เอียนซึ่งกลับมาที่หมู่บ้านโอลิบัสอีกครั้งหลังจากพลิกผันหลายครั้งก็ไปที่บ้านของอิคาเอลทันที
อิคาเอลต้อนรับเอียนที่กลับมาอย่างอบอุ่น
“เยี่ยม ผมคิดว่าการเตรียมพร้อมเสร็จสิ้นแล้ว”
หลังจากตรวจสอบลวดลายที่จารึกไว้บนหน้าผากของไลแล้ว อิคาเอลก็แสดงความพึงพอใจ
“ใช่ ผมคิดว่าผมทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว”
เมื่อเอียนพูด อิคาเอลพยักหน้า
“ดีมากเอียน ข้าควรบอกเจ้าเกี่ยวกับที่อยู่ของออร์วิลได้แล้วตอนนี้”
อิคาเอลพักหยุดหายใจสักครู่และเอียนรออย่าใจจดใจจ่อสำหรับคำพูดต่อไป
เขาพูดต่อ
“ออร์วิลถูดผนึกไว้ที่ยอดเขาแสงจันทร์”
“ยอดเขาแสงจันทร์?”
“ถูกต้อง ยอดเขาแสงจันทร์อยู่ทางตอนใต้ที่สุดของที่ราบสูงฟอลัส”
อิคาเอลผู้ที่หยุดพักหายใจ พูดอีกครั้ง
“เจ้าไม่เคยเห็นยอดเขาที่อยู่สูงกว่าก้อนเมฆซึ่งแหลมจนไม่สามารถเทียบได้กับยอดเข้าอื่นๆใช่ไหมล่ะ?”
“อืมมม…”
มีสถานที่ที่เอียนสันนิษฐานว่าถูกต้อง
เขารู้สภาพภูมิศาสตร์ของที่ราบสูงฟอลัสได้ดีแล้วเพราะส่วนผสมในการทำอาหารของฮาริน
‘ฉันคิดว่ามันเป็นสถานที่ที่ฮารินและฉันต้องหันหลังจากครั้งก่อนหลังจากพยายามขึ้นไปเพราะไม่มีเส้นทาง…’
แน่นอนว่าเขาสามารถขึ้นไปได้หากเขาขี่กริฟฟิน แต่ในเวลานั้นเพราะไม่มีเหตุผลที่จะขึ้นไปที่นั่น พวกเขาจึงผ่านมันไป
“ถ้างั้นถ้าผมไปที่นั่น ผมจะสามารถพบกับออร์วิลตรงนั้นหรอ?”
อิคาเอลส่ายหน้า
“ไม่ ไม่ใช่แน่นอน รอเดี๋ยวนะ”
หลังจากพูดแล้ว อิคาเอลก็ดึงก้อนหินเล็กๆที่เปล่งแสงสลัวออกมาจากหน้าอกของเขาแล้วส่งให้เอียน
“ถ้าเจ้าไปที่ยอดเขาและเข้าไปในจุดศูนย์กลางของพื้นที่เปิดโล่งที่ด้านบนสุดจะมีแท่นบูชาที่สูงประมาณเอวของเจ้า ถ้าเจ้าเอาหินก้อนนี้ไปไว้ตรงกลางของมัน พื้นที่อยู่รอบๆของยอดเขาจะยกขึ้น”
เอียนได้รับก้อนหินสีขาวจากอิคาเอลและยกมันขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจคือที่เขาสามารถรู้สึกถึงน้ำหนักจากก้อนหินได้
“แต่เจ้ามีทางที่จะขึ้นไปไหม? มันไม่ง่ายที่จะขึ้นไปโดยการปีน”
เอียนพยักหน้า
เขามีพิน
“ครับ ผมมีวิธี ดังนั้นคุณไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น”
“ดี ดี”
“อย่างไรก็ตาม มีอะไรบ้างที่ผมควรระวังไว้?”
“อืมม… สิ่งที่เจ้าควรระวัง…”
หลังจากคิดเกี่ยวกับมันสักครู่หนึ่ง อิคาเอลพูด
“ก่อนอื่น เจ้าต้องให้ไปเร็วเท่าที่เป็นไปได้”
“ห้ะ?”
