บทที่ 44: เรื่องใหญ่อะไรอย่างนี้!

ณ ห้องทำงานของประธานบริษัทกุชชี่ประจำภูมิภาคแปซิฟิก

ประธานสาวสวยเย่หวานโหรววางงานของเธอลงและเอนกายลงบนเก้าอี้หมุน

ดวงตาที่เยือกเย็นและเย่อหยิ่งดูเหมือนจะไม่มีสมาธิ ดวงตาสีเข้มลึกเต็มไปด้วยความสงบ ผมสีดำยาวประปรายรอบหู และต่างหูเพชรที่หูของเธอส่องแสงประกายสีฟ้าออกมา

ใบหน้าที่สวยงามและหยิ่งผยองต้องทำให้ผู้คนประหลาดใจอย่างลับๆ

เลขาของเธอกลับมาแล้ว

เย่หวานโหรวถามออกมา “ว่ายังไงบ้าง? คุณเจียงพอใจกับการออกแบบของโรเบิร์ตไหม?”

เลขายิ้มออกมา “ประธานเย่มันเป็นแบบนี้ค่ะ ท่าประธานเจียงบอกว่าชุดเครื่องแบบคนส่งพัสดุโอเคดีค่ะ แต่หมวกที่โรเบิร์ตออกแบบมาพ่ายแพ้อย่างน่าสมเพชเลยค่ะ~”

เมื่อเห็นว่ามีอะไรบางอย่างจากคำพูดของเลขา เย่หวานโหรวก็อดสงสัยไม่ได้

“มีอะไรจะพูดก็รีบพูดออกมา ปัญหามันอยู่ตรงไหน”

เลขากล่าวออกมาอย่างชื่นชม: “ไม่เพียงแต่ท่าประธานเจียงไม่ยอมรับการออกแบบที่ทางเราส่งไป เขายังออกแบบเองแล้วส่งกลับมาด้วย ฉินลองดูมาแล้วมันดูดีมากค่ะ! แนวคิดนี้ก็ดีมาก ไม่แพ้ระดับปรมาจารย์เลย!”

ประธานเจียงคนนี้มีความสามารถด้านการออกแบบ?

และระดับของเขายังสูงมากด้วย?

เขากำลังทำอะไรกันแน่!

เย่ว่านโหรวอดไม่ได้ที่จะสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับประธานเจียงคนนี้ ที่เธอไม่เคยพบมาก่อน และความชื่นชมเล็กๆน้อยๆก็ทำให้เกิดประกายส่องออกมาจากในดวงตาที่สวยงามของเธอ

“ติดต่อประธานเจียงให้ฉันหน่อย”

เลขาที่ได้ยินก็ทำการโทรศัพท์ไปหาเจียงเฉินทันที

“สวัสดีค่ะ ท่านประธานเจียง ท่านประธานของพวกเราอยากจะคุยกับคุณค่ะเธอสงสัยว่าคุณทำธุรกิจอะไรทำไมถึงได้ออกแบบได้เก่งขนาดนี้น่ะค่ะ?”

เจียงเฉิน “ไม่ใช่ว่าผมบอกไปแล้วหรอว่าผมเป็นคนส่งพัสดุ”

เลขา “ท่านประธานฝากถามมาค่ะว่าถ้าท่านไม่ทำงานส่งพัสดุแล้วก็อยากให้มาทำงานที่บริษัทแม่ที่นี่ค่ะ ฉันขอแอบบอกให้เลยนะคะว่าท่านประธานของเราน่ะสวยมากๆเลยนะคะ~”

เย่หวานโหรวจ้องไปที่เลขาสาวและโบกมือเพื่อบอกไม่ให้เธอพูดเล่นตามใจตัวเอง

เจียงเฉิน “ทำไมประธานของคุณถึงโง่แบบนี้ จะคุยกับผมต้องฝากคุณพูดอย่างเดียวรึยังไง”

เลขา “จะเป็นไปได้ยังไงกันคะ ประธานของพวกเราก็เป็นคนปกตินี่แหละค่ะ!”

