51 นักต้มตุ๋นสวรรค์และทักษะที่น่าตกตะลึง

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

ตอนที่ 51 : นักต้มตุ๋นสวรรค์และทักษะที่น่าตกตะลึง

ดวงตาของเจียงเฉินเหมือนกับว่าเขานั้นไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เหลือบมองบริเวณรอบๆกวาดทุกคน

ในชั่วพริบตา ทักษะการแสดงของเขาก็ระเบิดออกมา!

เขายืนนิ่ง

หยิบบุหรี่ออกมาจากกล่องบุหรี่อย่างเชี่ยวชาญ สะบัดบุหรี่ขึ้นก่อนจะตกลงไปในปากของเขา และหยิบไฟแช็ก Zippo สีทองราคา 200,000 หยวนขึ้นมาก่อนจะกันลม

คลิก~

จุดไฟ!

เขาพ่นควันออกมาเบาๆและแสดงสีหน้าเยาะเย้ย มองดูผู้คนและพูดอย่างเย็นชา

“ตีหมาต้องดูเจ้าของ อยากสับมือน้องชายฉันถามฉันแล้วหรอ?”

เงียบกริบ!

ถึงขั้นเข็มหล่นก็ได้ยิน!

เล้งเซี่ยมองไปที่ชายหนุ่มที่อายุเท่ากับเธอก่อนจะตัวสั่น

แรงกดดันที่ทำให้เธอกลัวแบบนี้เธอไม่เคยเจอมาก่อน

ยิ่งไปกว่านั้นเขามาเพียงลำพัง แต่ผู้ชายห้าคนที่ยืนข้างๆเธอ เขาไม่กลัวเลยรึยังไง?

เป็นไปได้ไหมว่าเขาเป็นขาใหญ่ที่มีอำนาจเบื้องหลังมหาศาล?

ชายไร้เสื้อเสื้อเสี่ยวหูตัวสั่นไปทั้งตัว “แกเป็นใครกันแน่?”

เจียงเฉินเยาะเย้ยออกมา “หึ! ไร้สาระ ไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำว่าเป็นใคร แล้วพวกแกรู้จักหวังไห่หลงจากเหลียงเฉินไหมล่ะ!”

ทุกคนมองหน้ากัน พวกเขาต่างก็ไม่รู้จักชายหนุ่มเบื้องหน้ากันเลยแม้แต่น้อย!

แต่เมื่อพูดถึงหวังไห่หลงจากเหลียงเฉินทุกคนต่างรู้จักเขา!

เขามีชื่อเล่นว่า พี่หลง ในเหลียงเฉินคนๆนี้มีชื่อเสียงด้านการทำความชั่วและพฤติกรรมที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเล้งเซี่ยและหวังไห่หลงคนนี้มีความบาดหมางกันอยู่ น้องชายของเธอถูกหวังไห่หลงทำร้าย และตอนนี้กำลังพักฟื้นในโรงพยาบาลหมิงเต๋อ

แต่หลังจากนั้นหวังไห่หลงคนนี้ก็ไปมีเรื่องทะเลาะกับคนอื่นจาตัวเองตาย!

ข่าวนี้ต่างทำให้คนไม่น้อยมีความสุข!

เป็นไปได้ไหมว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นหนึ่งในลูกน้องของหวังไห่หลง?

การแสดงออกของเล้งเซี่ยดูอ่อนลง “นายรู้จักหวังไห่หลงหรอ”

“รู้เสียยิ่งกว่ารู้”

เจียงเฉินพูดอย่างสงบ “ให้ฉันเล่าง่ายๆเลยก็แล้วกัน วันนี้มีคนทำให้ฉันเคืองแล้วหลังจากนั้นมันก็ตาย!”

เรื่องราวสั้นมาก แต่เข้าใจง่าย!

น้ำเสียงของเจียงเฉินเย็นชาและเยือกเย็น!

