ตอนที่ 162

Black Tech Internet Cafe System

เนื่องจากมีการเลี้ยงฉลอง แถมการเดินทางกลับที่แสนไกล จึงทำให้วันนี้นาหลันหมิงและซงฉิงเฟิงมาถึงคาเฟ่ค่อนข้างช้ากว่ากำหนด

 

“ไม่มีที่นั่ง?” พวกเขาเหลือบมองรอบร้าน จากนั้นเดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามด้วยความหงุดหงิด “เต็มทั้งสองร้าน อะไรกัน!?”

 

โชคเข้าข้างที่วันนี้แถวไม่ยาวนัก พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะยืนรอและดูคนอื่นเล่นไปพลางๆ

 

ฟางฉีเองก็กำลังเพลิดเพลินกับ Diablo

 

“นี่ท่านกำลังทำอะไร?”

 

“ข้ากำลังพยายามหารูนอยู่” ฟางฉีตอบด้วยน้ำเสียงตั้งใจ

 

ซงฉิงเฟิงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินฟางฉีพูด

 

ของที่เจ้าของร้านได้รับต้องดีอย่างแน่นอน และหากพูดถึงความยากก็ต้องยากเป็นเรื่องปกติตามคุณภาพของไอเทม

 

นาหลันหมิงสื่อ, ซงฉิงเฟิงและอีกสองสามคน พวกเขาจิบโค้กไปพลางดูฟางฉีตามหารูน

 

ในขณะเดียวกันนอกเมืองจิวหัว เรือจิตวิญญาณส่วนตัวได้จอดท่าเทียบเรือของเมืองจิวหัว

 

หญิงสาวสวมชุดสีดำกำลังเดินลงจากเรือตามด้วยชายหนุ่มรูปงามสวมเสื้อสีเหลืองสด พวกเขาได้รับการคุ้มครองจากผู้คุ้มกันหลายคน

 

“นานมากแล้ว ที่ข้ามาเยือนจิวหัวครั้งล่าสุด” เจ้าหญิงมองไปรอบๆ กำแพงเมือง “มันเปลี่ยนไปเยอะมาก”

 

ทีมทหารที่แกร่งแข็งยืนอยู่ข้างหน้าซึ่งนำทีมด้วยกงฮี “ท่านผู้บังคับบัญชาอยู่ไหน?” องค์ชายสองถาม

 

กงฮีไม่รู้จะตอบต่อองค์ชายเช่นไร เขาส่งข้อความมากมายไปหาอันหูเว้ย .. สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบ

 

“วันนี้ท่านผู้บังคับบัญชารู้สึกไม่ค่อยดี ท่านจึงส่งข้าน้อยมาต้อนรับพระองค์แทน” กงฮีก้มคำนับ

 

“ลืมเสียเถอะ เรามาอยากกระทันหันจึงไม่ได้แจ้งผู้บังคับบัญชาของเจ้า” องค์หญิงกล่าว “ไปที่ร้านต้นกำเนิดคาเฟ่อินเตอร์เน็ต”

 

“เอ่อ ..” กงฮีเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก

 

คาเฟ่ของฟางฉีอยู่ในชายเมืองซึ่งไม่ห่างไกลจากท่าเรือของจิวหัวมากนัก นั่นร้านเล็กๆ อยู่ปลายสายตา “นั่นร้านที่พวกเขาพูดถึงกันหรือเปล่า?”

 

“มันดูธรรมดามาก ..” องค์หญิงจีหยูทำหน้าผิดหวังจากที่ฟังมาพลางคิดคาดเดาว่าร้านจะต้องใหญ่และงดงามเป็นแน่ แต่.. ของจริงแตกต่างกับสิ่งที่เคยคิดสิ้นเชิง!

 

อย่างไรก็ตามร้านตรงหน้าเธอตอนนี้ดูไม่มีอะไรผิดปกติ เว้นแต่ใช้กระจกฟุ่มเฟือยไปหน่อย เมื่อเปิดประตูเข้าไป เธอพบว่าร้านเต็มไปด้วยลูกค้ามากมาย ก่อนจะถึงเคาร์เตอร์ชายชราผมขาวสองคนกำลังพูดถึงบางสิ่งพร้อมเพลิดเพลินกับของว่าง

 

ชายชราทั้งสองดูค่อนข้างคุ้นเคยกับเธอ

 

ใบหน้าสวยๆ ของจีหยูกระตุก .. นั่นท่านผู้นำนักรบนาหลันผู้มีชื่อเสียงเรื่องคุณธรรมอันยอดเยี่ยมในสงคราม!

 

เธอมองไปรอบๆ ร้านสังเกตเห็นว่าซงฉิงเฟิง, นาหลันหมิงสื่อพร้อมผองเพื่อนยืนตะโกนกันอยู่ “ท่านใช้โล่สิ!”

 

“บ้าเอ้ย เจ้าของร้านนั้นแข็งแกร่งสุดๆ ไปเลย”

 

“โอ้นั่น รูน13”

 

ดวงตาของจีหยูเบิกโพง เธอจำได้ว่าพวกเขาเป็นสาวกชั้นสูงที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้เลยในการสอบระดับชาติ! นาหลันหมิงสื่ออัจฉริยะและแข็งแกร่งมาก

 

“…”

 

จากนั้นเธอหันไปเห็นชายวัยกลางคนที่กำลังยืนพิงเคาน์เตอร์พลางพูดเสียงดังพร้อมกินฮาเก้นดาสอย่างเอร็ดอร่อย ..

