บทที่ 346 ค้อนเทพกำราบสมุทร กายทองเก้ารอบ
เสิ่นเทียนไม่เคยขี้เหนียวกับผักกุยช่ายของตนในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เลย
ตอนที่ชาตระหนักรู้พวกนี้แบ่งไปให้ถึงมือศิษย์เทพสวรรค์ทุกคน เสิ่นเทียนก็เห็นว่าวงรัศมีดวงชะตาเหนือศีรษะพวกเขายกระดับขึ้นเล็กน้อย
แม้สีวงรัศมีเหนือศีรษะศิษย์พวกนี้จะมีสีขาวแกมแดงเป็นส่วนใหญ่ ดวงชะตาธรรมดา
แต่ก็มีจำนวนคนมาก!
หากจากนี้ศิษย์คนใดปรากฏภาพโชคลิขิตที่ใช้ได้ขึ้นมาล่ะ!
เสิ่นเทียนยืนเอามือไพล่หลังอยู่บนดาดฟ้าหัวเรือ มองพวกศิษย์เทพสวรรค์ที่กำลังมีความสุข พลางอดยิ้มอย่างรู้ใจไม่ได้
ขณะเดียวกัน เรือเหาะเทพสวรรค์ก็ค่อยๆ เคลื่อนมาถึงหมู่เกาะยักษ์แห่งหนึ่ง หมู่เกาะนี้ปกคลุมอยู่กลางเมฆสายฟ้าทั้งหมด ภายนอกวางยอดค่ายกลไว้
ภายใต้การคลุมด้วยค่ายกล จะเห็นเป็นสายฟ้าเทพสีม่วงแผ่คลุมเหมือนกับใยแมงมุม คุ้มกันทั้งเกาะ
นี่คือ ‘เกาะอัสนีเทพสวรรค์’ เป็นฐานที่ตั้งในทะเลอุดรของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
ถึงพลังวิญญาณบนเกาะจะไม่ถือว่าเอ่อล้นอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็มากพอจะเทียบกับแดนเทวาแดนผาสุกส่วนใหญ่ได้
ต้องรู้ว่าเผ่าอสูรไม่ลงรอยกับเผ่ามนุษย์มาตลอด แดนศักดิ์สิทธิ์เผ่ามนุษย์ในดินแดนบูรพา ทะเลทรายประจิมและดินแดนกลาง แทบจะย่างกรายเข้ามาในทะเลอุดรไม่ได้
การที่มีฐานที่ตั้งของตนเช่นนี้ในเขตใจกลางทะเลอุดรได้ นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย
เล่าลือว่าเบื้องหลังมีความพยายามของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อยู่
เรือเหาะลงบนเกาะอัสนีเทพสวรรค์ช้าๆ เมื่อค่ายกลสายฟ้าเปิดออกก็นำเรือเหาะเข้าไป ไม่นานก็กลับมาเป็นสภาพปกติ
กรรซ์~
ทันทีที่เรือเหาะเทพสวรรค์จอดลง มังกรยักษ์ยาวหลายพันจั้งที่อยู่ไม่ไกลก็พุ่งเข้ามา ทั่วร่างแผ่กระจายอำนาจคุกคามน่ากลัวสะท้านฟ้าดิน
“ราชามังกรดำเอ๋าเย่ มาขอพบบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียน”
มังกรยักษ์เขย่าร่าง พลันกลายเป็นชายวัยกลางคนสวมชุดเกราะสีดำคนหนึ่ง
เขาย่ำเดินดั่งมังกรและพยัคฆ์ อหังการไม่เป็นสองรองใคร ผ่านไปที่ใดแม้แต่มวลอากาศยังเหมือนรับแรงกดดันไม่ไหวและแตกกระจายออก น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
ทว่าตอนนี้เขากลับมองไปทางเรือเหาะเทพสวรรค์ด้วยความตึงเครียดและเคารพอย่างยิ่ง เหมือนเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสที่ต้องประจบให้ดี
อำนาจผู้อริยะของราชามังกรดำเอ๋าเย่ไม่ได้เสริมการอำพราง ย่อมไม่มีทางรอดผ่านสายตาของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไปได้
ก่อนจะเห็นเรือเหาะเทพสวรรค์เปล่งแสงสว่างขึ้น สายฟ้าประกายเซียนสายหนึ่งพุ่งออกไป
“ยินดีต้อนรับราชามังกรดำเอ๋าเย่ ขออภัยที่ไม่ได้ไปต้อนรับจากแดนไกล หวังว่าราชามังกรดำจะไม่ถือสา”
สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เปล่งแสงสว่างจ้า พลันทำให้อำนาจมังกรทั้งหมดสลายหายไปได้อย่างง่ายดาย
เขาพูดนิ่งๆ “ราชามังกรรีบร้อนมาพบเทียนเอ๋อร์ด้วยตัวเองเช่นนี้ มีเรื่องด่วนอะไรหรือไม่”
เอ๋าเย่มองศิษย์เทพสวรรค์ที่ใบหน้าเขียนเต็มไปด้วยคำว่าซุบซิบและอยากรู้อยากเห็นบนเรือเหาะเทพสวรรค์ ก่อนจะพูดอย่างจำใจ “ให้เวลาข้าคุยส่วนตัวกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเสิ่นเทียน เสิ่นเทียนพยักหน้าช้าๆ
ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวเบาๆ “ถ้าเช่นนั้น เทียนเอ๋อร์ก็ไปคุยส่วนตัวกับราชามังกรดำเถอะ!”
