ตอนที่ 162 อันซย่าซย่า นังตัวดี / ตอนที่ 163 เงียบแล้วกลับไปตั้งใจเรียน!

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 162 อันซย่าซย่า นังตัวดี 

 

 

พอเห็นใบหน้าที่มีน้ำตารื้นของอันซย่าซย่า คิ้วเขาก็ขมวดเข้าหากันแน่น ม่านตาเขาเริ่มกระตุกแต่แทบไม่สังเกตเห็น  

 

 

ให้ตายเถอะ เขาใจอ่อนอีกแล้ว  

 

 

“เธอร้องไห้ทำไม” เขาถามอย่างไม่พอใจ  

 

 

หญิงสาวแสร้งหัวเราะพร้อมกับพยายามปลอบตัวเองให้สงบลง “เปล่าเลย! เซิ่งอี่เจ๋อ ขอให้หายไวๆ นะ ฉันจะกลับห้องแล้ว” 

 

 

เธอเดินกลับไปที่ห้องนอนอย่างเร็ว ก่อนกระแทกประตูปิดตามหลัง แล้วโถมตัวลงกับที่นอน ร้องไห้ออกมาอย่างขุ่นเคืองใจ 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อคนน่ารังเกียจ! 

 

 

หมอนั่นเป็นคนที่ร้ายกาจที่สุดในโลกเลย! 

 

 

เธอพลิกตัวแล้วลุกขึ้นนั่ง เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และล็อกอินเข้าบัญชีเกมออนไลน์ของเธอ จากนั้นก็เลือกอวาตาร์จากเรื่องเบอร์เซิร์ก จากนั้นก็ฟาดฟันตัวอวาตาร์คนอื่นๆ ด้วยดาบยักษ์ 

 

 

ฟึ่บ! นี่แน่ะ! 

 

 

ดูเหมือนว่าการระเบิดความรุนแรงออกมา จะเป็นหนทางเดียวที่จะลดทอนความเศร้าภายในใจเธอลงได้ 

 

 

ว่าแต่…ทำไมเธอถึงเศร้าล่ะ 

 

 

วันต่อมา อันซย่าซย่ามาถึงโรงเรียนด้วยความเศร้าซึม เมื่อเหลือบมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าคังเจี้ยนไม่มาเรียน 

 

 

“เจ้าคังเพี้ยนไปไหนเหรอ” เธอถามซูเสี่ยวมั่วอย่างเฉยเมย 

 

 

เพื่อนสาวฝืนยิ้ม “อ๋อ… เขาไม่สบายน่ะ วันนี้เขาเลยลาป่วย” 

 

 

ฉีเหยียนซีหัวเราะหึ “เอ้า ก็แน่สิ โดนกำปั้นของฉันเข้าไปก็เลยป่วยไงล่ะ” 

 

 

อะไรนะ อันซย่าซย่ามองหน้าฉีเหยียนซีด้วยความประหลาดใจ ทำไมเขาถึงต่อยคังเจี้ยน 

 

 

“ด้วยสีหน้าท่าทางที่เธอกำลังมองฉัน ฉันจะเสียใจมากเลยนะ” ฉีเหยียนซียิ้มน้อยๆ พร้อมทำสีหน้าล้อเลียน “อันซย่าซย่า เธอจะยอมเป็นแฟนฉันไหม ไม่อย่างนั้นฉันจะบอกอาจารย์ใหญ่ให้ออกจดหมายเตือนพฤติกรรมกับคังเจี้ยน” 

 

 

“นาย!” อันซย่าซย่ารู้สึกขยะแขยง 

 

 

เขากำลังเอาเรื่องเพื่อนมาขู่บังคับเธอ! 

 

 

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ ฉีเหยียนซีก็หวั่นไหวเล็กน้อย ทว่าเขาก็ไม่ยอมเปลี่ยนน้ำเสียงกวนๆ “ฉันจะให้เวลาเธอไปคิดวันนึง” 

 

 

อันซย่าซย่านั่งประจำที่และพยายามบังคับตัวเองให้มีสมาธิอยู่กับการเรียนทั้งๆ ที่อยากจะสับฉีเหยียนซีออกเป็นชิ้นๆ 

 

 

อย่างไรก็ตาม พวกเพื่อนนักเรียนก็พากันแอบเล่นโทรศัพท์กัน 

 

 

ทุกคนกำลังติดตามประเด็นร้อนที่เพิ่งถูกโพสต์ลงในเว็บบอร์ดของโรงเรียน— 

 

 

[นายน้อยฉีสารภาพรัก! มีรูปต่อ!] 

 

 

ภายในโพสต์นั้นมีภาพถ่ายจากเมื่อวานของฉีเหยียนซีกำลังนอนกอดอันซย่าซย่าไว้ในอ้อมแขน 

 

 

ภาพความละเอียดต่ำรูปนั้นดูเหมือนจะถูกแอบถ่าย แต่ใครๆ ก็เดาได้หมดว่าเป็นรูปของทั้งสองคน 

 

 

โพสต์นั้นกลายเป็นประเด็นร้อนแรงและมีคอมเมนต์เกินหนึ่งพัน 

 

 

มู่หลีจ้องมองโทรศัพท์มือถือของเธอครู่หนึ่งก่อนจะเก็บ นิ้วของเธอสั่นระริก 

 

 

ติงอีอีโกรธมากเสียจนแก้มอวบๆ ของเธอกระเพื่อม 

 

 

“นังตัวดีอันซย่าซย่า!” เธอสบถแผ่วเบา 

 

 

เจี่ยนซินเอ๋อร์กลอกตาสวยๆ ของเธอพลางเอ่ย “อีอี ฉันจำได้ว่าเธอชอบนายน้อยฉีเอามากๆ เลยนี่… ยัยอันซย่าซย่าขโมยเขาไปจากเธอแล้วสิ” 

 

 

“เธอต้องชดใช้!” ติงอีอีกำหมัดทั้งสองข้างแน่น พลางพูดด้วยน้ำเสียงอาฆาต 

 

 

เจี่ยนซินเอ๋อร์และหลีฝานซิงมองตากัน ต่างก็สะใจในปฏิกิริยาของเพื่อนสาว 

 

 

ทั้งสองตั้งตารอที่จะปลุกปั่นปฏิกิริยาของติงอีอี 

 

 

อันซย่าซย่าไปห้องน้ำระหว่างช่วงเปลี่ยนคาบเรียน 

 

 

เธอนั่งคิดอะไรอยู่สักพัก ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อจะออกจากห้องน้ำ 

 

 

ทว่าบานประตูกลับเปิดไม่ออก ใครบางคนดูเหมือนจะดันมันไว้จากข้างนอก 

 

 

“มีใครอยู่บ้าง ช่วยเปิดประตูที!” อันซย่าซย่าเขย่าประตู แต่ไม่มีใครขานตอบ 

 

 

แล้วก็มีน้ำเย็นๆ ถังหนึ่งสาดโครมลงมาที่ตัวเธอจากด้านบน อันซย่าซย่าไม่มีทางหนีได้เลยจึงเปียกปอนไปทั้งตัว 

 

 

ความหนาวเย็นแล่นเข้ากระดูก เธอร้องพร้อมกับพยายามทุบประตู หูก็ได้ยินเสียงคนหนีออกไปจากห้องน้ำอย่างเงียบเชียบทว่าไม่มีใครมาช่วยเธอเลย 

 

 

หญิงสาวปาดน้ำออกจากใบหน้า ในใจรู้สึกรับไม่ไหวแล้ว 

 

 

ทำไมกัน ทำไมพวกนั้นถึงทำอย่างนี้กับเธอ 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 163 เงียบแล้วกลับไปตั้งใจเรียน! 

 

 

ประมาณห้านาทีต่อมา อันซย่าซย่าก็ใจเย็นลงพลางหยิบโทรศัพท์มือถือรุ่นคุณปู่ออกมาโทร.หาซูเสี่ยวมั่วเพื่อขอความช่วยเหลือ  

 

 

ซูเสี่ยวมั่วมาถึงแทบจะโดยทันที เจอว่าประตูนั้นถูกกั้นไว้ด้วยไม้ถูพื้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมอันซย่าซย่าถึงเปิดไม่ได้ 

 

 

เธอดึงบานประตูเปิดออกและพบอันซย่าซย่าขดตัวอยู่ที่มุมหนึ่ง ท่าทางดูไม่ได้เลย 

 

 

“ซย่าซย่า…” ซูเสี่ยวมั่วโกรธจัด “ใครทำแบบนี้กับเธอ! บัดซบเอ๊ย! อย่าให้ฉันรู้นะ แม่จะจับหัวกดชักโครกให้ดู!” 

 

 

อันซย่าซย่ายิ้มแหยๆ ให้เธอ “มั่วมั่ว เธอช่วยเขียนใบลาให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉัน-ฉันจะกลับบ้าน…” 

 

 

เมื่อพูดจบ หญิงสาวก็แทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ 

 

 

ไม่มีใครสงบใจได้หรอกหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้น 

 

 

ซูเสี่ยวมั่วถอนหายใจ “ได้สิ กลับไปก่อนเลย ฉันจะเขียนให้เธอเอง” 

 

 

ด้วยเสื้อผ้าที่เปียกปอนขนาดนี้ เธอคงถูกหัวเราะเยาะแน่ๆ ถ้ากลับไปที่ห้องเรียน 

 

 

อันซย่าซย่าพยักหน้าก่อนจะเดินออกมาด้วยแข้งขาที่สั่นเทา 

 

 

ซูเสี่ยวมั่วแยกไปเพื่อเขียนใบลาให้เธอ หลังจากส่งแบบฟอร์มใบลาแล้วกลับมายังห้องเรียน ภายนอกก็เริ่มมีฟ้าแลบฟ้าร้องจากนั้นฝนก็เริ่มตก 

 

 

ซูเสี่ยวมั่วผุดลุกขึ้น อาจารย์เคาะแท่นยืนด้วยไม้ “ซูเสี่ยวมั่ว เธอไม่ให้ความเคารพครูเลยนะ นั่งลง!” 

