บทที่ 426 ท่านเจ้าสำนักมาแล้ว
บทที่ 426 ท่านเจ้าสำนักมาแล้ว
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เหล่าศิษย์สำนักเมฆาเขียวจึงหวาดกลัวกว่าเดิม!
เรื่องที่เขาบรรลุขอบเขตก่อรากฐานระดับสูงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวที่สุด!
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคืออายุของอีกฝ่ายต่างหาก!
เหล่าศิษย์สำนักเมฆาเขียวจะสามารถเอาชนะเด็กหนุ่มที่บรรลุขอบเขตก่อรากฐานขั้นสูงอย่างเขาได้ไหม?
ขณะเดียวกันศิษย์ของสำนักหลายสิบคนกรูกันออกมาจากประตูหิน
แต่ศิษย์ส่วนใหญ่บรรลุเพียงขอบเขตพลังภายใน แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่บรรลุขอบเขตก่อรากฐานขั้นต้น
“พ…พวกเราสู้กับพลังอันแข็งแกร่งของเขาไม่ได้หรอกครับ!”
“เขาแข็งแกร่งเกินไป! ดังนั้นจึงมีแค่เจ้าสำนักและผู้อาวุโสสูงสุดเท่านั้นที่รับมือเขาได้!”
“เร็ว! ใครก็ได้ไปแจ้งพวกเขาที!”
“…”
เหล่าศิษย์ต่างอุทานด้วยความประหลาดใจ
สำหรับศิษย์ที่บรรลุขอบเขตพลังภายในขั้นสูงและขั้นสูงสุด พวกเขาไม่สามารถมองข้ามความแข็งแกร่งระดับนี้ได้จริง ๆ
อวี้ฮ่าวหรานไม่รีบร้อน เขามองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความสนใจอย่างมาก
ผู้อาวุโสฮัวตกตะลึงกว่าใคร หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็รวบรวมสิได้
“เด็กน้อย อย่าชะล่าใจไป! สำนักเรามีศิษย์ที่บรรลุพลังภายในขั้นสูงอยู่หลายคน ฉันจะคอยดูว่าแกจะรอดไปได้ยังไง!”
เขาขู่อีกฝ่าย ขณะที่ใบหน้ามืดมนลงเรื่อย ๆ
“หือ? ยังงั้นคงต้องรอดูแล้วล่ะ”
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วเล็กน้อย ศิษย์ที่บรรลุขอบเขตก่อรากฐานระดับสูงอาจเป็นกระสอบทรายให้เขาก็ได้
ในโลกมนุษย์มีผู้ฝึกตนเพียงไม่กี่คน หากไม่ประเมินความสามารถอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง ผู้ฝึกตนเหล่านั้นอาจเปลืองแรงโดยเปล่าประโยชน์ก็เป็นได้
สำนักเมฆาเขียว ภายในห้องโถงใหญ่
“อะไรนะ! มีผู้บรรลุขอบเขตก่อรากฐานระดับสูงมาที่นี่เหรอ?”
ขณะที่ทุกคนกำลังประชุมกันอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีศิษย์ของสำนักก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาแจ้งข่าว
“ค…ครับ ผู้อาวุโสฮัวแพ้เขาแล้ว พวกเขาเลยส่งผมมาขอความช่วยเหลือครับ”
ลูกศิษย์ที่มารายงาน คุกเข่าลงกับพื้น ร่างกายของเขาสั่นสะท้านเล็กน้อย
เจ้าสำนักตกตะลึงจนนั่งไม่ติดเก้าอี้!
รวมไปถึงผู้อาวุโสสูงสุดอี้อิ๋งที่มีใบหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด!
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เจ้าสำนักฉินจึงออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “อู๋เหนียน! พาผู้อาวุโสทุกคนมากับฉัน ฉันอยากเห็นหน้าไอ้คนที่บรรลุแค่ขอบเขตก่อรากฐานสูงสุด แต่กล้าบุกมาถึงสำนักเมฆาเขียวของเรา!”
ผู้อาวุโสสูงสุดอู๋เหนียนรู้สึกโกรธจัดหลังจากได้ยินรายงาน
“ฮึ่ม! มันคิดว่าจะโจมตีสำนักเมฆาเขียวของฉันได้เหรอ?”
จากนั้นกลุ่มคนก็ทยอยออกจากห้องโถง
“ล้อมเขาไว้! อย่าปล่อยให้มันลงเขาได้ง่าย ๆ!”