บุรุษองอาจห้าวหาญในชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรกระโดดลงมาจากเรือเหาะเทพสวรรค์
ทองคำเซียนปีกปักษาข้างหลังเขาส่องประกายแสงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ราวกับเซียนแท้จริงเทพสงครามมาเยือนจากสวรรค์เก้าชั้น!
ทำให้คนอดปลงอนิจจังว่าไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่งมิได้ บุตรศักดิ์สิทธิ์ในชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรดูสง่างามยิ่งกว่าก่อน ทำให้คนบ้าคลั่งกันได้จริงๆ
……
ราชามังกรดำเผยรอยยิ้ม ก่อนจะใช้กรงเล็บฉีกมวลอากาศ สร้างประตูมิติตรงหน้าเสิ่นเทียน “บุตรศักดิ์สิทธิ์ เชิญ!”
สองคนเข้าไปในประตูมิติช้าๆ พลันหายไปต่อหน้าทุกคน
เมื่อมิติกลับมาเสถียรภาพอีกครั้ง เสิ่นเทียนพบว่าตนมาอยู่บนแท่นหินลอยฟ้ากว้างโล่งแห่งหนึ่ง
แท่นหินนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลางหลายร้อยจั้ง เขตตรงกลางมีเสาสีทองตั้งอยู่ต้นหนึ่ง
บนเสาสีทองต้นนี้แกะสลักมังกรทองห้ากรงเล็บที่สมจริงราวกับมีชีวิตตัวหนึ่ง ในดวงตามีความคล่องแคล่วปราดเปรียว เหมือนกับมังกรแท้จริง
และตรงระหว่างคิ้วมังกรทองห้ากรงเล็บตัวนี้ยังฝังไข่มุกขนาดเท่ากำปั้นสีเหลืองอมส้มๆ หนึ่งเม็ด
ทันทีที่ไข่มุกนี้ปรากฏขึ้น เสิ่นเทียนรู้สึกถึงความกระหายอย่างแรงกล้าจากในร่างกาย!
ไข่มุกนี่ คือสมบัติสุดยอดที่ล้ำค่าอย่างยิ่งแน่นอน!
หลังจากเข้ามิตินี้มา ราชามังกรดำเอ๋าเย่ผู้มีร่างกำยำบ้าอำนาจในเดิมทีก็เค้นรอยยิ้มเหมือนกับสุนัขรับใช้
เขาหัวเราะเหอะๆ “ท่านอาๆ ได้ยินว่าครั้งนี้ท่านได้ผลจุดกำเนิดมังกรจากเกาะเทพมังกรมาเยอะมาก จริงหรือไม่ สำหรับเผ่ามังกรแล้ว ผลจุดกำเนิดมังกรนี่คือสมบัติสุดยอด ยกระดับสายเลือดได้ ทำให้เผ่ามังกรก้าวไปในระดับที่สูงขึ้นกว่าเดิม
ท่านอามอบผลจุดกำเนิดมังกรพวกนั้นให้ข้าเถอะ! ข้ายินดีจะใช้สมบัติสุดยอดของเผ่ามังกรมาแลก ขอให้ท่านเสนอราคามาได้เลย!”
เมื่อเห็นราชามังกรดำเอ๋าเย่ยิ้มจนรอยย่นเต็มใบหน้าไม่มีเค้ามังกรแล้ว เสิ่นเทียนถึงกับตกใจนิ่งอึ้งไป
นี่คือราชามังกรดำคนนั้น หนึ่งในผู้แข็งแกร่งสุดยอดของห้าดินแดนในตำนานรึ
เหตุใดถึงรู้สึกว่าเจ้านี่โดนบุตรชายเขาเอ๋าอูสิงร่างไปแล้วล่ะ!
เอ่อ แต่ดูจากนิสัยของเอ๋าอูก่อนหน้านี้…
ก็มั่นใจได้ว่าเป็นพ่อลูกกันแท้ๆ แล้ว
…….
