บทที่ 35 20หรือ30

 

หมูป่าตัวใหญ่วิ่งนําหน้า มู่เฟิงวิ่งตามหลัง ซิ่วเฟิง วิ่งตาม มู่เฟิง

 

ฉากนี้เป็นฉากที่แปลกมาก

 

“หัวหน้าเผ่า!” ซิ่วเฟิงฝืนใจตะโกน

 

“หยุดเถอะ เดินต่อไปอีกจะถึงส่วนลึกของภูเขาตะวันออก ด้านในนั้นเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายมากมาย!”

 

มู่เฟิง หยุด

 

เขารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เห็นหมูป่าตัวใหญ่ เขาอดไม่ได้ที่จะใช้เทคนิคฝึกสัตว์เพื่อสื่อสารกับหมูป่าและหวังว่าจะพาหมูป่าตัวใหญ่นี้กลับไปที่เผ่าด้วย

 

แต่เห็นได้ชัดว่าหมูป่าตัวใหญ่ไม่เต็มใจจึงได้หันหน้าหนี้ ส่วนทําไมหมูป่านั้นไม่เชื่อฟังเหมือนมังกรดินมู่เฟิงคาดเดาว่ามีเหตุผล 2 ประการ

 

ประการแรกทักษะฝึกสัตว์ของเขาเป็นทักษะเบื้องต้น สัตว์ป่าที่เชื่องยากเช่นหมูป่าอาจเป็นเรื่องยากที่จะใช้ทักษะเพียงระยะเวลาอันสั้น

 

ประการที่ 2 มังกรดิน ถูกส่งมาจากเผ่าเห็นได้ชัดว่าพวกมันถูกฝึกจนเชื่องแล้วเพียงแค่ไม่ฟังคําสั่งของเผ่าอื่นก็เท่านั้น

 

“ดูเหมือนว่าการฝึกหมูป่าเป็นได้ยากจริงๆคงจะต้องซื้อทักษะฝึกสัตว์ระดับสูง! แต่คะแนนความสําเร็จ…” มู่เฟิงพูดไม่ออก

 

อย่างไรก็ตามเขายืนยันได้อย่างหนึ่งว่าทักษะการฝึกสัตว์นั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ป่าทั่วไปเขาจะไม่ตกอยู่ในอันตรายอีกต่อไป

 

“หัวหน้าเผ่า!” ชั่วเฟิง ติดตามมาและถามด้วยความหวาดกลัว

 

“เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น? ทําไมหมูป่าถึงวิ่งหนีไป? เจ้าใช้คาถางั้นหรือ?”

 

“อืม” มู่เฟิง ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดจึงขี้เกียจที่จะอธิบายให้มากกว่า ตอนนี้เขามีสถานะเป็นหัวหน้าเผ่าแล้ววิธีการมากมายที่ได้รับจากระบบก็ทําให้เขาสมกับเป็น “หัวหน้าเผ่า”โดยไม่มีผู้ใดสงสัย

 

“อ๋อ” ชั่วเฟิง มีสีหน้าตกใจ ลอบคิดในใจว่า “สมควรแล้วที่เป็นหัวหน้าเผ่า” จากนั้นก็ถามต่อว่า

 

“ในเมื่อเจ้าไล่มันไปแล้วจะไล่ตามมันไปทําไม?”

 

มู่เฟิง และกล่าวว่า “ตอนนี้ในเผ่ามีแกะและไก่ อีกทั้งหมูป่าตัวนี้ก็สามารถนําไปเป็นอาหารหรือนําไปเลี้ยงได้ในอนาคตหน่วยล่าสัตว์จะไม่จําเป็นต้องเสี่ยงออกไปล่าสัตว์อีกต่อไป!”

 

ชั่วเฟิง มีปฏิกิริยามอง มู่เฟิง อย่างไม่อยากจะเชื่อ

 

“เจ้าหมายความว่าแม้แต่หมูป่าก็สามารถเลี้ยงได้งั้นหรือ?”

 

“ใช่! หมูป่าตัวใหญ่มาก เนื้อบนตัวของมันเยอะมาก!เพียงฆ่าหนึ่งตัวก็เพียงพอสําหรับคนจํานวนมากที่จะกิน!”

 

“แต่หมูป่าดุร้ายและหาได้ยาก แม้แต่เสือดาวบางตัวก็ไม่กล้าสู้กับพวกมันโดยตรง!”ใบหน้าของ ชั่วเฟิงฉายแววกังวล

 

“เมื่อครู่ที่เผชิญหน้ากับมันข้านึกว่าพวกเราสองคนจะตายซะแล้ว!”

 

“ไม่ต้องห่วง เมื่อพวกเรากลับไปยังเผ่า ข้าคิดวิธีที่จะจับหมูป่า!แม้ว่า จะไม่สามารถเลี้ยงได้แต่ก็สามารถจับกลับไปเป็นอาหารได้!”

 

“หมูป่ามักจะกินงูพิษ ดังนั้นในสถานที่ที่พวกมันอยู่โดยทั่วไปจะไม่มีงูพิษหรือแมลงอาศัยอยู่ดังนั้นถ้าเผ่าของเราสามารถเลี้ยงหมูป่าได้งูพิษและแมลงพิษก็จะไม่กล้าปรากฏตัวออกมาง่ายๆ!”

