ตอนที่ 1650 ความโกรธของเยี่ยเสีย (4) / ตอนที่ 1651 ทำให้ตระกูลเยี่ยขับไล่อวิ๋นลั่วเฟิงออกไปงั้นหรือ (1)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1650 ความโกรธของเยี่ยเสีย (4)

เด็กชายตกใจกลัว เขาไม่เข้าใจว่าทำไมบิดาของเขาที่เอาอกเอาใจเขาเสมอถึงโกรธเขาขนาดนี้…

“ท่านผู้อาวุโสชิงมู่ ท่านผู้อาวุโสเก๋อหยาง ข้าน้อยไม่รู้จริงๆ ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใคร”

ตุบ!

ชวีหลินคุกเข่าด้วยร่างสั่นเทิ้ม “คนที่ผิดคือกลุ่มโจรพยัคฆ์ พวกเขาลักพาตัวคุณหนูเยี่ยจวินและข้าน้อยก็ซื้อนางมาจากพวกเขาอีกที”

ความไม่รู้สามารถให้อภัยได้ ผู้อาวุโสชิงมู่คงไม่ทำลายตระกูลชวีเพราะเรื่องแบบนี้

อวิ๋นลั่วเฟิงที่กำลังอุ้มเยี่ยเสียก็ยกยิ้มแล้วค่อยๆ ร่อนลงจากท้องฟ้ามาหยุดตรงหน้าเยี่ยจวิน…

เยี่ยเสียมองแก้มที่บวมแดงของเยี่ยจวิน เขารู้สึกหัวใจกระตุกและเพลิงโกรธในใจเขาก็ระเบิดออกมาอีกครั้ง “จวินเอ๋อร์ มันเป็นใคร ใครเป็นคนตีเจ้า”

เยี่ยจวินกระโจนเข้าสู่อ้อมกอดของเยี่ยเสียแล้วเงยหน้าเล็กๆ ของนางขึ้น นางดูเสียใจมากแต่ว่าในที่สุดนางก็โล่งใจเมื่อเห็นเยี่ยเสียปรากฏตัว

“ท่านพี่สาม ข้าคิดว่าท่านตกอยู่ในมือของคนพวกนี้ดังนั้นข้าก็เลยยอมตามพวกเขามาเพื่อตามหาท่าน ในที่สุดตอนนี้ข้าก็โล่งอกที่เห็นท่านปลอดภัยดี”

นางยิ้ม

ใครก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารอยยิ้มของเยี่ยจวินคล้ายกับรอยยิ้มของจวินเฟิ่งหลิงมาก ทั้งน่ารักและหล่อเหลาในเวลาเดียวกัน ทันใดนั้นเยี่ยจวินก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นบนแก้มที่บวมแดงของนางแต่นางก็ไม่ได้หลีกเลี่ยงสัมผัสของหญิงสาว

มือของนางอ่อนโยนเหมือนมารดาแล้วเมื่อมือนั่นสัมผัสถูกแก้มที่เจ็บของนาง น้ำตานางก็ไหลและร่างก็สั่นเทิ้ม ในฐานะที่เยี่ยจวินเป็นผู้ฝึกพลังฌาน นางก็รู้สึกได้ถึงพลังฌานจากฝ่ามือดุจหยกของหญิงสาวแล้วความเจ็บปวดที่แก้มของนางก็ค่อยๆ หายไปทันทีที่พลังฌานไหลผ่าน…

“ท่านแม่…”

ภายใต้สัมผัสที่อ่อนโยนของอวิ๋นลั่วเฟิง เยี่ยจวินก็อดที่จะเรียกนางว่า ‘ท่านแม่’ ไม่ได้ ทุกคนในตระกูลเยี่ยรักนางแต่ไม่มีมือของใครที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบนี้นอกจากมือของสตรีผู้นี้…

แต่ทันทีที่นางรู้สึกตัวว่าสตรีผู้นี้ไม่ใช่มารดาของนาง นางก็ปาดน้ำตาแล้วส่งยิ้มให้ “ข้าขอโทษเจ้าค่ะ ข้าคิดถึงท่านแม่มากเกินไปแล้วท่านก็ให้ความรู้สึกอบอุ่น ข้าก็เลยห้ามตัวเองไม่ได้…”