ผลจุดกำเนิดมังกรให้ประสิทธิผลที่ดีเยี่ยมที่สุดกับเผ่ามังกร เสิ่นเทียนรู้ในจุดนี้
แต่สมบัติล้ำค่านี้ เสิ่นเทียนเป็นคนเสี่ยงชีวิต เก็บเกี่ยวอย่างยากลำบากมาจากเกาะเทพมังกร
เจ้าหลานชายราชาเทพมังกรอยากได้ ให้เขาสักผลสองผลเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าเอามากกว่านี้ต้องดูราคาของเขาด้วย
เสิ่นเทียนกระแอมไอเบาๆ มองราชามังกรดำเอ๋าเย่ด้วยรอยยิ้มทีเล่นทีจริง
ทันใดนั้นราชามังกรดำก็เข้าใจได้ในทันที “ท่านอาๆ ท่านลงนามสัญญาเทพมังกรกับท่านป้าปิง เช่นนั้นเราก็คือครอบครัวมังกรเดียวกัน ข้าจะไม่เอาเปรียบท่านเด็ดขาด
ผลจุดกำเนิดมังกรไม่ได้มีประโยชน์กับเผ่าอื่นนอกเหนือจากมังกรอะไรมาก ข้าจะใช้อาวุธอริยะหนึ่งชิ้นแลกกับผลจุดกำเนิดมังกรของท่านหนึ่งผลดีหรือไม่”
เสิ่นเทียนผงะไปเล็กน้อย เบิกตาโตขึ้น “อาวุธอริยะหนึ่งชิ้นแลกกับผลจุดกำเนิดมังกรหนึ่งผลรึ”
ในแหวนเวหาข้ามีผลจุดกำเนิดมังกรอย่างน้อยสี่สิบกว่าผล นี่ไม่ใช่ว่าจะแลกเป็นอาวุธอริยะได้สี่สิบกว่าชิ้นรึ
บ้าจริง!
ความมั่งคั่งเช่นนี้ แดนศักดิ์สิทธิ์ยังต้องอิจฉากระมัง!
ราชามังกรดำเอ๋าเย่ถอนหายใจ “ท่านอาอย่าใจร้อน ข้าก็รู้ว่าอาวุธอริยะหนึ่งชิ้นแลกกับผลจุดกำเนิดมังกรหนึ่งผล มันถูกไปหน่อย ความจริงแล้วเผ่ามังกรมีอาวุธอริยะไม่มาก ส่วนใหญ่มีเจ้าของแล้ว จัดการได้ยาก ถ้าไม่เช่นนั้นเอาเป็นอาวุธอริยะสามชิ้นแลกกับผลจุดกำเนิดมังกรสองผลได้หรือไม่”
นัยน์ตาราชามังกรดำเอ๋าเย่เต็มไปด้วยความเฝ้าใฝ่หา
เขาหลอมรวมผลจุดกำเนิดมังกรที่ใช้อาวุธเตรียมอริยะแลกมากับฉีเซ่าเสวียนนั้นไปแล้ว ระดับความบริสุทธิ์ของสายเลือดเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เอ๋าเย่ในตอนนี้รู้สึกได้ถึงพันธนาการนั้นในเงามืด ตอนนี้เขาห่างจากสายเลือดมังกรดำระดับเก้าเพียงเยื่อบางชั้นสุดท้ายแล้ว
ขอแค่ทะลวงเยื่อบางนี้ไปได้ก็จะเข้าไปในโลกใหม่
แต่เขาก็รู้ว่าเยื่อบางนี้ทะลวงยากมาก เพราะจากระดับแปดไประดับเก้าคือการเปลี่ยนแปลงของคุณสมบัติ
ผลจุดกำเนิดมังกรนั้นที่ฉีเซ่าเสวียนให้เอ๋าเย่ ผลักดันเขาไปถึงสายเลือดจุดสูงสุดระดับแปดได้ ต่อให้กินอีกสิบผลก็ยากจะทะลวงระดับเก้าได้
การจะเดินก้าวสุดท้ายได้ มีเพียงตามหาผลจุดกำเนิดมังกรที่มีสรรพคุณแกร่งกว่าเท่านั้น
เดิมทีผลจุดกำเนิดมังกรนั้นในมือเอ๋าอูมากพอจะทำให้เอ๋าเย่ทะลวงเยื่อบางชั้นนี้
แต่เอ๋าเย่คิดไปคิดมาก็ยังให้เอ๋าอูหลอมรวมไป เพราะอย่างไรนั่นก็คือโชควาสนาของบุตรชายตน หนังหน้าเขาหนากว่านี้ก็ไม่มีทางไปแย่งผลไม้จากบุตรชายมากิน
ราชามังกรดำผู้ยิ่งใหญ่ก็มีเกียรติเช่นกัน
แต่เอ๋าเย่ได้รู้จากเอ๋าอูว่า บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนเก็บผลจุดกำเนิดมังกรจากเกาะเทพมังกรมาอย่างน้อยสี่สิบผล ทุกผลมีระดับสูงสุด
หากเอาผลจุดกำเนิดมังกรนั้นของเอ๋าอูมาวางรวมกับเสิ่นเทียน มันจะมีคุณภาพแย่ที่สุด และที่สำคัญกว่านั้นคือ เสิ่นเทียนยังเก็บมากระทั่งผลจุดกำเนิดมังกรที่อยู่สูงสุดนั้น
ผลจุดกำเนิดมังกรธรรมดาน่าจะเทียบไม่ได้เลย!
…….
นี่ทำให้เอ๋าเย่เลือดเดือดพล่าน คุมตัวเองไม่อยู่แล้ว
ต้องรู้ว่าผลจุดกำเนิดมังกรระดับสูงสุดสี่สิบกว่าผลหมายความว่าอย่างไร
ต่อให้กวาดทรัพย์สินทั้งเกาะมังกร แลกผลจุดกำเนิดมังกรพวกนี้มาได้ก็ยังถือว่าคุ้มค่า
เงินกับอาวุธอริยะไม่ได้ใช้ไปเปล่าๆ เพียงแค่เปลี่ยนเป็นอีกรูปแบบเท่านั้น ใช้ช่วยให้เผ่ามังกรแข็งแกร่งขึ้น!
เมื่อสัมผัสได้ถึงความกระหายในใจเอ๋าเย่แล้ว เสิ่นเทียนก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก “อาวุธอริยะสามชิ้นแลกกับผลจุดกำเนิดมังกรสองผลรึ ข้าจะเอาอาวุธอริยะมากขนาดนั้นไปทำอะไร”
ตอนนี้เสิ่นเทียนสวม ‘เกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกร’ ถือกระบี่คู่ม่วงคราม และยังมีเสื้อคลุมสุญญะกับตัว ในกลีบปอดยังบ่มเพาะอาวุธเตรียมเซียนกระบี่ฟ้าสังหาร รวยจนไม่รู้จะรวยอย่างไรแล้ว
สำหรับเสิ่นเทียน อาวุธอริยะธรรมดาไม่มีความเย้ายวนอะไรมากนักจริงๆ
นัยน์ตาเอ๋าเย่เผยความจนปัญญา เขาก็คาดการณ์ได้ว่าอาวุธอริยะธรรมดาไม่ได้เย้ายวนเสิ่นเทียนอะไรมาก
ถึงอย่างไรแม้อาวุธอริยะจะหายาก แต่นั่นก็หายากแค่สำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญต่ำกว่าผู้อริยะ แต่สำหรับผู้อริยะระดับฝ่าด่านเคราะห์แล้วก็งั้นๆ
หากไม่กลัวเหนื่อย อริยะแท้ระดับสามรอบขึ้นไปก็ใช้วัตถุดิบล้ำค่าหลอมอาวุธอริยะขึ้นมาได้ชิ้นหนึ่ง จากนั้นใช้พลังอริยะบ่มเพาะพันปี เท่านี้ก็หลอมขึ้นมาได้
อีกทั้งอาวุธอริยะที่ตนหลอมเองยังคล่องมือกว่าอาวุธอริยะที่คนอื่นหลอม สามารถแสดงอานุภาพแก่กล้าได้สองร้อยส่วนต่อร้อย
ดังนั้นโอรสสวรรค์ผู้โอหังที่แท้จริง เมื่อทะลวงสู่ระดับฝ่าด่านเคราะห์ ปกติจะหลอมอาวุธอริยะขึ้นเอง
สำหรับโอรสสวรรค์พวกนั้นแล้ว มูลค่าของอาวุธอริยะธรรมดาจริงๆ พอๆ กับอาวุธเตรียมเซียน!
เอ๋าเย่มองเสิ่นเทียนพลางพูดอย่างจริงจัง “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านอาน่าจะฝึกควบศาสตร์หลอมกายเทพมารกระมัง! ด้วยพรสวรรค์สูงสุดของท่านอา คอขวดระหว่างกายทองถึงนิพพานคงง่ายเหมือนดีดนิ้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ยอมทะลวงพลัง หรือว่าตั้งใจจะฝ่าไปให้ถึงระดับกายทองเก้ารอบในตำนานกัน”
แม้รอบตัวเสิ่นเทียนจะเหมือนคลุมด้วยหมอกลับแลหนึ่งชั้น ไม่อาจเห็นได้ชัดเจนว่ามีกายทองกี่รอบ แต่เอ๋าเย่ไม่คิดว่าปราการกายทองแปดรอบจะขังเสิ่นเทียนไว้ได้ ถึงอย่างไรพรสวรรค์ของเขาก็เรียกได้ว่าสูงสุดนับตั้งแต่อดีตกาลมา
สิ่งที่ทำให้เขาไม่ยอมทะลวงระดับกายทองจึงมีเพียงความเป็นไปได้เดียว กายทองเก้ารอบ!
แต่อีกด้านหนึ่ง เสิ่นเทียนงุนงงอยู่ในใจ
นี่เจ้าเดาได้ด้วยรึ
ถึงข้าจะไม่ได้อยู่ระดับกายทองนานนัก อีกทั้งตั้งแต่เริ่มฝึกบำเพ็ญจนถึงตอนนี้ใช้เวลาไปเพียงหนึ่งปี
แต่ว่า ข้าก็กำลังทะลวงระดับกายทองเก้ารอบที่ว่านั่นอยู่จริงๆ
เสิ่นเทียนพยักหน้าช้าๆ “ข้ายังไม่ทะลวงเก้ารอบจริงๆ”
……
เอ๋าเย่ตบต้นขา มือขวางอเล็กน้อย
ทันใดนั้น ไข่มุกมังกรบนเสาสีทองนั้นก็กลายเป็นแสงเทพพุ่งมาอยู่ในมือเอ๋าเย่
เขาแบไข่มุกมังกรออกตรงหน้าเสิ่นเทียน “ท่านอา สิ่งนี้คือสมบัติสุดยอดของเผ่ามังกรข้า ไข่มุกมังกรจักรพรรดิ ในนี้แฝงด้วยพลังที่เพิ่มคุณสมบัติกายทองเทพมารได้อย่างมหาศาล น่าจะมีประโยชน์กับการทะลวงกายทองเก้ารอบของท่านอย่างมาก
ผลจุดกำเนิดมังกรมีขีดจำกัดต่อท่านอา หากท่านอายินดี ข้าขอแลกไข่มุกมังกรจักรพรรดิเม็ดนี้กับผลจุดกำเนิดมังกรสิบผล”
ตอนที่เอ่ยคำนี้ แววตาเอ๋าเย่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
พึงรู้ไว้ว่าไข่มุกมังกรจักรพรรดิมาจากส่วนลึกเกาะเทพมังกร เป็นหนึ่งในสมบัติสุดยอดสูงสุดของเผ่ามังกรดำ
พลังงานในไข่มุกมังกรนี้ยกระดับคุณสมบัติกายทองเทพมารได้อย่างง่ายดาย หลายหมื่นปีมานี้ไข่มุกมังกรช่วยสร้างการคงอยู่ระดับกายทองแปดรอบมาสามท่าน
ทว่าพลังงานในไข่มุกมังกรนี้ก็เสียไปเกือบครึ่งเพราะเหตุนี้ จึงฟื้นฟูอยู่บนเสามังกรมาตลอด
หากไม่จำเป็นจริงๆ เอ๋าเย่คงทำใจมอบไข่มุกจักรพรรดิมังกรนี้ให้ไม่ได้
เสิ่นเทียนมองไข่มุกมังกรจักรพรรดิลึกๆ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ไข่มุกมังกรจักรพรรดิมีประโยชน์กับข้ามากจริงๆ ข้าตกลงแลกเปลี่ยน”
เพิ่งเอ่ยจบ เสิ่นเทียนก็ประสานมุทรา ผลจุดกำเนิดมังกรขยับแสงสีทองสิบผลปรากฏขึ้นในมือเขา แผ่กลิ่นอายพลังที่ทำให้เอ๋าเย่บ้าคลั่ง
สูง!
สูงมาก!
ต่อให้เอ๋าเย่จะพยายามประเมินคุณภาพของผลจุดกำเนิดมังกรในมือเสิ่นเทียนให้สูงอย่างไร ก็ยังพบว่าตนประเมินไว้ต่ำมาก!
ผลจุดกำเนิดมังกรสิบผลนี้ ทุกผลมากพอจะทำให้เขาก้าวข้ามปราการสายเลือดมังกรดำระดับแปดไปได้ง่ายๆ ได้กลายเป็นมังกรดำระดับเก้าที่แท้จริง
กระทั่งหากเผ่ามังกรกล้าทุ่มสุดตัว มอบผลจุดกำเนิดมังกรเก้าผลที่เหลือให้เอ๋าปิง บางทีอาจทำให้เอ๋าปิงพัฒนาขึ้นถึงขีดสุด กลายเป็นสายเลือดมังกรทองในตำนาน
นั่น คือสายเลือดสูงสุดที่ถูกเรียกว่าจักรพรรดิ!
แน่นอนว่าความเป็นไปได้นี้ไม่สูง ถึงอย่างไรสายเลือดมังกรทองก็หายากมากจริงๆ
ในประวัติศาสตร์โบราณที่ตรวจสอบได้ในหลายหมื่นปีมานี้ของห้าดินแดนโลกเบื้องล่าง ก็เคยปรากฏมังกรทองแท้จริงครั้งหนึ่ง
การสิ้นเปลืองผลจุดกำเนิดมังกรระดับสูงสุดเก้าผลเพียงเพื่อความเป็นไปได้ที่เลื่อนลอยเช่นนี้ นี่เป็นการตัดสินใจที่เผ่ามังกรไม่มีทางทำได้ เสี่ยงเกินไป
……
เอ๋าเย่เก็บผลจุดกำเนิดมังกรสิบผลไป แววตามีความปวดใจขึ้นมา
ในมือเขามีค้อนเล็กสีดำลอยขึ้นมาช้าๆ ขนาดราวฝ่ามือ ทุกส่วนเต็มไปด้วยลายมังกรจางๆ
ตอนที่ค้อนเล็กลอยขึ้นมา มวลอากาศยังพังทลายลง มีเสียงมังกรร้อง มีอานุภาพสูงสุดของอาวุธเซียนรางๆ!
เอ๋าเย่พูดด้วยความจำใจ “สิ่งนี้คือสมบัติประจำเผ่าของเกาะมังกรดำ ‘ค้อนเทพกำราบสมุทร’ หลอมขึ้นจากทองดำมังกรคำรามอันเป็นอันดับห้าในรายนามทองคำเซียน เป็นกึ่งสมบัติเซียน!
มูลค่าของมันสูงกว่าอาวุธอริยะร้อยชิ้น ทั้งยังมีคุณสมบัติพิเศษของทองดำมังกรคำราม มองข้ามการป้องกันได้ ขอแลกกับผลจุดกำเนิดมังกรที่เหลือได้หรือไม่”
อาวุธเตรียมเซียนมีมูลค่าเกินกว่าอาวุธอริยะจะเทียบได้ มิหนำซ้ำยังเป็นอาวุธเตรียมเซียนระดับสูงสุดที่หลอมขึ้นจากทองดำมังกรคำราม
กล่าวได้ว่าเพียงแค่มูลค่าของค้อนเทพกำราบสมุทรนี่ ก็มากพอจะเทียบกับผลจุดกำเนิดมังกรทั้งหมดแล้ว
หากไม่ใช่เพราะเสิ่นเทียนถือว่าเป็นคนของเกาะมังกรดำ ทั้งยังมี ‘ศักยภาพแฝงในการลงทุนสูงสุด’ ขณะเดียวกันผลจุดกำเนิดมังกรยังมีประโยชน์กับเผ่ามังกรสูงสุด รวมถึงผลจุดกำเนิดมังกรทุกผลที่เสิ่นเทียนให้มีคุณภาพระเบิดตับ
สี่อย่างนี้หากมีสิ่งใดขาดหายไป เอ๋าเย่จะไม่มีทางนำค้อนเทพกำราบสมุทรออกมาเด็ดขาด!
ถึงอย่างไร นี่ก็แทบจะไม่ต่างอะไรกับมอบสมบัติล้ำค่าให้ไปเฉยๆ เลย!
ทองดำมังกรคำรามในอันดับห้ารายนามทองคำเซียนรึ
เสิ่นเทียนตาเป็นประกายขึ้นมา รู้สึกว่าพลังในกายกำลังหมุนม้วนพลิกฟ้า
เพียงชั่วครู่สั้นๆ ก็ได้สมบัติที่มีประโยชน์กับตนอย่างมากมาสองชิ้น โชคเข้าข้างสุดๆ ไปเลย!
อีกทั้งเสิ่นเทียนยังคิดมาตลอดว่าเมื่อระดับพลังของตนสูงขึ้น อาวุธวิญญาณระดับสูงสุดค้อนนภาม่วงสะเทือนฟ้านั่นเหมือนจะไม่เข้ามือนิดๆ แล้ว
เพราะอย่างไรตอนนี้เขาก็ทุบผู้สูงศักดิ์สวรรค์ได้ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ปกติมีอาวุธวิญญาณระดับสูงสุด คนที่ร่ำรวยหน่อยถึงขั้นมีอาวุธอริยะระดับล่างปกป้องตัวเอง
เสิ่นเทียนเอาค้อนนภาม่วงสะเทือนฟ้าไปฟาดคนอีก มักจะรู้สึกไม่สมราคา ไส้แห้งยากจนเกินไป
ตอนนี้ดีละ ได้ข้ามอาวุธอริยะมาแลกเป็นค้อนอาวุธเตรียมเซียนเลย
ขอไม่โม้แล้วกัน ขอแค่อีกฝ่ายไม่ตอบโต้ ตอนนี้เสิ่นเทียนยังกล้าทุบกระทั่งผู้อริยะ!
……..
“เกรงใจ ราชามังกรเกรงใจไปแล้ว!”
เสิ่นเทียนรับค้อนเทพกำราบสมุทรมา ก่อนจะควักผลจุดกำเนิดมังกรในแหวนทั้งหมดออกมา
กระทั่งเขายังแถมใบชาตระหนักรู้ลักษณะมังกรสีเงินให้อีกใบ “ใบชานี่ ราชามังกรเอากลับไปด้วยเถอะ ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ”
หูว~
มีผลจุดกำเนิดมังกรเยอะเช่นนี้เชียวรึ!
เอ๋าเย่มองกองผลจุดกำเนิดมังกรตรงหน้า พลางรู้สึกเวียนศีรษะเล็กน้อย
ผลจุดกำเนิดมังกรเยอะเช่นนี้ มากพอจะยกระดับเผ่ามังกรสายเลือดระดับแปดพวกนั้นบนเกาะมังกรดำให้เป็นมังกรดำระดับเก้าได้ทั้งหมด
กระทั่งคนที่เดิมทีมีสายเลือดเหนือชั้นอยู่แล้วอย่างเอ๋าปิง ถึงขั้นเลือกผลที่คุณภาพสูงๆ ไปสองสามผล ยกระดับไปถึงสายเลือดจุดสูงสุดระดับเก้าได้
ต่อให้ไม่อาจผลัดเปลี่ยนเป็นสายเลือดมังกรทองสูงสุด อย่างน้อยก็มองกราดห้าดินแดน ยากจะหาคู่ต่อสู้ได้!
มิหนำซ้ำ ยังมีใบชาตระหนักรู้ นี่ก็ล้ำค่ามากเช่นกัน
ท่านอาเสิ่นเทียน รู้จักวางตัวจริงๆ!
เอ๋าเย่เก็บผลจุดกำเนิดมังกรกับใบชาตระหนักรู้ไปอย่างระมัดระวัง ก่อนจะป้องมือกล่าว “ท่านอามีบุญคุณยิ่งใหญ่กับเผ่ามังกร เผ่ามังกรจะไม่มีวันลืมเลย!
ข้าจะเดินทางกลับไปจัดการผลจุดกำเนิดมังกรพวกนี้ก่อน วันหลังจะเตรียมของขวัญอย่างงามไปขอบคุณถึงแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ด้วยตัวเอง”
เมื่อเอ่ยจบ เอ๋าเย่ก็เขย่าร่างเป็นมังกรดำพันจั้ง ฉีกมิติพุ่งทะยานขึ้นฟ้าไป
เหลือไว้เพียงเสิ่นเทียนที่เดินออกจากมิตินี้ช้าๆ มายืนบนเกาะอัสนีเทพสวรรค์อย่างพอใจ หนนี้กำไรงามจริงๆ
หลังจากกินผลสูงสุดไป เสิ่นเทียนก็บรรลุกายศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิมังกร ผลจุดกำเนิดมังกรที่เหลือพวกนั้นไม่มีประโยชน์อะไรกับเสิ่นเทียน แม้แต่เพิ่มความแกร่งของกายเนื้อยังยาก
ใช้แลกกับไข่มุกจักรพรรดิมังกรและค้อนเทพกำราบสมุทร ไม่ต่างอะไรกับเปลี่ยนขยะให้เป็นสมบัติ
แต่เอ๋าเย่ไม่ได้ถามเรื่องผลสูงสุดนั้นกับเสิ่นเทียนเลย บางทีอาจจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างจากตัวเสิ่นเทียน จึงรู้ว่าเสิ่นเทียนกินผลสูงสุดไปแล้ว
เป็นราชามังกรได้ นอกจากศักยภาพแข็งแกร่งเป็นหนึ่งแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าไม่ใช่คนโง่
ไข่มุกจักรพรรดิมังกรกับค้อนเทพกำราบสมุทรนี่ ถึงบอกว่าเป็นของแลกเปลี่ยน แต่เอาเข้าจริงๆ ก็เป็นการลงทุนกับเสิ่นเทียนของเกาะมังกรดำ
เสิ่นเทียนเองก็พอจะคาดเดาช่องทางต่างๆ ในนั้นได้ไม่มากก็น้อยเหมือนกัน
เขารับน้ำใจของเผ่ามังกรในวันนี้แล้ว!
…..
ในหนึ่งเดือนมานี้ เสิ่นเทียนไม่ได้ไปที่ใดเลย แต่ปิดด่านบำเพ็ญบนเกาะอัสนีเทพสวรรค์อย่างสงบ
เขากำลังหลอมรวมพลังจากในไข่มุกจักรพรรดิมังกรนั้น เพื่อทะลวง ‘กายทองสูงสุดเก้ารอบที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในห้าดินแดนในตำนาน’
แต่ขั้นตอนนี้เหมือนจะยากกว่าที่เสิ่นเทียนคิดเอาไว้!
ถ้าบอกว่าจากกายทองหนึ่งรอบไปถึงเจ็ดรอบเหมือนการข้ามภูเขาเล็กไปทีละลูก
เช่นนั้นการทะลวงจากกายทองเจ็ดรอบไปแปดรอบก็เหมือนการข้ามภูเขาไท่ซานทั้งลูก
และการข้ามจากกายทองแปดรอบไปเก้ารอบ ก็เหมือนการข้ามยอดเขาเอเวอเรสต์ทั้งลูก!