อิคาเอลชี้ไปที่ท้องฟ้า
เมื่อถึงเวลาเย็น พวกเขาสามารถเห็นดวงจันทร์ทรงกลมซึ่งลอยขึ้นสูงบนท้องฟ้าด้วยตัวของมันเอง
“นั่นเป็นเพราะสองวันต่อจากนี้ มันจะเป็นพระจันทร์เต็มดวงเมื่อเป็นพระจันทร์เต็มดวงความสามารถทั้งหมดของออร์วิลจะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า”
“ผมเข้าใจแล้ว”
แน่นอนว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่จะเป็นภาระที่ต้องเผชิญเหมือนกันสำหรับค่าสถานะของเขาที่จะเพิ่มจำนวนสองเท่า
‘ฉันต้องสำเร็จสิ่งนี้ก่อนไม่ว่าอะไรก็ตาม’
อิคาเอลพูดต่อ
“อย่างไรก็ตาม อย่าไปในทันที แต่ไปหลังจากพระอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันพรุ่งนี้”
“ผมคิดว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อถึงคืนนี้ด้วยเช่นกัน”
เมื่อเอียนสันนิษฐาน อิคาเอลพยักหน้า
“ถูกต้อง ไม่จำเป็นว่าค่าสถานะของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นในเวลากลางคืน แต่เขามีความสามารถแฝงอยู่ซึ่งเขาสามารถใช้ได้เฉพาะในความมืด ถ้าเป็นไปได้จงต่อสู้กับเขาในเวลากลางวัน”
“ความสามารถอะไรที่คุณพูดถึง?”
“มันเป็นความสามารถที่เรียกว่า “การรุกล้ำแห่งความมืด” ที่จะเปลี่ยนร่างกายของเขาทั้งหมดเป็นหมอกสีดำสนิทหากออร์วิลเข้าสู่สถานะการรุกล้ำแห่งความมืด มันจะลบล้าง 70% ของการโจมตีที่ได้รับ”
“อ่อ…”
เอียนซึ่งได้ยินคำพูดเหล่านั้นบ่นกับตัวเอง
‘ฉันไม่รู้ว่าระยะเวลานานแค่ไหน แต่นี่ไม่ใช่สกิลหลอกลวงใช่ไหม? ฉันสามารถรับสกิลนี้ได้ที่ไหน การบุกรุกล้ำแห่งความมืดนี้หรืออะไรก็ตาม…’
เอียนซึ่งได้ยินเรื่องสำคัญอีกสองเรื่องที่เขาต้องระวังในภายหลัง ก่อนอื่นเดินไปที่ที่ราบสูงฟอลัสก่อน
เขาไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับเขาทันทีในตอนนี้ แต่เพราะเขาวางแผนที่จะขึ้นไปยังที่ตั้งและออกจากระบบเพื่อพยายามต่อสู้กับเขาทันทีหลังจากเข้าสู่ระบบในเช้าวันพรุ่งนี้
‘ออร์วิลหรืออะไรก็ตาม ฉันจะไปฆ่าเขาให้เร็วที่สุด’
* * *
“อะไรนะ? เทศกาลหรอ?”
“ใช่ เทศกาล
“สิ่งนั้นเกี่ยวข้องกับฉันยังไง”
ขณะมองไปที่จินซุงซึ่งจ้องมองเขาด้วยท่าทางที่งุนงง ยูฮยอนแสดงอาการตกตะลึง
“นายหมายความว่าอะไรที่เกี่ยวข้องกับนาย เพื่อนยากนายไม่ได้เป็นนักเรียนที่โรงเรียนนี้หรือไง?”
จินซุงขมวดคิ้วเล็กน้อย
“การเข้าร่วมเป็นสิ่งนั้นจำเป็นด้วยหรอ? เวลาที่ฉันใช้ในการเข้าชั้นเรียนก็ทำให้ฉันเสียเวลาด้วยเช่นกัน ดังนั้นฉันต้องเข้าร่วมสิ่งนั้นจริงๆหรอ?”
