บทที่ 424 กวาดล้างอย่างง่ายดาย
บทที่ 424 กวาดล้างอย่างง่ายดาย
“รนหาที่ตายชัด ๆ! กล้าดียังไงถึงมาอาละวาดที่สำนักเมฆาเขียวของพวกเรา!”
ศิษย์สองคนที่ถูกซัดจนหมอบก่อนหน้านี้มีสีหน้าหยิ่งยโส หลังจากถูกพวกพ้องเข้ามายืนล้อม
ถึงการฝึกตนจะอยู่ในขั้นต้น แต่พวกเขากลับมีผู้คนมากมายหนุนหลังอยู่
ขณะเดียวกัน เหล่าศิษย์กว่าสิบคนต่างกวัดแกว่งกระบี่ในมือทีละคน!
พลังภายในแผ่ซ่านออกมา กระบี่แต่ละเล่มที่พวกเขาถือสามารถตัดทองคำและหินได้อย่างง่ายดาย!
ชายวัยกลางคนที่เป็นผู้นำกลับยืนอยู่เฉย ๆ ขณะเขามองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย้ยหยัน
“กล้าบุกรุกสำนักเมฆาเขียวของพวกเรา แกสมควรตาย!”
ในสายตาของเขา ชายหนุ่มนิสัยเลวทรามคนนั้นสมควรตายแล้ว
พลังวิญญาณไหลเวียนทั่วร่างกายของอวี้ฮ่าวหราน เขามองอีกฝ่ายด้วยสายตาดูถูก!
“ฮึ่ม! ก็แค่มดแมลง! กล้าดียังไงถึงหยิ่งผยองขนาดนี้!”
หลังจากสูดอากาศเย็นเข้าปอด เขาก็สะบัดมือกลางอากาศอย่างรวดเร็ว!
พลังวิญญาณอันแข็งแกร่งของผู้บรรลุขอบเขตรากฐานขั้นสูงสุดหลั่งไหลออกมาราวกับกระแสน้ำ ก่อนพัดพาศัตรูออกไปทันที!
“อะไรน่ะ!”
“ไม่นะ!”
“พระเจ้าช่วย…”
หลังจากสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัว จู่ ๆ กลุ่มศิษย์ที่บรรลุขอบเขตพลังภายในก็อุทานด้วยความตกใจ!
แกร๊ก! แกร๊ก…!
พลังวิญญาณแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ!
เมื่อกระบี่ปะทะเข้ากับพลังวิญญาณมหาศาล พวกมันจึงแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ราวกับแก้ว!
ตึง! ตึง! ตึง!
เมื่อกระบี่แตกหัก พลังภายในที่น่าสมเพชถูกพลังวิญญาณกลืนกินจนหมด ศิษย์ของสำนักกว่าสิบคนถูกพลังวิญญาณพุ่งเข้าหาจนกระเด็นลอยอยู่ในอากาศ
ภายใต้อำนาจของพลังวิญญาณ พวกศิษย์ก็ลอยอยู่ในอากาศก่อนร่วงกระแทกพื้นอย่างแรงจนกระอักเลือด!
แค่อวี้ฮ่าวหรานสะบัดมือหนึ่งครั้ง พลังวิญญาณหลายสายก็พุ่งเข้าใส่เหล่าศิษย์ที่อยู่รอบ ๆ!
คนเฝ้าประตูที่นอนอยู่บนพื้นตกตะลึงอย่างมาก ดวงตาของเขาเบิกกว้างจนถลนออกมาอยู่แล้ว
“นี่…นี่เป็นไปได้ยังไง! น่ากลัวเกินไปแล้ว!”
เขาอดอุทานออกมาไม่ได้ จนกระทั่งตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าผู้ชายคนนี้น่ากลัวขนาดไหน!
“แกบรรลุขอบเขตก่อรากฐานแล้วจริงเหรอ?”
ชายวัยกลางคนสามารถปัดป้องพลังวิญญาณได้อย่างทันท่วงที แต่ใบหน้าของเขากลับอัดแน่นด้วยความตกใจ
“ก็แค่ขอบเขตก่อรากฐานขั้นต้น แกเป็นใครมาจากไหนล่ะ?”
