ตอนที่ 19 นักรบวิญญาน

อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์

ขณะที่พวกเขาเดินทางไกลออกไปจากนิกายดาบบินเสี่ยวฮัวก็คิดกับตัวเองได้ว่า

‘เพียงไม่กี่วันเท่านั่นที่พี่หยวนเริ่มต้นฝึกพลังและกลายเป็นผู้ฝึกพลัง แต่เขากลับมีพลังมากพอที่จะต่อสู้กับนักรบวิญญานได้แม้ว่าเขาจะยังอยู่ในผู้ฝึกวิญญานระดับเก้าเท่านั้น การเติบโตแบบนี้เราไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย นี่มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างมาก และประสบการณ์ของเขาในการใช้ดาบก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย ราวกับว่าเขาเป็นจักรพรรดิดาบที่กลับชาติมาเกิดยังไงยังงั้นแหละ’

“ตอนนี้นอกจากการเดินไปรอบๆ เพื่อหาทรัพยากรที่มีค่าและแกนมอนเตอร์แล้ว ก็ยังไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ทำอีก”

“นอกจากนั้นตอนนี้พี่หยวนเป็นผู้ฝึกวิญญานระดับเก้าแล้ว เขาต้องใช้ประสบการณ์และสิ่งต่างๆที่ผ่านมาเพื่อทำให้เขาบรรลุพลังก่อน เขาถึงจะสามารถพัฒนาและกลายเป็นนักรบวิญญานได้”

เสี่ยวฮัวหันไปมองหยวนและพูดกับหยวนว่า

“พี่หยวนพี่ต้องการที่จะทำอะไรต่อไปหรอ ถึงแม้ว่าพี่จะกินแกนมอนเตอร์เพื่อเพิ่มพลังฉีของพี่ไปเรื่อยๆ แต่เมื่อเพิ่มพลังฉีถึงจุดสูงสุดของผู้ฝึกวิญญานแล้ว พี่ก็จะไม่สามารถได้รับฉีมากขึ้นเว้นแต่ว่าพี่จะกลายเป็น นักรบวิญญาน”

“แล้วพี่จะกลายเป็นนักรบวิญญานได้ยังไงละ”

หยวนถามเสี่ยวฮัว

“ในการเลื่อนจากผู้ฝึกวิญญานเป็นนักรบวิญญาน พี่จะต้องไปถึงระดับสูงสุดของผู้ฝึกวิญญานก่อน หลังจากนั้นจะเกิดการบรรลุของพลัง พี่จะต้องเข้าใจ รู้จักถึงพลังฉีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและพลังของตัวเองก่อน พี่ถึงจะกลายเป็นนักรบวิญญานได้ แต่ยังไงก็ตาม การที่พี่จะได้เข้าสู่การบรรลุของพลังได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาและพรสวรรค์ของพี่ด้วย”

“เธอหมายถึงอะไร?”

หยวนถามเสี่ยวฮัวด้วยความสงสัย

“ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการฝึกพลัง แต่ศักยภาพสูงสุดของพวกเขาก็จะถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะเกิดมาแล้วด้วยซ้ำ ตัวอย่างเช่น พี่หยวนอาจจะสามารถไปถึงจุดสูงสุดของขั้นการฝึกวิญญานได้อย่างง่ายดาย แต่พี่อาจจะไม่ได้รับหรือรู้สึกถึงการบรรลุของพลัง เพื่อเลื่อนไปเป็นนักรบวิญญาน นั่นก็จะทำให้พี่เป็นได้แค่ ผู้ฝึกวิญญาน ตลอดไป”

“แต่ทั้งหมดที่พูดไป ก็ยังมีสมบัติมากมายที่สามารถช่วยทำให้ทะลุขีดจำกัดนั้นขึ้นมาได้ และเขียนชะตากรรมของพวกเขาใหม่ ถึงแม้ว่าของพวกนั้นจะมีค่าและหาได้ยากมากๆก็ตาม”