เมื่อจินซุงบ่น ยูฮยอนสวมแสดงออกที่มีปัญหา
‘ฉันควรทำอะไร? ฉันไม่รู้เกี่ยวกับคนอื่น แต่ฉันต้องให้จินซุงเข้าร่วมไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น…’
เทศกาลดำเนินไปเป็นเวลาสามวันและแม้ว่าจะมีสิ่งต่างๆมากมายเกิดขึ้นมีอีเว้นท์หนึ่งที่จินซุงต้องการ
นั่นคือการแข่งขัน E-sports ที่กำลังจะเปิดในวันที่สองระหว่างการแข่งขัน
การแข่งขัน E-sports เป็นอีเว้นท์ที่แผนกต่างๆได้รับการจัดอันดับตามคะแนนของพวกเขาด้วยเกมทั้งหมดสิบประเภทและมีพิธีมอบรางวัลขึ้นอยู่กับแผนกที่มีอันดับสูงสุดด้วยเงินรางวัลและผลประโยชน์ที่ได้รับนั้นค่อนข้างมาก
‘แม้ว่าเราจะไม่ได้รับรางวัล ความคาดหวังของอาจารย์ก็ค่อนข้างมากเช่นกัน…’
เท่าที่มันเป็นปีแรกที่แผนกก่อตั้งขึ้นอาจารย์หวังว่าการดำรงอยู่ของแผนก VR จะกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในโรงเรียนผ่านงานเทศกาล
ยูฮยอนเริ่มโน้มนาวเอียนอย่างช้าๆ
“พวกเขากำลังทำการแข่งขัน E-sports ในวันที่สองในเทศกาลนั้นและถ้าเราชนะที่นั่นแล้วจะมีส่วนหนึ่งของทุนการศึกษาสำหรับภาคเรียนถัดไป…”
ประมาณสิบนาทีผ่านไปเช่นนั้น
ในการชักชวนที่ยาวนานและต่อเนื่องของยูฮยอน ในที่สุดจินซุงก็สัญญาว่าจะมางานเทศกาลในวันที่สอง
‘ถึงกระนั้น เนื่องจากฉันสนใจในการแข่งขัน E-sport เล็กน้อย’
จากการได้ยินคำอธิบาย นั่นไม่มีแค่เกมเดียวในสิบอีเว้นท์รวมถึงไคลันที่จินซุงไม่ได้เล่น
ด้วยความตั้งใจที่จะเล่นเกมจากอดีตของเขาเป็นครั้งแรกในระยะหนึ่ง จินซุงก็ยอมรับข้อเสนอของยูฮยอน
หลังจากคิดในแง่บวกจริงๆแล้วเขาก็ตั้งตารอคอยมันอยู่
* * *
“คุณสามารถพูดได้ว่าความมืดทั้งหมดหายไปในประมาณนี้ใช่ไหม?”
เอียนซึ่งวิ่งกลับบ้านอย่างรวดเร็วและเข้าสู่ไคลันทันทีที่ชั้นเรียนตอนเช้าจบลง พึมพำเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าหนึ่งครั้ง
มันเป็นเวลาประมาณ 11 โมงเช้าและดวงอาทิตย์ก็ขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้ว
“โอเค”
ท่ามกลางสัตว์เลี้ยงของเขา เอียนอัญเชิญแค่พินสำหรับตอนนี้
“อัญเชิญพิน!”
Kku-ruk- Kkuk-kkuk-!
พินที่ถูกอัญเชิญ บินอย่างมีความสุขกับเอียนและนั่งลง
เนื่องจากตอนนี้เขามีขนาดใหญ่กว่าแม้แต่เอียนเขาไม่สามารถนั่งบนไหล่ของเขาหรืออะไรอย่างนั้นได้ แต่เอียนก็ยังคิดว่าพินน่ารัก
“พินช่วยพาฉันขึ้นไปข้างบนนั่นหน่อย”
Kku-ruk-!
เมื่อเอียนอยู่บนหลังของเขา พินเริ่มกระพือปีกอย่างระมัดระวัง
Flap- Flap-.
เขายังไม่ชำนาญในการขี่บนหลังของพิน แต่ถึงกระนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้ท่าทางของเขาก็มั่นคงขึ้น
“พินนายต้องการจะลองบินให้เร็วกว่านี้สักนิดไหม?”
ราวกับว่าพินกำลังรอคำพูดของเอียนเขาเริ่มกระพือปีกเร็วขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
“ฮึบ!”
