Chapter 14: ราชินีชูเยว่

 

เสี่ยวหลัวเดินติดตามจูเสี่ยวเฟยและเติ้งไค ไปยังหอพักชายของเอกอังกฤษ

 

ผู้ชายทั้งสองคนนี้มีทั้งคนที่ช่างพูดและคนเงียบๆ เดินไปตามทางราวกับมีผึ้งสองตัวที่คอยส่งเสียงนิ่งๆดังในหูของเสี่ยวหลัว พวกเขายังสงสัยมากเกี่ยวกับอดีตของเสี่ยวหลัว เมื่อพวกเขารู้ว่าเสียวหลัวเข้าร่วมกองทัพเป็นเวลาสองปีและมาเรียนต่อที่หัวเย่ อย่างกระทันหัน

 

แต่เดิมพวกเขาคิดว่าเสี่ยวหลัวนั้นมีอายุประมาณพวกเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเสี่ยวหลัวจะแก่กว่าพวกเขามากดังนั้นมันจึงเหมาะสมแล้วที่จะเรียกเขาว่า “พี่ชายเสี่ยวหลัว”

 

ประมาณสิบนาทีต่อมาทั้งสามคนก็มาถึงชั้นเจ็ดของหอพักที่เจ็ด

 

” พี่หลัว ที่นี่แหละ!”

 

จูเสี่ยวเฟยวางกระเป๋าเดินทางและหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกงเพื่อเปิดประตูเหล็กสีเขียวตรงหน้าของเขา

 

เสี่ยวหลัวชื่นชมความแข็งแกร่งทางกายของชายคนนี้อย่างลับๆ เขาถือกระเป๋าที่มีน้ําหนักกว่า 40 ปอนด์ ในขณะที่เดินมาในระไกล และเขาก็เดินขึ้นมาที่ชั้นเจ็ด เขาไม่แม้แต่จะหอบหายใจหนักราวกับว่าเขาไม่ใช่คนอ้วนเลย

 

เมื่อเขามาที่หอพักนักศึกษาแห่งนี้เขาก็ได้กลิ่นแปลกๆ ที่มีอยู่แต่ในหอพักเท่านั้นและความรู้สึกที่หายไปนานก็ท่วมท้นอยู่ในหัวใจของเขา ใครจะคิดว่าเขาทํางานมาสามปีหลังจากสําเร็จการศึกษาและจะได้กลับมาที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง ความรู้สึกนี้แผ่ซ่านอยู่ในหัวใจของเสี่ยวหลัวอย่างลึกซึ้ง

 

เมื่อเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปข้างในห้องนอนก็เจอกับเตียงเหล็กสองเตียงแล้วตามด้วยตู้หนังสือตู้เสื้อผ้าและโต๊ะคอมพิวเตอร์เป็นหนึ่งในโต๊ะทํางานเหมือนกับห้องนอนของผู้ชายส่วนใหญ่ห้องของจูเสี่ยวเฟยและเติ้งไคเละแทะอย่างมาก เสื้อผ้าและถุงเท้ากระจายเต็มไปทั่วทุกที่ พวกเขาไม่ได้พับผ้าห่มและมันก็มีกลิ่นที่ไม่พึงประ สงค์ลอยออกมา

 

จูเสี่ยวเฟย ลูบด้านหลังศีรษะอย่างงุ่มง่าม: “หอพักมันดูยุ่งเหยิ่งไปหน่อยเราควรจะดูแลมันให้ดีกว่านี้!”

 

“ไม่เป็นไร” เสี่ยวหลัวหัวเราะ

 

เมื่อตอนที่เขาอยู่ในวิทยาลัย จาง ซูซาน เป็นราชาที่เก่งกาจในการทําห้องรก เขาทําให้หอพักของเขาเหม็น และไม่บริสุทธิ์อยู่ทุกวัน เขาทนนิสัยนั้นไม่ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นเวลากว่าสี่ปีเขาจะสนใจช่วงเวลาสั้นๆ นี้เป็นเวลาสามเดือนได้อย่างไร

 

เติ้งไค ชี้ไปที่เตียงหนึ่งเดียงและพูดอย่างกระตือรือร้น “พี่หลัวพี่สามารถนอนบนเตียงนี้ได้มีกระเป๋าเดินทาง บนเตียงด้านบนซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่นจํานวนมากและไม่สามารถทําความสะอาดได้ในครั้งเดียว”

 

“มีแค่พวกนายสองคนอยู่ในหอพักนี้เหรอ?” เสี่ยวหลัวถามด้วยความอยากรู้

 

“ใช่แล้วหอพักมาตรฐานแต่เดิมมีไว้สําหรับสี่คน แต่มีเพียงผู้ชายสองคนในห้องเรียน มีหอพักหนึ่งไม่พอใจ และสาขาอื่นๆ ไม่ต้องการที่จะผสมและจับคู่กับเราดังนั้นเราสองคนจึงอาศัยอยู่ด้วยกัน” เติ้งไค โบกมืออย่างช่วยไม่ได้

 

ฉันก็พอที่จะเข้าใจ!

