บทที่ 215 สัตว์อสูรทะเลโจมตีฐานทัพ
วู๊ซ!
บนท้องฟ้าเย่เทียนและภรรยาของเขาจักรพรรดิจันทราบินตรงไปยังชายทะเล
พวกเขาไม่ได้บินเร็วนักจุดประสงค์ของพวกเขาในการเดินทางครั้งนี้เพื่อพักผ่อนโดยไม่ได้มีธุระใดๆต้องจัดการ
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เห็นฐานทัพขนาดใหญ่แม้ว่าจะด้อยกว่าฐานจงไห่แต่ก็ยังเป็น หนึ่งในฐานทัพใหญ่
“เยว่เอ๋อ นี่คือฐานอะไร?”
เย่เทียนถานจักรพรรดิจันทรา
จักรพรรดิจันทรารู้เรื่องราวมากกว่าเขามากไปกว่านั้นเธอยังรู้จักสถานที่ตั้งของฐานทัพอีกเป็นจํานวนมาก
“ที่นี่คือฐานฟูไห่!
จักรพรรดิจันทรากล่าว
วู๊ซ!
ทั้งสองบินมาหยุดเหนือฐานฝูไห่แต่พวกเขาก็เห็นว่าฐานฝูไห่กําลังเกิดความโกลาหลขึ้น “สัตว์อสูรโจมตีฐานทัพ!”
เย่เทียนขมวดคิ้ว
สถานการณ์ของฐานทัพฝูไห่ดูจะไม่ค่อยดีนักมีสัตว์อสูรจํานวนมากที่กําลังปิดล้อมฐานฝูไห่ไว้หนึ่งในนั้นยังมีสัตว์อสูรระดับราชาที่เทียบได้กับระดับราชาระดับ 2 ดาว
และมีอสูรระดับราชาสามดาวคอยบัญชาการอยู่
พลังนี้เพียงพอที่จะทําลายการป้องกันของฐานฝูไห่!
หากเป็นสัตว์อสูรปกติที่โจมตีฐานทัพเย่เทียนจะไม่แปลกใจเลย เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาหลายต่อหลายครั้งแต่สัตว์อสูรที่อยู่ด้านล่างส่วนใหญ่เป็นสัตว์อสูรทะเล
“ท่านพี่ มีบางอย่างผิดปกติ!”
จักรพรรดิจันทราขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ดูเหมือนว่ามีบางอย่างผิดปกติจริงๆ!”เย่เทียนพึมพํา
โดยทั่วไปแล้วอสูรทะเลจะไม่ออกห่างจากทะเลเว้นเสียแต่ว่าจะถูกดึงดูดโดยบางสิ่งบางอย่างหรือเกินสถานการณ์พิเศษอื่น ๆขึ้น
“ผมจะไปจับสัตว์อสูรราชามาถาม!”
เย่เทียนเคลื่อนย้ายพริบตาไปยังสนามรบและใช้พรสวรรค์ด้านมิติกักขังสัตว์อสูรราชาที่แข็งแกร่งที่สุดไว้
มันเป็นสัตว์อสูรที่มีขนาดตัวสูง 100 เมตร และมีดวงตากลมโตขนาดใหญ่
จากการตรวจสอบของพรสวรรค์คัดลอก เย่เทียนจึงได้รู้ว่าสัตว์อสูรตัวนี้คือสัตว์อสูรกรงเล็บตาเดียว!
“สะกดจิต!”
เย่เทียนเริ่มสะกดจิตสัตว์อสูรตาเดียว
“ท่าไมแกถึงโจมตีฐานทัพฝูไห่?”
เย่เทียนถาม
“เจ้านายของข้าต้องการให้พวกเราโจมตีฐานนี้ หลังจากโจมตีฐานแล้ว ข้าจะปล้นทรัพยากรของมนุษย์ให้กับนายท่าน!”
สัตว์อสูรตาเดียวกล่าว
“เจ้านายของแกคือใคร?”
