หลังจากเดินไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมงและพูดคุยกับผู้คนมากมายเกี่ยวกับสถานที่จัดการประมูลภายในเมืองนี้ ก็ปรากฏเพียงชื่อเดียวเท่านั้น
“โรงประมูลนกฟีนิกซ์เพลิงฟ้าแห่งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากภายในเมืองนี้ พวกเราไปลองดูกันเถอะ”
หยวนพูดออกมา
เสี่ยวฮัวพยักหน้าและเดินตามหยวนไปยังที่ตั้งของโรงประมูลนกฟีนิกซ์เพลิงฟ้า
จากที่หยวนถามผู้คนในเมืองนี้มาโรงประมูลนกฟีนิกซ์เพลิงฟ้าแห่งนี้เป็นโรงประมูลที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลเป็นอย่างมากในทวีปตะวันออกนี้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังได้รับการสนับสนุนจาก นิกายฟีนิกซ์เพลิงฟ้าซึ่งเป็นหนึ่งในนิกายที่ทรงพลังที่สุดในโลกใบนี้
“พวกเราโชคดีจริงๆที่มาถึงเมืองในวันนี้ เพราะมันเป็นวันที่เปิดการประมูลพอดี ใช่ไหมเสี่ยวฮัว”
“อืมม”
เสี่ยวฮัวพยักหน้าเล็กน้อย
โรงประมูลนกฟีนิกซ์เพลิงฟ้าแห่งนี้จะเปิดเพียงครั้งเดียวในทุกๆสามปี เพราะพวกเขาต้องสะสมสมบัติมีค่ามากมายก่อนที่จะมาเปิดการประมูล และพวกหยวนกับเสี่ยวฮัวบังเอิญมาวันที่พวกเขากำลังจะเปิดการประมูลพอดี
หลังจากเดินไปรอบๆเมืองวิญญานหลายนาทีในที่สุดพวกเขาก็เดินมาถึงทางเข้าของโรงประมูลนกฟีนิกส์เพลิงฟ้า
“ว้าว สถานที่ขนาดใหญ่นี้เป็นโรงประมูลยังงั้นหรอ”
หยวนอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับอาคารหรูหราที่อยู่ตรงหน้าของเขา
“ขอโทษนะ ขอถามอะไรหน่อย ที่นี่คือโรงประมูลนกฟีนิกส์เพลิงฟ้าหรือเปล่า”
หยวนถามคนที่ยืนอยู่แถวๆนั้น
เมื่อเขายืนยันว่าพวกเขามาถูกที่แล้ว หยวนก็เดินเข้าไปหาหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า เธอเป็นคนที่ทำงานที่นี่
“สวัสดี ท่านทำงานที่นี่หรือไม่”
หยวนถามผู้หญิงคนนั้น
“ใช่แล้ว ข้าทำงานที่นี่”
เธอตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เยี่ยมมาก ข้ามาที่นี่เพราะข้าต้องการที่จะประมูลของกับโรงประมูลนกฟีนิกส์เพลิงฟ้า”
“…”
หญิงสาวมองหยวนด้วยใบหน้าประหลาดหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา
“อืม…ข้าต้องขอประทานโทษด้วย แต่พวกเราได้หยุดรับของสำหรับการประมูลตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว”
เธอตอบหยวนด้วยสีหน้าแปลกใจ
“อะไรนะ…?!”
หยวนยืนอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง
หญิงสาวหัวเราะเบาๆแล้ว พูดว่า
“นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้ามาเข้าร่วมการประมูลใช่หรือไม่”
“ใช่แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ามาที่เมืองนี้”
“ถ้าอย่างนั้นให้พี่สาวคนนี้สอนอะไรกับเจ้าบ้างอย่างเถอะ หากเจ้าต้องการที่จะประมูลของหรือขายของให้กับโรงประมูลนกฟีนิกส์เพลิงฟ้าเจ้าจะต้องบอกกับพวกเขาล่วงหน้า เพื่อที่จะได้นำมันเข้ามาในรายการที่จะประมูลและจะได้ให้ทางโรงประมูลตรวจสอบเกี่ยวกับมันด้วย”
“ข้าเข้าใจแล้ว…เห้อ…”
หยวนถอนหายใจ รู้สึกผิดหวังและหงุดหงิดเล็กน้อยอีกด้วย
“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องเอาแกนมอนเตอร์พวกนี้ไปขายที่อื่นแล้วละ…”
‘แกนของมอนเตอร์ระดับวิญญานฝึกหัด’
หญิงสาวสังเกตเห็นแกนมอนเตอร์ภายในมือของหยวน เธอทำได้เพียงส่ายหัวและเดินเข้าไปด้านใน
แม้ว่าหยวนจะนำของมาให้โรงประมูลนกฟีนิกส์เพลิงฟ้าได้ทันเวลา แต่โรงประมูลนกฟีนิกส์เพลิงฟ้าก็จะไม่ยอมรับของที่ไม่ได้สำคัญมากขนาดนั้นอยู่ดี
ในความเป็นจริงแล้วถึงแม่ว่าหยวนจะนำแกนมอนเตอร์ระดับนักรบวิญญานมา แต่โรงประมูลนกฟีนิกส์เพลิงฟ้าก็ไม่ได้แม้แต่จะเหลือบมอง
หญิงสาวไม่อยากทำให้หยวนผิดหวังไปมากกว่านี้ เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวรู้ว่าหยวนไม่รู้เรื่องอะไร เธอจึงเงียบไป
ยังไงก็ตามคนงานคนอื่นๆในครั้งนี้ ที่เฝ้าดูพวกเขามาตั้งแต่ต้นกลับหัวเราะออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า เด็กคนนี้ต้องการเอาขยะพวกนี้เข้ามาประมูลในโรงประมูลนกฟีนิกส์เพลิงฟ้ายังงั้นหรอ!? นี่มันน่าตลกสิ้นดี!”
