บทที่ 5 ใครเป็นคนเขียนไดอาร

รักหวานอมเปรี้ยว

หลังจากบอกลาลาเต้กับราเม็ง มายมิ้นท์กลับมาที่บ้านเก่าของคุณพ่อ

ทุกที่ภายในบ้านเต็มไปด้วยฝุ่น ไม่ได้ทำความสะอาดมานานมากแล้ว

มายมิ้นท์สวมผ้ากันเปื้อนเริ่มทำการเก็บกวาด

ด้านใต้โซฟา เธอพบภาพถ่ายงานแต่งงานกับเปปเปอร์ เธอในภาพยิ้มแย้มเหมือนดอกไม้ ส่วนเปปเปอร์ด้านข้างสีหน้าเย็นชา ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความหงุดหงิด

ด้านข้างยังมีโน๊ตที่เธอเขียนวางเอาไว้

บนไดอารี่จดสิ่งที่ผู้ชายชอบกิน สิ่งของที่ใช้ สิ่งที่เกี่ยวข้องและงานอดิเรก

ความคิดทั้งหมดของเธอจดจ่ออยู่ที่เปปเปอร์ เธอพยายามอย่างหนักเพื่อดูแลการแต่งงานที่ไม่ได้มาง่ายๆ นี้ แต่ความจริงกลับตบหน้าเธออย่างจัง

ขอบตาร้อนผ่าว มายมิ้นท์เงยหน้าขึ้น บังคับน้ำตาให้กลืนลงไป

เสียงข้อความขัดจังหวะเธอ หยิบขึ้นมาดู ราเม็งเป็นคนส่งมา

‘พี่ครับ หกปีก่อนพี่ช่วยผม หกปีต่อจากนี้ผมจะช่วยพี่ ลงมือได้เลย ผมจะเป็นกำลังสนับสนุนเบื้องหลังของพี่เอง’

ก้นบึ้งหัวใจของมายมิ้นท์เกิดกระแสไออุ่นพาดผ่าน

แม้จะบอกว่าราเม็งต้องการตอบแทนเธออย่างจริงใจ แต่เธอไม่อยากพึ่งพาใคร หลังจากแต่งงานกับเปปเปอร์ เพื่อจะเป็นคุณผู้หญิงที่ดี เธอเก็บนิสัยใจคอทั้งหมด จนแทบลืมไปว่า เธอเคยสง่างามแค่ไหน

หยิบมือถือขึ้นมา มายมิ้นท์กดโทรหาหมายเลขนั้น

“มายมิ้นท์ คุณคิดจะทำอะไรอีก?” เปปเปอร์ที่ปลายสายเสียงเย็นชา

เสียงของเธอก็ไม่มีอุณหภูมิเช่นกัน คล้ายกับเห็นเขาเป็นคนแปลกหน้า “พรุ่งนี้วันจันทร์ อย่าลืมไปทำเรื่องหย่าที่อำเภอด้วย”

เปปเปอร์ขมวดคิ้ว “คุณ…”

ปลายสายไม่รอให้เขาพูดจบก็วางไป เขากำมือถือแน่น แววตามืดมน

“เปปเปอร์ ใครโทรหาคุณเหรอคะ?” บนเตียงภายในห้องนอน ส้มเปรี้ยวมองไปที่ระเบียงด้วยความสงสัย

เปปเปอร์เก็บมือถือ ตีหน้าตายเดินเข้าไป ห่มผ้าให้เธอดีๆ “ไม่มีอะไร คุณดื่มยาก่อน”

ใบหน้าเล็กอันซีดเซียวของส้มเปรี้ยวทำให้คนสงสาร เธอจับมือฝ่ายชาย ทำหน้างออย่างน่าสงสารจับใจ “ยาจีนขมเกินไป กลิ่นฉุนมากฉันรู้สึกไม่ดีเลย”