 

 

หญิงสาวพูดอย่างเป็นกังวลว่า “ครูคะ อันซย่าซย่าขอลากลับบ้าน แต่เธอไม่มีร่มค่ะ…” 

 

 

“นั่นเป็นปัญหาของเธอ สิ่งที่เธอจำเป็นต้องทำตอนนี้ก็คือมีสมาธิกับการเรียน! ถ้าเธอมารบกวนการสอนอีก เธอก็ไม่ต้องมาเข้าเรียนคาบครูแล้ว!” อาจารย์ผู้เคร่งครัดในระเบียบตักเตือนเธอ ซูเสี่ยวมั่วจึงไม่มีทางเลือกนอกจากนั่งลงพร้อมกับมือที่กำหมัดแน่น 

 

 

ซย่าซย่าน่าจะขึ้นรถประจำทางแล้วละมั้ง… เธอคงไม่เปียกฝนนะ 

 

 

แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงโต๊ะเก้าอี้กระทบพื้นดังขึ้นที่หลังห้อง ซูเสี่ยวมั่วหันกลับไปดูก็เห็นว่าฉีเหยียนซีเตะโต๊ะเรียน จากนั้นเขาก็เดินมาหาเธอ “เธอว่าไงนะ อันซย่าซย่าขอลางั้นเหรอ” 

 

 

ยัยนั่นกำลังหลบเลี่ยงเขา! ให้ตายสิยัยตัวจิ๋ว! เธอคิดว่าเขาเอาเรื่องทัณฑ์บนมาขู่บังคับเธอใช่ไหม 

 

 

ซูเสี่ยวมั่วก็หัวร้อนไม่แพ้กันกับเขา เธอตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน “อย่ามาตะโกนใส่หน้าฉันนะ! ซย่าซย่าถูกขังไว้ในห้องน้ำแล้วก็มีใครบางคนราดน้ำเย็นใส่เขา! นายจะบอกว่าให้เธอกลับมาที่ห้องเรียนเพื่อให้คนอื่นหัวเราะเยาะแทนที่จะกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้างั้นเหรอ” 

 

 

ฉีเหยียนซีหรี่ตา มีคนพยายามแกล้งอันซย่าซย่าหรือ 

 

 

“พวกเธอสองคนพอได้แล้ว!” อาจารย์โมโหจนต้องตบหน้าอกตัวเอง พลางคิดว่าเส้นเลือดในสมองคงจะแตกในไม่ช้า 

 

 

ฉีเหยียนซีกราดมองไปรอบห้องก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่าให้ฉันรู้นะ ไม่งั้นฉันจะเอาคืนคนทำเป็นสิบเท่า ไม่สิ เป็นร้อยเท่าเลย!” 

 

 

แล้วเด็กหนุ่มก็เดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงออกจากห้องไป 

 

 

อาจารย์เองก็ไม่กล้าห้ามเขา แต่กลับหันมาดุซูเสี่ยวมั่วแทน “เธอ-เธอ…” 

 

 

“เธออะไร! เงียบแล้วก็ตั้งใจสอนไปสิคะ!” ซูเสี่ยวมั่วนั่งลงอย่างบูดบึ้งอารมณ์เสีย แล้วคนทั้งห้องก็มองเธอด้วยความนับถือ 

 

 

ให้ตายสิ! ช่างกล้ามาก! 

 

 

แม้แต่เหอจยาอวี๋ซึ่งคิดจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเธอก่อนหน้านี้ ก็อึ้งไปเหมือนกัน 

 

 

โห ซูเสี่ยวมั่วคนนี้… 

 

 

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หัวเราะหึๆ 

 

 

เมื่อมองออกไปที่นอกหน้าต่าง เขาก็เห็นฉีเหยียนซีกำลังวิ่งฝ่าสายฝน สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อส่งข้อความบอกเซิ่งอี่เจ๋อ 

 

 

ฉีเหยียนซีหันซ้ายหันขวามองหาเธอไปทั่ว จนในที่สุดก็เจออันซย่าซย่าที่ใกล้ๆ ป้ายรถเมล์ 

 

 

ป้ายรถเมล์ดูทรุดโทรม มิหนำซ้ำหลังคาก็รั่ว อันซย่าซย่าเปียกโชกไปทั้งตัว ใบหน้าดูซีดเผือดจากความหนาวเย็นและกำลังยืนตัวสั่น 

 

 

“ยัยซื่อบื้อ!” เขาสบถเบาๆ พลางก้าวยาวๆ เข้าไปยืนข้างเธอก่อนจะโอบไหล่เธอเอาไว้ “อันซย่าซย่า ยัยซื่อบื้อเอ๊ย!” 

 

 

หญิงสาวไม่เหลือเรี่ยวแรงพอจะสู้กับเขาในเวลานั้น ขนตากระพือเล็กน้อยขณะตอบเสียงเบา “อือ จะเรียกอะไรก็เชิญ”