“เหลียนหรง! ทำไมทุกสิ่งที่ออกมาจากปากของเจ้าถึงได้เหม็นเน่าขนาดนี้ เขายังเด็กและเขาไม่รู้เรื่อง เจ้าไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องไปล้อเลียนเขา!”
หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆหยวนขมวดคิ้วขึ้นกับพฤติกรรมที่ไม่น่าดูของเพื่อนร่วมงานของเธอ
“ฮึ่ม! ข้าก็แค่พูดความจริงเท่านั้น! และยิ่งเขาเรียนรู้เร็วเท่าไหร่เขาก็จะยิ่งเติบโตเร็วขึ้นเท่านั้น ทำไมเจ้าต้องปกป้องขอทานอย่างเขาด้วยนาหยิง”
เหลียนหรงพูดออกมาอย่างเย็นชาสายตาของเธอเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
“อย่าไปสนใจนางเลยนะน้องชาย ปล่อยนางพูดของนางไปเถอะ บางครั้งเราก็ต้องปล่อยวางเรื่องพวกนี้บ้าง”
นาหยิงพยายามปลอบหยวน เธอทำตัวเหมือนกับเป็นพี่สาวที่เป็นมิตรของเขา
“นาหยิง เจ้าเป็นอะไรไป เจ้าหลงเสน่ห์ของเด็กคนนี้เข้าแล้วหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า! ข้าสงสัยเหลือเกินถ้าคนในนิกายนกฟีนิกส์เพลิงฟ้ารู้เรื่องนี้เข้าจะเป็นยังไง!”
เหลียนหรงหัวเราะต่อไป
“…”
แม้ว่าหยวนจะไม่ได้สนใจกับการเยอะเย้ยของเหลียนหรง แต่เด็กหญิงตัวเล็กๆที่ยืนอยู่ข้างหยวนตอนนี้เริ่มเดือดดาลด้วยความโกรธ
‘เป็นแค่มดตัวเล็กตัวน้อย ช่างไม่รู้เอาเสียเลยว่าเธอกำลังล้อเลียนใคร! พี่หยวนเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ อัจฉริยะที่จะทำให้สวรรค์ชั้นบนต้องตกตะลึง! วันหนึ่งพี่หยวนจะกลายเป็นคนที่ยืนหยัดอยู่เหนือสิ่งอื่นใดในโลกใบนี้ ฉันยอมให้เขาถูกล้อเลียนต่อไปไม่ได้!’
“เจ้าทำเรื่องที่น่าอายเป็นอย่างมาก แม้แต่ข้าก็ยังรู้สึกอับอายที่ได้ทำงานอยู่ข้างๆกับเจ้า”
นาหยิงส่ายหัวด้วยความเบื่อหน่าย
“เจ้า!! เจ้าต้องการที่จะต่อสู้ยังงั้นหรอนาหยิง?!”
“เจ้าต้องการที่จะต่อสู้กับข้าจริงๆงั้นหรอ”
นาหยิงหรี่ตาของเธอลงและพลังระดับสูงสุดของนักรบวิญญานของเธอก็ถูกปลุกในตื่นขึ้น พลังจำนวนมากเปล่งออกมาจากร่างกายของเธอ
เม็ดเหงื่อปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเหลียนหรงหลังจากที่เธอรู้สึกถึงแรงกดดันจากนาหยิง
“จะ…เจ้า เจ้ารอก่อนเถอะ! เมื่อกลับไปที่นิกายข้าจะ…”
“เกิดอะไรขึ้น?!”
ทันใดนั้นเสียงที่แข็งแกร่งก็ดังก้องขึ้นแถวนั้น
ไม่กี่วินาทีต่อมาหญิงชราก็ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาด้วยใบหน้าที่กำลังรำคาญ
“ผู้อาวุโสชาง!”