เปปเปอร์เลิกคิ้วขึ้น “จำตอนที่พวกเราเป็นเพื่อนกันทางจดหมาย คุณบอกว่าคุณไม่กลัวยาจีนไม่ใช่เหรอ? เด็กดี กินยาถึงจะหายป่วย”

เขาแค่พูดตามอำเภอใจ กลับไม่พบว่าแววตาของส้มเปรี้ยวมีอะไรปรากฏขึ้นมาแวบหนึ่ง

ในไม่ช้า เธอเงยใบหน้าเล็กขึ้นอีกครั้ง ดวงตาโตแวววาว “อืม ฉันจะเชื่อเปปเปอร์”

ส้มเปรี้ยวสลบไปหกปี ร่างกายอ่อนแอ ใบหน้าซีดเซียว ลักษณะนิสัยยังหยุดอยู่ในช่วงเรียนหนังสือ

สภาพของเธอเช่นนี้ทำให้ฝ่ายชายสงสารจับใจ “ครั้งต่อไปผมจะให้ผู้ช่วยเหมันตร์เปลี่ยนยาจีนเป็นยาแผนปัจจุบัน”

ส้มเปรี้ยวยิ้มหวาน กอดแขนเขาออดอ้อน “เปปเปอร์ดีกับฉันที่สุดเลย!”

หลังออกมาจากห้อง เปปเปอร์ลงไปชั้นล่าง พิศมัยถือซุปโสมมา “ส้มเปรี้ยวดีขึ้นหรือยัง?”

“เธอเพิ่งดื่มยาเสร็จ กำลังคุยโทรศัพท์กับพ่อแม่ของเธออยู่”

พิศมัยยิ้ม “เปปเปอร์ คุณพ่อของส้มเปรี้ยวเป็นประธานคณะกรรมการบริหารของเอสซีกรุ๊ป พวกเขายอมให้พวกเรารับส้มเปรี้ยวมา และเปลี่ยนแปลงสัญญาการแต่งงานของลูกกับส้มเปรี้ยว ครอบครัวของพวกเราไม่สามารถเฉยเมยต่อส้มเปรี้ยวได้นะ”

มองท่าทางที่คุณแม่ดูแลเอาใจใส่ส้มเปรี้ยวเช่นนี้ เปปเปอร์พลันนึกถึงปีก่อนครั้งนั้นที่มายมิ้นท์เป็นหวัด

ตอนนั้นพิศมัยโยนของทิ้งลงชั้นล่างด้วยความโกรธ มายมิ้นท์ต้องลากร่างกายที่ป่วยลงไปทำอาหาร

ในใจเพิ่งจะเกิดความยุ่งเหยิงเล็กน้อย เปปเปอร์หยุดมันทันที เธอขับรถชนส้มเปรี้ยวก่อน จากนั้นฉวยโอกาสบังคับคนอื่นในตอนลำบาก พยายามวางแผนแต่งเข้ามา ทั้งหมดนี้เธอเป็นคนหาเรื่องใส่ตัวเอง

พิศมัยมองซ้ายมองขวา “ปีโป้ไปไหน? ไม่เห็นทั้งวัน”

เพิ่งจะพูดจบ ก็ได้ยินคนผลักประตู ‘ปัง’ ปีโป้หน้าบึ้งตึง พกความโกรธกลับมาด้วย

“ปีโป้ ลูกเป็นอะไรไป?” พิศมัยรีบวางชามลง เข้าไปตรวจสอบลูกชายคนเล็กใกล้ๆ

ปีโป้บัดมือของเธอออก “ผมไม่เป็นไรครับ แม่”

จากนั้น เขาก็มองไปทางพี่ชายของตนเอง ทำท่าทางลังเล “พี่ วันนี้ผมเห็นมายมิ้นท์ที่ร้านเหล้า เธอเดินใกล้ชิดกับนายแบบคนหนึ่งมาก ความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา”

เปปเปอร์สีหน้าเย็นชา “กับใครนะ?”