เจียงเฉิน “งั้นก็ให้เธอพูดกับผมด้วยตัวเอง”

เย่ว่านโหรวมองเลขาเลขา จากนั้นรับโทรศัพท์และไอออกมา

“สวัสดี ฉันเอง ฉันชื่อ เยว่ว่านโหรว พูดตรงๆก็คือเพื่อนร่วมงานของคุณ”

เสียงของเธอเย็นชา แต่ก็ฟังดูน่าดึงดูด

เจียงเฉิน: “เสียงก็ฟังดูดีนะ”

เย่หวานโหรวยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว เธอได้รับคำชมและมันก็ทำให้เธอมีความสุขไม่น้อย

เย่ว่านโหรวยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “สิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไป คุณยังไม่ได้ตอบฉันเลย”

เจียงเฉินยิ้มเยาะ “คุณอยากให้ผมไปขนาดนี้ไม่ใช่ว่าคุณชอบผมแล้วหรอ?”

“เป็นไปไม่ได้!”

หลังจากพูดจบ เย่ว่านโหรวก็คืนโทรศัพท์ให้เลขาฯ และก็มีก้อนเมฆสีแดงสองก้อนก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นที่แก้มของเธอ

เลขาที่รับโทรศัพท์มาก็พูดกับเจียงเฉินสองสามคำ และวางสาย

เลขาพูดอย่างโกรธเคือง “คุณเจียงบอกว่าเขาล้อเล่น เพราะฉะนั้นท่านประธานก็ไม่ต้องโกรธนะคะ และเขายังบอกด้วยว่าเขาเลือกที่จะอยู่ที่จีนเพื่อส่งพัสดุต่อไปก่อนดีกว่า”

“โอ้”

ใบหน้าของเย่หวานโหรวก็ปรากฏความผิดหวังออกมาเล็กน้อยแม้ว่าภายนอกเธอจะดูสงบก็ตาม

แต่เลขาที่คอยสังเกตุมาโดยตลอดก็สังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อมองไปที่เย่ว่านโหรวก็พบกับใบหน้าที่แสดงความขุ่นเคืองเล็กน้อย เลขาก็แสดงรอยยิ้มที่น่าสนใจ

ประธานเย่แสดงหน้าตาแบบนี้ หายากมาก~

……

……

หึ่ง~

เมื่อเจียงเฉินวางโทรศัพท์ไปก็มีสายเข้ามาอีกครั้ง

หลังจากที่มองดูก็พบว่าคนที่โทรมาคือ หลี่หมิงฮุ่ย เพื่อนร่วมชั้นสมัยม.ปลายของเขา

“หมิงฮุ่ย นานแล้วนะที่ไม่ได้เจอกันเลย คิดถึงสมัยตอนเรียนรึเปล่า มาเจอกันหน่อนไหม?”

เจียงเฉินถามด้วยรอยยิ้ม

พี่น้องที่ดีจริงๆ มักจะเป็นคนที่ไม่ได้ติดต่อกันมาหลายปีแต่ก็สามารถติดต่อกันด้วยการโทรเพียงสายเดียว

แต่ครู่ต่อมา การแสดงออกของเจียงเฉินก็หยุดนิ่ง

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เสียงของหลี่หมิงฮุ่ยรีบร้อนมาก “พี่เฉิน มีบางอย่างผิดปกติ ครูหยางมีบางอย่างผิดปกติ”

เจียงเฉินตระหนักว่าสถานการณ์ตึงเครียดและถามอย่างรวดเร็ว: “เกิดอะไรขึ้น?”

“ครูหยางถูกจับข้อหาฆาตกรรม!”

“อะไรนะ!”

เจียงเฉินลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ

“มันเกิดขึ้นได้ยังไง ครูดีๆแบบครูหยางจะถูกสงสัยว่าเป็นฆาตกรโดยเจตนาได้ยังไงกัน?”

หลี่หมิงฮุ่ยถอนหายใจก่อนจะพูดออกมา “มันไม่ใช่การฆ่าโดยเจตนาน่ะสิ แต่เอาจริงๆ สถานการณ์ในตอนนี้มันร้ายแรงมาก เพราะอย่างน้อยแล้วยังไงก็ต้องถูกตัดสินว่ากระทำความผิดฐานฆาตกรรมแน่ๆ และครูหยางอาจจะต้องติดคุกเป็นเวลา 6 ปีตอนนี้ครูหยางก็ถูกขังไว้ที่เรือนจำเหลียนเฉิงแล้ว พวกเราอาจจะไม่ได้เจอครูหยางอีกแล้ว”

เจียงเฉินตกใจ

เมื่อนึกย้อนไปในสมัยมัธยมปลาย เพราะบ้านของเขานั้นอยู่ไกลแถมยังยากจน เขาก็มักทานอาหารกลางวันกับครูหยางเสมอ

เขาจำใบหน้าที่น่ารักของครอบครัวของครูหยางได้อย่างชัดเจน

ครูหยางหยิบผักขึ้นมาและบอกเขาอย่างอบอุ่นว่า “นายกำลังโตเพราะฉะนั้นกินเยอะๆนะ”

นอกจากนี้ยังมีลูกสาวที่อายุน้อยกว่าเขาแปดปี ซึ่งมักจะโอบแขนของเขาและขอให้พาเธอไปเที่ยวเล่นข้างนอกเสมอๆ

ในช่วงเวลาไม่กี่ปีมานี้ครูหยางก็คอยทุ่มเทเพื่อให้ความรู้แก่ผู้คนมาตลอด แม้ตอนแรกๆเขาจะยังไม่ได้เก่งมากก็ตาม แต่ถ้าเขาต้องมาติดคุกถึง 6 ปีมันก็ทำให้เจียงเฉินเริ่มกลัวจุดจบในชีวิตแทนเธอแล้ว

“ฉันไม่เชื่อว่าครูหยางจะฆ่าคน ต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ๆ หมิงฮุ่ยนายอยู่ที่ไหน เราจะกลับไปหาครูหยางกัน”

“ฉันอยู่ที่อาคารกลาง 128 ถนนซีหยาง เขตหลงเฉิง”

“ได้ เดี๋ยวฉันขับรถไปรับ”

……

ในแชทกลุ่มชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

หลี่หมิงฮุ่ยส่งข้อความ

“เจียงเฉินกับฉันจะรีบกลับจากหลงเฉิงแล้ว เร็วสุดน่าจะถึงภายในหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ”

“หมิงฮุ่ย นายกับเจียงเฉินต่างก็ทำงานที่หลงเฉิงหรอ ไม่เลวเลย”

“เจียงเฉินก็มาที่นี่ด้วยหรอ แต่รีบหน่อยนะไม่อย่างนั้นก็จะสายเกินไปแล้ว”

“ว้าว! เจียงเฉินรูปหล่อ เขาจะกลับมาวันนี้จริงๆหรอ”

“ยังมีจิตสำนึกอยู่ไหม ครูของพวกเรากำลังจะติดคุก ยังจะมาสนว่าหล่อหรือไม่หล่ออยู่อีกหรอ?”

“ทำไมเธอดุจัง ก็ฉันช่วยอะไรอาจารย์หยางไม่ได้ซักอย่าง”

ในกลุ่มก็มีการกระทบกระทั่งเล็กๆเกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นก็มีคนออกมาหยุดไว้

เขาคนนั้นคือเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของเจียงเฉิน หลีปู่ฟาน

“หยุดเถียงกันได้แล้ว ฉันจะจัดการเอง พ่อของฉันมีธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีมานี้ และเขาได้พบกับคนจากเหลียนเฉิงมาไม่น้อย เส้นสายเยอะพอสมควร การช่วยเหลืออาจารย์หยางไม่มีปัญหาหรอก!”

ช็อกทั้งกลุ่ม!

“จริงเหรอ? ตอนนี้นายทำได้ขนาดนั้นเลยหรอ?”

“น่าทึ่งมาก ในที่สุดอาจารย์หยางของพวกเราก็รอดแล้ว!”

“พี่ฟาน สุดยอดมาก! เราทุกคนจะรอพี่อยู่ที่เรือนจำ”

ปากของหลี่ปู่ฟานยิ้มออกมาเล็กน้อย

เป็นเวลาสามสิบปี เป็นเวลาสามสิบปีที่ฉันต้องเสียหน้าเพราะแกมาโดยตลอด!

ฉันคิดว่าหลี่ปู่ฟานในตอนแรกเป็นเพียงคนที่ไม่มีใครรู้จัก แต่ก็ไม่คาดคิดว่าธุรกิจของพ่อฉันในปีนี้จะราบรื่นได้ขนาดนี้ ตอนนี้เขานั้นมีชื่อเสียงในเขตเหลียงเฉินไม่น้อยเลย!

เจียงเฉินแม้ตอนที่แกจะอยู่ที่โรงเรียนจะเป็นที่สนใจ แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว!

มันได้เวลาล้างบัญชีแค้นแล้ว!

“ถ้าฟ้าไม่ให้กำเนิดฉัน หลี่ปู่ฟาน ฉันก็จะต้องถูกบังคับให้อยู่ภายใต้ค่ำคืนอันยาวนานตลอดไป!”

…..