เมื่อลมแรงพัดมาข้างหน้าเขา เอียนก็ลดท่าของเขาลงอย่างรวดเร็ว
‘ฟิ้ว พันเร็วจริงๆเมื่อเขาเริ่มได้รับความเร็ว’
เมื่อลมที่พัดมาจากทิศทางตรงกันข้ามแรงเกินไป เขาจึงคิดว่าเขาอาจจะตกลงเช่นนั้นได้เพียงเล็กน้อย
‘ถ้าฉันตกจากความสูงนี้ จากนั้นฉันจะตกลงไปตายทันที’
เอียนขยับสมดุลร่างกายของเขาไปที่ต่างๆเมื่อเขาลองที่จะปรับการขี่บนหลังของไล
และจากนั้นไม่นาน เขาก็สามารถวางเท้าลงบนพื้นบนยอดเขาที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อ
“เมื่อคุณมองจากด้านล่างมันดูสูงมาก แต่การขึ้นมาที่นี่ตอนนี้มันค่อนข้างกว้างขวาง นั่นเป็นความโล่งอก”
จากมุมมองของเอียนที่เขาต้องการจัดการสัตว์เลี้ยงหลายตัว ไม่สามารถช่วยได้แต่อาจจะเสียเปรียบเพราะพื้นที่แคบ
มันยิ่งแย่มากขึ้นในสถานที่ซึ่งเป็นหน้าผาหนึ่งพันไมล์ หากพวกเขาแยกจากกัน
เอียนอัญเชิญสัตว์เลี้ยงของเขาทั้งหมด
และจากหน้าอกของเขา เขาดึงก้อนหินที่ได้รับมาจากอิคาเอล
‘ดังนั้นนี่คือกุญแจการปลดผนึกใช่ไหม?’
เอียนก้าวขึ้นไปยังจุดศูนย์กลางของพื้นที่ว่าง
และอย่างที่อิคาเอลพูดมีสิ่งที่คล้ายแท่นบูชาที่เตี้ยที่สุดในนั้น
และเมื่อเขาเข้าใกล้มันและตรวจสอบด้านบนสุดของมัน เอียนก็สามารถที่จะรู้ว่าสถานที่ที่ก้อนหินเข้าไปในทันที
‘มันต้องอยู่ที่นี่ใช่ไหม?’
ในขณะที่เขาวางไว้ในที่เล็กๆกลมๆเหมือนร่องหิน ก้อนหินกลิ้งและถูกดูดเข้าไปในสถานที่เหมือนรูเกลียวชนิดที่อยู่ตรงกลางแท่นบูชา
Keu-Keu-Keung-!
เมื่อเสียงเครื่องจักรกลดังขึ้นจากภายในแท่นบูชาเอียนก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาแสดงอาการงุนงง
“หืมมม…?”
อย่างไรก็ตาม จากนั้น…
แสงสีขาวเริ่มพุ่งออกมาจากภายในแท่นบูชา
หวึ่งงงงง-!
‘อะไรวะเนี่ย? ผนึกไม่ถูกยกขึ้นแต่ถูกใช้งานหรอ?’
มีบางสิ่งแปลกเล็กน้อย แต่เอียนที่ตรวจสอบข้อความระบบและถอยหลังสองก้าว
“ทุกตัวเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้!”
เมื่อเขาทำอย่างนั้น ในเวลาต่อมา ปรากฏการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่างสมบูรณ์เริ่มขึ้น
แกร๊ก- คะ-คะ-แคร๊ก-!
ใต้ฝีเท้าของเอียนเริ่มแตก
“อะไรวะเนี่ย?”
และยอดเขาที่สูงขนาดนี้ไม่ได้เริ่มพังทลายลงมาใช่มั้ย?
Thud- Thu-thud-!
ช่วยไม่ได้แต่อย่างแรกเอียนยกเลิกอัญเชิญดุ๊กเด
ไล เรคและฮัลลิสามารถอยู่บนหินที่พังทลายได้โดยไม่ตก แต่ในกรณีของดุ๊กเด ไม่เพียงแต่ความคล่องแคล่วที่ต่ำเกินไปที่จะทำเช่นนั้น แต่เขาขนาดใหญ่เกินไป
“ยกเลิกอัญเชิญดุ๊กเด!”
เอียนที่ยกเลิกอัญเชิญดุ๊กเด รีบขึ้นบนหลังของพิน
และเขาเฝ้าดูสัตว์เลี้ยงอย่างขยันขันแข็งที่กระโดดไปรอบๆอย่างเมามันบนแท่นบูชาที่ถล่ม
เพื่อที่จะยกเลิกอัญเชิญพวกมันในทันทีหากพวกมันดูเหมือนว่าพวกมันจะตกโดยอุบัติเหตุ
Ba-ang- Bang-!