ในห้องโถงนี้มีตะมากกว่าหนึ่งโหลคนมากกว่าร้อยคน แต่ทุกคนรู้สึกหนาวจนเข้ากระดูก ความเย็นที่ซึมเข้าผ่านฝ่าเท้าจนทะลุศีรษะ!

ดวงตาของเล้งเซี่ยเปิกกว่าก่อนจะหดแคบลง

คิดไม่ถึงเลย! หวังไห่หลงจะถูกชายคนนี้ฆ่าจริงๆ!

แม้เธอจะรู้สึกเกลียดหวังไห่หลงแต่เธอก็ยังต้องดูแลน้องชายของเธออยู่ เธอจึงเลือกที่จะปล่อยวางมันไปก่อน แต่ดันกลายเป็นว่าชายหนุ่มรูปงามเบื้องหน้าของเธอนั้นจัดการเรื่องนั้นให้เธอไปแล้ว

จะว่าไปฉันกก็ควรจะขอบคุณเข้าไม่ใช่หรอ?

ตาของเล้งเซี่ยกะพริบและยิ้มออกมา “คุณจะให้ฉันปล่อยเพื่อนของคุณที่มาหยาบคายกับฉันก่อน คุณจะแก้ปัญหายังไงล่ะ”

หลี่หมิงฮุ่ยร้องออกมาทันที “พี่เฉิน พี่เฉิน! ผมเพิ่งดื่มไปเลยเข้าไปทักเธอเท่านั้น ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ!”

เจียงเฉินจ้องมองเขาอย่างดุเดือดและดุอย่างเย็นชา “ขยะไร้ประโยชน์! เป็นแบบนี้แล้วแกจะยังทำงานกับฉันในอนาคตได้ยังไง?“

“พี่เฉิน! ผมรู้ว่ามันผิด! ผมสัญญาว่าจะไม่มีอีกแล้ว!”

หลี่หมิงฮุ่ยรู้ว่าเจียงเฉินกำลังช่วยเขาอยู่ ดังนั้นเขาจึงยอมรับความผิดของเขาอย่างรวดเร็ว!

“อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เธอจะโทษคนอื่นก็คงไม่ได้”

เจียงเฉินกล่าวเบาๆ แล้วเดินไปหาเล้งเศี่ยและจู่ๆก็โอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา!

ทุกคนในห้องต่างคาดไม่ถึง!

เอวของแมงป่องน้ำแข็งถูกจับไว้แน่น ไม่มีไขมันส่วนเกินตามร่างกายของเธอแม้แต่น้อย และยังมีกลิ่นน้ำหอมระดับสูงของ Dior บนร่างกายของเธอ

ทั้งสองมองหน้ากันและเล้งเซี่ยไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ เธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าได้ขนาดนี้!

ด้วยการสัมผัสใกล้ชิดเช่นนี้ เธอจึงเห็นว่าชายตรงหน้าเธอช่างมีเสน่ห์เพียงใด!

หน้าขาว หน้าคม เป๊ะเว่อร์!

และรอยยิ้มที่มุมปากของเขา

เล้งเซี่ยยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีคนสามารถสร้างอารมณ์ที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ในช่วงยี่สิบห้าปีที่เธอเกิดมา

เธอพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง

ผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าเธออยู่ใกล้มาก และการหายใจของเขาก็อุ่นขึ้น ทำให้หูของเธอรู้สึกร้อน และร่างกายของเธอก็ดูเหมือนจะสูญเสียแรงไปโดยไม่รู้ตัว!

ความรู้สึกนี้!

ฉันเกลียดมัน แต่ฉันชอบมันมาก เหมือนฝัน!

เจียงเฉินมองไปที่เล้งเซี่ยจากระยะใกล้ และใบหน้าที่เย็นชาของเธอถูกปกคลุมด้วยหมอกสีแดงบางๆ

เจียงเฉินยอมรับว่าเขาประเมินความงามของผู้หญิงคนนี้ต่ำไป

ถ้าเธอแต่งตัวแบบคนปกติ เธอจะได้ 95 คะแนนแน่นอน!

ถ้าเทียบกับบรรดาผู้หญิงที่เขารู้จักที่ผ่านๆมาเธอไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลย และร่างกายเธอก็จัดได้ว่าสุดยอดไม่แพ้กัน!

ทั้งสองมองหน้ากันห้าวินาที!

เจียงเฉินยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา “คุณสวยมากจริงๆ ดังนั้นฉันจะโทษน้องชายของฉันที่ถูกคุณล่อลวงได้อย่างไร”

“ฉัน….”

เล้งเซี่ยพูดไม่ออกชั่วขณะหนึ่งและหัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้น

เธอเป็นคนโหดร้ายมาโดยตลอด และเธอฝึกศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก ในตอนนี้มันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง และเธอไม่มีแม้แต่แรงจะต่อต้านผู้ชายคนนี้ด้วยซ้ำ

พระเจ้าช่วย!

ตอนนี้เธอเริ่มแอบสงสัยว่าอีกฝ่ายได้ทำอะไรเธอรึเปล่าถึงได้ไม่มีแรงขนาดนี้!

ในเวลานี้เสี่ยวหูได้พูดออกมาด้วยความน่ากลัวซึ่งทำลายบรรยากาศที่สงบสุขและคลุมเครือลงทันที!

“แก ปล่อยพี่สาวของพวกเราเล้งเซี่ย เดี๋ยวนี้!”

เจียงเฉินหัวเราะก่อนจะปล่อยแมงป่องน้ำแข็งในอ้อมแขนของเขา

ไม่ได้ตั้งใจจะขัดขืนจริงๆ…

ใบหน้าของเล้งเซี่ยนั้นร้อนระอุภายในใจเต็มไปด้วยความสับสนแต่ก็ยังถามออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณชื่ออะไร ไม่ต้องกังวล ฉันไม่อยากรู้นักหรอก แต่ฉันไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นไปโดยไม่มีการชดใช้ไม่ได้!”

เสี่ยวหูถอนหายใจพร้อมกับเหงื่อที่ไหลออกมามาก!

แม่จ๋า!

พี่เล้งเซี่ย!

เจียงเฉินกล่าวเบาๆ “ผมชื่อเจียงเฉิน ถ้าคุณมีเวลาว่างก็มาหาผมที่เมืองหลวงจักรวรรดิได้”

“เจียงเฉินใช่ไหม ฉันจะจำไว้”

เล้งเซี่ยโบกมือและสั่ง: “ปล่อยเขา!”

หลี่หมิงฮุ่ยรีบวิ่งกลับทันที กางเกงของเขาเปียกไปครึ่งหนึ่ง!

เจียงเฉินดีดนิ้วของเขา

“บริกร!”

บริกรก็ตัวสั่นเมื่อได้ยินคำพูดนั้น และรีบวิ่งมาทันที!

“ครับคุณเจียง ต้องการให้ผมรับใช้อะไรหรอครับ?”

“วันนี้ฉันจะจ่ายเงินให้ทุกโต๊ะ แล้วก็ลืมทุกอย่างเกี่ยวกับหวางไห่หลงในคืนนี้ซะ ไม่งั้นนายจะมีจุดจบเหมือนเขา!”

เจียงเฉินโบกมือยื่นบัตรออกไป และพูดเบาๆอีกว่า “อย่าบังคับให้ฉันต้องใช้อำนาจจากเมืองหลวง ฉันไม่ต้องการสร้างพายุ!”

ผู้คนกว่าร้อยคนที่อยู่ต่างก็นิ่งเงียบ!

ห้องโถงเงียบมาก

พนักงานเสิร์ฟกลืนน้ำลายด้วยความกลัว “คุณเจียง เจ้านายของเราบอกว่าเขาจะชดใช้ค่าอาหารทั้งหมดคืนนี้ให้ครับ!”