แม้ว่าเสี่ยวฮัวจะไม่ได้พูดออกไป แต่จริงๆแล้วตัวเสี่ยวฮัวเองก็มีสมบัติเหล่านี้อยู่ไม่กี่ชิ้น ดังนั้นถึงแม้ว่าหยวนจะถูกกำหนดให้อยู่ในฐานของผู้ฝึกวิญญานตลอดไป แต่เธอก็สามารถช่วยให้เขารอดพ้นจากชะตากรรมพวกนี้ได้อยู่ดี

หยวนมองไปที่ค่าพลังฉีของเขาในขณะที่ฟังเสี่ยวฮัวพูดไปด้วย

“ถ้าฉันกินแกนมอนเตอร์เข้าไปเพิ่มอีก 3 แกนมันก็น่าจะมากพอที่จะทำให้ค่าพลังฉีของฉันเพิ่มจนถึงสูงสุด…”

หยวนคิดกับตัวเอง

ทันใดนั้นหลังจากที่หยวนตัดสินใจง่ายๆและตื่นเต้นกับการบรรลุของพลังที่จะมาถึง หยวนก็หยิบแกนของมอนเตอร์ออกมาสามแกนแล้วโยนเข้าปากของเขาทั้งหมดในครั้งเดียว

การแจ้งเตือนหายไปสองสามวินาทีก่อนที่จะกลับมาดังอีกครั้ง

เมื่อหยวนไปถึงระดับนักรบวิญญานแล้วเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังงานจำนวนมากที่กำลังขยายออกมาอยู่ภายในร่างกายของเขา มันทำให้เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขามีขนาดใหญ่ขึ้น แม้ว่าจริงๆแล้วร่างกายจริงๆของเขาจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆก็ตาม

“…”

เสี่ยวฮัวจ้องมองหยวนด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเท่าไข่ไก่สองฟอง ใบหน้าที่น่ารักของเธอเต็มไปด้วยความตกใจ

“พะ…พี่หยวน…พะ…พี่”

เธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอเพิ่งเห็น!

แม้ว่านักรบวิญญานจะไม่ได้มีอะไรพิเศษมากมายในสายตาของเสี่ยวฮัว และเธอก็สามารถมองข้ามมันไปได้ง่ายๆ แต่ที่ทำให้เธอตกใจกลับเป็นสิ่งที่หยวนทำ

หยวนสามารถกลายเป็นนักรบวิญญานได้โดยที่ไม่ต้องผ่านการบรรลุของพลัง! ความสำเร็จแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อนแม้แต่ในสวรรค์ชั้นสูงก็ตาม!

“พะ…พี่หยวน…พี่ทำอะไรลงไป?”

เสี่ยวฮัวถามหยวนด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

“หืมม? พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ พี่ก็แค่กินแกนมอนเตอร์เพื่อเพิ่มพลังฉีของพี่ให้เพียงพอต่อการเลื่อนขั้น หลังจากนั้นไม่นานก่อนที่พี่จะรู้ตัวพี่ก็กลายเป็นนักรบวิญญานไปซะแล้ว”

หยวนตอบเสี่ยวฮัวด้วยเสียงที่ค่อนข้างผิดหวังเพราะเขาไม่ได้สัมผัสกับ ‘การบรรลุของพลัง’ อย่างที่เสี่ยวฮัวบอกเลย

“เหลือเชื่อ…”

เสี่ยวฮัวยังไม่อยากจะเชื่อ หยวนเป็นผู้ฝึกพลังแบบไหนกันนะ? ให้เรียกเขาว่าอัจฉริยะยังคงเป็นคำพูดที่ไม่เพียงพอเมื่อดูสิ่งที่เขาเพิ่งทำสำเร็จ!

