“ช่างมันเถอะ! ลองเลยดีกว่า” ฟางฉีพึมพำกับตัวเองด้วยความหิว เขาพบว่าซองเครื่องปรุงก็มีความพิเศษเช่นกัน ไม่มีสิ่งติดข้างเลยเมื่อเทเครื่องปรุงลงไป
เขาเปิดเครื่องทำน้ำร้อน .. เทน้ำร้อนใส่ในถ้วยจนพอดี ชามกระดาษถูกออกแบบมาให้หนาพอที่จะไม่ลวกมือ จากนั้นเขาใส่ไส้กรอกตามลงไปพร้อมปิดฝา
.. สามนาทีต่อมา
เพื่อให้แน่ใจว่าวันนี้พวกเขาจะได้ดูราชวงศ์หยกตอนที่ห้าหกแน่ๆ ในวันนี้ทุกคนเดินทางมาถึงคาเฟ่ในเวลาเช้าตรู่
องค์หญิงและเจ้าชายทั้งสององค์เดินทางมาถึงคาเฟ่ในเวลาเจ็ดโมงเช้า
“นี่น้องหญิงเจ้าทานอะไรมาหรือยัง?” องค์ชายสองถามเขาเองก็ยังคงไม่มีอะไรตกถึงท้อง
“ไม่ ..” จียูตอบพลางเอามือแตะท้องด้วยความหิวเพราะตั้งแต่เมื่อวานเธอยืนรอเขาแถวตั้งแต่บ่ายจนเย็นแกมยังเล่นเกมจนเพลินจนลืมกินไปเลย
เธอไม่ได้แตะอะไรเลยนอกจากฮาเก้นดาสกับโค้กหนึ่งชวด
“ข้าก็ยัง!” องค์ชายห้าตอบ “ร้านอาหารศาลาลมและพระจันทร์เป็นร้านที่มีชื่อเสียงของที่นี่ เราไปที่นั้นหลังเล่นเกมเสร็จกันเถอะ”
“อาหารในร้านศาลาลมและพระจันทร์นั้นแตกต่างจากของกินที่นี่นะ” สาวสวยสองคนเอ่ย
“ท่าน! เราขอฮาเก้นดาสพร้อมโค้กอย่างละสอง” ตงชิงลี่พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง “วันนี้ข้าไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าจะกินให้อิ่มเลย”
“เจ้าพูดจริงหรอ?” องค์ชายบห้ามองพวกเธอ ”ทำไมเธอดูคล้ายกับเจ้าของร้านศาลาลมและพระจันทร์ ..” เขายืนมองผู้หญิงสองคนนี้เดินผ่านไป เธอสองคนนี้หน้าคุ้นมากเหมือนเคยเจอมาก่อน
พวกเธอดูเปลี่ยนไปมาก หรือว่าเราจะหลอนไปเอง!
ตงชิงลี่ที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ได้กลิ่นหอมโชยมา “กลิ่นอะไร? มันหอมมาก!”
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของฟางฉีตอนนี้พร้อมเสิร์ฟขึ้นโต๊ะแล้ว เขาเปิดฝาออกมาจึงทำให้ความหอมแผ่กระจายไปทั่วสถานที กลิ่นหอมเบาๆ ชวนหิวจริงๆ
“ท่าน! นี่คืออะไร?” จางวันยูจ้องหน้าฟางฉีด้วยสายตาดุดัน “มีขายมั้ย?”
ฟางฉีไม่ตอบอะไร .. เขาตักบะหมี่เข้าปากพร้อมซู้ดน้ำซุปตาม
ด้วยความหอมของเส้นบะหมี่ที่ทำจากสมุนไพรทางจิตวิญญาณที่อยู่ในปากของเขาพร้อมน้ำซุปที่หอมหวานชวนฝัน เมื่อรวมกันมันลงตัวอย่างมาก ความอบอุ่นของน้ำไหลผ่านลำคอลงสู่ท้อง ..
“อร่อยจัง!” ดวงตาของฟางฉีเปล่งประกาย
“ท่าน! ทำไมทำแบบนี้” ตงชิงลี่ทำหน้ามุ่ย เธอละอยากจะเอื้อมมื้อไปคว้าถ้วยบะหมี่จริงๆ
“ท่าน! มันมีขายมั้ยเนี่ย” จางวันยูเลียริมฝีปากของเธอ เธอยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าแถมยังต้องมาเห็นภาพฟางฉีที่กินอย่างเอร็ดอร่อยอีก
เธอรู้สึกอยากฟาดใครบางคน!
“สี่คริสตัลสำหรับบะหมี่หนึ่งถ้วย!” ฟางฉีกล่าว “เจ้าสามารถเพิ่มไส้กรอกได้อีกด้วยคริสตัลสองก้อน แต่.. พวกเจ้าต้องบริการตัวเอง”
“บริการตัวเอง?” พวกเขามองหน้ากัน ทำไมเราต้องมาบริการตัวเองด้วยนะ!?
“ข้ารู้สึกหิวแต่ต้องให้ข้ามาทำอะไรด้วยตัวเองแบบนี้ มันเหมาะสมแล้วหรือกับหญิงสาวแสนสวยอย่างข้า!?” ตงชิงลี่และจางวันยูรู้สึกอึมครึมพลางเดินไปทำบะหมี่
โชคดีที่บะหมี่นั้นเตรียมง่าย หลังจากพวกเธอทำตามแนะนำของฟางฉี บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของพวกเธอก็ได้เวลาเสิร์ฟ
องค์ชายทั้งสองทีร่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องก็เช่นกัน พวกเขาเลียริมฝีปากและพูดว่า “น้องหญิงเรา ..”