“จวินเอ๋อร์” เยี่ยเสียส่งยิ้มให้เยี่ยจวิน “ไม่แปลกหรอกที่เจ้าจะรู้สึกว่านางเหมือนท่านแม่ เหล่าผู้อาวุโสเคยพูดไว้ไม่ใช่หรือว่าพี่สะใภ้คนดีของพวกเราเหมือนกับท่านแม่ ถึงแม้ว่านางจะเป็นแค่พี่สะใภ้แต่นางก็เป็นเหมือนท่านแม่ของพวกเรา”

พี่สะใภ้?

เยี่ยจวินหยุดมือที่ใช้ปาดน้ำตา นางเงยหน้าอย่างประหลาดใจแล้วจ้องหญิงสาวงดงามในชุดสีขาวโดยไม่ละสายตา “ท่าน…ท่านเป็นพี่สะใภ้ของพวกเรางั้นหรือ จริงๆ นะ” หัวใจของนางเต้นเร็วขึ้นแม้แต่ริมฝีปากของนางก็สั่น

ชวีหลินตะลึง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเจออวิ๋นลั่วเฟิงแต่เขาก็รู้เรื่องภรรยาของคุณชายสองของตระกูลเยี่ยที่เป็นประมุขของหอแพทย์…

นางเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริงในนครอนันต์

แต่เขาพึ่งทำอะไรลงไปนะ เขาลักพาตัวน้องสามีของนางและพูดเรื่องไร้สาระไปมากมายต่อหน้านาง ไม่แปลกใจเลยที่ผู้อาวุโสชิงมู่พูดว่าเขากำลังรนหาที่ตาย! เมื่อคิดได้อย่างนั้นในที่สุดชวีหลินก็ทรุดตัวลงไปที่พื้นด้วยใบหน้าซีดเผือดและดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว…

ไอ้พวกกลุ่มโจรพยัคฆ์ต่ำช้า! ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมัน เขาจะไปยั่วโมโหสตรีที่ถูกเรียกว่าเทพแห่งหายนะได้อย่างไร

 …………………………………..

ตอนที่ 1651 ทำให้ตระกูลเยี่ยขับไล่อวิ๋นลั่วเฟิงออกไปงั้นหรือ (1)

“พี่สะใภ้…”

ไม่ว่าเยี่ยจวินจะดูเป็นผู้ใหญ่ขนาดไหน นางก็เป็นแค่เด็กอายุห้าปีเท่านั้น เมื่อนางเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงมุมปากของนางก็กระตุกแล้วน้ำตาก็ไหลออกจากดวงตา

“สุ่ยเอ๋อร์ยังอยู่ในมือของกลุ่มโจร ถ้าพวกเราช้าเกินไป ข้ากลัวว่า…”

“สุ่ยเอ๋อร์?”

อวิ๋นลั่วเฟิงมองเยี่ยจวินอย่างสงสัยแล้วถามว่า “สุ่ยเอ๋อร์คือ?…”

“นางเป็นบุตรสาวของท่านลุงอวิ๋นและท่านป้าหนิงซิน”

ตูม!

ความโกรธปะทุขึ้นในจิตใจของอวิ๋นลั่วเฟิงทันทีที่นางได้ยินคำพูดของเยี่ยจวินก่อนนางจะส่งรอยยิ้มชั่วร้าย

“จวินเอ๋อร์ นำทางไป”

ใครก็ตามที่กล้าแตะต้องครอบครัวของนางต้องชดใช้!

“ท่านพี่สะใภ้ขอรับ ข้าจะจัดการเรื่องที่นี่เองขอรับ” เยี่ยเสียมองชวีหลินที่กำลังทรุดอยู่ที่พื้นอย่างเย็นชา ดวงตาเรียวของเขาเป็นประกายเย็นเยียบ “ท่านและจวินเอ๋อร์ไปหาสุ่ยเอ๋อร์เถอะขอรับ”

ชวีหลินกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ลำคอของเขาแห้งผากและมองใบหน้าอ่อนเยาว์อย่างหวาดกลัว…

ถึงแม้เด็กชายจะยังเด็กแต่เขากลับมีกลิ่นอายที่ทรงพลังจนน่ากลัว ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะจินตนาการถึงภาพในอีกสิบปีข้างหน้าว่าเด็กชายตัวน้อยจะครอบครองแดนลับแลและกลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดคนใหม่!

“เจ้ากลัวความสูงหรือไม่” อวิ๋นลั่วเฟิงถามเบาๆ ขณะก้มมองเด็กสาวที่อยู่ข้างตัวนาง

เยี่ยจวินส่ายหน้า “ไม่เจ้าค่ะ”

“ดี ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปหาสุ่ยเอ๋อร์กันเถอะ”

ครั้งนี้อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้ยั้งพลังแต่นางปลดปล่อยพลังฌานทั้งหมดในร่างออกมา ร่างของนางราวกับเงาที่ปรากฏขึ้นและหายไปในทันที

เสี่ยวโม่ที่คอยติดตามอวิ๋นลั่วเฟิงก็ตะลึงไป เขาจ้องไปยังทิศทางที่นางพึ่งจากไปด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าอย่างชัดเจน

“นายหญิงลืมข้าไปแล้วตั้งแต่ที่นางมีเด็กหญิงตัวน้อยที่ชื่อเยี่ยจวิน” หลายปีมานี้อวิ๋นลั่วเฟิงไม่เคยทิ้งเขาแต่ตอนนี้นางกลับลืมเขาไปแล้ว โชคดีที่ด้วยความแข็งแกร่งของอวิ๋นลั่วเฟิงตอนนี้ เสี่ยวโม่ก็สามารถออกจากโลกคัมภีร์เซียนโอสถได้ช่วงเวลาหนึ่ง… …

“ไอ้ขยะไร้ประโยชน์!”

ในกระท่อมหลังหนึ่ง หรูอี้กระทืบชายคนหนึ่งที่อยู่ใต้ฝ่าเท้านาง นางโกรธจนใบหน้ามีเสน่ห์ของนางกลายเป็นสีม่วง “แค่ผู้ชายคนเดียวเจ้าก็หาไม่ได้ ไอ้คนปัญญาอ่อนหลินซีจะลาออกจากกลุ่มโจรพยัคฆ์ของเราแบบนี้งั้นหรือ!”

ก่อนหน้านี้ไม่นานหลินซีพาอวิ๋นรั่วสุ่ยออกไป แต่ว่าพฤติกรรมของเขาทำให้อวิ๋นรั่วสุ่ยโมโหและไม่สามารถควบคุมพลังในร่างของตัวเองได้จนทำให้เขาหายไปจากโลกใบนี้ แต่ว่ากลุ่มโจรพยัคฆ์ไม่รู้สิ่งที่อวิ๋นรั่วสุ่ยทำ พวกเขารู้แค่ว่าหลินซีหายตัวไปรวมถึงอวิ๋นรั่วสุ่ยก็ด้วย!

ชายหนุ่มในชุดผ้าไหมคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นช้าๆ “หรูอี้ หรือว่าะเกิดอะไรขึ้นกับหลินซี”

หรูอี้กัดฟัน “ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้ และถึงแม้ว่าจะมีอะไรผิดปกติ เขาก็น่าจะมีเวลาส่งข่าวมาให้พวกเราบ้าง ไม่น่าหายไปอย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้! ดังนั้นข้าคิดว่าเขาหนีไปกับอวิ๋นรั่วสุ่ย!”

ตอนนั้นเองหรูอี้ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้จากด้านนอก เมื่อนางเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นใบหน้าเล็กๆ สีชมพู หรูอี้นิ่งไปชั่วครู่จากนั้นความโกรธก็ปะทุขึ้นในตัวนาง ถ้านางไม่ได้ถูกลูกน้องหยุดไว้ นางก็คงกระโจนเข้าไปเฆี่ยนเด็กผู้หญิงคนนี้แล้ว

“บอกข้ามา ก่อนหน้านี้เจ้าหายไปมา แล้วหลินซีล่ะ เขาอยู่ที่ไหน”