ต่อให้มีไข่มุกจักรพรรดิมังกรช่วย เสิ่นเทียนก็ยังรู้สึกว่าก้าวนี้ยากมาก
เสิ่นเทียนกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในห้องลับปิดด่านบำเพ็ญลึกลงไปในก้นทะเลสามพันจั้ง ข้างกายเขามีหมอกเบิกฟ้าสีเงินอมขาวไหลเวียนอยู่ ตอนนี้จะลอยขึ้นๆ ลงๆ ไม่หยุดตามการหายใจของเขา
ใช่ เสิ่นเทียนไม่ได้คิดจะทะลวงกายทองเทพมารเก้ารอบธรรมดา
หากแค่นั้น เขาคงทะลวงสำเร็จไปนานแล้ว
หลังจากได้คัมภีร์คบเพลิงเบิกฟ้า เสิ่นเทียนก็ตัดสินใจจะควบแน่นกายทองเบิกฟ้า!
เขาให้ร่างแยกไปในเขตทะเลเบิกฟ้าอีกครั้งเป็นกรณีพิเศษ เหนี่ยวนำหมอกเบิกฟ้าบางส่วนกลับมา หลอมรวมพวกมัน
แน่นอน หมอกเบิกฟ้าพวกนี้ไม่ได้มีมากมาย
เพราะการหลอมหมอกเบิกฟ้าต้องใช้พลังงานสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินจำนวนมาก ต่อให้เสิ่นเทียนมีปัญจธาตุสามารถสร้างขึ้นใหม่เป็นวัฏจักรได้ แต่ก็ไม่ได้ฟื้นฟูเร็วขนาดนั้น
เพื่อหลอมรวมหมอกเบิกฟ้านี่ เสิ่นเทียนถึงกับต้องทุบต้นทุนลงไป ดื่มของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานเป็นตัน
…..
แน่นอน การทุบต้นทุนเทพทรูให้ผลชัดเจนมาก
ตอนนี้ผ่านไปหนึ่งเดือน เสิ่นเทียนค่อยๆ หลอมรวมหมอกเบิกฟ้าพวกนั้นเข้าสู่กายเนื้อแล้ว
เขาสัมผัสได้ว่าภายใต้การกระตุ้นของหมอกเบิกฟ้าพวกนี้ กายเนื้อเขากำลังเสียหายด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ ก่อนจะสร้างขึ้นมาใหม่และยกระดับสูงขึ้น
การยกระดับเช่นนี้ไม่อาจใช้คำพูดมาบรรยายได้แล้ว
ก็เหมือนการก้าวข้ามในระดับของชีวิต นับจากนี้ไปเปลี่ยนจากมดกลายเป็นมังกรยักษ์!
เสิ่นเทียนไม่เคยเห็นกายทองเทพมารเก้ารอบของคนอื่นมาก่อน แต่เขารู้สึกว่าถึงตนจะยังอยู่จุดสูงสุดกายทองแปดรอบ แต่เทียบระดับความแกร่งของกายเนื้อกันจริงๆ แล้ว
กายเนื้อตนที่ผ่านการชะล้างด้วยหมอกเบิกฟ้าแล้ว สามารถทุบกายทองเทพมารเก้ารอบของคนอื่นระเบิดเป็นจุณได้!
กึก~
เปลือกไข่มุกมังกรจักรพรรดิสีทองเกิดรอยร้าวขึ้น ก่อนจะแตกกระจายเป็นพลังงานสีทองมหาศาลทะลักเข้าไปในกายเสิ่นเทียน
เสิ่นเทียนใช้สองมือประสานมุทรา ปรากฏน้ำวนสีดำใหญ่ขึ้นกลางอากาศ อักขระขึ้นๆ ลงๆ เป็นลำดับ ก่อนจะกินพลังงานเข้าไปทั้งหมด
หมอกเบิกฟ้าทั้งหมดมุดเข้าไปในกายเสิ่นเทียนอย่างบ้าคลั่งราวกับผึ้งได้กลิ่นหอมเกสร
บึ้ม~
กระแสพลังงานไร้ที่สิ้นสุดหมุนม้วน ก่อให้เกิดกระแสลับน่าสะพรึงขึ้นตรงส่วนลึกของก้นทะเล!
ทันใดนั้น ผิวกายเสิ่นเทียนเปล่งแสงสีทองและเงินตัดสลับกัน
เส้นผมยาวปลิวไสว ร่างเปลือยท่อนบนขยับแสงสีทอง ดูเหมือนกับเทพและมาร
……
ตอนนี้เขาสัมผัสได้ว่าปราการคอขวดนั้นในเงามืดได้ถูกทะลวงไป
กายทองเก้ารอบเบิกฟ้าสูงสุดในตำนาน
พอจะนับได้ว่าเขาทำสำเร็จแล้ว!
………………………