เมือง A โรงพยาบาล
ถังรั่วอิงนอนอยู่บนเตียงอย่างกระสับกระส่าย เธอไม่ได้เจอฮ่อหยุนเฉิงมาหลายวันแล้ว
ตั้งแต่วันนั้นที่สวีหว่านเอ๋อร์มาที่โรงพยาบาล หลังจากที่ฮ่อหยุนเฉิงไปกับเธอ ฮ่อหยุนเฉิงก็ไม่ได้มาที่โรงพยาบาลอีกเลย
จากนั้น ก็มีข่าวว่าสวีหว่านเอ๋อร์กรีดข้อมือเพราะฮ่อหยุนเฉิง
ถังรั่วอิงโทรหาฮ่อหยุนเฉิงหลายครั้ง ทว่าไม่มีคนรับสาย
เธอครุ่นคิดแล้วโทรหาหลินเหยียนเฟิง
หลินเหยียนเฟิงกำลังประชุม อยู่ๆก็ได้รับโทรศัพท์จากถังรั่วอิง
นึกถึงคำสั่งของฮ่อหยุนเฉิง หลินเหยียนเฟิงจึงรับสายโทรศัพท์ “คุณถัง”
“ผู้ช่วยหลิน พี่เฉิงล่ะ? ทำไมฉันติดต่อเขาไม่ได้? เขาอยู่ที่บริษัทมั้ย?” ถังรั่วอิงเปิดปากถาม
หลินเหยียนเฟิงตอบเสียงทุ้ม “ประธานฮ่อไปบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยที่เมือง Y ครับ”
“อะไรนะ? เขาไปเมือง Y แล้ว?” เสียงพูดของถังรั่วอิงขาดห้วง
สิ่งแรกที่ใจเธอนึกถึงคือซูฉิงก็อยู่ที่เมือง Y
“ใช่ครับ” หลินเหยียนเฟิงผงกศีรษะ “คุณถัง ที่เมือง Y เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ บริษัทของเรามุ่งมั่นที่จะทำการกุศล และท่านประธานได้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยตนเอง เพื่อภาพลักษณ์ของบริษัท ”
“เอาเถอะ ฉันรู้แล้ว ขอบคุณค่ะผู้ช่วยหลิน” ถังรั่วอิงวางโทรศัพท์ไปอย่างผิดหวัง
คาดไม่ถึงว่าฮ่อหยุนเฉิงจะไปเมือง Y เป็นการไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจริงๆ? หรือว่า…เพราะซูฉิงกัน?
แค่นึกถึงซูฉิง ไฟริษยาในนัยน์ตาของถังรั่วอิงก็กดเอาไว้ไม่อยู่
ในเวลานี้เอง ถังรั่วอิงได้รับข้อความ
ใบหน้าของเธอเย็นชาลงหลายส่วน
ถังรั่วอิงเปลี่ยนชุดคนไข้ของโรงพยาบาลไปสวมชุดกระโปรง หยิบกระเป๋าถือ ออกจากห้องพักคนไข้
“คุณถัง ทำไมคุณ…” นางพยาบาลมองถังรั่วอิงอย่างตกใจ
ถังรั่วอิงโค้งมุมปาก “นอนทั้งวันมันน่าเบื่อ ฉันจะออกไปเดินเล่น”
นางพยาบาลพูดอย่างห่วงใยว่า “ก็จริง แต่คุณถังต้องระวัง ตอนนี้ร่างกายคุณอ่อนแอมาก อย่าเดินนานนะคะ”
“ฉันจะทำ” ถังรั่วอิงเอ่ยอย่างประหม่า
เมื่อเดินออกจากประตูโรงพยาบาล รถสีดำจอดอยู่หน้าถังรั่วอิง
ประตูรถเปิดออก บอดี้การ์ดชุดดำพูดกับถังรั่วอิงว่า “ขึ้นรถเถอะ คุณถัง”
ถังรั่วอิงมองไปรอบๆ เมื่อไม่ผิดสังเกตจึงขึ้นไปบนรถ
รถแล่นไปจนสุดเขตชานเมือง หยุดลงหน้าวิลล่าที่อยู่ข้างภูเขาและแม่น้ำไหลผ่าน
“ถึงแล้วครับ คุณถัง” คนขับรถเปิดประตู
“ขอบคุณ!” ถังรั่วอิงลงจากรถเดินเข้าไปใยวิลล่า
ในห้องนั่งเล่นของวิลล่า ชายร่างสูงสวมสูทสีเทาควันบุหรี่ ใบหน้าเย็นชากำลังนั่งอยู่บนโซฟารอถังรั่วอิง
คือหลี่เฉิงหยาง
“มาแล้วเหรอ?” เห็นถังรั่วอิงเข้ามา หลี่เฉิงหยางจึงเงยหน้ามอง
ถังรั่วอิงพูดอย่างระมัดระวังว่า “พี่”
“เธอมาที่นี่ ไม่มีคนเห็นใช่มั้ย?” หลี่เฉิงหยางถามเสียงเย็น
ถังรั่วอิงรีบส่ายศีรษะ “ไม่มี ฉันระวังมาก”
“เรื่องที่ฉันให้เธอทำ ทำไมตอนนี้ยังไม่เรียบร้อยอีก?!” หลี่เฉิงหยางลุกขึ้นก้มลงมามองถังรั่วอิง ใบหน้าเย็นกระด้าง
เมื่อบรรยากาศทรงอำนาจพุ่งมา ตัวถังรั่วอิงก็สั่นระริก “พี่คะ ฉันพยายามแล้ว”
“สิ่งที่ฉันต้องการไม่ใช่ความพยายาม แต่เป็นความสำเร็จเท่านั้น!” ตัวของหลี่เฉิงหยางแผ่ไอเย็นยะเยือก
เขาหยิบไม้หวายขึ้นมาแล้วเดินเข้ามาหาถังรั่วอิงทีละก้าว “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันทุ่มเทมากแค่ไหน ฝึกเธอให้กลายเป็นถังถัง ฉันให้เธอเข้าหาฮ่อหยุนเฉิง ให้เธอได้รับความไว้วางใจ ทำให้เขาตกหลุมรักเธอ แต่เธอล่ะ? เวลาผ่านมาตั้งขนาดนี้แล้ว เธอยังคงแช่อยู่กับที่ ไม่คืบหน้าเลยแม้แต่น้อย!”
“ไม่ใช่นะ มีความคืบหน้า!” เห็นไม้หวายในมือหลี่เฉิงหยาง สีหน้าของถังรั่วอิงก็ตกใจซีดขาว รีบพูดว่า “ฉันแสร้งทำเป็นเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารขั้นรุนแรง ทำให้ฮ่อหยุนเฉิงใจอ่อน เขาและซูฉิงเลิกกันแล้ว ตอนนี้คนที่ฮ่อหยุนเฉิงรักคือฉัน พี่ เชื่อฉันเถอะ! ฉันจะประสบความสำเร็จในไม่ช้านี้!”
“จริงเหรอ? งั้นตอนนี้ฮ่อหยุนเฉิงอยู่ไหนล่ะ?” หลี่เฉิงหยางเอ่ยเยาะเย้ย
“ที่เขาไปเมือง Y ไม่เกี่ยวกับซูฉิง” ถังรั่วอิงถอยไปข้างหลังทีละก้าว
“แบบนี้ดีที่สุดแล้ว!” หลี่เฉิงหยางแค่นเสียงเย็น ดวงตาของเขาทอประกายอย่างเย็นชา “รั่วอิง เธอรู้ดีว่าจุดจบของคนที่ทำภารกิจไม่สำเร็จเป็นยังไง!”
ถังรั่วอิงคุกเข่าลง น้ำเสียงสั่นเครือ “พี่คะ ขอเวลาอีกหน่อย ฉันจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ!”
“ตกลง ฉันจะให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย! ถ้าเธอทำให้ฉันผิดหวังอีกครั้ง ก็จะเหมือนกับถ้วยน้ำชานี้!” สิ้นเสียงพูดหลี่เฉิงหยางฟาดหวายในมือของเขาไปที่ถ้วยน้ำชาบนโต๊ะ
เสียงปัง ถ้วยน้ำชาตกลงบนพื้นแตกเป็นชิ้นๆ
ถังรั่วอิงอ้าปากค้าง ผู้ชายคนนี้คือปีศาจที่ผุดมาจากนรก!
เธอกลับไปเถอะ อย่าให้คนสงสัย” หลี่เฉิงหยางกลับไปนั่งที่โซฟา
“ค่ะพี่ ฉันไปก่อนนะ”
ออกมาจากประตูใหญ่วิลล่า ถังรั่วอิงก็ถอนหายใจยาว
ในสมองก็ปรากฏร่างสูงฮ่อหยุนเฉิง ถังรั่วอิงเม้มริมฝีปาก
เธอรู้ดีว่าตนเองก็แค่หมากตัวหนึ่งของหลี่เฉิงหยาง
พ่อบุญธรรมรับเลี้ยงเธอเพียงเพราะเขาต้องการเปลี่ยนเธอให้เป็นถังถัง ให้เธอเข้าใกล้ฮ่อหยุนเฉิงเพื่อล้วงความลับของฮ่อกรุ๊ป
หลี่เฉิงหยางเป็นลูกชายของพ่อบุญธรรม พี่ชายในนามของเธอ แต่ไหนแต่ไรชอบตะคอกใส่เธอ ไม่ชอบใจเธอก็จะทุบตีเธอ
ทำไมกัน? ทำไมชีวิตเธอต้องเป็นแบบนี้? ถูกคนอื่นควบคุม?
ความคิดของถังรั่วอิงล่องลอยไปไกล
เธอยังคงจำเหตุการณ์เมื่อเธอพบฮ่อหยุนเฉิงครั้งแรกได้
ตอนที่เธออายุสิบขวบ
ตั้งแต่จำความได้ เธออาศัยอยู่ในสลัม ครอบครัวยากจน หิวโหยเป็นประจำ
พ่อของเธอเป็นนักพนัน เมื่อเขาเล่นเสียและเมามาย เขาก็ใส่อารมณ์กับเธอและแม่ของเธอ เขามักจะทุบตีเธอจนม่วงช้ำและแม่ของเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะปกป้องเธอ
มีวันหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นแม่แล้ว
ถังรั่วอิงในวัยห้าขวบร้องไห้ยกใหญ่ “แม่ หนูจะหาแม่…”
และตามมาด้วยการทุบตีของบิดาอีกระลอกหนึ่ง “เอ็งจะไม่ได้เห็นแม่ของเอ็งอีกแล้ว! ร้องร้องร้อง ตั้งแต่เช้ายันเย็นรู้จักแต่ร้องไห้ อัปมงคล! ไม่น่าล่ะข้าถึงเล่นเสียทุกวัน!”
ถังรั่วอิงป่วยหนัก รอจนเธอหายป่วย ในบ้านก็มีผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดจ้านเพิ่มเข้ามา
“นี่เป็นแม่ใหม่ของเอ็ง รีบเรียกเร็วเข้า!” บิดาพูดพลางชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้น
ถังรั่วอิงร้องไห้ออกมา “ไม่ คุณไม่ใช่แม่หนู!”
จุดจบเช่นนี้ เธอก็ถูกทุบตีอีกยกหนึ่ง
ตั้งแต่นั้นมา ถังรั่วอิงก็รู้จักมองสีหน้าคน พยายามเพื่อทำให้ผู้หญิงคนนั้นพอใจ
สิบขวบปีนั้น พ่อของเธอบอกว่าได้รับการค้าขายขนาดใหญ่ แค่ทำสำเร็จ เขาก็จะร่ำรวยแล้ว
“พ่อคะ ต่อไปพวกเราจะได้เช่าบ้านหลังใหญ่ กินของอร่อยใช่มั้ย?” ถังรั่วอิงเองก็เฝ้ารอเล็กน้อย
“แน่นอน!” วันนั้นแม่เลี้ยงอารมณ์ดีอย่างหาได้ยาก มอบขนมให้ถังรั่วอิง
สองวันต่อมา พ่อพาพวกเธอไปที่กระท่อมเล็กๆ บนภูเขา ที่นั่นยังมีชายสามคนที่ท่าทางดุร้าย
ถังรั่วอิงได้ยินพวกเขาพูดไม่ชัดนักว่าพวกเขากำลังจะลักพาตัวใครสักคน