และอีกอย่าง หยางเฟิงขับรถเบนซ์!
และแขกที่เข้าร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ล้วนเป็นผู้มีหน้ามีตาทางสัมคมในหู้ไห่ทั้งสิ้น
รถหรูที่มีมูลค่าต่ำกว่าหนึ่งล้าน จะไม่กล้าขับมาร่วมงานนี้เลย
ดังนั้น หลินลี่วิเคราะห์ว่าหยางเฟิงคือคนขับรถ และเจ้านายก็ไม่ใช่บุคคลสำคัญเท่าใดนัก คนไม่ได้ร่ำรวยมากนัก
เมื่อนึกถึงจุดนี้ หลินลี่ก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น
โชเฟอร์ของคนที่มีธุรกิจเล็กๆ ยังกล้าเหิมเกริมกับเขา?
อยากรนหาที่ตายนักหรือไง?
“ฉันจะเป็นโชเฟอร์หรือไม่เกี่ยวอะไรกับนาย?”
หยางเฟิงไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับหลินลี่เลยสักนิด
ทายาทลักษณะนี้ เขาเห็นเยอะแล้ว
ถูกประคบประหงมแต่เด็ก ทำตัวโอ้อวด ก้าวร้าว ซึ่งไม่ต่างจากคนโง่เขลาเบาปัญญาเลย
หลินลี่ยืนมือจับไหล่หยางเฟิง ก่อนจะกล่าวหน้าดุดัน“ไอ้เวร รีบคุกเข่าขอโทษกูเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นก็อย่าหาว่ากูไม่เตือน”
หยางเฟิงถามคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม“นายจะให้ฉันคุกเข่าขอโทษ?”
“ทำไม? กลัวแล้วเหรอ?”
ได้ยินดังนั้น หลินลี่ก็พูดอย่างลำพองใจ“ตระกูลหลินคือหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งหู้ไห่ ขัดใจกู มึงก็อย่าหวังจะได้ยืนหยัดในหู้ไห่เลย ดังนั้น……”
เพี๊ยะ!
ไม่รอให้หลินลี่พูดจบ หยางเฟิงก็ง้างมือตบเขาหนึ่งฉาด
เสียงดังฟังชัดสุดๆ
หลินลี่รู้สึกมึนงง
เขาใช้มือกุมหน้า พลางจ้องหยางเฟิงด้วยความเหลือเชื่อ
มันบ้าป่ะว่ะ?
เขาบอกแล้วว่าเป็นคุณชายแห่งตระกูลหลินที่เป็นสี่ตระกูลใหญ่ แต่ยังมาตบหน้าเขาอีก?
หลินลี่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ไอ้เวร ไปตายซะ”
กล่าวจบ หลินลี่ก็ปล่อยหมัดใส่หยางเฟิง
หลินลี่ก็ไม่ใช่ทายาทเศรษฐีที่ไร้น้ำยาไปเสียทุกอย่าง
จากการส่งเสริมของตระกูล ตอนนี้เขาก็ถือว่าเป็นปรมาจารย์เน่ยจิ้งคนหนึ่ง
หยางเฟิงกล้าต่อยเขาเหรอ?
เขาแทบอยากจะชกหยางเฟิงให้ตายไปเสียเลย!
เอ๋?
สิ่งที่ทำให้หลินลี่ประหลาดใจคือ หยางเฟิงคว้าหมัดเขาไว้ได้สำเร็จ
หยางเฟิงเอ่ยเชิงดูถูก“ฝีมือแค่นี้ยังกล้าสามหาวกับฉันอีก?”
กร๊อบ!
สิ้นเสียง
หยางเฟิงแค่ออกแรงนิดหน่อย ก็บิดกระดูกข้อมือของหลินลี่สำเร็จ
อ๊าก!
หลินลี่ทรุดตัวลงพื้น กรีดเสียงร้องปานจะขาดใจตาย
หยางเฟิงขี้เกียจแยแสหลินลี่ ก้าวเท้ายาวจากไป
“ไอ้เฮีย กูจะฆ่ามึง”
เห็นแผ่นหลังหยางเฟิงกำลังเดินจากไป หลินลี่ก็ตะเบ็งเสียงเกรี้ยวกราด
ตั้งแต่ต้นยังจบ หยางเฟิงทำหน้าไม่เห็นหลินลี่อยู่ในสายตาตลอด
โดยเฉพาะความเย็นชา คล้ายกับเห็นเขาเป็นเพียงแค่มดปลวกตัวหนึ่ง มันทำให้หลินลี่ไม่สบอารมณ์ยิ่ง
ผ่านไปสักพัก
เมื่อเริ่มรู้สึกหายปวด หลินลี่ก็ลุกขึ้น เอ่ยด้วยใบหน้าอำมหิต“ไอ้เหี้ย กล้าทำร้ายกู มึงเจอดีแน่!”
พูดจบ เขาก็หยิบก้อนหยิบแล้วเดินยังไปรถเบนซ์ของหยางเฟิง
ปัง!
เกิดเสียงดังกึกก้อง
กระจกรถเบนซ์ถูกทุบจนเกิดรูใหญ่
หลินลี่หัวเราะเสียงดัง“ฮ่าๆๆ!มึงอวดดีสิ วันนี้โดนกูทุบรถซะแล้ว!”
ปัง!
ปัง!
ปัง!
สามนาทีต่อมา
รถเบนซ์ของหยางเฟิงก็ถูกทุบจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมแล้ว
เห็นสภาพรถแล้ว ความเกรี้ยวกราดในใจหลินลี่ก็ทุเลาลงไม่น้อย
เขาขึ้นรถลัมโบร์กีนีแล้วสตาร์ทรถ จากนั้นก็เหยียบคันเร่ง ก่อนจะชนกระแทกแรงๆ
ปัง!
ปัง!
ปัง!
……
หลังจากชนติดต่อกันสิบกว่าครั้ง รถเบนซ์ของหยางเฟิงก็เขยิบไปอีกทาง
จากนั้นหลินลี่ก็จอดรถลัมโบร์กีนีที่ไม่เหลือชิ้นดีจอดอยู่ตำแหน่งนั้น
หลินลี่ลงจากรถ จากนั้นก็ยิ้มเย็นเยียบ“แย่งที่จอดกับกู เห็นความร้ายกาจของกูหรือยัง!”