บทที่ 293 พยายามอย่างเต็มที่เพื่อสร้างผู้กุมชะตา!
วิธีแรกคือวางความหวังทั้งหมดไว้ที่ผู้โดดเดี่ยวที่ไปยังแดนสุขาวดีและหวังว่าเขาจะกลับมา
สู่พิภพนี้ก่อนที่เซียนต้นกําเนิดจะมาถึงพลิกกระแสอีกครั้งและกําราบเซียนต้นกําเนิดแห่งความมึดได้พิภพนี้ก็จะสงบสุข
วิธีที่สองคือใช้พลังทั้งหมดเพื่อสร้างผู้กุมชะตาก่อนที่เซียนต้นกําเนิดแห่งความมืดจะมาถึงด้วยคุณสมบัติของผู้กุมชะตาจะสามารถท่องไปในทะเลจักรวาลที่ไม่มีที่สิ้นสุดและนําสิ่งมีชีวิตใน
แดนนิรันดร์ส่วนใหญ่ไปเป็นเชื้อสาย เพื่อหวังว่าจะรักษาพิภพนี้ไว้
มีสองวิธี วิธีแรกคือการตั้งความหวังของตัวเองไว้กับผู้อื่นอย่างสมบูรณ์
และวิธีที่สอง คือการให้โอกาสตัวเอง
ราชันเฉียนราชนบรรพบุรุษนิรันดร์และราชันดอกบัวมองหน้ากัน และเห็นถึงความแน่วแน่ในสายตาของกันและกัน
การเลือกวิธีแรกเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่จําเป็นต้องทําอะไรแค่วางความหวังทั้งหมดไว้ที่อื่น
และการเลือกวิธีที่สองสําหรับราชันเซียนนิรันดร์เหล่านี้ซึ่งอยู่ไกลจากเขตแดนผู้กุมชะตานั้นยากยิ่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
ผู้กุมชะตาไม่มีตัวตนและในบรรดาสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกนับพันล้านชีวิตมันเป็นเรื่องยากที่จะให้กาเนิดผู้กุมชะตา
สําหรับราชันเฉียนและคนอื่นๆที่เพิ่งเห็นความหมายที่แท้จริงของผู้กุมชะตาพวกเขาย่อมรู้ดีว่าการบรรลุผู้กุมชะตานั้นยากเพียงใด
แต่ถึงกระนั้น พวกเขาทั้งสามก็เลือกเส้นทางที่สองโดยปริยาย
เพราะไม่ใช่การบรรลุผู้กุมชะตาด้วยตัวเองจะมีความหวังน้อยแต่การตั้งความหวังไว้กับคนอื่นแม้ว่าจะช่วยกอบกู้แดนนิรันดร์และช่วยชีวิตไว้ได้นับร้อยล้านคนก็ตามราชันเฉียนราชันดอกบัวและราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ทั้งสามก็จะไม่เลือกเส้นทางนั้น!
เนื่องจากตัวตนของพวกเขา และการที่สามารถฝึกฝนมาจนถึงตอนนี้ ย่อมเชื่อในตัวเองเท่านั้นและหากมีความหวังพวกเขาก็จะพึ่งพาตัวเองเช่นกัน
การมอบชีวิตและความตายของตนเองให้อยู่ในมือของผู้อื่นหากราชันเฉียนและคนอื่นๆคิดเช่นนี้พวกเขาจะไม่สามารถบรรลุศักดิ์ศรีของราชันเซียนนิรันดร์ที่พวกเขาเป็นอยู่ในปัจจุบันได้
“ในแดนนิรันดร์ น่าจะมีสิ่งมีชีวิตสูงสุดที่หลับใหลอยู่บ้าง”
ราชันบรรพบุรุษนิรันดร์มองไปที่ราชันดอกบัวและราชันเฉียน และกล่าวอย่างไตร่ตรอง
“มีแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตที่แก่กว่าข้า แต่พวกเขาไม่ได้ปรากฏตัวในพิภพเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วข้าไม่รู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
ต่อไป ข้าจะพยายามหาพวกเขาให้เจอและแจ้งให้พวกเขาทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ สิ่งมีชีวิตโบราณเหล่านี้ก็เหมือนกันกับข้า ไม่สนใจสิ่งใดนอกจากการฝึกฝนของตัวเองไม่ปรากฏในพิภพและการปกครองแดนนิรันดร์ก็อยู่บนบ่าของเขาเช่นกัน
แต่ตอนนี้มันต่างออกไป มันเกี่ยวกับความปลอดภัยของแดนนิรันดร์ และแม้กระทั่งคนทั้งพิภพภายใต้รังที่พลิกคว่ำที่ไม่มีไข่ที่สมบูรณ์* ไม่ใช่หรือ?