ผู้เฒ่าฮัวได้รับบาดเจ็บสาหัส เขายืนอยู่ข้างหน้าประตูหิน เนื่องจากไม่กล้าเข้าใกล้อีกฝ่าย เขาจึงสั่งให้ศิษย์ทั้งหลายเข้าไปล้อมจับอีกฝ่ายเอาไว้
แต่ศิษย์เหล่านั้นบรรลุเพียงขอบเขตพลังภายใน และผู้ที่มีฝีมือที่สุดก็บรรลุเพียงขอบเขตก่อรากฐานขั้นต้นเท่านั้น แล้วพวกเขาจะกล้าเข้าไปขวางทางอีกฝ่ายได้ยังไง
รนหาที่ตายชัด ๆ
ดังนั้นจึงเกิดภาพที่ประหลาดตา
ถึงจะถูกห้อมล้อมด้วยผู้คนนับสิบ แต่อวี้ฮ่าวหรานก็ยังไม่หยุดเดิน เขาเดินเข้าประตูหินอย่างสบายใจราวกับกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะ
ด้านหลังประตูหินมีเขตอาคมสร้างภาพลวงตาอยู่ แต่ไม่นานก็ถูกทำลายโดยอวี้ฮ่าวหราน!
“ไอ้หนู! หยุดเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นถ้าท่านเจ้าสำนักและผู้อาวุโสคนอื่น ๆ มาถึง แกไม่รอดแน่!”
ผู้อาวุโสฮัวยังคงตะโกนสั่งการมาจากระยะไกล หลังจากเขตอาคมถูกทำลายจนแตกสลาย เขาก็ไม่กล้าเข้าใกล้อีกฝ่ายอีกเลย
“ฮึ ถ้าไม่อยากให้ฉันเข้าไปก็เข้ามาหยุดสิ”
อวี้ฮ่าวหรานแค่นเสียงด้วยความรังเกียจ
เหล่าศิษย์สำนักเมฆาเขียวหลายร้อยคนทยอยเข้ามาสมทบเรื่อย ๆ แต่ไม่มีใครกล้าเผชิญหน้ากับเขาสักคน!
“อย่าดื้อรั้นไปเลย! ถ้าพวกผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักเมฆาเขียวมาถึง แกไม่รอดแน่!”
ผู้อาวุโสฮัวไม่กล้าลงมือกับอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงตะโกนขู่เท่านั้น
ขณะนี้ถนนสายนั้นอัดแน่นไปด้วยผู้ฝึกตนมากมาย!
“ใครกล้าบุกเขามาในสำนักเมฆาเขียวของฉัน? ไม่กลัวตายเหรอ!”
เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่คนผู้นั้นจะมาถึง!
เสียงนั้นคือเสียงของอู๋เหนียน ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งสำนักเมฆาเขียว!
ผู้อาวุโสฮัวมีความสุขอย่างมากเมื่อได้ยินเสียงนั้น
“ฮ่า ๆ ไอ้หนู! แกตายแน่ ผู้อาวุโสสูงสุดบรรลุขอบเขตก่อรากฐานขั้นสูงเหมือนกัน ถ้าพวกเขารวมพลังกัน ศพแกไม่สวยแน่!”
หลังจากทนอับอายอยู่นาน ในที่สุดเจ้าสำนักก็มาถึง
“น่าขำชะมัด แกฝึกตนมาเป็นสิบปีกว่าจะบรรลุขอบเขตก่อรากฐานขั้นสูงสุด แต่กลับต้องมาตายเพราะความหยิ่งยโส!”
เขามีสีหน้าเหยียดหยามอย่างมาก
เด็กก็คือเด็ก ต่อให้มีความสามารถขนาดไหน ถ้าไม่ใช้ในทางที่ถูกต้อง ก็คงต้องตายอย่างเปล่าประโยชน์!
มาที่นี่แล้วตายอย่างหมาข้างถนน!
ไม่นาน ฉินชางเจ้าสำนักเมฆาเขียวก็เดินนำผู้อาวุโสสูงสุดอู๋เหนียนมาหยุดอยู่ข้างผู้อาวุโสฮัว!
“เจ้าสำนัก! ไอ้เด็กคนนี้แหละ! มันปู้ยี่ปู้ยำสำนักเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า แถมยังใช้พลังขั้นสูงทำร้ายศิษย์สำนักเราจำนวนมากด้วยครับ!”
เมื่อได้ยินอย่างงั้น ฉินชางจึงหันมองชายหนุ่มที่ถูกศิษย์ของสำนักล้อมรอบอยู่
“ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! แกคิดว่าไม่มีใครในสำนักเมฆาเขียวจะปล่อยแกไปเหรอ?”