เด็กหญิงทั้งสองหยุดการโต้เถียงลงและโค้งคำนับหญิงชราทันที
“อย่าลืมว่าตอนนี้พวกเจ้าสองคนอยู่ที่ไหน! ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ในสถานะใดในนิกายฟีนิกส์เพลิงฟ้า แต่ตอนนี้พวกเจ้ากำลังทำงานให้กับข้า! และข้าก็จะไม่ทนกับพฤติกรรมแบบนี้ที่โรงประมูลของข้า”
“ข้าขอโทษ…”
พวกเขารีบขอโทษทันทีที่หญิงชราปรากฏตัว
“พอแล้วข้าจะจัดการกับพวกเจ้าสองคนทีหลังเอง หลังจากที่พวกเจ้าจัดการให้แขกทั้งหมดได้ที่นั่งแล้ว ก็เข้ามาข้างใน”
ผู้อาวุโสชางพูดสั่งออกมา
“หยุด!”
ขณะที่ผู้อาวุโสชางหันหลังกลับและกำลังจะเดินจากไป ก็มีเสียงที่น่ารักเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังของเธอ ภายในเสียงนั้นมีความเอาแต่ใจเป็นอย่างมาก นั่นทำให้ผู้อาวุโสชางหันกลับมามองตามเสียงนั้น
“สะ…เสี่ยวฮัว?”
หยวนมองเธอด้วยสายตาที่เบิกกว้าง
“เธอกำลังจะทำอะไร?”
หยวนกระซิบไปที่ข้างหูของเสี่ยวฮัว
“ไม่ต้องกังวลพี่หยวน เดี่ยวเสี่ยวฮัวจะจัดการกับเรื่องนี้เอง”
เสี่ยวฮัวตอบหยวนพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
“สาวน้อยคนนี้เป็นใครกัน”
ผู้อาวุโสชางขมวดคิ้วทันทีเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงออร่าที่ลุ่มลึกอยู่รอบๆตัวของเสี่ยวฮัวและออร่านั้นทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก
“เจ้าเป็นใคร?”
ทันใดนั้นอยู่ๆเสี่ยวฮัวก็หยิบกริซสีน้ำเงินออกมาจากกระเป๋าของเธอ
และตอนนั้นเองที่กริซเล่มนี้ถูกเปิดเผยออกมาเป็นครั้งแรก และมันก็เป็นการปรากฏของสิ่งที่ไม่มีใครเคยคาคคิดมาก่อน
“นี่มัน!!”
ผู้อาวุโสชางสะดุดไปข้างหลังจนเกือบจะล้มลงไปเมื่อเธอเห็นกริซเล่มนี้และสัมผัสได้ถึงพลังของมัน
“กริซเล่มนี้เป็นอาวุธระดับสวรรค์ที่คุณภาพสูดสุด กริซน้ำค้างแข็งแห่งสวรรค์”
เสี่ยวฮัวพูดด้วยท่าทีที่สงบนิ่งเป็นอย่างมาก
“ตอนนี้ข้าเป็นใครไม่สำคัญสิ่งที่สำคัญคือข้าได้วางแผนที่จะประมูลกริซนี้กับโรงประมูลฟีนิกส์เพลิงฟ้าของพวกเจ้า แต่ยังไงก็ตามคนของพวกเจ้าเพิ่งจะล้อเลียนพี่ชายหยวนของข้า และทำให้ข้าโกรธเคืองเป็นอย่างมาก ดังนั้นข้าจึงจะเปลี่ยนใจแล้ว”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งร่างกายที่แข็งทื่อของผู้อาวุโสชางก็เริ่มสั่นสะท้าน
“ใคร?! ใครกันที่กล้าทำให้ท่านขุ่นเคือง! ข้าจะฆ่ามันแทนท่านเอง!”
ท่าทีของผู้อาวุโสชางเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก เปลี่ยนไปกะทันหันจนทำให้ทั้งเหลียนหรงและนาหยิงตกใจสุดๆ เพราะพวกเธอไม่เคยเห็นท่าทีที่ตื่นเต้นขนาดนี้ของผู้อาวุโสชางมาก่อน เธอทำเหมือนกับว่าตอนนี้มีคนไปฆ่าลูกชายของเธอยังไงยังงั้น
แม้แต่หยวนก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เสี่ยวฮัวด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง พวกเขามาที่นี่เพื่อประมูลกริซเล่มนั้นยังงั้นหรอ มันเป็นแบบนั้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“นางคนนั้น!!”
เสี่ยวฮัวไม่ชี้นิ้วของเธอไปที่ผู้หญิงคนนั้นด้วยซ้ำ เธอใช้เพียงหางตามองไปที่เหลียนหรง
ผู้อาวุโสชางหันไปมองเหลียนหรงที่หน้าซีดราวกับภูตผีปีศาจ ในตอนนี้เธอดูเหมือนกับว่าเลือดของเธอทั้งร่างถูกระบายออกจากร่างกายของเธอ
“เจ้าทำอะไรลงไปเหลียนหรง?!”
ผู้อาวุโสชางคำรามใส่เธอด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว
“ขะ…ข้า”
เหลินหรงไม่สามารถตอบสนองได้ ตอนนี้ความรู้สึกของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เธอทรุดตัวคุกเข่าลงที่พื้น เธอหวาดกลัวถึงขั้นฉี่รดกางเกงของเธอ
นาหญิงปิดปากของเธอด้วยความตกใจเมื่อเธอเห็นเหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างไม่คาดคิดนี้
หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกัน?