ตอนที่ 167

Black Tech Internet Cafe System

นาหลันฮงวูกำลังกินบะหมี่ด้วยความอร่อยพลางดูละครเรื่องโปรดไปด้วย บนหน้าจอปรากฏฉากของหมู่บ้านวัดหญ้า

 

“น้องเทียนหมู่บ้านวัดหญ้าแห่งนี้เคยเกิดเหตุการณ์ฆ่าสังหารทั้งหมู่บ้าน ซึ่งที่นี่ถูกค้นพบโดยซงดาเรนลูกศิษย์ของเจ้า ดูเหมือนว่าเขาจะพบเด็กคนหนึ่งเข้าและกำลังพาเด็กคนนั้นไปยังกลุ่มไผ่ยักษ์(ดาชู)”

 

อาจารย์เทียนบูยี่หัวหน้ากลุ่มไผ่ยักษ์รู้สึกพูดไม่ออก

 

“พวกเขาจะพาจางเซียวฟานไปอยู่ในกลุ่มไผ่ยักษ์หรอ? ฉันละกลัวจริงๆ ว่าเขาจะลำบาก” นาหลันฮงวูบ่นกับตัวเองขณะตักบะหมี่เข้าปาก “โอ้ยนี่มันอร่อยกว่าอาหารที่ฉันกินมาเมื่อเช้าอีก!”

 

“อ๊ะ! น้ำมันติดเคราฉัน! ฉันไม่ควรรีบร้อน” นาหลันฮงวูหยิบผ้าเช็ดหน้าของเขาออกมาจากกระเป๋าเสื้อเพื่อซับน้ำมันที่เปื้อน

 

เวลาเจ็ดโมงครึ่ง ลูกค้าต่างเดินทางมาที่คาเฟ่แห่งนี้เพื่อดูละครราชวงศ์หยก

 

ซูเทียนจิเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อวานเธอรู้สึกเหนื่อยล้ามาก แต่จากคำเล่าลือเกี่ยวกับละครเรื่องนี้ทำให้วันนี้เธอจำเป็นต้องมาที่นี่แต่เช้าเพื่อมาดูให้แน่ว่ามันดีมากจริงหรือไม่

 

เช้านี้เธอรีบเดินทางมาคาเฟ่อย่างด่วนจี๋พร้อมกับสองสวยเฟงหัวและยูซิน

 

“วันนี้ร้านเปิดเร็วจัง”

 

“ท่าน! ท่านเพิ่มตอนละครราชวงศ์หยกแล้วหรือยัง?” เธอเดินบุ่มบ่ามเข้าไปหน้าเคาน์เตอร์เพื่อทักถามฟางฉีด้วยแววตาอยากรู้

 

“เรียบร้อย” ฟางฉีเหลือบมองรอบร้าน เขาคิดว่าเวลานี้เจียงเสี่ยวหยูนั่นน่าจะเพิ่งตื่นเธอยังไม่ลงมาจากข้างบน เขาเองก็กำลังรอเพื่อจะดูตอนที่ห้าหกเช่นกัน

 

“เอ่อ ..” ซูเทียนจิหยุดชะงักเธอรู้สึกถึงกลิ่นหอมเตะจมูก “กลิ่นนี้มาจากไหน?”

 

นักรบส่วนมากมักจะกินเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางร่างกาย ส่วนผู้ปลูกฝังมักจะกินน้อยเว้นแต่น้ำทิพย์หรือชาสมุนไพรทางจิตวิญญาณเพื่อแก้กระหายดังนั้นซูเทียนจิจึงมักไม่กินจุกจิกในระหว่างวัน

 

แน่นอน ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปมากหลังจากที่ได้ลองฮาเก้นดาสของฟางฉี

 

และตอนนี้ ..

 

“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ฟางฉีตอบ “ท่านต้องการสักถ้วยมั้ย?”

 

“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป?” เฟงหัวและยูซินที่ได้ยินทำตาโต “ท่านเราเอา!”

 

“เอาสาม!” ซูเทียนจิมองรอบๆ “คอมพิวเตอร์หมายเลขสาม” เธอบอกเพื่อให้นำไปเสิร์ฟ

 

“ท่านต้องทำเอง”

 

ซูเทียนจิทำหน้ามุ่ยโดยสงสัยว่าทำไมถึงไม่นำมาให้ทั้งๆ ที่เธอจ่ายเงิน!

 

“เฟงหัวและยูซินฉันฝากด้วย” เธอสองคนพยักหน้าพร้อมเดินไปจองคอมพิวเตอร์

 

“รับทราบท่านอาจารย์!” พวกเธอเดินไปใส่น้ำร้อนพร้อมเครื่องปรุงตามคำแนะนำของฟางฉี เวลาเดียวกันสาวกจากลำนักซียี่และเฉิงจิ้งพร้อมเยซงเต๋าจากกลุ่มโอเซียนคลาวเดินเข้ามา

 

พวกเขาทำท่าสูดกลิ่นพร้อมกัน

 

สามนาทีต่อมามือของพวกเขาเต็มไปด้วยถ้วยบะหมี่

 

เฟงหัวและยูซินเดินถือถ้วยบะหมี่มาด้วยรอยยิ้มพร้อมวางถ้วยลงบนโต๊ะ “ท่านอาจารย์ บะหมี่พร้อมแล้ว!” พวกเขาเริ่มซู้ดเข้าปากด้วยความอร่อย

 

ในขณะที่ซูเทียนจิกำลังซู้ดบะหมี่เธอก็พูดว่า “เร็วเข้าเปิดละครเร็ว ในที่สุดเซียวฟานก็ได้เข้าร่วมกลุ่มวันนี้” พูดไปเคี้ยวไป

 

“จริงๆ แล้วมีคนพาจางเซียวฟานมาใช่มั้ย?” ซู้ดดดด ..​เสียงซู้ดปาก

 

“ใช่ ฉันว่านายคนนั้นดูโหดอ่ะ” จ้อบแจ้บ

 

“…”

 

“อ่า ฉันอิ่มละ”

 

“ทำไมเซียวฟานถึงได้เป็นตัวละครหลัก? ฉันคิดว่าจิงหยูเสียอีก”

 

“ทำไมตอนนี้มีแต่จขางเซียวฟานละ หลินจิงหยูผู้มีพรสวรรค์อยู่ที่ไหน”

 

ยิ่งพวกเขาดูละครมากเท่าไรนั่นยิ่งเพิ่มอยากรู้อยากเห็นมากเท่านั้น พวกเขากำลังสงสัยว่าใครกันแน่ที่เป็นตัวละครหลัก จางเซียวฟาน? หรือหลินจิงหยู?

 

“ท่าน พวกเราขอโค้กสามขวด!” ซูเทียนจิยังไม่พอใจสั่งโค้กมาเพิ่มอีก

 

เวลานี้ฟางฉีได้เริ่มดูละครเช่นกัน เสี่ยวหยูเองก็ทำตามหน้าที่ในทุกวัน

 

หลังจากได้รับโค้กสามขวด พวกเขาดื่มและพูดคุยระหว่างดูละคร “อาจารย์ ข้าว่าพี่ชายและรุ่นน้องพวกเขาดูใจดี แต่นายอีกคนดูดุร้ายจัง” อึก .. เสียงกลืนโค้ก

 

“โอ้! ฉันสงสัยจังว่าจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นอีก” อึก ..​ พวกเธอยังคงดื่มโค้กด้วยความติดลม

 

ซูเทียนจิที่กระดกโค้กพลางดูละครไปด้วย “เขาจะถ่ายทอดเทคนิคของกลุ่มเมฆเขียวแน่เลย” เบิ้กกกกก .. ซูเทียนจิเรอ – –

 

“…”

 

บทสนทนาเงียบลงทันที

 

เนื่องจากทุกคนกำลังกินบะหมี่ด้วยความอร่อย ในคาเฟ่จึงเปิดใช้งานโหมดการจำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริง

 

ฟางฉีหันไปมองที่เธอ

 

นาหลันฮงวูก็เช่นกัน อันหูเว้ยและคนอื่นๆ ก็หันไปจ้องหน้าเธอ

 

ซูเทียนจิปิดปากด้วยความตกใจ ทุกสายตาที่จ้องมาราวกับว่าอยากจะเฉือดเฉือนเธอ

 

จากนั้นทุกคนหันกลับไปดูละครต่อ..

 

ทุกอย่างในร้านเงียบลง เงียบไปราวๆ หนึ่งชั่วโมง

 

บนหน้าจอปรากฏฉากป่าไผ่ที่เงียบสงัด

 

“ฉากนี้เงียบมาก ฉันรู้สึกอยากกินอะไรบางอย่าง .. เอ่อวันนี้ฉันยังไม่ได้กินฮาเก้นดาส ..”

 

“กลิ่นหอมของน้ำนมที่เข้มข้น”

 

“ท่าน! ข้าขอฮาเก้นดาสสามถ้วย!”

 

พวกเขารับถ้วยมาตักมันเข้าปากด้วยความโหยของหวาน “อาจารย์! ข้าว่าลิงสีเทาตัวนี้น่ารักจัง”

 

“ไม่! ข้าว่ามีบางอย่างแปลกๆ”

 

เรื่องราวได้มาถึงส่วนที่ลูกปัดเลือดของปูชิที่มอบให้กับจางเซียวฟาน มันมีหน้าที่ดูดซับรวบรวมวิญญาณที่ชั่วร้าย นี่เป็นจุดสำคัญของชีวิตจางเซียวฟาน!

 

ซูเทียนจิที่กำลังตักฮาเก้นดาสเข้าปากทำท่าตกใจ “ทำไมหน้าจอถึงดับ?”

 

[หากท่านอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น โปรดติดตามตอนต่อไป!]

 

“ตอนหกจบแล้ว!?”

 

“!!??”

 

ทำไมมันถึงชอบจบในช่วงสำคัญๆ เสมอ

 

“จะเกิดอะไรขึ้นกับจางเซียวฟาน? โอ้ยท่านต้องฉายส่วนนี้ให้จบสิ!”

 

นาหลันฮงวู, ซูเทียนจิและคนอื่นๆ ที่นั่งใกล้ฟางฉีหันหน้าไปมองเขา

 

ขณะเดียวกันตงชิงลี่, องค์หญิงและคนอื่นๆ พวกเขาลุกขึ้นยืนหันมามองที่เจ้าชของร้านด้วยสายตาอาฆาต

 

“เจ้าของ! ตอนที่เจ็ดและแปดอยู่ไหน?” ซูเทียนจิถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

“ไม่ได้มีสี่ตอนหรอกหรือ? ทำไมเราถึงได้ดูแค่สองตอนเท่านั้น!?” นาหลันฮงวูจ้องตาเขม็ง

 

“เรามีสี่ตอนแค่วันแรกเท่านั้น หลังจากนั้นเราจะทำการเพิ่มแค่สองตอน” ฟางฉีกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

 

“อะไรนะ!?” หนอนหนังสือตงชิงลี่ทำหน้ามุ่ย เธอตะโกน “นี่เราต้องรอจนถึงวันพรุ่งนี้อีกแล้วหรอ ถึงจะดูตอนที่เจ็ดและแปดได้!?”

 

ฟางฉีส่ายหัว

 

เมื่อเห็นฟางฉีส่ายหน้า พวกเขาเริ่มใจอ่อนสถานการณ์อาจไม่เลวร้ายอย่างที่คาดไว้ก็ได้ แต่พวกเขาก็ยังไม่ละสายตาจากฟางฉี “ตอนที่เจ็ดและแปดจะเพิ่มในวันจันทร์หน้า!”