ตอนที่ 393 เลือกนางเอกสักคน หงเหยียน มู่ชิงหรือเสี่ยวตั่ว?
“ครับ?”
ซีกวามองซูมู่ชิงอย่างเหลือเชื่อ พูดตรงๆ เขาเองไม่ค่อยมีความรู้สึกอะไรกับแม่สาสวผู้ดีจากเมืองกลวงคนนี้เท่าไหร่
แต่คนที่ลูกน้องอย่างซีกวาชอบนั้นคือฉินหงเหยียนและฉินเสี่ยวตั่ว
ซีกวาจึงถาม “งั้นนายหญิงฉินหงเหยียนล่ะครับ…”
เย่เฉินกล่าวต่อ“ฉินหงเหยียนไปไม่ลาทิ้งแค่ข้อความไว้ บอกว่าฉันกับหล่อนคงเป็นไปไม่ได้แล้ว”
ก่อนนี้ซีกวาโดนจับขังที่เมืองเสินเฉิงตลอด เลยไม่รู้เรื่องที่ฉินหงเหยียนหายตัวไป ตอนนี้เขาเองก็สับสน
“นายหญิงไปแล้ว? ไม่จริงมั้ง?”
เขาเองก็รู้ดีแก่ใจว่าเจ้านายทั้งสองคนของเขารักกันลึกซึ้งขนาดไหน ทำไมฉินหงเหยียนถึงได้จากไปโดยไม่ร่ำลานะ? จะต้องหายตัวไปแน่ๆ!
ซูมู่ชิงอยู่ด้วย เย่เฉินเลยไม่สามารถบอกซีกวาตรงๆ ได้เขาจึงกล่าว “สรุปก็คือต่อไปไม่ต้องพูดถึงฉินหงเหยียนอีก”
“อ้อครับ…”
จากนั้นเย่เฉินก็ขับรถพาซูมู่ชิงไปยังบ้านของหญิงสาวก่อน แล้วไปโรงแรมที่เขาพัก ทั้งสองคนต่างก็กลับไปหยิบเอาบัตรประชาชนที่บ้านของตนเอง
จากนั้นก็ขับรถไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนเพื่อจดทะเบียน
ยุคสมัยนี้แล้ว คนที่หย่ากันมีเป็นจำนวนมากจนต้องต่อแถวเพื่อยื่นเรื่อง แต่คนที่แต่งงานนั้นมีจำนวนน้อยนิดจนสามารถจดทะเบียนได้เลยในทันที
เมื่อมาถึงปากทางสำนักงานกิจการพลเรือน เย่เฉินก็ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันไปกล่าวกับซูมู่ชิง “ไปกันเถอะ”
แต่หญิงสาวกลับนั่งในรถตัวแข็ง
หล่อนกหันมองเขาแล้กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เย่เฉิน คุณอยากจะแต่งงานกับฉันจริงๆ เหรอ? ฉันพอจะรู้มาว่าคุณยังรักฉินหงเหยียนอยู่ ถ้าคุณทำไปเราะคุณปู่เลยต่องจำใจแต่งงานกับฉัน ฉันคุยกับคุณปู่บอกให้เขาอย่าบังคับคับคุณได้นะคะ”
ถึงแม้ว่าหล่อนจะอยากแต่งงานกับเย่เฉินเต็มแก่ แต่หล่อนก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่เห็นแก่ตัว หล่อนรู้ดีอย่างยิ่งว่า ในใจเย่เฉินนั้นยังรักฉินหงเหยียนอยู่
เย่เฉินลูบเรือนผมหล่อนเบาๆ พลางกล่าวว่า “ที่ผมแต่งงานกับ ไม่ใช่เพราะโดนคุณปู่คุณบังคับหรอกนะ ในโลกใบนี้ไม่มีใครบังคับให้ผมแต่งงานได้หรอก ผมแต่งงานกับคุณเพราะผมชอบคุณ อยากจะใช้ชีวิตอยู่กับคุณ ส่วนฉินหงเหยียน…ผมหวังว่าหล่อนจะปลอดภัยเท่านั้น ผมยอมรับนะว่าผมยังไม่ลืมหล่อนแต่ว่าผมกับหล่อนไม่มีวาสนาต่อกัน ต่อให้พ่อผมไม่ได้ฆ่าพ่อหล่อน แต่ตระกูลเย่ของเราทำให้ฉินหงเหยียนไม่ได้เจอหน้าพ่อหล่อนมาสิบกว่าปี ผมกับหงเหยียนไม่สามารถใช้ชีวิตด้วยกันได้หรอก”
ส่วนเรื่องพ่อของฉินหงเหยียนนั้น ซูมู่ชิงเองก็พอจะรู้เรื่องเหมือนกัน นี่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่ขัดขวางไม่ให้เขากับฉินหงเหยียนได้อยู่ด้วยกัน
ซูมู่ชิงไม่พูดอะไรอีก แต่ลงรถไปกับเย่เฉินแล้วทั้งสองคนก็ไปรับหนังสือเล่มสีแดงๆ มาด้วยกันอย่ารวดเร็ว
เย่เฉินแต่งงานอีกครั้งแล้ว!
คราวก่อนยังไปจดทะเบียนกับหวังเจียเหยาอยู่ เดิมคิดว่าครั้งต่อไปจะเป็นฉินหงเหยียน แต่คิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นซูมู่ชิง
เวลาเย็นมาถึงอย่างรวดเร็ว เย่เฉินจึงกลับไปที่บ้านพร้อมซูมู่ชิง เมื่อกินข้าวเสร็จแล้วก็เล่นกับซือซือ จนถึงห้าทุ่ม เขาก็กล่อมบุตรสาวให้เข้านอน
ส่วนตอนนี้สาวใช้ซวงเอ๋อร์ก็มาที่ห้องส่วนตัวของซูมู่ชิง แถมยังอุ้มซือซือที่กำลังหลับไป ทิ้งเย่เฉินกับซูมู่ชิงอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
วันนี้ดึกมากแล้ว เย่เฉินกล่าวขณะลุกยืนขึ้น “ซือซือนอนแล้ว เดี๋ยวผมต้องกลับแล้ว ”
แต่ซูมู่ชิงกลับยื่นเขียนเรียวเสลาออกมาดึงนิ้วเย่เฉิน แล้วกล่าวเสียงแผ่ว “หรือไม่งั้นคืนนี้คุณอยู่ต่อไหม เย่เฉิน เราจดทะเบียนกันแล้ว เป็นสามีภรรยากันตามกฎหมายแล้ว น่าจะ…นอนด้วยกันได้แล้ว”
เย่เฉินมองใบหน้าแดงก่ำของซูมู่ชิง มองสาวงามล่มเมืองคนนี้
เขารู้ดีว่าขอแค่เขาเห็นด้วย เขาก็จะสามารถครอบครองผู้หญิงที่ทำให้ผู้ชายจำนวนนับไม่ถ้วนลุ่มหลงจนสิ้นสติ
แต่ว่าในใจเขานั้นยังคงรักฉินหงเหยียนอยู่ ถึงเขาจะจดทะเบียนสมรสกับซูมู่ชิงแล้ว เขาเองก็ไม่อาจนอนกับซูมู่ชิงได้ลงคอ!
เย่เฉินกล่าวว่า “มู่ชิง คุณเองก็รู้ว่าวันนี้ผมมีเรื่องกับคนตั้งหลายร้อยที่หน้าบ้านตระกูลหลี่ ตอนนี้ผมปวดตัวไปหมด ไม่มีแรงเหลือสักนิดเดียวเลย วันนี้ผมเองก็มีสภาพไม่ค่อยดี คุณก็รู้ว่าผู้ชายน่ะรักศักดิ์ศรีกันทั้งนั้น ผมกลัวตัวเองจะทำได้ไม่ดี เอางี้คุณรอให้ผมพักผ่อนหลายๆ วันหน่อย รอแต่งงานกันเป็นทางการแล้ว เราค่อยนอนด้วยกันได้ไหม?”
ซูมู่ชิงรู้ว่าวันนี้เย่เฉินเหนื่อยมาก หล่อนเป็นผู้หญิงแต่กลับเป็นคนพูดแบบนี้ออกมา เดิมทีก็น่าอายมาอยู่แล้ว
ในเมื่อเย่เฉินปฏิเสธ จะให้หล่อนไปบังคับอีกฝ่ายได้อย่างไร?
“อ้อๆ งั้นคุณรับกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ เรื่องงานแต่งงานคุณไม่ต้องกังวลนะ พ่อแม่ฉันจะเป็นคนเตรียมเอง” ซูมู่ชิงกล่าว
เย่เฉินพยักหน้ารับแล้วหอมหน้าผากหญิงสาว “ฝันดีครับ”
เมื่อเดินออกมาจากเรือนสี่ประสานของซูมู่ชิง ก็พบว่าซีกวารออยู่ที่ประตูบ้านอยู่นานแล้ว
เห็นเย่เฉินเดินออกมา เขาก็รีบร้อนเปิดประตูรถให้เย่เฉิน ขับรถพาเขาไปโรงแรม
ซีกวาที่นั่งอยู่ในรถอดถามไม่ได้“คุณชายเย่ นายหญิงฉินหงเหยียนหายตัวไปแล้วใช่ไหม?”
เย่เฉินพยักหน้ารับ “คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นฝีมือของคนตระกูลซู”
“ผมก็ว่าทำไมคุณชายเย่ถึงได้จู่ๆ ก็เปลี่ยนใจไปรักคนอื่น ที่แท้ก็แต่งงานกับคุณหนูซูเพื่อหาข่าวคราวของนายหญิงนี่เอง”
ซีกวาถึงได้เข้าใจ “จริงด้วย นายหญิงฉินหงเหยียนรู้เรื่องนี้ไหมครับ?”
เย่เฉินพยักหน้ารับ “เมื่อช่วงก่อนหล่อนเคยโทรมาถาม รู้เรื่องหมดแล้ว”
ซีกวาถอนหายใจ“นายหญิงเสี่ยวตั่วของผม ช่างน่าสงสารเหลือเกิน คุณพ่ออยู่ไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้คุณเสี่ยวตั่วเองก็คงรู้สึกไม่ค่อยดี คุณชายเย่เมื่อไหร่คุณจะไปหาคุณเสี่ยวตั่ว ไปปลอบเธอหน่อย”
เย่เฉินกลอกตาใส่ลูกน้อง “นายอยากเจอหล่อนล่ะสิ?”
ซีกวาหัวเราะอย่างเก้อเขิน “คุณชายก็รู้นี่ครับ ผมสนับสนุนนายหญิงเสี่ยวตั่ว ก็เธอทั้งสวย น่ารัก ใสซื่อจะตายไป อีกอย่างขายังเรียวยาวด้วย”
เย่เฉินแค่นเสียง เขาพอจะออกว่าซีกวาชอบฉินเสี่ยวตั่วเป็นพิเศษ
เย่เฉินถาม “อาคุนล่ะ? เขาชอบใครเป็นพิเศษ?”
ซีกวาเอ่ย “ท่านหลิวสนับสนุนฉินหงเหยียนมากกว่า รู้สึกว่านายหญิงเสี่ยวตั่วยังผ่านโลกมาไม่มาก ถ้าคุณคบหากับหล่อน เวลาเจอเรื่องลำบากหล่อนอาจจะช่วยอะไรคุณชายไม่ได้”
เย่เฉินพยักหน้าศีรษะ นี่ก็ถือว่าสอดคล้องกับความคิดที่ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ของหลิวเจิ้งคุน
ทันใดนั้นเองซีกวาก็ตบพวงมาลัย “คิดไม่ถึงว่าเสี่ยวหวังไอ้เด็กหางแถวจะสนับสนุนซูมู่ชิง มันบอกว่าฉินหงเหยียนและฉินเสี่ยวตั่วสวยไม่เท่าซูมู่ชิงเลย ไอ้หมอนั่นตาต่ำจริงๆ ซูมู่ชิงก็แค่สวยกว่านายหญิงฉินเสี่ยวตั่วเท่านั้นเอง แต่ขาหล่อนสู้คุณเสี่ยวตั่วไม่ได้เลยนะครับ!”
เย่เฉินอดหัวเราะไม่ได้ “พวกนายสามคนต่างก็มีคนที่สนับสนุน เอาล่ะ พวกนายสนับสนุนใครฉันไม่ถือสา ขอแค่ไม่มีคนสนับสนุนหวังเจียเหยาก็เป็นอันใช้ได้”
“ฮ่าๆ… เราไม่ชอบนังผู้หญิงสารเลวคนนั้นหรอกครับ แต่น้องสาวหล่อนใช้ได้ทีเดียว” ซีกวาเอ่ย
ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็นึกถึงหวังหยวนหยวน ไม่สิ ตอนนี้น่าจะเรียกหวังเจินอวี่แล้ว
และก็ไม่รู้ว่าเส้นทางในการเป็นดาราของหล่อนในตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว
กลับมาถึงโรงแรม เย่เฉินก็โทรหาพ่อบ้านฟาง
“พ่อบ้านฟาง ผมจะแต่งงานแล้ว!”