“…เข้าใจหรือยัง? เมื่อถึงตอนนั้นเราก็พาคนเขามา นายดูแลให้ดี พองานเสร็จ ผลประโยชน์ก็ไม่น้อยแน่!”
ถังรั่วอิงที่ยืนอยู่ข้างหลังพ่อของเธอ ก่อนจะมองชายร่างท้วมที่ตบไหล่พ่อของเธออย่างไร้ความปราณี
และพ่อของเธอพยักหน้าแทบคำนับ ก่อนจะถือธนบัตรสีแดงใบใหญ่ในมือพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
แม่เลี้ยงที่ยืนอยู่ข้างเขาก็ยกยิ้มจนเกิดตีนกาที่หางตา ไม่เหมือนท่าทางท่าทางปกติของเธอแม้แต่น้อย
“เข้าใจแล้วครับๆ ซานเกอ วางใจเถอะครับ! ไม่ทำให้พวกคุณผิดหวังแน่ครับ”
ถังรั่วอิงเอียงศีรษะและจับตาดูมือพ่อของเธอ
ถ้ามีเงิน เธอก็จะสามารถมีชีวิตที่ดีได้?
คืนนั้นทั้งแม่เลี้ยงและพ่อดูมีความสุขมาก แม่เลี้ยงทำอาหารเพิ่มตั้งสองจาน ทั้งยังตอนที่ถังรั่วอิงกินข้าวก็ไม่ได้ชักสีหน้าใส่เธอด้วย
ตอนกินอาหารเช้าในวันรุ่งขึ้น พ่อก็เร่งให้พวกเธอกินให้ไวเพื่อออกไปทำธุระ และถึงกับสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินฟอกตัวใหม่
ทั้งเขาสามคนมาถึงกระท่อมบนภูเขา แต่ภายในสิบนาที ชายคนที่ชื่อซานเกอที่ถังรั่วอิงเห็นเมื่อวานก็เปิดประตูเข้าไป ความแตกต่างคือคราวนี้มีเด็กสองคนอยู่ข้างๆ เด็กชายหนึ่งคน และเด็กหญิงหนึ่งคน ซึ่งดูอายุพอๆ กับถังรั่วอิง
เด็กชายตัวสูงไม่แสดงสีหน้าอะไร แววตาเขาสงบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด แต่มือของเขาและเด็กผู้หญิงถูกมัดด้วยเชือกเส้นหนาจนไม่สามารถหลุดพ้น
ถังรั่วอิงถูกเขาดึงดูดตั้งแต่แรกเห็น
เด็กชายมีหน้าตาหล่อเหลาตามมาตรฐาน ผิวขาว คิ้วหนาตาโต ดั้งโด่ง ริมฝีปากบาง และดวงตาที่เป็นประกายราวกับเต็มไปด้วยดวงดาว
พี่ชายคนนี้หล่อมาก!
นี่คือความคิดที่แท้จริงในใจของเธอเมื่อเธอได้เห็นฮ่อหยุนเฉิงเป็นครั้งแรก
“นี่ สองคนนี้แหละ ดูแทนฉันด้วย! พาเด็กสองคนนี้ขึ้นภูเขาแต่เช้า หิวจะตายอยู่แล้ว…เร็วเข้า รีบทำอาหารให้ฉันกับพรรคพวก!”
ซานเกอยื่นมือออกไปผลักฮ่อหยุนเฉิงวันเด็กและเด็กหญิงตัวเล็กที่อยู่ข้างๆ ไปข้างหน้า พ่อของถังรั่วอิงรีบลากพวกเขาไป แม่เลี้ยงเองก็รีบตกลงก่อนจะหันไปทำงานในห้องครัว
ดวงตาของถังรั่วอิงตามฮ่อหยุนเฉิงไปตลอด
เธอไม่เคยเห็นผู้ชายหล่อขนาดนี้มาก่อน
หลังจากกินอิ่ม ซานเกอกับพรรคพวกก็ไม่ได้จากไป แต่ดื่มและสูบบุหรี่ในบ้านอันกว้างขวาง ขณะที่ฮ่อหยุนเฉิงและเด็กผู้หญิงก็ถูกพ่อขังไว้ในห้องเล็กๆ แถมยังล็อคไว้ด้วย
แม่เลี้ยงโค้งตัวก่อนจะเดินออกจากห้องใหญ่ พอเห็นถังรั่วอิงยังคงยืนอยู่ข้างนอกก็ออกแรงผลัก
“ไปๆๆ ไปเล่นซะ อย่ามาเกะกะ!”
หลังจากที่แม่เลี้ยงตำหนิถังรั่วอิง เธอก็เดินจากไปโดยไม่สนใจหล่อนอีก
ถังรั่วอิงเหลือบมองไปยังทางที่แม่เลี้ยงของเธอจากไป ในเวลานั้นก็มีเสียงมาจากบ้านหลังใหญ่ เธอเดินเข้าไปเอาหูแนบประตูเพื่อแอบฟัง
ประตูของบ้านหลังใหญ่ไม่ได้ปิดสนิท เพียงแง้มไว้ ถังรั่วอิงจึงแอบมองรอยแยกดูความเคลื่อนไหวภายใน
“เปล่าครับพี่ ทำไมพวกเราต้องมาทำธุรกิจนี้ล่ะ เปลืองแรง ไม่กลัวโดนจับหรือไงครับ?”
คนพูดเป็นหนุ่มหัวทองถัดจากซันเกอที่กำลังพูดอยู่ ถังรั่วอิงจำเขาได้
ซานเกอที่นั่งบนเบาะเอนหลังพิงตู้เสื้อผ้าไม้ ใต้เท้ายังมีขวดไวน์เปล่าสองสามขวด ก่อนจะพูดด้วยเสียงไม่สบอารมณ์และทำท่าราวคนผ่านเรื่องราวมามาก
“จิ๊ นายจะไปรู้อะไร ความมั่งคั่งไม่ได้ได้มาโดยไม่เสียงน่ะรู้ไหม? ยิ่งไปกว่านั้นคนเขาก็ยังบอกฉันว่าเด็กนี่อาศัยอยู่ในเมือง แถมพ่อของเขาคือ…พวกทำธุรกิจใหญ่โตด้วย! สรุปคือตระกูลพวกเขาคือพวกทายาทตระกูลไง เหอะ”
ซานเกอะแคะฟันเสร็จก็โยนไม้จิ้มฟันลงบนพื้น
“คนนั้นบอกฉันว่าถ้าลักพาตัวเขาได้ ต่อไปพวกพรรคก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้าอีกต่อไป ก็แค่ช่วยคนเขาทำเรื่อง ถึงตอนนั้นถ้าเปลี่ยนมือแล้ว เงินถึงมือเราก็ไปอยู่กินต่างประเทศสบายๆ ใครจะหาเราเจอล่ะ?”
พูดจบซานเกอก็หัวเราะคิดคัก
ถังรั่วอิงขมวดคิ้ว ที่แท้พวกเขาก็จะขายพี่ชายคนนั้นเพราะเงิน!
เธอยังไม่ทันได้โต้ตอบก็เห็นชายหัวโล้นอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เอ่ยปากถาม “ไม่ใช่ ซานเกอ ในเมื่อเด็กเหลือขอคนนั้นเป็นลูกคนเดียว และสถานการณ์ของเด็กผู้หญิงคนนั้นล่ะเป็นไง เราคงไม่โดนคนเขาทำอะไรใช่ไหม?”
ซานเกอโบกมือด้วยท่าทางไม่แยแส
“เด็กผู้หญิงคนนั้นก็แค่บังเอิญติดมาด้วย ใครใช้ให้เธอเกือบเรื่องฉันเสียล่ะ พาเด็กนั่นออกจากสวนสาธารณะก็โดนเธอเห็นเข้า ถ้าไม่ลงมือแล้วจะปล่อยหายนะไปหรือไง? ฉันพาเธอมาด้วย เด็กนั่นหน้าตาสวย ถึงตอนนั้นก็หาคนรับซื้อก็ได้เงินอีกก้อนเชียวนะ”
“…เอาล่ะ ไม่ต้องพูดถึงมันแล้ว ไปดูสองคนนั้นดีกว่า อย่าส่งเสียงดังมาก ไม่งั้นเดี๋ยวตาย”
หลังจากซานเกอที่เมาพูดจบ ก็ลุกออกจากเบาะ ขวดเหล้าถูกเตะคว่ำจนเกิดเสียงดัง
ถังรั่วอิงตอบโต้อย่างรวดเร็ว และรีบวิ่งไปที่พื้นที่โล่งข้างนอกแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรทันที
เมื่อพวกซานเกอออกมา พวกเขาก็เหลือบมองไปทางถังรั่วอิง แล้วเดินไปที่ห้องที่เด็ก ๆ ถูกขังไว้
ถังรั่วอิงเหลือบมองพวกเขาเดินไปไกลจากหางตา ก็แอบหันไปมอง ชายคนหนึ่งจูงวูล์ฟด็อกตัวใหญ่สีดำที่มีดวงตาดุร้าย
ไม่รู้ว่าพวกเขาจูงสุนัขไปเพื่ออะไร ใจถังรั่วอิงที่เป็นห่วงพี่ชายคนนั้นก่อนจะแอบตามไปและซ่อนตัวมองจากนอกหน้าต่าง
ในห้องมืด
เด็ผู้หญิงนั่งบนเตียงและซุกตัวอยู่ที่มุมห้อง ฮ่อหยุนเฉิงนั่งข้างเธอ ทั้งยังขมวดคิ้วพร้อมกับมองไปรอบๆ
“เรา…เราจะได้กลับบ้านไหม?” เด็กผู้หญิงกลืนน้ำลายแล้วถามเสียงเบา
จู่ๆ เด็กผู้หญิงในช่วงสิบปีมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย จะไม่ให้กลัวได้ไง
“ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยเรา” ฮ่อหยุนเฉิงเม้มปากพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“เจ้าเด็กทั้งสองโลกสวยดีนี่ ยังคิดว่าจะมีคนมาช่วยงั้นเหรอ?”
เสียงดังมาจากทางประตู เป็นซานเกอและพรรคพวกของเขาสองคน ซานเกอมองไปที่ฮ่อหยุนเฉิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึมพร้อมรอยยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปาก
หลายคนจูงสุนัขเข้าไปในห้องมืดขนาดเล็ก
“พวกแกเป็นใคร? รีบปล่อยเราไปซะ!”
แม้ว่ามือของฮ่อหยุนเฉิงจะถูกมัด แต่กำหมัดไว้แน่น เขายืนขวางหน้าเด็กผู้หญิง ก่อนจะมองไปที่ซานเกออย่างไม่กลัวเกรง แต่เมื่อเห็นสุนัขตัวใหญ่ ดวงตาของเขาก็หรี่ลง
ซานเกอหัวเราะเยาะ สุนัขที่อยู่ในมือของเขาอ้าปาก และจ้องไปที่เด็กสองคนอย่างตื่นตัวทั้งยังเห่าเสียงดัง
“เรา? หนูน้อย จะโทษก็ไปโทษตระกูลนายที่ไปทำคนเขาเคืองก็แล้วกัน พวกเธออยู่ในห้องดีๆ ไปซะ รอคนตระกูลนายส่งเงินมา แล้วเราจะส่งพวกเธอออกไป”