 

เสี่ยวหลัวพยักหน้าและเขาก็เปิดกระเป๋าเดินทางและเริ่มทําความสะอาดเตียงของเขา

 

เขานําข้าวของส่วนตัวออกมา จูเสี่ยวเฟยกับเติ้งไคโดยธรรมชาติเมื่อพวกเขารวมกัน พวกเขาก็จะเปิดคอมพิวเตอร์และเล่นเกมด้วยกัน

 

“พี่หลัว พี่เล่นเกมlol หรือเปล่า?”จูเสี่ยวเฟย หันหลังกลับและถามอย่างคาดหวัง

 

เสี่ยวหลัวจัดเสื้อผ้าของเขาแล้วตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ก็เล่นอยู่นิดหน่อย!”

 

ในระหว่างที่อยู่ที่วิทยาลัย จาง ซูซาน นั้นเป็นแฟนตัวยงของเกมนี้ เขาถูกนําตัวเข้าไปเล่นเกมนี้ในตอนที่เลิกเรียนอยู่บ่อยๆ

 

“พี่ต้องการหยุดพักสักหน่อยไหม?” เติ้งไค พูดอย่างตื่นเต้น

 

“พวกนายเล่นกันไปก่อนเลย ฉันต้องแยกสิ่งของต่างๆ ออกมาก่อน” เสี่ยวหลัวยิ้มและปฏิเสธ เขาไม่สนใจที่จะเล่นเกมนี้

 

เติ้งไค เลิกคิ้วของเขา: “โอ้ใช่แล้ว!”

 

ทั้งสองรอคิวเข้าห้องเล่นเกม ทั้งสองใช้ประโยชน์จากรอเวลาเข้าคิว เข้าไปในกลุ่มหลักเอกภาษาอังกฤษ และดูทันใดนี้จูเสี่ยวเฟยก็อุทาน: “โอ้พระเจ้าราชินีชแห่งมหาวิทยาลัยได้เริ่มการถ่ายทอดสดอีกครั้งและเธอยังเชิญทุกคนให้เข้าไปในเว็บไซต์ถ่ายทอดสดเพื่อรับชม! “

 

เติ้งไค ร้องออกมาเหมือนไก่: “เธอจะพาเราเข้าไปเล่นด้วย! “”ใช่เราต้องเข้าไปเล่น”

 

จูเสี่ยวเฟยตอบกลับอย่างรวดเร็วในกลุ่ม: “คุณชูสุดสวย โปรดพาเราไปเล่นด้วย!”

 

เติ้งไค ไม่รอที่จะช้ารีบพิมพ์ลงในกลุ่มในทันที: “เราต้องรีบไปขึ้นรถบัส เราจะได้ให้ของขวัญแก่ราชินีชูได้” (รถบัสหมายถึงคนแบกอะแหละภาษาเกม)

 

นอกจากนี้เขายังเพิ่มการแสดงออกที่ “ละเอียดอ่อนและน่าประทับใจ” ไว้ในตอนท้าย

 

พวกเขาทั้งหมดอยู่ในกลุ่มเดียวกันและถูกโจมตีจากพวกผู้หญิง ในเอกภาษาอังกฤษทันที

 

“พวกนายสองคนเป็นไก่อ่อนที่เกาะเจ้าหญิงชูเยว่ และพวกนายจะยังกล้าที่จะอ้อนวอนคําขอที่ไร้ยางอายแบบนี้อีกงั้นเหรอ”

 

“จูเสี่ยวเฟย, เติ้งไค, พวกเรารวมทีมกับพวกนายทีไรโดนทีมตรงข้ามยำเละทุกที่…”

 

“ฮ่าฮ่า … อย่าทําอย่างนั้นกับเพื่อนของสมบัติประจําชาติของเรา ไม่ว่าพวกเขาจะพูดยังไงมันก็ไม่ดีที่จะโจมตีพวกเขาอย่างหนัก!”พวกนายจะกลัวอะไร พวกนายมีเสียวหลัวที่เป็นสมบัติของชาติอยู่หนิ”เมื่อมองดูการจู่โจม ที่เต็มหน้าจอจูเสี่ยวเฟยและเติ้งไคต้องการจะร้องไห้โดยปราศจากน้ําตาและคิดว่า: ทําไมเราถึงไม่ได้รับความนิยมแบบนั้นบางนะ”

 

เสี่ยวหลัวได้เก็บของเสร็จร้อยแล้วและในเวลานั้นเขาก็ได้ยินคําว่า “ราชินีชู” เขาเดาว่าน่าจะเป็นชูเยว่ ภารกิจของเขาที่นี้ก็คือเพื่อปกป้องชูเยว่ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับ ชูเยว่ เขาต้องจําเป็นต้องใส่ใจกับมัน

 

จากนั้นเขาก็ถามว่า: “เสี่ยวเฟย นายพูดว่าชูเยว่ เธอคือราชินีแห่งมหาวิทยาลัยงั้นเหรอ?”