 

นั่นไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาใช่มั้ย? เขาอ้างว่าเขาป่วย แต่จริงๆ แล้วเขาอยู่ที่นี่งั้นหรอ?

 

เกิดอะไรขึ้น?

 

กงฮีพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ “ท่านผู้บังคับบัญชาสั่งไว้ว่าหากอยู่ที่นี่ ไม่จำเป็นต้องทำตัวทางการกับท่าน”

 

“เจ้าของร้านอยู่ไหน?” เจ้าหญิงจีหยูรู้สึกไม่สบายใจนัก ร้านนี้ช่างต่างกับที่เธอคาดคิดเสียจริง

 

กงฮีมองไปรอบๆ พร้อมชี้นิ้วไปยังจุดศูนย์กลางของผู้ชม “ข้าน้อยเดาว่าเจ้าของร้านกำลังเล่นเกมอยู่ตรงนั้น”

 

จีหยูรู้สึกว่าที่นี่ช่างขัดกับความคิดของเธอ เธอรู้สึกว่ามันต้องเป็นไปตามพื้นฐานที่ทุกคนควรปฏิบัติกับเธอสิ

 

จู่ๆ เหล่าสาวกชั้นยอดของสำนักเฉิงจิ้งและซียี่ก็เดินทางมาถึงพร้อมด้วยนายกจาง

 

“หืม? ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่?” นายกจางทำหน้าประหลาดใจ

 

“ที่นั่งเต็มหมดแล้ว ..” พวกเขาที่มารู้สึกอยากร้องไห้ ตอนนี้ทุกที่เต็มไปด้วยลูกค้า บางคนเองก็ยังหาที่นั่งไม่ได้

 

ยิ่งซงซวนยืนนิ่ง “พวกเราต้องใช้เวลาอย่างมากเพื่อเดินทางมาที่นี่ แต่นี่เราต้องมาเข้าแถวรออีก?”

 

สีหน้าของเซียวเลงยูนั่นไม่ต่างกัน “เจ้าของร้านมีการจัดการยังไงกัน?”

 

เมื่อหันไปมองรอบๆ เห็นนาหลันหมิงสื่อที่ยืนอยู่ด้านหลังกำลังดูฟางฉีเล่น “นั่นไงเจ้าของร้านนั่งอยู่ตรงนั้น ทำไมเขาให้เธอยืนรอละ”

 

นาหลันหมิงสื่อหันกลับไปมองเซียวเลงยูพร้อมชี้นิ้วไปที่กระดานดำเล็ก กฏบอกอย่างชัดเจนว่า จะเล่นหรือออกไปก็ได้ตามใจลูกค้าทุกคน

 

“แต่เธอก็ยัง ..” เซียวเลงยูกำลังจะพูดต่อ แต่พอนึกย้อนไปเมื่อตอนสอบระดับชาติแล้วไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะเสียเวลาเพื่อรอ

 

จะต้องมีเจ้านายหรือคนยิ่งใหญ่คอยดูแลร้านมหัศจรรย์แห่งนี้เป็นแน่

 

“ฉันเคยได้ยินแต่เซียนกระบี่พิชิตมาร” เซียวเลงยูชี้นิ้วไปที่กระดานดำ “แล้วราชวงศ์หยกคืออะไร?”

 

คนอื่นๆ ต่างมีคำถามในใจเป็นคำถามเดียวกับเลงยู แต่พวกเขาเลือกที่จะเงียบเพื่อฟังคำตอบ

 

นาหลันหมิงสื่อมองหน้าเธอ “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

 

“…”

 

“มีคนเล่าว่าเจ้าฆ่าพระเจ้าในเกมเซียนกระบี่พิชิตมารจริงหรือไม่?” เซียวเลงยูถามด้วยความสงสัย “แล้วราชวงศ์หยกนี่เกี่ยวกับสงครามคนอมตะหรือเปล่า?”

 

“สงครามคนอมตะ!!??” ผู้คนจากสำนักซียี่และเฉิงจิ้งหันไปทางเดียวกันเมื่อได้ยินคำถาม

 

ฟางฉีที่กำลังเล่น Diablo จู่ๆ ก็ตะโกนขึ้น “โอ้นี่มันกี่โมงแล้ว สองทุ่มหรือยังข้าจะถ่ายทอดสด”

 

“ถ่ายทอดสด?” นาหลันหมิงสื่อทวน “วันนี้ท่านจะถ่ายทอดสดเกี่ยวกับอะไร? รายการใหม่หรือ?”

 

“แทนแท้น!” ฟางฉีทำเสียงล้อ “น่าเสียดายที่ไม่มีรางวัลให้แก่คนที่ตอบถูก”

 

“ถ่ายทอดสดอะไรหรอ?” เซียวเลวยูถามอีกครั้ง

 

“พวกท่านสามารถดูราชวงศ์หยกจากการถ่ายทอดสด” นาหลันหมิงสื่อชี้ไปที่หน้าจอยักษ์

 

“ดู? เท่าไร?” เซียวเลงยูถาม คำถามของเธอได้ถามแทนเหล่าสาวกหลายคน

 

“ฟรี!”

 

“จริงหรอ?” เซียวเลงหยูตอบกลับด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ

 

หลายคนเมื่อได้ยินบทสนทนาพวกเขาต่างตื่นเต้น บทสนทนาได้แพร่กระจายไปยังสาวกของสองสำนักที่เดินทางมา

 

“ดูราชวงศ์หยกกันเถอะ! เจ้าของร้านบอกว่าฟรี!” ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอ