“สมกับเป็นลูกศิษย์ที่ข้าแมวนักปราชญ์ได้เลือกมา”

เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แมวนักปราชญ์ก็ลูบเคราของตนเอง รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก ในช่วงเวลานี้ศัตรูเกือบทั้งหมดได้ตายไป ซึ่งในบรรดาพวกเขาก็มีผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งจำนวนหลายคนเช่นกัน

ด้วยการที่ในตอนนี้เซี่ยปิงมีพลังอำนาจในระดับสมปรารถนาขั้นกลางนั้น ผู้ที่สามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้ภายในจักรวาลนั้นมีจำนวนที่น้อยมาก เรียกได้ว่าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่รู้ว่าจะทำให้ผู้คนจำนวนมากแค่ไหนที่รู้สึกหวาดกลัว

มันถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม เฉินเหว่ยและกลุ่มลูกศิษย์นิกายหวนคืนปรโลกเหล่านี้ช่างไม่รู้ว่าตนเองได้ท้าทายตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวแค่ไหน สุดท้ายจึงได้เผชิญกับชะตากรรมเช่นนี้ นี่เป็นการนำพาภัยพิบัติมาสู่ตนเอง

ยิ่งไปกว่านั้นการที่กลุ่มคนเหล่านี้ตายไป ทั่วทั้งเหมืองหินวิญญาณนี่ก็จะกลายเป็นของพวกเขา ได้รับผลประโยชน์มาอย่างมหาศาล

“เอาล่ะ ทำให้ทุกอย่างมันจบสิ้น”

ในตอนนี้ เซี่ยปิงเดินออกไปข้างหน้า คิดที่จะใช้ฝ่ามือจบชีวิตของเฉินเหว่ย เพราะว่าถึงอย่างไรฝ่ายตรงข้ามนั้นก็เป็นลูกศิษย์ของนิกายหวนคืนปรโลก หากปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามหลบหนีไปได้ ไม่รู้ว่าจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาแค่ไหน จะต้องถอนรากถอนโคนให้หมดสิ้น

วิซ!

ทว่าในตอนนี้ เดิมทีที่นอนนิ่งเหมือนกับเป็นซากศพ ร่างกายของเฉินเหว่ยก็ได้เคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน เหมือนกับว่าเป็นแรงเฮือกสุดท้ายก็ว่าได้ รู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่ออกมาจากร่างกายของเซี่ยปิง

เขาได้ดิ้นรนลุกขึ้นมา จากนั้นร่างกายก็หายไปเหมือนกับเป็นภูตผีก็ว่าได้ ปรากฏขึ้นมาที่ข้างกายของหลิวหยูหลานอย่างกะทันหัน ใบหน้านั้นเผยให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมพร้อมกับจ้องมองไปที่เซี่ยปิงอย่างไม่ละสายตา

“อู๋ไท่โต่ว อย่าขยับเป็นอันขาด หากเจ้ากล้าที่จะก้าวเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว ผู้หญิงคนนี้จะไม่ได้มีชีวิตอยู่อีกต่อไป”

ในช่วงเวลานี้ เฉินเหว่ยได้จับตัวหลิวหยูหลานเป็นตัวประกัน สีหน้าของเขานั้นดุร้าย ถึงแม้ว่าเขานั้นจะได้รับบาดเจ็บสาหัสในตอนนี้ ทว่าก็ยังคงมีพลังอำนาจเหลืออยู่ส่วนหนึ่ง การที่ต้องการจะสังหารคนที่หมดสติอยู่นั้น เป็นเรื่องที่ง่ายมาก

“หืมม?! ในฐานะลูกศิษย์ของนิกายหวนคืนปรโลก ไม่คาดคิดว่าจะใช้วิธีการที่สกปรกอย่างการจับตัวประกันเช่นนี้ นี่เจ้าไม่รู้สึกละอายใจหรือ? ต่อให้จะต้องตายไป เจ้าก็ควรจะตายไปอย่างมีศักดิ์ศรีถึงจะถูก”

เซี่ยปิงขมวดคิ้ว

“ผายลม! ตายไปตูดข้าสิ”

เฉินเหว่ยต่อว่าออกมา “ศักดิศรีไร้สาระอะไรของเจ้า การที่ตายไปนั้น ศักดิ์ศรีจะไปมีประโยชน์อะไรกัน? สรุปก็คือหากเจ้าทำอะไรบุ่มบ่ามออกมาล่ะก็ ข้าจะใช้ฝ่ามือทำลายศีรษะของเธอทันที”

“ข้าคิดว่าเจ้าคงจะไม่อยากเห็นผู้หญิงที่งดงามคนนี้ตายไปอย่างอนาถภายใต้ฝ่ามือของข้า นี่เป็นการแลกเปลี่ยนชีวิตของเธอกับชีวิตของข้า เจ้าไม่คิดหรือว่านี่เป็นสิ่งที่ยุติธรรม?”