เย่เทียนถามอีกครั้ง
“เจ้านายของฉันคือ …
ก่อนที่สัตว์อสูรตาเดียวจะทันได้พูดอะไร วิญญาณของมันก็สลายไปอย่างสมบูรณ์
“นี่คือ……..
สีหน้าของเย่เทียนพลันเปลี่ยนไป นี่เป็นการสะท้อนกลับของวิญญาณ
การสะท้อนกลับของจิตวิญญาณเป็นพรสวรรค์ที่หาได้ยากชนิดหนึ่ง มันน่าจะเรียกว่าคําสาบานแห่งชีวิตเมื่อฝ่าฝืนคําสาบานแห่งชีวิตนี้วิญญาณของมันจะแตกสลาย
เห็นได้ชัดว่าเจ้านายของสัตว์อสูรตาเดียวได้ออกคําสั่งให้มันห้ามเอ่ยชื่อของเจ้านายหากฝ่าฝืนค่าสั่งนี้วิญญาณของมันจะถูกทําลาย
แม้ว่าตอนนี้มันจะไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกมา แต่ภายใต้ผลของคําสาบานแห่งชีวิตวิญญาณของมันก็ถูกทําลายเช่นกัน
“อีกฝ่ายไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน จึงออกคําสั่งเช่นนี้กับอสูรตาเดียว น่าแปลกหากเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งในทะเล ก็ไม่จําเป็นต้องทําเช่นนี้อีกฝ่ายเห็นได้ชัดว่าน่าจะกลัวมนุษย์รู้ตัวตนของมัน โดยปกติสัตว์ในทะเลไม่กลัวมนุษย์ไม่ใช่หรือ?หากมันกลัวมนุษย์แล้วทําไมจึงยังสั่งการให้
โจมตีฐานของมนุษย์? และทําไมมันถึงต้องการรวบรวมทรัพยากรของมนุษย์? เรื่องนี้ชักหน้าสงสัยซะแล้ว!”
เย่เทียนยิ่งรู้สึกว่าเบื้องหลังเรื่องนี้ไม่ง่ายขนาดนั้น เจ้าของที่อยู่เบื้องหลังสัตว์อสูรตาเดียวต้องเป็นปัญหาอย่างแน่นอน และยังเป็นปัญหาใหญ่มาก
หากเป็นเรื่องทั่วไปเขาคงจะไม่สนใจแต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายต้องการโจมตีฐานทัพ
ขนาดใหญ่ของมนุษย์และต้องการที่จะทําลายฐานทัพหากเขายังนิ่งเฉยไม่รู้ว่ามีฐานขนาดใหญ่กี่แห่งที่จะต้องถูกทําลาย
“ถอยกลับไปที่ฐาน!”
เย่เทียนหันกาย จากนั้นเสียงของเขาก็ครอบคลุมทั่วทั้งสนามรบ
ในเวลาเดียวกันกลิ่นอายอันทรงพลังก็แผ่กระจายออกมา
ราชาแห่งฐานฝูไห่รู้ว่าเย่เทียนต้องมีระดับสูงกว่าระดับราชาจึงรีบออกคําสั่งให้ทุกคนถอยกลับไปที่ฐาน
หลังจากนั้นไม่นาน เหล่าผู้ฝึกยุทธก็ถอยออกไป
ในเวลานี้เย่เทียนได้ใช้พรสวรรค์เบญจธาตุผันแปร-เขตแดนอัคคีระดับพระเจ้า!
ทันใดนั้นทะเลเพลิงไร้ที่สิ้นสุดแผ่ขยายปกคลุมกองทัพสัตว์อสูร
พริบตาเดียวสัตว์อสูรทั่วทั้งสยามรบก็สลายกลายเป็นเถ้าถ่าน
พรสวรรค์ของแดนอัคคีนั้นแข็งแกร่งมากด้านการโจมตีหมู่ มันสามารถกําจัดสัตว์อสูรทั้งกองทัพได้ภายในพริบตา
เมื่อสัตว์ร้ายทั้งหมดถูกสังกหาร เย่เทียนก็สลายพรสวรรค์เขตแดนอัคคีในขณะเดียวกัน
ฝึกยกระดับราชาก็บินเข้ามาหาเขา
“หลินหลงแห่งฐานฝูไห่คารวะใต้เท้า!”