ขณะที่ผู้อาวุโสสูงสุดอู๋เหนียนพูดอยู่นั้น เขาก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มผู้บุกรุก จากนั้นใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดทันที!
หลังจากนั้นผู้เฒ่าหลิน ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้พลังจิตต่อสู้กับศัตรูก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเช่นกัน!
ผู้บุกรุกคือชายหนุ่มที่บดขยี้เขาจนแพ้ราบคาบเมื่อครั้งก่อน!
“ก…แก!”
ใบหน้าโกรธแค้นของอู๋เหนียนแข็งค้างทันที ก่อนก้าวถอยหลังด้วยความกลัว
“ย… แย่แล้ว! ฉันพูดจนปากจะฉีกถึงหูว่าอย่าแก้แค้น!”
ผู้อาวุโสหลินมองอีกฝ่ายด้วยสายตาสยดสยองพร้อมพึมพำเบา ๆ
เจ้าสำนักเมฆาเขียวกำลังเตรียมตัวโจมตีผู้บุกรุก แต่ทันใดนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นสีหน้าแปลกประหลาดของสองคนที่อยู่ข้าง ๆ
“อู๋เหนียน ท่าน…”
เขาหันมองผู้อาวุโสที่อยู่ข้างกายแล้วพบว่าอีกฝ่ายหน้าซีดเผือดราวกับเห็นผี!
“ไม่ใช่ศัตรู…ไม่ใช่ศัตรู!”
อู๋เหนียนพึมพำ ในใจเขาหวาดกลัวอย่างมาก
เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตามมาแก้แค้นถึงประตูสำนัก!
“พวกท่านสองคน สบายดีไหม!”
อวี้ฮ่าวหรานมองผู้อาวุโสทั้งสองคนด้วยสายตาผิดหวัง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่แปลกใจกับปฏิกิริยาของพวกเขาสักนิด
เป็นเพราะเขาทิ้งบาดแผลลึกให้อีกฝ่ายหลังจากพบหน้ากันครั้งล่าสุด
เจ้าสำนักฉินงุนงงอย่างมาก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้อาวุโสทั้งสองถึงกลัวผู้ชายคนนี้จนตัวสั่น
แต่ไม่ทันไรเขาก็นึกบางอย่างขึ้นได้!
“เขา…เขาคือชายหนุ่มคนนั้นใช่ไหม!”
ชายหนุ่มคนเดียวกัน ความแข็งแกร่งระดับเดียวกัน นี่สินะคือคนที่ทำให้ผู้อาวุโสทั้งสองกลัวขนาดนี้!
เขาเป็นใครยังต้องถามอีกเหรอ! เจ้าสำนักฉินหันขวับไปมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาหวาดหวั่น
“ขอบเขตก่อรากฐานขั้นสูงสุด!”
เขาตะลึงงัน
ในฐานะเจ้าสำนัก เขาอาจจำลักษณะนิสัยของชายหนุ่มคนนี้และคำอธิบายอื่นไม่ได้ แต่เขาจำคำสารภาพของผู้อาวุโสอู๋เหนียนได้อย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายฝึกตนจนบรรลุขอบเขตก่อรากฐานขั้นสูงสุดแล้ว!
ซึ่งตัวเขาบรรลุเพียงขอบเขตพื้นฐานขั้นสูงเท่านั้น!
แต่ละขอบเขตแสดงถึงความแข็งแกร่งของเส้นทางในการฝึกตน ซึ่งแต่ละขอบเขตมีช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งต่างกันมาก!
ไม่ต้องพูดถึงเมื่อเขาและผู้อาวุโสสูงสุดอู๋เหนียนร่วมมือกัน ต่อให้มีผู้บรรลุขอบเขตก่อรากฐานระดับสูงอีกสิบคนก็ต้านทานไม่ได้
ผู้อาวุโสฮัวยังคงคาดหวังให้เจ้าสำนักฆ่าชายคนนั้นด้วยน้ำมือของเขา แต่พอได้ยินคำพูดของเจ้าสำนักแล้ว เขาก็อดตะลึงงันไม่ได้
ร่างกายของเขาชาวางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ราวกับว่าถูกขังอยู่ในห้องเย็น!
ท่านเจ้าสำนักไม่มีวันอุทานแบบนั้นโดยไร้เหตุผลแน่นอน!
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือผู้ชายตรงหน้า…คือผู้บรรลุขอบเขตก่อรากฐานจริง ๆ!