ในขณะที่เสี่ยวฮัวกำลังตกตะลึงกับความสำเร็จของเขา หยวนก็มองไปที่ค่าสถานะปัจจุบันของเขาตอนนี้

ชื่อ: หยวน

ระดับ: นักรบวิญญานระดับแรก

มรดก: ไม่มี

สายเลือด: ไม่มี

กายทิพย์: กายกลั่นสวรรค์

ความแข็งแรงทางกายภาพ: 3,734

ความแข็งแกร่งทางจิตใจ: 3,975

พลังวิญญาณ: 4,910

การป้องกันทางกายภาพ: 3,710

การป้องกันทางจิต: 4,821

ค่าพลังฉี : 3,846,000/38,460,000

“38 ล้าน?! ฉันต้องการ 38 ล้านฉี สำหรับการเลื่อนระดับต่อไปยังงั้นหรอ?! นี่มันไร้สาระเกินไปแล้ว!”

หยวนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อยหลังจากที่เขาเห็นตัวเลขจำนวนพลังฉีที่เขาต้องใช้ในการเลื่อนระดับถัดไปที่มันยาวเป็นหางว่าว

“งั้นตอนนี้ฉันจะกินแกนมอนเตอร์ที่เหลือเพื่อเพิ่มพลังขึ้นมาอีกมันอาจจะเพียงพอก็ได้”

หยวนหยิบแกนมอนเตอร์ที่เหลือทั้งหมดออกมาและโยนเข้าปากของเขาทันที

ยังไงก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นกลับทำให้หยวนตกตะลึงเป็นอย่างมาก

ค่าพลังฉี : 4,500,000 / 38,400,000

“ห๊ะ!! อะไรกันเนี่ย! ทำไมตอนนี้ฉันแทบจะไม่ได้รับพลังฉีจากแกนมอนเตอร์พวกนี้เลย?!”

เสี่ยวฮัวที่ดูหยวนมาตลอดก็พูดขึ้นมาเพื่อตอบคำถามของเขา

“เพราะตอนนี้พี่หยวนเป็นนักรบวิญญานแล้ว แกนมอนเตอร์ตัวอื่นๆที่ไม่ได้มาจากมอนเตอร์ระดับนักรบวิญญานก็จะไม่มีผลกับพี่อีกต่อไป”

“นี่มันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย!”

“การดำรงอยู่ของพี่หยวนก็ไม่สมเหตุสมผลเหมือนกัน…”

เสี่ยวฮัวถอนหายใจออกมา

หลังจากสงบสติอารมณ์และครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งหยวนก็ตระหนักได้ว่าระบบดังกล่าวนั้นค่อนข้างมีเหตุผลและความยุติธรรม เพราะมันป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีพลัง มีพลังสูงเกินระดับพื้นที่ และใช้ประโยชน์จากผู้ที่อ่อนแอเพื่อบังคับให้พวกเขาล่ามอนเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่าให้กับตัวเอง

“นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะหยุดพักจากการฝึกพลัง เพราะฉันก็เริ่มเบื่อกับการที่จะต้องมาวิ่งไล่ล่ามอนเตอร์พวกนี้แล้ว”

หยวนคิดกับตัวเอง เขาทำการล่ามอนเตอร์อย่างไม่หยุดหย่อนนั่นทำให้เขาเบื่อเป็นอย่างมาก

“เสี่ยวฮัวเธอช่วยนำทางไปที่เมืองที่ใกล้ที่สุดทีได้ไหม แล้วไปคุยเกี่ยวกับแผนการของพวกเราว่าจะทำยังไงต่อดี หลังจากที่ได้ไปพักสมองที่เมืองบ้าง”

เสี่ยวฮัวพยักหน้าแล้วพูดว่า

“เมืองที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไป 10 กิโลเมตรึค่ะ”

“10 กิโลเมตรยังงั้นหรอ…วิ่งไปกันเถอะ”

หยวนไม่เคยรู้สึกมีพลังขนาดนี้มาก่อน เขาจึงอยากวิ่งไปที่นั่น

“ได้สิพี่หยวน”

เสี่ยวฮัวตกลงอย่างง่ายดาย

จากนั้นทั้งสองก็เริ่มวิ่งไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุด