ตอนที่ 34 โดนแย่งบทบาทของตัวร้าย

สวรรค์ลิขิตข้าให้เป็นตัวร้าย I Am the Fated Villain

เหตุผลที่กู่ฉางเกอได้ข้อสรุปเหล่านี้ย่อมต้องขอบคุณนิยายทั้งหมดที่เขาเคยติดงอมแงมในชาติก่อน

หลินเทียนไม่คล้ายกับเด็กขยะทั่วไปเลย!

ถ้าเขาเป็นขยะ งั้นเขาคงได้แต่ชายตาแลมองอัจฉริยะอย่างพี่สาวเขา คงไม่กล้าแอบตามเขาลับๆแบบนี้ กู่ฉางเกอไม่สงสัยว่าคนที่ซ่อนตัวในที่มืดต้องเป็นหลินเทียนแน่ เพราะหลังอีกฝ่ายสังเกตเห็นเขาหันมอง อีกฝ่ายก็รีบหนีไป

นั่นไม่ใช่ความคิดของเด็กวัยเช่นเขา

“มันแสดงให้เห็นว่าการโน้มน้าวใจของเจ้าได้ผล และเขาก็คงเห็นใจพี่สาวตัวเอง ในโลกนี้ คนที่ไม่สามารถบ่มเพาะได้ไม่ต่างอะไรจากขยะจริงๆ ทุกอย่างที่เจ้าทำไปก็เพื่อตัวเขาเองทั้งนั้น!”

กู่ฉางเกอพูดชมนางด้วยรอยยิ้มหล่อเหลา

เขายังคงคุยแบบสบายๆ อย่างถามหลินชิวหานเพิ่มเกี่ยวกับหลินเทียน ในฐานะพี่สาวของเขา หลินชิวหานต้องเป็นคนที่รู้จักหลินเทียนดีสุด

โดยธรรมชาติ หลินชิวหานไม่รู้เจตนาของกู่ฉางเกอ นางกลับรู้สึกหวั่นไหวซะมากกว่า นางไม่เคยคิดว่านางจะได้ยินคำปลอบเช่นนี้จากปากคุณชายกู่!

หลังจากนั้น นางก็พูดอีกหลายอย่างเกี่ยวกับหลินเทียน

กู่ฉางเกอยิ้มและคุยกับนางต่อไป ในเวลาเดียวกัน เขาก็เก็บเกี่ยวข้อมูลจากนางให้ได้มากที่สุด

ข้อมูลหนึ่งที่กระตุ้นความสนใจเขาคือความจริงที่หลินเทียนเพิ่งเริ่มสนใจในการหลอมโอสถ และยังมาขอวัตถุดิบต่างๆจากหลินชิวหาน ในเวลาเดียวกัน เขายังเชี่ยวชาญค่ายกลโบราณอีกด้วย ไม่กี่วันก่อน เขาชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดของผู้อาวุโสหลายคน ทำให้ทุกคนตกใจ

กู่ฉางเกอเกือบเข้าใจเค้าโครงของตัวเอกแล้ว และแม้กระทั่งคิดถึงแผนการรองรับ บุตรฟ้าประทานคนใหม่นี้…เขาดูเหมือนจะจัดการได้ง่ายกว่าที่คิดไว้

ตอนนี้ที่เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการได้รับฟันเฟืองสะท้อนกลับจากโชคลาภ กู่ฉางเกอสามารถใช้วิธีการเพื่อจัดการกับบุตรฟ้าประทานเหล่านี้ได้มากขึ้น

“ข้าไม่คิดเลยว่าคุณชายกู่จะเข้าใจข้า…”

หลินชิวหานรู้สึกว่าหัวใจของนางเต้นแรง

“แม้กระทั่งเสี่ยวเทียนก็ยังไม่เข้าใจข้า และคิดว่าข้าโหดร้ายกับเขา”

หลินชิวหานรู้สึกหน่ายใจตอนพูดเช่นนี้

ถึงกระนั้น นางก็ยังรู้สึกยินดี นางรู้สึกว่าสุดท้ายหลินเทียนก็กลับตัวกลับใจ และความกังวลทั้งหมดของนางในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ไม่สูญเปล่า ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่สมาชิกครอบครัวหลายคนไม่เข้าใจ คุณชายกู่กลับเข้าใจตั้งแต่การพบกันครั้งแรก

นี่ทำให้เกิดอารมณ์ประหลาดในใจนาง

หลินชิวหานบ่มเพาะมากว่ายี่สิบปีแล้ว และตอนนี้นางเพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า’หัวใจเต้นผิดจังหวะ’ นางรู้สึกว่าหัวใจของนางเต้นผิดจังหวะในการพบกันครั้งแรกของพวกนาง ถึงแม้หัวใจของนางจะไม่เคยหวั่นไหวกับชายใดที่ไล่ตามจีบนางก็ตาม

กู่ฉางเกอย่อมมองเห็นผ่านใจของหลินชิวหาน เหนือสิ่งอื่นใด เขาคาดหวังสิ่งนี้ไว้อยู่แล้ว

ด้วยสถานะของเขาในฐานะหนุ่มหล่อผู้แข็งแกร่งจากอาณาจักรเบื้องบน ร่วมกับคารมและความเข้าใจจากชาติ่กอน แม้กระทั่งหญิงฉลาดอย่างซูชิงเกอก็ยังหนีเงื้อมมือเขาไม่พ้น แล้วหลินชิวหาน คนที่มีความคิดเรียบง่ายกว่าจะไม่โดนเขาตกได้ไง?

เขาไม่ต้องใช้ความพยายามเลยสักนิด!

การเริ่มต้นกับนางไม่เพียงจะง่าย แต่ยังน่าสนใจกว่าการจัดการกับหลินเทียนซะอีก

ซูชิงเกอดูละครฉากนี้จากด้านข้าง เริ่มเข้าใจกู่ฉางเกอลึกซึ้งขึ้น เขาคือคนชั่วที่ชอบเล่นกับหัวใจของคนอย่างแท้จริง

“เป็นเรื่องดีที่น้องชายหลินเทียนตัดสินใจเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เขาต้องเป็นไข่มุกที่ถูกฝุ่นปกคลุมมาก่อนแน่!เขาต้องมีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมมากแน่ถึงขั้นชี้ความผิดพลาดของผู้อาวุโสได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน..”

กู่ฉางเกอพูดพร้อมถอนหายใจอย่างมีอารมณ์ ทำให้มันดูเหมือนว่าคำพูดของเขาเป็นแค่ความชื่นชมเท่านั้น

“เสี่ยวเทียนจะเป็นไข่มุกที่โดนฝุ่นปกคลุมได้ไง?สำหรับพรสวรรค์เขา..เขายังไม่ถึงอาณาจักรทะเลวิญญาณเลย”

หลินชิวหานอดปฏิเสธด้วยรอยยิ้มไม่ได้ แต่ไม่ช้า คำพูดของนางก็หยุด นางตกตะลึงและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่นางแค่ขาดคนชี้จุด!

“เอ๊ะ?เขาจะทำการหลอมโอสถได้ไงถ้าเขายังบ่มเพาะไม่ถึงอาณาจักรทะเลวิญญาณ?หรือน้องชายหลินเทียนจะพบมรดกโบราณบางอย่าง?ตอนข้าอยู่ในอาณาจักรเบื้องบน? ข้าได้ยินเกี่ยวกับมรดกโบราณเช่นนั้นมา ผู้บ่มเพาะสามารถสืบทอดได้แม้กระทั่งก่อนอาณาจักรทะเลวิญญาณ มันดูเหมือนน้องชายหลินเทียนจะเป็นคนที่สวรรค์โปรดปราน!”

กู่ฉางเกออดพึมพำไม่ได้ด้วยความแปลกใจ

หลินชิวหานไม่รู้เรื่องอะไรมาก แต่นางก็เริ่มเดาอะไรได้หลังเขาชี้นางไปในทิศทาง’ที่ถูกต้อง’

พอเห็นว่าหลินชิวหานจมอยู่ในความคิดแล้ว กู่ฉางเกอก็ไม่ตัดสินใจบอกใบ้อะไรอีก เขาเข้าใจว่าเขาต้องชี้นำนางแค่พอเหมาะ เขาจึงยิ้มและเงียบไป

[ณ ที่อื่นในเวลาเดียวกัน]

หลังกู่ฉางเกอสัมผัสได้ถึงร่องรอยของเขา หลินเทียนก็ตัดสินใจหนีไป ไม่ติดตามอีก

ตอนนี้ เขามีใบหน้าน่าเกลียด และมีความหึงหวงในใจ แน่นอน มันเพราะความหลงใหลของเจ้าของร่างนี้ที่มีต่อพี่สาวเขา

ปัจจุบัน กู่ฉางเกอแข็งแกร่งเกินไปสำหรับหลินเทียน แต่นั่นแค่เพราะเขาเพิ่งเกิดใหม่ หลินเทียนไม่อาจประเมินขีดจำกัดปัจจุบันของกู่ฉางเกอได้เพราะฐานบ่มเพาะที่ต่ำช้าของเขา

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่คาดคิดสุดสำหรับเขาคือพฤติกรรมของพี่สาวเขา พี่สาวเขา ผู้มักเข้มงวดกับเขาในวันปกติและง่างามกลับทำตัวเหมือนหญิงสาวขี้อายและอ่อนโยนต่อหน้าชายอื่น

แย่ไปกว่านั้น มันเป็นการพบกันครั้งแรกของทั้งคู่ด้วย!