เพื่อที่จะรักษาชีวิตของตนเอง เขาสามารถที่จะใช้วิธีการทุกอย่างได้ ต่อให้จะถูกตราหน้าว่าเป็นคนขี้ขลาดและไร้ศักดิ์ศรี เขาก็ไม่สนใจ

แท้ที่จริงแล้วเขาคิดว่านอกเหนือจากตัวเขาเองนั้น คนอื่นๆไม่ได้มีความสำคัญอะไร

“เฉินเหว่ย ข้าคิดว่าเจ้ากำลังเข้าใจอะไรผิด คิดว่าเจ้าจะสามารถข่มขู่ข้าด้วยชีวิตของเธออย่างนั้นหรือ เจ้าคิดว่าข้าห่วงใยเธอจริงๆอย่างนั้นหรือ?” เซี่ยปิงมีสีหน้าที่ไม่แยแส มองเฉินเหว่ยอย่างดูถูก “เจ้าคิดว่าข้านั้นจะปล่อยเจ้าซึ่งจะนำพาภัยพิบัติมาให้ข้าในอนาคตไปเพื่อแลกกับชีวิตของเธออย่างนั้นหรือ? ข้าคิดว่าเจ้าประเมินคุณค่าของผู้หญิงคนนี้มากเกินไป”

น้ำเสียงของเขานั้นดุดันอย่างมาก อีกทั้งยังมีจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวจนสั่นเทา

“อู๋ไท่โต่ว เจ้าอย่ามาวางมาดเสแสร้งที่นี่ ข้าล่วงรู้เป็นอย่างดีว่าเจ้าเป็นคนอย่างไร”

เฉินเหว่ยแสยะออกมาอย่างต่อเนื่อง “หากเจ้าไม่ได้ห่วงใยผู้หญิงคนนี้จริงๆ แน่จริงก็เข้ามาตบข้าให้ตาย อย่างมากข้าก็จะตายไปพร้อมกับผู้หญิงคนนี้ ข้าจะลากเธอลงนรกไปด้วยกัน”

“แต่ว่าเจ้าจะกล้ารึเปล่า? เจ้ามีความกล้ามากพอหรือไม่?!”

เขาสามารถมองเห็นได้ถึงธาตุแท้ของเจ้าอู๋ไท่โต่งนี่ เป็นคนที่มักมากในกามอย่างแท้จริง ไม่มีทางปล่อยให้ผู้หญิงที่งดงามเช่นนี้ตายไปอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงไม่มีความเกรงกลัว

ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็เป็นวิธีการสุดท้ายของเขา หากแม้แต่การข่มขู่นี่ก็ไม่ได้ผลนั้น จากนั้นเขาคงจะต้องตายจริงๆ

ไม่ว่าอย่างไร นี่ก็คือฟางเส้นสุดท้ายที่จะทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อได้ เขาจะต้องยึดมั่นในวิธีการสุดท้ายนี้อย่างหัวชนฝา

“เจ้าต้องการที่จะทำให้ข้าโมโหไปมากกว่านี้หรือ?!”

เซี่ยปิงหรี่ตามองไปที่เฉินเหว่ยซึ่งอยู่ตรงหน้า

ทว่าเห็นท่าทางเช่นนี้ของเซี่ยปิง เฉินเหว่ยก็ยิ่งแสดงความยโสโอหังออกมา เขาคิดว่าตนเองนั้นกำลังบีบเซี่ยปิงอยู่ในกำมือ “บัดซบ ทำให้เจ้าโมโหแล้วอย่างไรกัน ถึงอย่างไรตัวประกันก็อยู่ในมือข้า”

“นี่ไม่ใช่เป็นการที่ข้าพูดจาดูถูกเจ้า ทว่าหากเจ้าแน่จริง ก็สังหารข้าไปพร้อมกับผู้หญิงนี้เลย เข้ามา หากเจ้าแน่จริงล่ะก็ เข้ามาสังหารข้าซะ”

“ข้ายืนอยู่ตรงนี้ ไม่มีแรงเรี่ยวที่จะจับไก่ด้วยซ้ำ แน่จริงก็เข้ามาสังหารข้า!”

เขาตะโกนออกมาอย่างคลุ้มคลั่ง เหมือนกับว่าล่วงรู้ถึงจุดอ่อนของเซี่ยปิง คิดว่าเจ้านี่ไม่กล้าที่จะลงมือ

ในตอนนี้เขานั้นมีตัวประกันอยู่ในมือ ฝ่ายตรงข้ามจะต้องฟังคำสั่งของเขา

“โอ้ ถ้าอย่างนั้นก็ตายไปซะ” เซี่ยปิงมองเฉินเหว่ยอย่างดูถูก

อะไรนะ?!

เฉินเหว่ยสะดุ้งตกใจ เจ้าเด็กนี่ไม่ได้สนใจชีวิตของผู้หญิงคนนี้จริงๆ เรื่องนี้มันอยู่เหนือความคาดหมายของเขาไปอย่างสิ้นเชิง

วิซ!

ทันใดนั้น ดาบสงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งหลบซ่อนอยู่ใต้พื้นดินก็ได้ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน มันได้พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน มีความเร็วที่ก้าวผ่านความเร็วเสียงไปนับสิบเท่า ทะลวงผ่านพื้นดินขึ้นมาเหมือนกับว่าพื้นดินเป็นเต้าหู้ก็ว่าได้

“ท่าไม่ดีแล้ว!”

