ตอนที่ 166 ไอ้ลูกไม่รักดี
เบื้องหลังของเขาคือเหล่าบอดีการ์ดในชุดสูทสีดำยืนเรียงกันเป็นแถว ซึ่งมีจำนวนมากกว่าบอดีการ์ดของเซิ่งอี่เจ๋อหลายเท่าตัว
ฝั่งของเซิ่งอี่เจ๋อทั้งหมดมองตากันด้วยความกระดากอาย
ฉีเหยียนซีเตะประตูเปิดออก แต่ก็ชะงักนิ่งไปเพราะสิ่งที่เขาเห็น
เซิ่งอี่เจ๋อกำลังกุมมืออันซย่าซย่าอยู่ ระหว่างที่เธอดูเหมือนจะกำลังฝันเพราะกำลังนอนละเมอด้วยเสียงเบาๆ
เขาจับใจความคำพูดเธอได้อย่างแผ่วจาง “เซิ่งอี่เจ่ออย่าไปนะ อย่าทิ้งฉันไว้…”
ฉีเหยียนซีได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นพร้อมกับความเจ็บปวดรวดร้าว
เมื่อได้ยินเสียงเอะอะ เซิ่งอี่เจ๋อก็หันกลับมาพลางมองเขาด้วยแววตาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง “มีอะไร”
ฉีเหยียนซีกำหมัดแน่น “เธอฟื้นหรือยัง”
“ฟื้นแล้ว แต่ตอนนี้หลับไปอีกแล้ว ฉันไม่รังเกียจนะถ้าจะมีเรื่อง แต่อย่าทำให้เธอตื่น” เซิ่งอี่เจ๋อสอดมือของเธอไว้ใต้ผ้าห่มก่อนลุกขึ้นยืน
ฉีเหยียนซีหัวเราะหึๆ เย้ยหยันตัวเอง “ประเด็นคือ?”
เรื่องราวมันเหมือนเมื่อสองปีก่อนไม่มีผิด ผู้หญิงทุกคนที่เขาชอบ สุดท้ายก็กลับไปหลงรักเซิ่งอี่เจ๋อ
เขามองไปยังอันซย่าซย่าที่กำลังนอนอยู่ตรงนั้น คิ้วดกดำข้างหนึ่งเลิกขึ้น ความรู้สึกอันยากเกินบรรยายวูบวาบอยู่ภายในดวงตาทั้งคู่ของเขา
หลังจากนั้นไม่นานนัก ฉีเหยียนซีก็หันหลังเดินจากไป
ถ้าเธอชอบเขาไม่ได้ ก็ให้เธอเกลียดเขาไปแล้วกัน
ที่บ้านตระกูลฉี
นายท่านฉีนั่งอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งของโต๊ะอาหารตัวยาวพลางมองไปยังที่นั่งอันว่างเปล่า ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโมโห
ฉีเหยียนซีถูกลากตัวกลับมาโดยคนที่นายท่านฉีได้ส่งไป
“แกโตเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ใช่เรอะ กล้าดียังไงถึงเมินเฉยคำสั่งฉัน ซ้ำยังพาพวกบอดีการ์ดไปก่อเรื่องอีก! ไอ้ลูกไม่รักดี!” แล้วเขาก็ฟาดฉีเหยียนซีด้วยไม้กอล์ฟ
ฉีเหยียนซีพยายามหลบหลีก แต่พ่อเขายังแข็งแรงและว่องไวอยู่ ดังนั้นชายหนุ่มจึงโดนฟาดเข้าไปเต็มๆ สองที เขาสูดปากด้วยความเจ็บปวด
มู่หลียืนแอบอยู่ที่มุมห้อง รู้สึกเหมือนหัวใจแทบจะหยุดเต้น
“โธ่เอ๊ย ท่านคะ เหยียนซีน่ะยังเด็กอยู่เลย และพวกเด็กๆ ก็ซนไปอย่างนั้นเอง อย่าโมโห อย่าตีเขาอีกเลย…” ลู่เหอ แม่เลี้ยงของฉีเหยียนซีรี่เข้ามาหานายท่านฉี ทำท่าเหมือนกำลังจะเข้าไปห้ามเขา แต่คำพูดของหล่อนกลับตรงกันข้าม “ฉันได้ยินว่าเขาชกนายน้อยเซิ่งก็เพราะแย่งเด็กสาวคนหนึ่ง…”
ฉีเหยียนซีชะงักด้วยคำพูดเหล่านั้นพลางจ้องหน้าลู่เหอ
ให้ตายสิวะ รู้อยู่แล้วเชียว! ยัยผู้หญิงคนนี้แอบสืบเรื่องเขาลับหลัง!