ฉากเช่นนี้ทำให้เลือดลมของหลินเทียนพลุ่งพล่าน และเขาก็รู้สึกเหมือนมีใครขโมยของล้ำค่าที่เป็นของเขาไป เขาอดกำหมัดแน่นไม่ได้ แน่นจนสามารถได้ยินเสียงกระดูก

ยังดีที่สภาพจิตใจของเขาไม่โดนทำลายไปมากกว่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด การบ่มเพาะของเขาในชาติก่อนไม่ได้สูญเปล่า

ไม่ช้า หลินเทียนก็สงบอารมณ์และตั้งปณิธานว่า ‘เจ้าคุณชายกู่นี่คือคนชั่ว เขาแสดงออกอย่างสุภาพบุรุษ แต่เขาต้องไม่ใช่พวกคนดีอย่างตาเห็นแน่ไม่ว่าข้าจะมองยังไง ข้าต้องบอกให้หลินชิวหานระวัง นางจะได้ไม่ตกหลุมพรางแสนชั่วช้าของเขา’

‘ในเมื่อเจ้าตัดสินใจมาทำให้ข้าไม่พอใจ งั้นก็อย่าโทษข้าที่ต้องบดขยี้เจ้า!’

ก่อนหน้านี้ เพราะกายาของผู้หญิงที่ติดตามกู่ฉางเกอ เขาจึงยังสงสัยว่าควรจัดการกับกู่ฉางเกอไหม แต่ตอนนี้ เขาตัดสินใจได้แล้ว ตอนนี้เขามีเหตุผลดีที่จะจัดการเขา

มันคือกู่ฉางเกอที่ยั่วโมโหเขาก่อน ไม่ใช่เขาที่ไปยั่วโมโหอีกฝ่าย!!

..

รัตติกาลมาเยือนในชั่วพริบตา

แรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ได้ผ่านมาทางเมืองสวรรค์กลางเนื่องจากการกลับมาของบรรพชนตระกูลหลินโบราณ และนั่นก็ทำให้เกิดความปั่นป่วนไปทั่ว ผู้บ่มเพาะนับไม่ถ้วนต่างคุยถึงเรื่องนี้พอว่างปาก

ข่าวนี้กระจายจากตระกูลหลินโบราณไปส่วนต่างๆของแคว้นกลาง ทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ในทุกเมืองโบราณ

ขุมอำนาจใหญ่ทั้งหมดต่างสั่นสะเทือน และพวกเขาก็ส่งทายาทกับลูกศิษย์มาเยือนตระกูลหลิน

ตอนนี้ กู่ฉางเกอยืนอยู่ข้างหน้าต่างด้วยมือที่เปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์ เขาดูลึกลับมากเมื่อแสงจันทร์สลัวส่องใบหน้าเขา และชุดดำของเขาก็พลิ้วสะบัดตามลมหนาว ใบหน้าของเขาสงบ ไม่แยแส ราวกับเขาจมอยู่ในความคิด

เขาพอรู้ถึงเนื้อเรื่องและเค้าโครงของบุตรฟ้าประทานคนใหม่อย่างหลินเทียนแล้ว อีกฝ่ายต้องเป็นผู้แข็งแกร่งที่ตายด้วยเหตุการณ์บางอย่างและวิญญาณก็มาเกิดใหม่โดยยึดร่างของขยะ

หลินเทียนไม่มีความรู้ใดเกี่ยวกับอนาคต ดังนั้นเขาจึงต้องไม่ใช่ผู้ย้อนเวลา นี่ทำให้การจัดการหลินเทียนเป็นเรื่องง่าย

แน่นอน สิ่งที่ทำให้กู่ฉางเกอแปลกใจสุดคือความจริงที่ตอนเขาอยู่ด้านนอกโถง เจ้าหมอนี่กลับจ้องซูชิงเกอตาเป็นมันด้วยเหตุผลบางอย่าง

นั่นมันบทบาทของตัวร้ายไม่ใช่เหรอที่จะอยากได้ตัวผู้หญิงของคนอื่น?

ทำไมบุตรฟ้าประทานถึงเริ่มมาสวมบทบาทนั้น?

ดูเหมือนหลินเทียนจะอยากตายมาก

เป็นแค่กระเทียมหอมให้เขาเก็บเกี่ยวก็ควรรู้ภาระหน้าที่ตน การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการล้ำเส้นมากเกินไป