“ก็ได้ ครั้งนี้ฉันจะไว้หน้าพวกนายซักครั้ง”

เจียงเฉินกล่าวอย่างเย็นชาและเหลือบมองเล้งเซี่ยอีกครั้งจากนั้นก็หันหลังกลับไป

เจียงเฉินรู้สึกประหลาดใจที่เห็นความรู้สึกแบบคนหนุ่มสาวจากตัวของเล้งเซี่ย เดิมทีเขาคิดว่าเธอคงเป็นผู้หญิงที่มีชีวิตส่วนตัวที่วุ่นวาย แต่ตอนที่เขาโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา

เจียงเฉินก็รับรู้ได้ทันทีว่าผู้คนนั้นไม่สามารถมองดูเพียงแต่ภายนอกได้จริงๆ

เธอแต่งตัวเหมือนนักเลงหัวไม้เพียงเพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเธอก็เท่านั้น

หลังจากที้จียงเฉินออกไปครึ่งนาที การสนทนาครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นในห้องโถง!

“โอ้ พระเจ้า! กลิ่นอายของชายคนนี้แข็งแกร่งมาก!”

“เจียงเฉินคนนี้หล่อมาก! พระเจ้าช่วย ไม่ใช่ใครก็สามารถทำแบบนี้ได้นะ!”

“กลิ่นอายที่น่ากลัวแบบนั้นทำให้ฉันนึกถึง อู๋เหวินเชียงในเซี่งไฮ้ มันน่ากลัวมากจริงๆ!”

“ตอนนั้นฉันรู้สึกสับสนมาก ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเข้าลึกๆ การโดนบังคบแบบนี้ แรงกดดันแบบนี้ พระเจ้าตอนนี้มือของฉันยังสั่นอยู่เลย!”

“มันแย่มาก ในที่สุดฉันก็รู้ว่าความสยองขวัญคืออะไรในวันนี้!”

“ฉันอยากเป็นน้องชายของเขาจริงๆ การได้ติดตามเขานั้นช่างสง่างามจริงๆ!”

“ฉันก็คิดเหมือนกัน แต่คงไม่มีโอกาศ แค่ขัดรองเท้าฉันคงไปทำไม่ได้ด้วยซ้ำ!”

“และฉันก็เห็นนาฬิกาของเขาด้วยมันคือ Patek Philippe และเรือนนั้นมูลค่าถึง 17.6 ล้านหยวนเลยด้วย!”

“ใช่เล ทั้งรวย ทั้งทรงพลัง และยังมีสถานะที่สูงอีกด้วย!”

“…”

บนถนนในตอนกลางคืน

เล้งเซี่ยอดไม่ได้ที่จะแสดงความโศกเศร้าออกมา

เหสี่ยวหูจึงอดไม่ได้ที่จะถาม “พี่เล้งเซี่ย พี่กำลังคิดอะไรอยู่”

เล้งเซี่ยตอบ “ฉันคิดว่าฉันควรไปที่หลงเฉิงจริงๆ”

เสี่ยวหูเอากระเป๋าของเขาออกมาและหยิบเงินออกมา 10,000 หยวนออกมาอย่างรวดเร็วก่อนจะส่งให้เล้งเซี่ย “พี่เล้งเซี่ยรับเงินไปเถอะ เสี่ยวอู๋ยังต้องการใช้เงินในการรักษาอีกมากมันคงไม่ง่ายสำหรับพี่แน่นอน”

เสี่ยวอู๋เป็นน้องชายของเล้งเซี่ยหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บที่ขาจากหวังไห่หลงและในตอนนี้เขาก็กำลังเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลหมิงเต๋อในเมืองหลวงจักรวรรดิ

เล้งเซี่ยและเสี่ยวหูมักจะหาเลี้ยงชีพด้วยการช่วยดูแลร้านของผู้คนในตลาด และเงินที่หามาได้นั้นก็เล็กน้อยมาก

เล้งเซี่ยปฏิเสธและยิ้มออกมา “ไม่จะเป็นหรอกเสี่ยวหู พี่สาวคนนี้ยังมีเงินอยู่ นายเก็บไว้ใช้เถอะ”