เมื่อได้ยินอย่างนั้น นายท่านฉีก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา และเริ่มลงมือเฆี่ยนตีฉีเหยียนซีอย่างไร้ความปราณี “เสียเวลาชีวิตกับไอ้เรื่องไร้สาระไม่เป็นเรื่อง ไปไล่ตามผู้หญิงเนี่ยนะ! ฉันทำบาปทำกรรมอะไรเอาไว้ถึงได้มีลูกชายอย่างแก!”
“ก็ยังดีกว่าพี่ชายที่คอยไล่ตามผู้ชายของผมละมั้ง ทำไมพ่อไม่ตีเขาบ้างล่ะ” ฉีเหยียนซีเยาะ
นายท่านฉีกัดฟันกรอดจนแทบแหลกคาปากก่อนจะหวดไม้กอล์ฟลงมาอีกครั้ง
ฉีเหยียนซียืนหลังตรงปักหลักมั่นและไม่ยอมหลบ
พลั่ก—
ไม้กอล์ฟหักครึ่ง ฉีเหยียนซีล้มลงคุกเข่าอยู่กับพื้น กลั้นเสียงร้องเอาไว้
ความวุ่นวายโกลาหลเกิดขึ้นทันที ระหว่างที่พ่อบ้านรีบโทร.เรียกแพทย์ประจำตระกูล ลู่เหอก็รีบไปหยิบยาลดความดันให้นายท่านฉี รอยยิ้มอย่างสาแก่ใจฉายวาบผ่านใบหน้าหล่อน
มู่หลีรีบเข้าไปช่วยพยุงฉีเหยียนซีให้ลุกขึ้น เธอได้ยินน้ำเสียงอันอ้างว้างของเขา “ทำไมไม่ตีฉันให้ตายไปซะเลยล่ะ ทุกคนต่างก็เห็นฉันเป็นตัวก่อเรื่อง แต่ฉันเห็นว่าพวกคุณมันก็น่าขยะแขยงเหมือนกัน!”
ในชั่วนาทีนั้นเอง มู่หลีรู้สึกว่าเธอไม่เคยเศร้ามากขนาดนี้มาก่อนเลย
เธอรู้สึกเสียใจกับเขา ทว่าก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เมื่ออันซย่าซย่ารู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง ภายนอกก็มืดสนิทแล้ว
น้ำเกลือในขวดหมดลงแล้ว เซิ่งอี่เจ๋อกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ข้างๆ เตียง นัยน์ตาดำขลับของเขาหันมาจับที่เธอเมื่อรู้สึกได้ว่าเธอตื่นแล้ว เขาจ้องมองตรงมายังดวงตาอันใส่ซื่อบริสุทธิ์ของเธอ
ดวงตาสบกัน บรรยากาศก็เกิดความกระอักกระอ่วน
หลังจากรีรออยู่อึดใจใหญ่ๆ ในที่สุดอันซย่าซย่าก็เอ่ยขึ้นอย่างลังเล” เอ่อ…ฉันอยากกลับบ้าน…”
เมื่อจบประโยคนั้น เซิ่งอี่เจ๋อก็ลุกขึ้นมาหาเธอทันที ชายหนุ่มอุ้มเธอขึ้นด้วยแขนทั้งสองข้าง
อันซย่าซย่าตกตะลึง โอ๊ะตายแล้ว! เซิ่งอี่เจ๋อกำลังอุ้มเธออยู่เหรอเนี่ย
ประคองเธอไว้ในอ้อมแขนทั้งสองด้วย!
ตอนที่ 167 งั้นนายไม่ได้เกลียดฉันหรือ จริงๆ นะ
“เอ่อ…เซิ่งอี่เจ๋อ ฉันเดินเองได้” เธอบอกเขาระหว่างที่แก้มก็แดงปลั่ง
ชายหนุ่มทำเป็นหูทวนลมกับการทักท้วงของเธอและอุ้มเธอเดินต่อไป
โรงพยาบาลแห่งนี้ดำเนินการโดยกลุ่มบริษัทเซิ่ง ซึ่งทำให้เซิ่งอี่เจ๋อสามมรถอุ้มเธอเดินไปได้จนถึงรถโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ
เขากำลังจะวางเธอเข้าไปในรถ ด้วยความกลัวว่าหัวตัวเองจะโขกเข้ากับรถ เธอจึงกระชับวงแขนที่โอบอยู่รอบคอเขาทันทีโดยไม่ได้ตั้งใจ
เซิ่งอี่เจ๋อเกร็งร่างอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตั้งตัวได้ คราวนี้การเคลื่อนไหวของเขากลับอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น
เขาคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธออย่างระมัดระวังพลางห่มผ้ารอบตัวเธออย่างแน่นหนา จากนั้นก็นั่งลงข้างๆ เธอ ตาก็จ้องมองโทรศัพท์ ทำอะไรก็ไม่อาจรู้ได้
อันซย่าซย่าขยับตัวขยุกขยิกอยู่ภายในผ้าห่ม เงยหน้าขึ้นมองเขาเป็นระยะๆ ทว่าก็ไม่กล้ากวนใจเซิ่งอี่เจ๋อ
เมื่อเธอแอบชำเลืองมองดูเขาซึ่งเหมือนจะเป็นการแอบมองเป็นครั้งที่ร้อยได้ น้ำเสียงทุ้มๆ น่าฟังของเขาก็ดังขึ้น “มองฉันทำไม”
อันซย่าซย่าหัวเราะคิกคัก ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ “นายทำอะไรอยู่น่ะ” ถามจบ เธอก็ขยับตัวเข้าไปใกล้ แต่ก็ชะงักกับสิ่งที่เห็น
หืม…งานฆ่าเวลาแบบไหนกันน่ะ เซิ่งอี่เจ๋อกำลังจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ว่างเปล่า
หรือเป็นเพราะเขาเองก็เขิน จนกระทั่งต้องกลบเกลื่อนด้วยการเล่นโทรศัพท์
เซิ่งอี่เจ่อวางโทรศัพท์ลงข้างตัวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาหันมามองอันซย่าซย่า “ทำไมเหรอ เธออยากพูดอะไรกับฉันงั้นหรือ”
นั่นทำให้เธออึกอักไป หญิงสาวฝืนยิ้มพลางลูบคางไปมา “เซิ่งอี่เจ๋อ ฉันทำอะไรให้ นายถึงได้เกลียดฉันนัก”
นั่นสิ อะไร
เซิ่งอี่เจ๋อเองก็ไม่สามารถตอบตัวเองได้เช่นกัน
ชื่อของอันซย่าซย่ามีแต่เตือนให้เขานึกถึงความทรงจำอันงดงามที่เกี่ยวข้องกับเธอ
และชื่อนั้นเองก็มอบความอบอุ่นให้กับเขา
เขาไม่เคยเกลียดเธอเลย เพียงแต่ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอมันช่างไกลเกินเอื้อม ไกลเสียจนเขาต้องแกล้งทำตรงกันข้าม เพื่อหักห้ามใจตัวเองจากเธอ
อันซย่าซย่ารอคอยคำตอบจากเขาอย่างใจจดจ่อ และมันก็ใช้เวลาครู่ใหญ่ก่อนที่เขาจะตอบอย่างเบาๆ “ฉันเปล่า”
สีหน้าสลดบนดวงหน้าเล็กๆ ของเธอกลับเปลี่ยนเป็นสดใสขึ้น “จริงเหรอ งั้นนายก็ไม่ได้เกลียดฉันหรอกเหรอ”
เซิ่งอี่เจ๋อพยักหน้านิดๆ หลังจากรีรออยู่ครู่หนึ่ง
หญิงสาวจิ้มปลายนิ้วชี้เข้าหากัน พยายามรวบรวมความกล้าและมองหน้าเขาด้วยดวงตาอันเป็นประกายวิบวับ “ถ้างั้นจากนี้ไปนายก็จะไม่เมินเฉยใส่ฉันแล้วใช่ไหม”
มุมปากทั้งสองข้างของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม ชายหนุ่มตอบเพียงแค่ “อืม” เบาๆ
ยัยซื่อบื้อตัวจิ๋วมีมนตร์เสน่ห์ที่เขาไม่อาจต้านทานได้เลย
อันซย่าซย่าเอนพิงหน้าต่างรถและหยุดหัวเราะดีใจไม่ได้เลย
มันรู้สึกดีเหมือนการที่เพื่อนรักได้คืนดีกัน หลังจากการทะเลาะกันครั้งใหญ่
วันต่อมา…
อันซย่าซย่าเดินลงมาชั้นล่างและกำลังจะออกไปเรียนเมื่อเธอเห็นเซิ่งอี่เจ๋อกำลังลงมาข้างล่างพร้อมกับกระเป๋านักเรียนเช่นกัน
หญิงสาวประหลาดใจ “นายควรจะพักผ่อนเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บไม่ใช่เหรอ”
“ฉันไม่เป็นไรหรอก ถ้าไม่ออกแรงเยอะเกินไปก็ไม่เป็นไรแล้ว” เขาตอบเบาๆ “อรุณสวัสดิ์อันซย่าซย่า”
เธอมองชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผู้กำลังยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดในยามเช้า อันซย่าซย่ายิ้มตอบ “อรุณสวัสดิ์!”
หลังจากที่ขาดเรียนไปนาน การกลับมาของเซิ่งอี่เจ๋อก็ทำให้สาวๆ ในห้องเรียนแตกตื่นอีกครั้ง หลายคนก็เอาจดหมายรัก ของขวัญ หรือไม่ก็โจทย์ในบทเรียนมามอบให้เขา… ที่นั่งของอันซย่าซย่าพลางถูกห้อมล้อมไปด้วยบรรดาสาวๆ
เธอรู้สึกว่ามันน่ารำคาญมากๆ และต้องเบียดตัวกรุยทางเข้าไป จนกว่าพวกนั้นจะยอมคืนโต๊ะนักเรียนให้เธอนั่ง
พวกสาวๆ ยอมกลับไปนั่งประจำที่อย่างอ้อยอิ่งก็ต่อเมื่อเสียงกริ่งเริ่มเรียนดังขึ้นนั่นเอง
อันซย่าซย่ารู้สึกหงุดหงิดอารมณ์เสียจนทำแก้มป่อง เซิ่งอี่เจ๋อดันกล่องช็อกโกเลตมาทางเธอ ก่อนถามด้วยน้ำเสียงกึ่งคะยั้นคะยอกึ่งทางการ “อยากกินไหม”
ซย่าซย่าจอมตะกละคันไม้คันมือพลางพยักหน้าหงึก ไม่แม้แต่จะพยายามหักห้ามใจจากความเย้ายวนนั้น
จอมเจ้าเล่ห์เลิกคิ้วขึ้น “อยากได้ละสิ ไม่ให้!”
อันซย่าซย่า : (‵′) !!!