หลินหลงกล่าวด้วยความซาบซึ้งและความเคารพ
“ฉันแค่ผ่านทางมา แต่เห็นว่าคลื่นสัตว์อสูรนี้ไม่ธรรมดา ฐานทัพฝูไห่ของพวกคุณต้องตื่นตัวให้มากขึ้น!”
เย่เทียนกล่าวกําชับและหันหลังบินจากไปบนท้องฟ้า
เย่เทียนมาหยุดอยู่ข้างๆจักรพรรดิจันทรา
“เยว่เอ๋อ เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อนฝูงสัตว์อสูรไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ มันทีการวางแผนไว้ล่วงหน้าอีกฝ่ายต้องการทําลายฐานและปล้นทรัพยากรหากเป็นการโจมตีของสัตว์อสูรปกติคงไม่ทํา เรื่องเช่นนี้แต่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ผมกลัวว่า…” เย่เทียนขมวดคิ้ว
“ท่านพี่ ท่านหมายถึงมนุษย์หรือ?”
การแสดงออกของจักรพรรดิจันทราเปลี่ยนไป
“อืม!” เย่เทียนพยักหน้า “สัตว์อสูรโดยปกติแล้วมันไม่ต้องการทรัพยากรของมนุษย์ ถึงแม้ว่าพวกมันจะบุกโจมตีฐานทัพของมนุษย์แต่นั่นก็เพราะว่าพวกเรางั้นเป็นศัตรูกันและพวกมันก็ ต้องการยึดครองพื้นที่หากคิดดูแล้วมีเพียงมนุษย์ด้วยกันเท่านั้นที่ต้องการทรัพยากรหรือสมบัติของมนุษย์”
“ในยุคสมัยนี้ยังมีมนุษย์ที่บ้ากล้ากระทําเรื่องชั่วร้ายเช่นนี้ด้วยหรือ?” ใบหน้าของจักรพรรดิจันทราดูไม่ดีนัก
“ใช่ มนุษย์เราอยากจะหยั่งถึงเรื่องนี้ผมควรตรวจสอบดูก่อน”
เย่เทียนกล่าว
จักรพรรดิจันทราเห็นด้วยกับการตัดสินใจของเย่เทียนถ้าเขาไม่ตรวจสอบฐานทัพขนาดใหญ่นี้ไม่รู้ว่าจะมีมนุษย์ที่ต้องตายมากมายขนาดไหน
“เราจะเริ่มตรวจสอบจากที่ไหน?”
จักรพรรดิจันทราถาม
“ทะเล!” เย่เทียนชี้ไปยังทิศทางของทะเล”สัตว์อสูรเหล่านี้มาจากทะเล ดังนั้นพวกเราควรจะเริ่มที่ทะเล ”
“งั้นก็ดี ตอนแรกพวกเราต้องการแค่ไปเที่ยวทะเลกันเช่นนั้นก็ถือโอกาสตรวจสอบเรื่องนี้ไปด้วยเลย!”
จักรพรรดิจันทราพยักหน้าเห็นด้วย
วู๊ซ!!
ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังชายหาดและหายลับไปอย่างรวดเร็ว
“พวกเรามาถึงแล้ว!”
เย่เทียนและจักรพรรดิจันทราหยุดบินและมองไปที่ทะเลไร้สิ้นสุดเบื้องหน้า
ทันทีที่ทั้งสองเข้าใกล้ทะเลเย่เทียนก็สัมผัสได้ถึงพลังปราณวารีอันเข้มข้น
“สภาพแวดล้อมในทะเลเหมาะแก่การฝึกฝนมากกว่าแม่น้ำสะอึก!”