 

“ใช่แล้วเธอคือชูเยว่ เธอเป็นความงามที่ได้รับการคัดสรรค์จากวิทยาลัยของเรา เธอเป็นเทพธิดาในฝันของผู้ ชายจํานวนนับไม่ถ้วน” ใบหน้าของจูเสี่ยวเฟยแสดงอาการมึนเมาในความรัก เห็นได้ว่าเขามีความรักต่อชูเยว่ หลังจากที่เห็นเธอชายธรรมดาคนไหนก็จะเป็นเช่นนี้กันทั้งนั้น

 

เติ้งไค กล่าวเสริมว่า: “ไม่เพียงแต่เธอสวยเท่านั้น แต่เธอยังเป็นเทพเมื่อเธอเล่นเกมLeague of Legends เธอคือราชินีที่แข็งแกร่งและแรงค์ของเธอก็คือแพลตตินั่ม 2 เมื่อเธอว่างเธอก็จะออกอากาศสดกับไป่หลิง เพื่อนในชั้นเรียนของเรา เธอมีแฟนๆมากกว่า 200,000 คนในห้องถ่ายทอดสดของเธอและเงินที่เธอได้รับจากเว็บไซต์ถ่ายทอดสดทุกเดือนนั้นมากกว่าค่าแรงของคนธรรมดาๆที่ทํางานอย่างหนักมาเป็นเวลานานหลายปีซะอีก”

 

เสี่ยวหลัวเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าความสําเร็จของ ชูเยว่ ในฐานะเกมเมอร์จะมาถึงจุดสูงสุดขนาดนี้

 

“กลับไปที่ ชูเยว่ เธอสัญญาว่าจะพาเราไปเล่นด้วย!” เสี่ยวเฟยก็ตะโกนอย่างตื่นเต้น

 

เมื่อเสียวหลัวมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ชูเยว่ก็กลับมาและสัญญาว่าจะเล่นกับพวกเขา

 

“ฮาฮาฮา … เยี่ยมมากตอนนี้ฉันสามารถออกทีวีได้ด้วย!”

 

เติ้งไค ก็มีความสุขเช่นกัน หลังจากนั้นเขาก็หยิบกระจกออกมาและเริ่มหวีผม “ไม่ฉันต้องทําผมให้เรียบร้อย”

 

“เรียบร้อยน้องสาวแกสิ ฉันเห็นรูปร่างหน้าตาของแกอย่างชัดเจนดังนั้นอย่าหลงตัวเองอยู่เลย” เสี่ยวเฟย ต่อว่า

 

เติ้งไค หวีผมเปิดหน้าผากอันทรงเสน์ของเขา: “มีเวทีอยู่ในใจของฉันและมันก็มีเวท็อยู่ทุกหนทุกแห่งฉันต้องการแสดงด้านที่หล่อและเท่ห์ที่สุดของฉันให้ผู้ชมได้รับรู้”

 

“โอ้วววมายยยย “จูเสี่ยวเฟย

 

“บิ๊บ “

 

ในเวลานั้นเสียงQQของจูเสี่ยวเฟยก็ดังขึ้น พร้อมกับข้อความ

 

เมื่อเขามองดูมันก็ถูกส่งมาโดยชูเยว่ มีเพียงคําสั้น ๆ : หาอีกคนมาเราต้องสร้างทีมห้าคน!

 

“ฉันจะรีบหา ดูเหมือนว่าราชินีชจะแสดงทักษะที่แท้จริงของเธอในครั้งนี้ เธอต้องขับรถกับคนห้าคน แต่มันก็ง่ายที่จะคว่ำ (หมายถึงแบกทีม)” เสี่ยวเฟยจูขมวดคิ้ว

 

“กลัวอะไรกันเธอคือราชินีที่แข็งแกร่งที่สุดนะ!” เติ้งไค โบกมือของเขา

 

“ฉันรู้สิ่งนี้ แต่เธอบอกให้ฉันหาคนอีกคนแล้วฉันจะไปหาคนระดับแพลทินัมได้ที่ไหน?”

 

ในเวลานั้นเสี่ยวเฟยจูก็ตระหนักถึงการมีอยู่ของเสี่ยวหลัวจากนั้นเขาก็ถามว่า “อืมพี่ชายที่อยู่แรงค์อะไร”

 

“อืมดูเหมือนจะเป็นแรงค์แพลตตินัมนะ” เสี่ยวหลัวตอบ

 

จูเสี่ยวเฟยรู้สึกยินดีแล้วถามว่า “ภูมิภาคไหน?”

 

“Black Rose!” เสี่ยวหลัวตอบโดยไม่ต้องคิด