกลียดล่ะมั้ง?” เจ้าแมวดำคิด
จวินอู๋เสียส่ายหน้าขณะเดินไปยืนหน้าภาพแกะสลักอีกภาพ มองดูหน้ากากหรูหรางดงามที่สวมอยู่บนหน้าของจักรพรรดิแห่งความมืด
“การออกแบบบนหน้ากากพิเศษมาก ข้าเคยเห็นมันมาก่อน เจ้ายังจำตอนที่เราทดลองใช้คาถาผ่านอักษรรูนได้ไหม? พวกมันบางอันข้ายังไม่แน่ใจความหมาย ที่อยู่บนหน้ากากนั่นสลักอักษรรูนที่ข้าไม่เข้าใจเอาไว้” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับเอามือลูบคาถาอักษรรูนที่ซ่อนอยู่ในภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้นอย่างระมัดระวัง
นางไม่คิดว่าชายที่แข็งแกร่งขนาดทำให้ทั้งอาณาจักรกลางยอมสยบต่อเขาได้จะต้องสวมหน้ากากเพราะใบหน้าของเขา ความจริงหน้ากากดูเหมือนถูกเพิ่มเข้ามาโดยช่างฝีมือของราชอาณาจักรแห่งความมืดหลังจากที่จักรพรรดิแห่งความมืดเสียชีวิตแล้ว
ด้วยอำนาจที่ไม่มีใครเทียบได้ของจักรพรรดิแห่งความมืดและตำแหน่งที่สูงส่งในราชอาณาจักรแห่งความมืดของเขา คนในราชอาณาจักรแห่งความมืดจึงไม่กล้าแกะสลักใบหน้าของจักรพรรดิแห่งความมืด นี่จึงเป็นทางเดียวที่พวกเขาจะทำได้เนื่องจากพวกเขาไม่กล้าลบหลู่จักรพรรดิแห่งความมืดด้วยการบรรยายรูปลักษณ์ของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มหน้ากากเข้าไป และอักษรรูนที่สลักไว้บนหน้ากากก็น่าจะมีความหมายพิเศษบางอย่าง
จวินอู๋เสียมองยังคงมองดูภาพจิตรกรรมฝาผนังต่อไป ถ้าเรื่องราวทั้งหมดที่สลักไว้เป็นเรื่องจริง ชายผู้ที่เคยครองอำนาจเหนืออาณาจักรกลางทั้งหมดก็มีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือกว่าอะไรทั้งหมดที่พวกเขาเคยรู้จัก
ในแสงไฟสลัวนั้น มีภาพแกะสลักอยู่เต็มทุกฝาผนัง ในขณะที่จวินอู๋เสียเดินไปตามทางเดินเรื่อยๆเพื่อหาทางออก นางก็มองภาพแกะสลักหินทั้งหมดไปด้วย