เย่เทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามการฝึกในทะเลนั้นอันตรายกว่าแม่น้ำมากที่นี่มีสัตว์อสูรอยู่นับไม่ถ้วน
เย่เทียนยังสงสัยว่าทะเลจะมีสัตว์อสูรที่มีระดับสูงกว่าระดับจักรพรรดิหรือไม่
ทะเลนั้นเป็นพื้นที่ที่มีสิ่งมีชีวิตมากที่สุดแน่นอนว่ามันจะต้องมีสัตว์อสูรมากมายมหาศาลนอกจากนี้ทะเลยังมีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าพื้นดินหลายเท่า
ไม่มีใครปกป้องรอยแยกมิติที่ปรากฏขึ้นในทะเลดังนั้นสัตว์อสูรจากอีกโลกจึงสามารถหลั่งไหลเข้ามาได้เป็นจํานวนมาก
ด้วยเหตุนี้ทะเลจึงกลายเป็นพื้นที่ต้องห้ามที่น่ากลัวมากที่สุด!
ไม่กี่วันต่อมา เย่เทียนยังคงค้นหาเบาะแสในน่านน้านี้โดยพื้นฐานแล้วเขามักจะออกค้นหาขณะที่เปิดใช้งานพรสวรรค์ล่องหนเพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจของสัตว์อสูรใดๆ
ออกจากทะเลขึ้นมาบนบกและกําลังจะมุ่งหน้าไปสู่ฐานทัพฝูไห่
เดิมทีเย่เทียนเตรียมที่จะยอมแพ้แล้วแต่บังเอิญเขาได้พบกับสัตว์อสูรระดับราชาสิบกว่าตัวที่คราวนี้เย่เทียนไม่ได้สะกดจิตพวกมัน แต่เขาแอบตามสัตว์อสูรเหล่านี้ไปอย่างลับๆ
สัตว์อสูรพวกนี้สามารถสื่อสารกันได้พวกมันสนทนากันในระหว่างการเดินทาง
“ทําไมเจ้าหมอนั่นถึงตาย? ฐานทัพขนาดใหญ่เพียงฐานเดียวตามข้อมูลที่ได้รับจากนายท่านแม้ว่ามันจะยากที่จะโจมตีฐานทัพนี้ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าตาเดียวมันคงไม่ตายง่ายๆขนาดนี้?”
“หรือจะมีผู้แข็งแกร่งของเผ่ามนุษย์ปรากฏตัว?นายท่านเองก็เป็นมนุษย์เช่นกัน หากยอดฝีมือ
ของมนุษย์คนอื่นปรากฏตัวขึ้นและฆ่าเจ้าตาเดียวเช่นนั้นก็สมควรแล้ว!”
“ชู่วว ระวังปากเจ้าด้วย อย่าเปิดเผยตัวตนของนายท่านเจ้าลืมคําสาบานของเราไปแล้วหรือ?”
“นายท่านแค่บอกให้พวกเราไม่เปิดเผยชื่อเขาข้าเองก็ไม่ได้พูดมันออกมาอีกทั้งแถวนี้ก็มีแค่พวกเราเท่านั้น เจ้าไม่ต้องกังวลมากไปหรอก!”
“ตรวจสอบให้แน่ชัด แล้วรีบกลับกันเถอะข้าไม่ชินกับการใช้ชีวิตบนพื้นดิน ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่นานๆ”
สัตว์อสูรพวกนี้ไม่รู้ว่าบทสนทนาของพวกมันถูกเย่เทียนได้ยินเข้าแล้ว
“ที่แท้ก็เป็นมนุษย์จริงๆด้วย!ตราบใดที่ไม่เอ่ยชื่อออกมาคําสาบานแห่งชีวิตก็จะไม่ทํางานงั้นก็ง่ายเลย!”
เย่เทียนยิ้มอย่างเย็นชาและเปิดใช้งานพรสวรรค์สะกดจิตอีกครั้ง