เมื่อยอดเขายักษ์ทรุดตัวลงดังสนั่นและฝุ่นฟุ้งกระจายไปทุกทิศทาง
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นเช่นนั้น เอียนก็ไม่สามารถลืมความคิดเขาได้
‘เนื่องจากผนึกถูกยกขึ้น ออร์วิลน่าจะปรากฏจากที่ไหนสักที่แน่นอน!’
มันเป็นสถานการณ์ที่โล่งอกอย่างแท้จริงที่เขาสามารถนั่งบนพินได้
ในที่สุดช่วยไม่ได้เอียนที่จะถูกบังคับให้ต้องยกเลิกอัญเชิญเรคที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างฮัลลิหรือไลและตกอยู่ระหว่างก้อนหิน
‘เฮ้อ นี่เป็นปัญหาใหญ่ ที่จะต้องต่อสู้กับออร์วิลโดยไม่มีดุ๊กเดหรือเรค…’
และประมาณสิบนาทีผ่านไปอย่างนั้น?
ยอดเขาที่ทรุดตัวลงอย่างสมบูรณ์จนถึงจุดที่รูปร่างของมันไม่สามารถจดจำได้ กลายเป็นเนินเขายักษ์ที่ทำจากกองหิน
“พินเอาฉันลง”
และเอียนก็ลงมาจากหลังของพินและเดินลงมาเหยียบกองหิน
‘ไม่นะ แต่เมื่อไหร่ออร์วิลจะออกมา?”
มันเป็น ณ เวลานั้น
หวึ่งงงงง-!
เมื่อเสียงแปลกประหลาดดังขึ้น ลำแสงสีม่วงที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อเริ่มถูกดูดเข้าไปในกองหิน
โฮกกกกก-
‘…?’
เอียนดูเหตุการณ์นั้นด้วยความงุนงง
นี่เป็นเพราะลำแสงที่ถูกดูดเข้ามาจากทุกทิศทุกทางแสดงภาพที่ยิ่งใหญ่เหมือนฝนดาวตก
ลำแสงที่รวมตัวกันอยู่กลางกองหินและก่อตัวเป็นทรงกลมยักษ์
และในขอบเขตของแสงยักษ์เงาดำเริ่มปรากฏขึ้นอย่างจางๆ
‘นั่นคือ… ออร์วิลหรอ?’
เมื่อเอียนเพ่งสายตาของเขาและตรวจสอบตัวตนของเงาดำในความสว่างของแสง รัศมีของแสงก็พุ่งออกมาในทุกทิศทางในขณะที่ปล่อยคลื่นเสียงดังออกมา
Ba-ang-!
ก้อนหินที่บินออกไปทุกทิศทุกทางเพราะระเบิดอย่างต่อเนื่องมาหาเอียนและสัตว์เลี้ยงของเขา
มันไม่ใช่ความเสียหายจำนวนมาก แต่เมื่อพลังชีวิตของเขาลดลงก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มเอียนก็ขมวดคิ้ว
‘เวรเอ้ย อะไรวะเนี่ย?’
อย่างไรก็ตาม มันยังไม่จบ
Awhooo-!
อาวู้วววว-!
เงายักษ์ออกมาจากจุดที่กองหินแตกออกมา
เมื่อเสียงหอนของออร์วิลดังขึ้นไปในอากาศมีคลื่นกระแทกกระจายออกไปทุกทิศทาง
Pung-!
เอียนตะโกนก่อนที่เขาจะตระหนักถึง
“ไม่นะ นี่มันความเสียหายประเภทบ้าอะไรกัน!?”
ไลได้เข้าสู่ภาวะวิกฤติจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว
เพราะว่าฮัลลิและพินไม่ได้มีร่างกายเหมือนกระดาษแบบไล พวกเขายังคงเหลือพลังชีวิตครึ่งหนึ่ง แต่พวกเขาก็ยังได้รับความเสียหายจำนวนมากอย่างแน่นอน
และท้ายที่สุด ข้อความระบบที่ยาวเพียงหนึ่งบรรทัดโผล่ขึ้นมา