ในที่สุดเขาก็หันมาสนใจชายหนุ่มข้างหน้า
โดยทั่วไปแล้ว การฝึกฝนต้องใช้ทรัพยากรอย่างมาก มันจึงเป็นการยากที่จะบรรลุขอบเขตก่อรากฐานโดยไม่มีสำนักเรียนคอยสนับสนุน
ท้ายที่สุดขอบเขตการก่อรากฐานก็เป็นประตูพลังที่แข็งแกร่งที่สุด และทุกครั้งที่ฝ่าด่านล้มเหลว เขาจะต้องใช้พลังวิญญาณจำนวนมากในการรักษาตัวเอง
เพียงแค่อาศัยความแข็งแกร่งและพละกำลัง ก็กลัวว่าจะต้องฝ่าฟันอีกหลายครั้ง
แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ปัญหาของอวี้ฮ่าวหรานเลย…
“สำนัก? ฉันไม่ได้สังกัดสำนักไหน ฉันแค่อยากพบเจ้าสำนักของพวกนายเท่านั้น”
เมื่อได้ยินคำถามของอีกฝ่าย เขาก็ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
นอกจากจะสอนบทเรียนให้อีกฝ่ายแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้คือเขาต้องเค้นถามให้ได้ว่าหลี่เม่ยอยู่ที่ไหน?
บางครั้งแม่ชีอาจแวะมาเยี่ยมเยือนสำนักโลกเร้นลับก็เป็นได้
“ฮ่า ๆ ล้อเล่นเหรอ! ในเมื่อไม่สังกัดสำนักไหน แถมยังบรรลุแค่ขอบเขตก่อรากฐานชั้นต้น แล้วแกทะลุเข้ามาในภูเขาของเราได้ยังไง?”
ชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าเยาะเย้ยเมื่อครู่เป็นคนพูด เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงชักกระบี่ยาวออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พลังวิญญาณจะแผ่กระจายไปทั่วกระบี่ทันที
“ในเมื่อไม่มีสำนักเรียน ถ้าแกบุกรุกเข้าไปข้างในประตู แกได้ชดใช้ราคาอย่างสาสมแน่!”
“ถ้าวันนี้ฉันบุกเข้าไปจะเกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
พลังวิญญาณของอวี้ฮ่าวหรานยังคงแผ่ออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
นับตั้งแต่กลับมา เขาต้องเข้าไปพัวพันกับทางโลกตลอดจึงไม่มีโอกาสต่อสู้เลย
วันนี้คือวันที่ดีที่สุด!
“ถ้าบุกเข้าไป แกตายแน่!”
ชายวัยกลางคนที่เป็นผู้นำคำรามเสียงดังลั่น ทันใดนั้นเขาก็พุ่งทะยานเข้าหาอีกฝ่ายอย่างวดเร็วราวกับสายฟ้า!
“ตลกดี เป็นแค่มดแมลงแต่กล้ามาชี้ดาบใส่ฉัน!”
อวี้ฮ่าวหรานรังเกียจสิ่งนี้มาก คู่ต่อสู้ที่เขาต้องการคือผู้ที่บรรลุรากฐานขั้นสูงสุดหรือขั้นสูง ไม่ใช่ขยะแบบนี้!
ทันใดนั้นเขาก็เบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว!
แค่พริบตาเขาก็เข้าใกล้คู่ต่อสู้กว่าสิบเมตร จากนั้นก็ซัดฝ่ามือเข้าใส่กระบี่!
“อะไรกัน!”
ชายวัยกลางคนสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวตรงหน้า จากนั้นก็พบว่าอีกฝ่ายเข้ามาประชิดตัวเขาแล้ว
ตูม!
อวี้ฮ่าวหรานซัดฝ่ามือออกไป ทำให้พลังวิญญาณและพลังวิญญาณกระบี่ปะทะกันอย่างจังจนเกิดลมกระโชกแรงทำลายล้างทุกสิ่งที่อยู่รอบ ๆ
ภายในรัศมีกว่าสิบเมตร วัชพืช ต้นไม้ และดอกไม้ ทั้งหมดถูกผลกระทบจนราบเป็นหน้ากลอง!
แกร๊ก!
ทันทีที่พลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ชายวัยกลางคนรู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“แก! แกไม่ได้บรรลุแค่ขอบเขตก่อรากฐานขั้นต้นใช่ไหม?”
เขาอุทานออกมาก่อนที่เศษกระบี่จะตกลงพื้นทั้งหมด!
“แค่ก ๆ!”
หลังจากลอยไปกระแทกประตูหิน เขาก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก!
เขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่ปั่นป่วนอยู่ในร่างกาย ชายวัยกลางคนจึงเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยสายตาสยดสยอง!
เพียงแค่ฝ่ามือเดียวก็ทำให้เขาสูญเสียพลังป้องกันทั้งหมด นี่มันสัตว์ประหลาดชนิดไหนกัน!
ความเงียบเข้าปกคลุมบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว! ศิษย์สำนักเมฆาเขียวหลายคนนอนเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นด้วยอาหารบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ไม่มีใครกล้าปากดีกับเขาแน่นอน!
สายลมเย็นบนภูเขาลอยโชยมาทำให้หญ้าและดอกไม้โอนไหวไปตามสายลม!
อวี้ฮ่าวหรานสาวเท้าเข้าไปใกล้ประตูหินอย่างช้า ๆ
ชายวัยกลางคนพยายามจะหยุดเขาเอาไว้ แต่กลับไม่มีพลังมากพอ
ความแข็งแกร่งของผู้ชายคนนี้น่ากลัวจริง ๆ!
ถึงอย่างนั้นบนยอดเขายังมีปรมาจารย์และผู้อาวุโสมากฝีมืออยู่หลายคน ดังนั้นเขาจึงไม่ตื่นตระหนกสักเท่าไหร่
“แค่ก ๆ ฉันยอมรับว่าแกแข็งแกร่งมาก แต่ฉันก็เป็นแค่ศิษย์สายตรง แกแน่ใจแล้วเหรอว่าจะบุกรุกสำนักเมฆาเขียว?”
“หืม? ชักจะน่าสนใจแล้วล่ะสิ”
อวี้ฮ่าวหรานเหลือบมองอีกฝ่ายแล้วหยุดเดิน
“ฉันไม่กลัวหรอก วันนี้ฉันจะไปทำเรื่องสนุก ๆ น่ะ”
ชายวัยกลางคนอดหัวเราะเยาะไม่ได้เมื่อได้ยินอย่างนั้น
“ฮ่า ๆ แกคิดว่าแกเป็นใคร? ฉันกลัวว่าแกจะไปรบกวนผู้อาวุโสสำนักเมฆาเขียวแล้วแกจะไม่มีชีวิตกลับมาต่างหาก!”
ทันทีที่เขาพูดจบ เงาร่างคนจำนวนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นหลังประตูหิน คนแรกเป็นชายชราอายุประมาณหกสิบปี
ชายวัยกลางคนทั้งสี่บรรลุขอบเขตสร้างรากฐานขั้นต้นแล้ว!
ส่วนชายชราบรรลุขอบเขตสร้างรากฐานขั้นกลางแล้ว!
“ผู้อาวุโสฮัว! ในที่สุดท่านก็มาช่วยพวกเราแล้ว ข้าทำได้แต่บอกให้ศิษย์ทั้งหลายตั้งรับ แต่ความแข็งแกร่งของข้าสู้มันไม่ได้”
เมื่อเห็นชายชรามาถึง ชายวัยกลางคนก็มีสีหน้าพึงพอใจทันที
“แกตายแน่! ผู้เฒ่าของสำนักเราเดินทางมาถึงแล้ว!”
“ฮึ่ม! เปล่าประโยชน์! พวกนายเอาชนะผู้ชายคนนี้ไม่ได้หรอก ต่อให้ฝึกตนอย่างหนักมานานหลายปีก็ตาม!”
ชายชราผู้ถูกเรียกว่าผู้อาวุโสฮัวดุลูกศิษย์เสียงแข็ง
“จริงด้วย…ศัตรูแข็งแกร่งเกินไป”
ชายวัยกลางคนพูดอย่างไม่เต็มใจ
“ผู้อาวุโสอย่าประมาท ผู้ชายคนนี้บรรลุขอบเขตก่อรากฐานขั้นกลางแล้วก็ขั้นต้น!”
ผู้อาวุโสฮัวมองอีกฝ่ายเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“ขอบเขตก่อรากฐานขั้นกลาง? แกคิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบเหรอ?”
เขาหันมองชายหนุ่มอายุยี่สิบต้น ๆ ที่กำลังมองเขากลับด้วยสายตารังเกียจ
“อายุแค่นี้เหมาะกับการฝึกฝนก่อรากฐานอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่ไม่รู้วันตายของตัวเอง!”
พูดจบเขาก็โยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้เหล่าศิษย์เตรียมพร้อม!
“ถ้าอย่างนั้นก็ตายที่นี่ซะ!”
ขณะที่เขาพูด ศิษย์ทั้งสี่คนที่บรรลุขอบเขตก่อรากฐานขั้นต้นก็ชักกระบี่ออกมา!
อวี้ฮ่าวหรานยังคงมีท่าทางสงบนิ่ง เขาสามารถเอาชนะคนทั้งสี่ด้วยฝ่ามือเดียว!
“ตูม!”
เมื่อพลังวิญญาณหลายสายพุ่งเข้าปะทะกัน เสียงระเบิดก็ดังกึกก้องไปทั่วเขาทันที ลมกระโชกแรงพัดมาจากทุกทิศทาง ต้นไม้ทุกต้นต้านกระแสลมไม่ไหวจึงหักโค่นลงมา!
ศิษย์ที่มีพลังภายในเหล่านั้น บ้างกระเด็นไปไกลแล้วตกลงกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บ บ้างก็ถูกสายลมพัดพาจนหายลับตาไป!
อีกด้านหนึ่งดูเหมือนว่าถนนในเขตอาคมมีบางอย่างปกป้องไว้ ดังนั้นพวกมันจึงไม่ได้รับความเสียหายเลย