 

“แต่ตอนนี้พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ําว่าพวกมันอยู่ไหน” ชั่วเฟิง ส่ายหัว

 

“พุ่มไม้พวกนี้หนาแน่นมากข้าไม่รู้ว่าพวกมันอยู่ที่ไหน?”

 

“เรื่องนี้ง่ายมาก ดูนี่!” มู่เฟิงหัวเราะ

 

พูดจบเขาก็หยิบเห็ดที่เก็บมาจากตะกร้าแล้วใช้พลั่วทุบให้แหลกละเอียด และโรยลงพื้นจากนั้นเขาก็โยนเศษเห็ดทั้งหมดลงพื้นและโยนเข้าไปในป่าที่มีรอยเท้าหมูป่าหายไป

 

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ซิ่วเฟิง รู้สึกสับสน

 

ม่เฟิง ไม่ได้อธิบายอะไรเขาหันกลับไปและดึง ชั่วเฟิง ให้วิ่งออกมาและหาที่ซ่อนตัว

 

“อย่าส่งเสียง!” มู่เฟิง สัง

 

“หัวหน้าเผ่า เจ้าร่ายคาถาไม่ได้หรอ?”

 

ซิ่วเฟิง ถามอย่างระมัดระวัง

 

“คาถาของข้านั้นใช้ได้กับสัตว์ป่าเพียงครั้งละตัว หากพวกมันมากันเป็นจํานวนมากข้าคงไม่สามารถใช้คาถาได้!” มู่เฟิง อธิบายตามอําเภอใจ

 

ชั่วเฟิงคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหลับตาลงโดยไม่ส่งเสียงใดๆและจ้องมองไปที่เศษเห็ด

 

ทั้ง 2 รออยู่พักหนึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆรอบด้าน ชั่วเฟิง อดไม่ได้ที่จะถามเสียงต่ํา “หัวหน้าเผ่าท่าอย่างไรดี?”

 

“รอก่อน!” มู่เฟิงกระซิบ

 

“หมูป่ากําลังตรวจสอบว่ามีอันตรายหรือไม่ ตราบใดที่มันยังอยู่ที่นี่มันจะออกมา!”

 

เขามองไปที่ดวงอาทิตย์และกล่าวว่า

 

“ตอนนี้ใกล์เย็นหมูป่าจะออกหาอาหาร ตราบใดที่มันออกมาหาอาหารก็จะได้กลิ่นของเห็ด”

 

“กินเห็ด หมูป่าจะได้กลิ่นไหม?” ชั่วเฟิง ค่อนข้างไม่แน่ใจ

 

“วางใจเถอะต้องมาแน่นอน!” มู่เฟิง ตัดสินใจแล้ว

 

“อีกครั้งตอนนี้หมูป่าเองก็น่าจะระมัดระวังตัวตอนนี้คงแอบมองอยู่ในพุ่มไม้ที่ไหนสักแห่ง

 

ยังไม่ทันจะพูดจบ พุ่มไม้ที่อยู่ใกล้กองเห็ดไม่ไกลนักก็เกิดการเคลื่อนไหว พุ่มไม้สั่นเล็กน้อยไม่ขยับเขยื้อนมากแต่เห็นได้ชัดว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ใกล้ๆ

 

มู่เฟิง รับหุบปากและมองไปที่พุ่มไม้ พุ่มไม้สั่นเล็กน้อย 2 ครั้งก่อนจะเงียบไป หลังจากสงบไปเพียงครึ่งนาทีก็เริ่มขยับตัวอีกครั้ง จากนั้นก็มีหมูอ้วนๆเบียดออกมาจากพุ่มไม้ ดวงตาเล็กๆของมันจ้องมองซ้ายขวาหลังจากแน่ใจว่าไม่มีอันตรายจึงสะบัดคอและมุดออกมาจากพุ่มไม้

 

“นั่น?” ชั่วเฟิง มองไปที่ มู่เฟิง ด้วยความสงสัย ในขณะที่ มู่เฟิง ก็รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง เขาคิดในใจว่า “เยี่ยมไปเลย!”เพราะหมูป่าตรงหน้านี้ไม่ใช่หมูป่าตัวก่อนมันมีขนาดเล็กกว่ามาก

 

มู่เฟิง ยังคงกังวลถึงหมูป่าตัวใหญ่ตัวนั้น แต่ตอนนี้เห็นอีกตัวโผล่ออกมาจากพุ่มไม้เขาจึงโล่งอก

 

“มี 1 ตัว 2 ตัว 3 ตัว !” มู่เฟิง แอบดีใจ ตามที่คาดเอาไว้เมื่อหมูป่าออกมาพุ่มไม้ก็เริ่มนับอีกครั้งตอนแรกมีเพียงแค่ 2-3 ตัวแต่หลังจากนั้นก็ออกมาเป็นกลุ่ม

 

“พระเจ้า!” มู่เฟิง มองไปที่พุ่มไม้ที่สั่น หัวใจของเขาตื่นเต้นมาก

 

“นี่มันกี่ตัวกัน 20 หรือ 30?”