เฉินเหว่ยมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป สัญชาตญาณของเขากำลังบ่งบอกถึงวิกฤติที่กำลังใกล้เข้ามา ทว่าเขาก็ไม่รู้ว่าอันตรายนั้นมาจากที่ใด แม้แต่รอบๆก็เหมือนกับว่าจะไม่มีร่องรอยของจิตสังหารแม้แต่น้อย

ปัง!

วินาทีต่อมา คมมีดก็ได้แทงขึ้นมาจากพื้นดิน ทั่วทั้งพื้นดินแตกกระจายออกไป ปรากฏเป็นรูขนาดใหญ่

ภายในพริบตา ดาบสงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็ได้เจาะเข้าไปที่ร่างกายของเฉินเหว่ย ซึ่งดาบสงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้มีพลังอำนาจของสิ่งประดิษฐ์เซนต์ ไม่ใช่สิ่งที่ผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์จะต้านทานได้แม้แต่น้อย

ต่อให้การป้องกันพลังฉีของเขาจะทรงอำนาจแค่ไหน ทว่าก็ยังคงถูกเจาะทะลวงผ่านไปโดยดาบสงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้อย่างกะทันหัน เป็นเหมือนกับกระดาษก็ว่าได้

ทั่วทั้งร่างกายของเขาแยกออกจากตรงกลาง ถูกดาบตัดกลายเป็นสองซีกเช่นนี้ เลือดมหาศาลสาดกระเซ็นออกมาเหมือนกับเป็นน้ำพุก็ว่าได้ ติ้ง ติ้ง ส่งเสียงดังออกมา

“นี่มัน นี่มัน!”

ดวงตาของเฉินเหว่ยเผยให้เห็นถึงความแตกตื่น ความรู้สึกผิดและความไม่เต็มใจ ก่อนที่เขาจะตายไปนั้น เขาต้องการที่จะใช้ฝ่ามือตบหลิวหยูหลานให้ตายไปเช่นกัน ทว่ามันก็สายเกินไป เพราะว่าความเร็วที่ดาบสงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดพุ่งขึ้นมานั้น รวดเร็วยิ่งกว่าการเคลื่อนไหวของเขา

เมื่อเขาต้องการที่จะลงมือนั้น ทั่วทั้งร่างกายก็ถูกฉีกกลายเป็นชิ้นๆ

“ข้า..ข้าไม่มีทางยอมรับเรื่องนี้ อ๊าก!”

ก่อนหน้าที่ร่างกายจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เฉินเหว่ยก็ได้คำรามออกมา คำรามออกสู่ท้องฟ้า เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและไม่พึงพอใจ เขานั้นเป็นลูกศิษย์ของนิกายหวนคืนปรโลกและเป็นผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ มีอนาคตที่สดใส ในอนาคตมีโอกาสที่จะได้ก้าวเข้าสู่ระดับเซนต์ ทะยานขึ้นท้องฟ้าภายในก้าวเดียว

ทว่าตอนนี้กลับถูกสังหารไปภายในทวีปโลหิตวิญญาณแห่งนี้ แสงสว่างของอนาคตได้ดับไป ถามว่าเขาเฉินเหว่ยผู้ที่มีความทะเยอทะยานสูงนั้นจะยอมรับเรื่องเช่นนี้ได้หรือ?!

ทว่าไม่ว่าเขาจะต้องการปฏิเสธเรื่องนี้มากเพียงใด ตอนนี้เขาก็ถูกสังหารไปแล้ว ต่อให้เทพเจ้าจะจุติลงมายังผืนดิน ก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือเขาได้

“เจ้าโง่”

เซี่ยปิงมองเฉินเหว่ยอย่างไม่แยแส การที่เขาได้พูดสนทนามากมายกับเฉินเหว่ยก่อนหน้านี้นั้น เพียงเพื่อที่จะเบี่ยงแบนความสนใจของเจ้านี่และแอบส่งดาบสงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดออกไปอย่างลับๆ

ด้วยพลังอำนาจของดาบสงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดนั้น มันไม่มีออร่าของจิตสังหาร ผู้บ่มเพาะปกติธรรมดาไม่สามารถที่จะล่วงรู้ถึงตำแหน่งของมันได้ ถือว่าเป็นอาวุธสังหารที่ยอดเยี่ยมที่สุด

ดังนั้น เมื่อมันลงมือ พลังอำนาจปะทุออกมา ก็ได้สังหารเฉินเหว่ยไปอย่างกะทันหัน แม้แต่โอกาสให้เขาหลบหลีกออกไปก็ไม่มี ถูกสังหารไปเช่นนี้

การที่ไม่ได้มีการเตรียมพร้อมใดๆนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่จะสามารถต้านทานได้

การที่เจ้าเฉินเหว่ยนี่ต้องการที่จะประกาศออกมาอย่างยโสโอหังต่อหน้าเขานั้น ช่างไม่ดูว่าตนเองนั้นมีหลายชีวิตหรือไม่