บทที่ 369
“เร็วเข้า” เอเวอลินหน้าบึ้ง กำมือของเธอพร้อมจะทำลายสร้อยคอ
ในระหว่างนั้นเซอร์ซีก็ทนต่อไปไม่ไหว
“เอเวอลิน พอได้แล้ว” เซอร์ซีกล่าวเบา ๆ
ถึงแม้ว่าแดร์ริลจะทำให้เธอผิดหวังถึงสองครั้งและหนีหายไปจากตำหนัก ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีเหตุผลสำคัญจริง ๆ
เอเวอลินนั้นใจหนักแน่น เธอส่ายหัว “เซอร์ซี อย่าไปรู้สึกแย่ให้กับคนอย่างเขา”
เอเวอลินยิ้มเมื่อมองแดร์ริลกำลังอดกลั้นกับความโกรธของเขา “ยังไงต่อ? แกต้องการจะสู้กับฉันงั้นหรอ? ฉันให้แกอีกสามวินาทีเพื่อมาล้างเท้าฉัน ไม่อย่างงั้นแกก็จะไม่ได้เห็นดวงใจแห่งมหาสมุทรอีก”
“สาม!” เธอเริ่มนับ น้ำเสียงเย็นชา
“สอง!”
แดร์ริลยังคงนิ่งเงียบอยู่ ร่างกายเขาสั่นระรัวสู้กับความโกรธของตัวเองหากเขาไม่ยอมทำตาม ชีวิตของแด๊กซ์คงดับสลาย ถ้าแด๊กซ์จะต้องมาตายเพราะเหตุนี้ เขาคงได้ใช้ชีวิตที่เหลือไปกับความรู้สึกผิด
แดร์ริลกัดฟันและก้าวเดินไปหาเอเวแลิน ภายใต้สายตาของเหล่าคุณผู้หญิง เขาคุกเข่าต่อหน้าเอเวลินและค่อย ๆ ถอดรองเท้าเธอออกอย่างนุ่มนวล
เท้าของเธอนั้นขาวและสะอาด ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาด เธอเพียงแค่ต้องการทำให้เขาขายขี้หน้า ขณะที่เขากัดฟัน เขาวางเท้าของเธอลงในถ้วยน้ำอุ่น เขาไม่ต้องการจะต่อล้อต่อเถียงกับเธออีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงขยับอย่างอ่อนโยนนุ่มนวลไม่แสดงอาการโกรธใด ๆ ออกมา เขาล้างเท้าเธออย่างจดจ่อ
ในระหว่างนั้นคุณผู้หญิงทั้งหลายก็หัวเราะลั่นดังออกมา และบางคนถึงกับหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายวีดีโอแดร์ริล ราวกับว่ามันเป็นข่าวใหญ่
แดร์ริลรู้สึกถึงเลือดขึ้นหน้า แต่เขาก็ไม่ทีทางเลือกอื่น
ความรู้สึกทั้งหมดที่เอเวลินสัมผัสได้คือมีมือใหญ่ ๆ คู่หนึ่งนวดเท้าของเธอด้วยแรงกำลังพอดี เธอเอนตัวนั่งลงมีความสุขอย่างสำราญ ในขณะเดียวกันเธอมองลงมาที่แดร์ริล ชายคนนี้ไม่มีศักดิ์ศรีเอาเสียเลย ชายชาตรีที่ไหนจะมาคุกเข่าล้างเท้าให้กับผู้หญิงในที่สาธารณะ!? เรียกเขาว่าไอ้ขยะนั้นก็ถือว่าเป็นคำชมแล้ว
เอเวอลินเตะมือเขาออกและทำหน้าบึ้งตึง “แกเหมือนกับหมากำลังล้างเท้าฉัน ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าแกต่อไปอีก เอาดวงใจแห่งมหาสมุทรไปซะ และไสหัวไปเดียวนี้” เธอง้างมือขึ้นและโยนสร้อยคอไปที่ประตู
ทันใดนั้นแดร์ริลก็ตื่นเต้นอย่างล้นหลามขณะเขาวิ่งไปที่ประตูเพื่อเก็บสร้อยคอขึ้นมาจากพื้น หลังจากนั้นเขาก็รีบวิ่งและหายไปจากสายตา เขายังคงได้ยินเสียงหัวเราะไล่ตามหลังมาแม้จะวิ่งออกมาไกลแล้ว
ในเวลาที่เขากลับมาถึงคฤหาสน์ แซนเดอร์ ท้องฟ้าเปลี่ยนกลายเป็นสีดำอึมครึม เขาตรงไปที่ชั้นสองและป้อนเม็ดยา ดวงใจแห่งมหาสมุทรให้กับแดกซ์
หลังจากที่ได้รู้ว่าเขากลับมาพร้อมกับดวงใจแห่งมหาสมุทร นายท่านชราแซนเดอร์กับแนนซี่ก็ตื้นตัน พวกเขาเฝ้ารอให้แด๊กซ์ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งเที่ยงคืน แพทย์เข้ามาตรวจอาการของแด๊กซ์เป็นระยะ ๆ แต่เขาทำได้แค่เพียงส่ายหัวและก็จากไป
เป็นเวลาตีสองเมื่อนายท่านชราและแนนซี่เหนื่อยล้ามากเกินไปและได้กลับไปที่ห้องนอนของพวกเขา แดร์ริลถูกทิ้งไว้อยู่คนเดียวด้านนอกห้องของแด๊กซ์
เขารู้ว่ามันคงยากที่แด๊กซ์จะตื่นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากหลับใหลไปเป็นระยะเวลานาน แต่เขาก็ยังไม่อยากจะหายไปไหน เขาอยากที่จะอยู่รอจนกว่าแด๊กซ์จะตื่นแม้ว่าโอกาสจะน้อยนิดก็ตาม ผ่านไปสักพักแดร์ริลก็ฝืนความอ่อนเพลียไว้ไม่ไหว ผล็อยหลับหัวพิงกำแพงอยู่นอกประตู
เขาถูกปลุกให้ตื่นหลังจากที่สัมผัสได้ถึงมือใครสักคนมาแตะที่ไหล่ของเขา ในตอนแรกเขาคิดว่าเป็นแด๊กซ์ และเขาก็ลืมตาขึ้นอย่างมีความหวัง แต่กลับกลายเป็นแนนซี่ที่เขาเห็นแทน
เธอสวมชุดนอนของเธอและทรวดทรงของเธอเปล่งประกาย
“แดร์ริล นายไม่จำเป็นต้องรอ” แนนซี่กล่าวอย่างอ่อนโยน “แด๊กซ์คงไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว”
“ฉันยังไม่ค่อยง่วง ฉันจะรอต่ออีกสักพัก” แดร์ริลส่ายหัวกล่าวน้ำเสียงงัวเงีย
เมื่อเขายืนกราน แนนซี่หยักหน้าและนำผ้าห่มมาให้เขาก่อนจะกลับไปที่ห้องนอนของเธอ
บทที่ 368
บทที่ 370