(E2F7E99 ภายใต้รังที่พลิกคว่ำไม่มีไข่ที่สมบูรณ์ สํานวน บ้านหรือครอบครัวไหนที่ถูก
ทําลายไปแล้วคนในครอบครัวจะมีความสุขสมบูรณ์ไปไม่ได้)
เมื่อพวกเขารู้เรื่องนี้แล้ว พวกเขาจะไม่นิ่งเฉยอย่างแน่นอน
ข้าจะเรียกพวกเขาออกมาและจะรวบรวมสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของแดนนิรันดร์ที่อยู่เหนือเขตแดน
เซียนนิรันดร์ เพื่อผนึกวิถีของกันและกัน เพื่อส่งเสริมพวกเราสามคน
จากนั้น ข้าจะแบ่งปันความหมายที่แท้จริงของผู้กุมชะตาที่เราตระหนักในวันนี้
ตราบใดที่ยังมีโอกาสได้เลื่อนเขตแดนเป็นผู้กุมชะตา เราจะปล่อยมันไปง่ายๆไม่ได้”
“นั่นมันยอดเยี่ยมมาก”
ราชันเฉียนและราชันดอกบัวมองหน้ากัน และเห็นความสุขในสายตาของกันและกัน
พวกเขาอยู่ในความดูแลของแดนนิรันดร์มาเป็นเวลานาน แต่เมื่อเทียบกับราชันบรรพบุรุษนิรัน ดร์และสิ่งมีชีวิตโบราณอื่นๆ ยังคงน้อยกว่ามาก
ในอดีต แม้ว่าราชันเฉียนและคนอื่นๆ จะรู้ว่าในแดนนิรันดร์จะต้องมีกลุ่มสิ่งมีชีวิตโบราณที่ซ่อน ไว้ แต่ก็ยังไม่เคยเห็นร่องรอยของพวกเขาเลย
ด้วยพลังของราชันเฉียนราชันดอกบัว ถ้าพลิกแดนนิรันดร์กลับด้าน อาจจะสามารถตามหาสิ่งมี
ชีวิตโบราณเหล่านี้ได้
แต่ด้วยการประโคมข่าวครั้งใหญ่เช่นนี้ จะต้องกระตุ้นความไม่พอใจของศัตรูอย่างแน่นอน
ยิ่งกว่านั้น แม้ว่าก่อนหน้านี้แดนนิรันดร์จะถูกคุกคามจากแดนทมิฬมาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่ถึง จุดที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้ ดังนั้น ราชันเฉียน ราชันดอกบัวจึงไม่เคลื่อนไหว
เมื่อราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ออกมาแล้ว ทุกอย่างก็ง่ายที่จะพูด
ราชันบรรพบุรุษนิรันดร์เป็นสิ่งมีชีวิตโบราณที่หาที่เปรียบมิได้ แม้แต่ในบรรดาสิ่งมีชีวิตโบราณ
ที่ซ่อนอยู่ เขาก็ถือได้ว่าเป็นผู้อาวุโส
ถ้าเขาออกหน้า ก็ย่อมจะทําให้ปรมาจารย์โบราณเหล่านั้นไม่ขายหน้าอย่างแน่นอน บวกกับ
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของทั้งแดนนิรันดร์และแม้แต่พิภพ
ด้วยเหตุผลนี้ สิ่งมีชีวิตโบราณเหล่านั้นจึงไม่สามารถซ่อนตัวได้โดยไม่มีเหตุผล
ท้ายที่สุดแล้ว หากพิภพทั้งพิภพถูกทําลายโดยเซียนต้นกําเนิดแห่งความมืด พวกเขาจะซ่อน ตัวที่ไหน?
ภายใต้รังที่พลิกคว่ำไม่มีไข่ที่สมบูรณ์ สิ่งมีชีวิตโบราณเหล่านี้ที่อาศัยอยู่เป็นเวลานานต้องเข้าใจอย่างแน่นอน
และการรวบรวมสิ่งมีชีวิตโบราณทั้งหมดที่อยู่เหนือเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์เพื่อผนึกวิถีของกันและกัน สามารถส่งเสริมการฝึกฝนเขตแดนพลังยุทธ์ของทุกคนได้อย่างแน่นอน
สําหรับความจริงที่ยิ่งใหญ่บางอย่างที่พวกเขาได้ตระหนักในวันนี้ ราชันเฉียนและคนอื่นๆไม่มีเจตนาที่จะปกปิดไว้แต่อย่างใด
หากเป็นในอดีตนอกจากว่าทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และความสัมพันธ์แน่นแฟ้นพวกเขาย่อมเรียนรู้จากกันและกันและสร้างวิถีของตนเองให้มั่นคงได้
เนื่องจากวิถีของแต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวหากปล่อยให้ผู้อื่นได้เรียนรู้อย่างไม่ระมัดระวังอาจถูกวางแผนการและตกเป็นเป้าหมายโดยไม่ทันตั้งตัว*ได้
(F1) จับโดยไม่ทันตั้งตัวสํานวนหมายถึงไม่ทันรับมือไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทัน)สําหรับตัวตนเหล่านี้ที่อยู่เหนือราชันเซียนนิรันดร์ วิถีของพวกเขานั้นเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดและเป็นส่วนตัวที่สุดของพวกเขาเช่นกันปกติแล้วย่อมไม่ยอมให้คนอื่นรู้ได้แต่ตอนนี้ความเป็นส่วนตัวทั้งหมดนี้ไร้ความหมาย
หากพวกเขาสามารถร่วมมือกันได้และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะสร้างตัวตนผู้กุมชะตาพวกเขาจะสามารถพึ่งพาผู้กุมชะตานั้นเพื่อออกจากพิภพนี้และมีชีวิตอยู่ต่อไปเกิดแต่ถ้าทุกคนแตกแยกกันเมื่อเซียนต้นกําเนิดแห่งความมืดมาถึงในที่สุดและมหาปัญญายังไม่
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นทุกคนก็จะไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้
ภายใต้การคุกคามของชีวิตและความตายนี้ราชันเฉียนเชื่อว่าจะไม่มีใครจงใจปิดบังวิถีของพวกเขา
ไม่ว่าอย่างไร แม้ว่าวิถีจะมีความสําคัญแต่ถ้าไม่มีตัวตนอยู่วิถีก็จะไม่มีอยู่เช่นกัน!