องค์หญิงเดินไปที่เคาน์เตอร์อย่างดุเดือด เธอเชิ่ดหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม “ท่าน! ข้าขอบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพร้อมไส้กรอกสามถ้วย!”
…
ในไม่ช้าตอนนี้คาเฟ่ก็เต็มไปด้วยลูกค้าที่กำลังโซ้ยบะหมี่ด้วยความอร่อย
ตงชิงลี่และจางวันยูพวกเธอถอดผ้าคลุมหน้าออกแล้วนั่งกินบะหมี่อยู่ในมุมลับ แต่ก็หนีไม่พ้นสายตาขององค์ชายห้า อืม.. ข้าว่าแล้วว่าพวกเขาสองคนมาจากร้านศาลาลมใและพระจันทร์จริงๆ ด้วย!
องค์หญิงก็ไม่แพ้กัน เธอวางถ้วยบะหมี่ไว้บนโต๊ะหน้าคอมพิวเตอร์พร้อมกินด้วยท่าทางสง่างาม กินไปกินมาเธอก็เลือกที่จะย้ายไปนั่งข้างในที่มีคนน้อยเพื่อที่จะได้กินได้ถนัดขึ้น
(ผู้แปล : มัวแต่ห่วงสวยเลยไม่อิ่มสักที ฮ่าๆ)
เธอเหลือบมองไปรอบๆ เมื่อไม่เห็นมีใครเธอจึงหันไปกินด้วยความหิวอีกครั้ง โอ้ย! มันอร่อยมาก! เธอคิดในหัว แม้แต่พ่อครัวในวังยังทำอาหารสู้ไม่ได้!
ในเวลาเดียวกันอาจารย์สองคนของสำนักหลิงหยวนเดินเปิดประตูเข้ามาในคาเฟ่ เมื่อเดินเข้ามาเชาพบกับชายหนุ่มสองคนในชุดคลุมสีทองกำลังกลืนกินบะหมี่ด้วยความอร่อยข้างประตู
“ท่านสองคนกำลังหาที่หลบภัยอยู่หรือ?”
องค์ชายทั้งสองรู้สึกจุกพูดไม่ออก เขาหันมองหน้ากันและหันไปมองทั้งสองด้วยสายตามืดมน
อาจารย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงกลัว “ไปดีกว่า พวกเขาดูไม่ปลื้มเราเท่าไร ไปๆ”
…
นี่มันเป็นเวลาเจ็ดโมงกว่าเท่านั้น ในคาเฟ่น่าจะคนยังไม่เยอะเท่าไรแต่อย่างไรก็ตามจากความสนใจที่ลูกค้ามีต่อละครราชวงศ์หยกจึงส่งผลให้ทุกคนมาที่นี่ให้เวลาเช้า ไม่นานลูกค้าประจำเช่นนาหลันฮงวูและคนอื่นๆ ก็มาถึง
“นี่มันกลิ่นอะไร? มันหอมมาก!” นาหลันฮงวูสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว กลิ่นฟุ้งทั่วร้านเตะจมูกเขา
“มันมีอะไรพิเศษแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทำไมพวกเขาถึงได้กินกันได้น่าอร่อยขนาดนี้” นาหลันฮงวูเอ่ย องค์ชายสองคนที่นั่งอยู่ข้างประตูได้ยิน เขาซุบซิบกันว่า “มันอร่อยว่าอาหารที่พ่อครัวในวังของเราทำเป็นสิบเท่า!”
“ไส้กรอกก็ไม่แพ้กัน มันสุดยอด” องค์ชายห้าที่กำลังจะกัดไส้กรอกพูดเสริม “มันทำให้ความหิวของฉันหายไปในพริบตา”
“เฮ้ ท่านสองคนกินอะไรกันอยู่น่ะ ทำไมน่าอร่อยขนาดนั้น” นาหลันฮงวูหันไปถาม
“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป!” พวกเขาชี้นิ้วไปที่หน้าเคาน์เตอร์ “รายการใหม่ของวันนี้ มันสุดยอดมาก!”
“ท่านมีรายการใหม่อีกแล้วรึ?” นาหลันฮงวูยื่นนิ่ง “เจ้าหนู! ข้าขอบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วย”
“แปลกจริง ข้าเพิ่งกินข้าวเช้ามา แต่รู้สึกหิวอีกแล้วเมื ่อได้กลิ่นนี้” นาหลันฮงวูบ่นกับตัวเอง
“ยังไงวันนี้ ราชวงศ์หยกตอนที่ห้าและหกมาเพิ่มหรือยัง?”
“แน่สิ” ฟางฉีตอบ “ท่านสามารถดูได้เลย”
“เยี่ยม! ไปดูราชวงศ์หยกกันเถอะ” องค์หญิงและองค์ชายทั้งสองพร้อมคนอื่นๆ หยุดกินอย่างกระทันหันเมื่อได้ยินเช่นนั้น
นาหลันฮงวูและผู้เฒ่าฟูทำตามคำแนะนำของฟางฉี พวกเขานั่งดูละครพร้อมโซ้ยบะหมี่
“ในที่สุดข้าก็จะได้เห็นจางเซียวฟานเข้ากลุ่มเมฆเขียวเสียที!” นาหลันฮงวูพึมพำขณะซู้ดน้ำซุป